ตอนที่ 72 ขอโม้ให้สุด
ช่วงทศวรรษที่ 1940 การแพร่กระจายของข้อมูลย่อมน้อยกว่าในศตวรรษที่ 21 ในตอนนี้หนังสือพิมพ์ยังคงเป็นสื่อแรกที่ทำให้ผู้คนได้รับข้อมูลข่าวสาร
ขณะนี้เดวิดซึ่งอยู่ในสถานที่ที่ยังไม่มีการพัฒนาอย่างนิวเม็กซิโก ยังคงไม่ได้รับข่าวราคาหุ้นของบริษัทตัวเองว่ากำลังเริ่มต่ำลง
ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งพยายามติดต่อเดวิดเพื่อถามหาข้อเท็จจริงและหาวิธีกู้คืนความสูญเสียนี้ แต่ผู้ช่วยกลับบอกว่าปัจจุบันเดวิดได้เดินทางติดตามทีมสำรวจเหมืองแร่ไปยังแถบภูเขาซานแอนเดรส ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในวันรุ่งขึ้น
เหลือเพียง 13.8 เซนต์ต่อหุ้น
วันที่สามเหลือเพียง 12.1 เซนต์ต่อหุ้น
ในที่สุดเหล่าผู้ถือหุ้นที่กังวลเหมือนดั่งปลาในหม้อไฟ ก็ติดต่อเดวิดได้ในคืนวันที่สาม
เขาประหลาดใจที่ได้ยินว่าราคาหุ้นได้ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
หนังสือพิมพ์รายงานว่าทฤษฎีของศาสตราจารย์เด กุซมันนั้นไม่ถูกต้องมันมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
“เดวิด คุณต้องหาวิธีอะไรสักอย่างป้องกันไม่ให้ราคาหุ้นตกลงไปมากกว่านี้” ผู้โทรเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทที่เป็นรองเพียงเดวิดเท่านั้น
เดวิดรู้สึกโกรธเล็กน้อย
‘ฉันกำลังหาทางพัฒนาบริษัทอยู่นะโว้ย ตอนนี้ฉันทำงานอย่างหนักในการมองหาเหมืองบนภูเขา นอนกลางดิน กินกลางทรายทุกวัน พวกแกที่เอาแต่นั่งอยู่ในบ้านพร้อมเครื่องปรับอากาศ กลับมาสั่งให้ฉันคิดหาวิธีแก้ราคาหุ้นตกต่ำลงเนี่ยนะ!’
“แล้วคุณคิดว่าต้องทำยังไง?” เดวิดกล่าวอย่างขาดความรับผิดชอบ
ผู้ถือหุ้นใหญ่รายนี้หงุดหงิดมากเมื่อได้ยินสิ่งที่เดวิดพูด “เดวิด คุณเป็นประธานบริษัท คุณควรแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัท ถ้าคุณบริหารบริษัทไม่ดีและไม่สามารถทำกำไรได้ ผมจะตั้งมติในที่ประชุมสำหรับการเลือกประธานคนใหม่”
เดวิดเริ่มรู้สึกกังวล
‘ไอ้ห่านี่ เอาอีกแล้วเหรอวะ’
คราวที่แล้วก็บังคับให้ฉันออกจากตำแหน่งประธานไปทีหนึ่งแล้ว ยังจะใช้แบบเดิมอีกเหรอ
“ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าขอเวลาอีก 2 ปี ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งปีเอง” เดวิดเริ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ก็ตอนนี้ผมกลัวว่าบริษัทจะล้มละลายก่อนจะถึงสองปีไงล่ะ เดวิดผมจะให้เวลาคุณหนึ่งสัปดาห์ในการหาวิธีแก้ปัญหา มิฉะนั้นในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับสองอย่างผมจะเปิดการประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้ง เพื่อคิดหาคนมารับตำแหน่งประธานคนใหม่แทนคุณ”
จากนั้นผู้ถือหุ้นก็วางโทรศัพท์ใส่เดวิดด้วยความอวดดี
เดวิดนั่งลงบนเตียง เขาไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เว้นแต่จะมีการค้นพบเหมืองขนาดใหญ่ในตอนนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นราคาหุ้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน
แต่หลังจากการค้นหาบนภูเขาผ่านไปสองสามเดือน ไม่มีการค้นพบเหมืองแร่ขนาดใหญ่เลย มีเพียงเส้นทางแร่ที่กระจัดกระจายบางส่วนที่ถูกค้นพบ ซึ่งไม่มีมูลค่าคุ้มทุนต่อการขุดเลย
ทำให้ตอนนี้เขาเริ่มสงสัย
หรือว่าทฤษฎีของตาแก่นั้นจะเป็นเรื่องโกหกอย่างที่หนังสือพิมพ์รายงานจริงๆ
ปัญหาตอนนี้คือผู้ถือหุ้นได้เริ่มกดดันให้เขาหาวิธีแก้ไขสถานการณ์หุ้นตกนี้ก่อน
จู่ๆ เขาก็นึกถึงหนังสือพิมพ์
เป็นเพราะรายงานของหนังสือพิมพ์ที่ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลง ถ้าอย่างงั้นก็ใช้รายงานหนังสือพิมพ์ในการทำให้ราคาหุ้นเพิ่ม?
เขาจำได้ถึงครั้งสุดท้ายที่เขาบอกข้อมูลของเอวา การ์ดเนอร์ให้กับลอสแองเจลีสไทมส์ ทำให้เขายังมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีนักข่าวอยู่
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทันที
“สวัสดี คุณเป็นนักข่าวจากลอสแองเจลีสไทมส์หรือเปล่า ผมเป็นประธานของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ คุณสนใจที่จะสัมภาษณ์ข่าวเกี่ยวกับเหมืองแร่ในนิวเม็กซิโกไหม”
ราคาหุ้นของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ยังลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสองวันที่ผ่านมา และเป็นข่าวใหญ่ที่หลายสำนักข่าวล้วนเกาะติด ลอสแองเจลีสไทมส์ก็เช่นกันหลังได้รับโทรศัพท์จากประธานของบริษัทขุดเหมืองแร่ พวกเขาก็ตกลงทันทีเรื่องการสัมภาษณ์
…
และในเวลานี้
ฮาร์ดี้หยุดการชอร์ตหุ้นแล้วเริ่มสูบหุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์อย่างลับๆ
เมื่อเขาเริ่มชอร์ตบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ทำให้ราคาต่อหุ้นตอนนี้คือ 31 เซนต์ และลดลงเหลือ 12.1 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งราคาลดลงมากกว่า 61%
ฮาร์ดี้คำนวณว่าหลังจากหักค่าธรรมเนียมธุรกรรมการเงินและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว เขาจะมีรายได้ประมาณ 500,000 ดอลลาร์
นี่แหละคือวิธีของนักธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย
การจัดการด้านการเงินคือการสร้างรายได้ซึ่งมูลค่ามันมากยิ่งกว่าการโจรกรรม แค่การจัดการที่เรียบง่ายเพียงครั้งเดียวก็สามารถเอาชนะรายได้จากการปล้นแก๊งสเปนที่เขาเคยทำสองครั้งรวมกันเสียอีก
ในความคิดของฮาร์ดี้ราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์คงจะไม่ลดลงไปมากกว่านี้แล้ว เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วรายงานในหนังสือพิมพ์มันเป็นแค่ข่าวเท็จ และอีกไม่นานบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์คงมีการแก้ไขปัญหานี้ได้
ในที่สุดฮาร์ดี้ก็เริ่มซื้อหุ้น
โดยใช้บัญชีมากกว่าสี่สิบบัญชีเพื่อซื้อหุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ในตลาดหลักทรัพย์
ความเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่น้อยลงในวันนี้เป็นเพราะการซื้อของฮาร์ดี้ได้หยุดลงอย่างช้าๆ
เพียงพริบตาเดียว
ฮาร์ดี้ได้เข้าซื้อหุ้นมากกว่า 400,000 ตัว และราคาหุ้นยังคงทรงตัวที่ 12 เซนต์ซึ่งจะไม่ลดลงอีกแล้ว
วันถัดมา
ราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ยังคงทรงตัวและฮาร์ดี้ได้ซื้อหุ้นอีก 200,000 ตัวอย่างเงียบๆ
ภายในวันเดียวกัน
ลอสแองเจลีสไทม์สตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของเดวิด วอลช์ ประธานบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์
เดวิด วอลช์กล่าวว่าขณะนี้การเงินของบริษัทยังคงอยู่ในสภาพดี เขาทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมสำรวจทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืนในพื้นที่เหมืองแร่ สำหรับเรื่องทฤษฎีของศาสตราจารย์เดอ กุซมัน เขายังคงคิดว่าทฤษฎีของศาสตราจารย์เดอ กุซมันนั้นถูกต้องอย่างแน่นอน
ไม่กี่วันต่อมา
ฮาร์ดี้ยังคงดูดหุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์อย่างเงียบๆ
ตอนนี้ผู้คนก็เริ่มพบบางอย่าง
ราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 12 เซนต์ เป็น 14 เซนต์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับหุ้นประเภทหุ้นขยะ
ถึงเวลานี้ฮาร์ดี้ได้ซื้อหุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านตัว
และเขายังคงซื้อต่อไป
…
ภายในวันเดียวกัน
มีรถขับมาที่บริเวณจุดขุดเหมืองแร่
นักข่าวสองคนลงจากรถ
ทุกวันนี้เดวิดพักอาศัยอยู่ในค่ายขุดเหมืองแร่ จริงอยู่ที่เขาเป็นเศรษฐีแต่เนื่องจากความผันผวนของราคาหุ้น ความมั่งคั่งของเขาจึงหายไปแล้วมากกว่าครึ่ง
เดวิดยังคงช้ำใจกับเรื่องนี้อยู่ตลอด
เขาหวังที่จะหาเหมืองทองแดงบนดินแดนรกร้างแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงเหมืองแร่เล็กๆ แต่ก็สามารถทดแทนการลงทุนครั้งนี้ของเขาได้ในระดับหนึ่ง
แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เจออะไรให้พอจะขุดจริงจังได้
เดวิดด่าศาสตราจารย์เดอ กุซมันมาเป็นร้อยครั้งแล้วในใจของเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเมาหลังจากดื่มเหล้า เขาได้ตะโกนด่าศาสตราจารย์เดอ กุซมันชุดใหญ่ว่าเป็นไอ้บัดซบลวงโลกที่ทำให้เขาต้องมากินดินอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะทฤษฎีมั่วซั่วนั่น
เขาคงได้ดื่มด่ำไปกับเหล่าสาวงามในเมืองใหญ่และใช้ชีวิตที่แสนสะดวกสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
นักข่าวสองคนพบเดวิดและหยิบนามบัตรออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเขา
“สวัสดี คุณเดวิด วอลช์ เราเป็นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิส เราอยากจะขอสัมภาษณ์คุณสักเล็กน้อย คุณพอจะมีเวลาสักครู่ไหม”
เมื่อเดวิดได้ยินว่าพวกเขาเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิส ความโกรธของเดวิดก็ประทุขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะรายงานที่ถูกตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์นี้ ราคาหุ้นของบริษัทเดวิดจะตกต่ำอย่างน่าสังเวชขนาดนี้ได้อย่างไร
เดวิดกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยเสียงดังลั่น
“ผมคิดว่ารายงานของพวกคุณช่างไร้ความรับผิดชอบ ทำไมพวกคุณถึงรายงานไปว่าทฤษฎีของศาสตราจารย์เดอ กุซมันเป็นแค่การคาดเดา พวกคุณบอกทุกคนว่าเส้นทางเหมืองแร่ของแอริโซนาไม่สามารถขยายไปถึงนิวเม็กซิโกได้…”
แต่นักข่าวทั้งสองคนต่างยังคงอารมณ์ดี พวกเขาเพียงแค่หัวเราะหลังจากได้ยินสิ่งที่เดวิดพูด “เพราะแบบนั้นเราเลยมาที่นี่เพื่อถามคุณเดวิด วอลช์ไง คุณอยู่บนภูเขามาหลายเดือนแล้ว มีการค้นพบเส้นเหมืองใหญ่ๆ บ้างไหม?”
เดวิดพูดอะไรไม่ออกเมื่อถูกนักข่าวถามกลับมา
เขาใช้เวลาสองสามเดือนที่นี่และไม่พบเส้นเหมืองแร่ นี่คือข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้
เขารู้ว่าถ้าตอบออกไป รายงานโดยหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิสอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงอีกครั้ง
ทันใดนั้นเขาคิดบางอย่างขึ้นมาได้
“ใครบอกพวกคุณว่าเราไม่พบเหมือง เราพบบางอย่างแล้ว! ตามผมมาสิ” หลังจากพูดอย่างนั้นเดวิดก็พานักข่าวสองคนไป
เดวิดหยุดอยู่หน้ากองหินหน้าเหมือง เขาชี้ไปที่กองหินนั้นแล้วพูด “นี่คือบางส่วนของแร่ที่เราขุดได้จากภูเขา”
หลังจากพูดเสร็จเขาก็หยิบแร่ขนาดเท่าแตงโมจากพื้นดินมาใส่ไว้ในมือแล้วพูด “ดูนี่สิมันคือแร่ทองแดง ในเมื่อเราสามารถหาแร่ทองแดงได้ แสดงว่าต้องมีเส้นเหมืองแร่อยู่ที่นี่”
“ยิ่งไปกว่านั้น เหมืองทองแดงมักอยู่ใกล้เคียงกับเหมืองทองคำ การค้นพบเหมืองทองคำจะทำให้มูลค่าของเส้นเหมืองเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
นักข่าวหนึ่งในสองคนหยิบสมุดบันทึกออกมาและบันทึกสิ่งที่เดวิดพูด ส่วนอีกคนถือกล้องเพื่อถ่ายรูปเดวิด
ซึ่งเดวิดก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก เขาถือแร่ในมือทั้งสองข้าง ยิ้มให้กล้องจัดท่าทางที่เขาคิดว่าเป็นท่าที่หล่อที่สุด
อันที่จริงเดวิดโกหก
แร่ในมือของเขาไม่ใช่แร่ทองแดง แต่เป็นแร่ไพไรต์ ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างคล้ายกับแร่ทองแดง และนักข่าวทั้งสองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เขาเดาว่าพวกนักข่าวคงไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้
ผลของการหลอกลวงในวันนี้จะทำให้พวกเขารายงานในหนังสือพิมพ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีเหมืองทองแดงในพื้นที่ที่เดวิดซื้อ
เดวิดเชื่อว่าราคาหุ้นจะไม่ตกลงอีกแน่นอน
หุ้นก็คือการซื้อความหวังไม่ใช่เหรอ?
แต่ใครจะไปรู้ว่าความหวังนั้นมันจะเป็นของจริงหรือของปลอม
นักข่าวได้ถ่ายภาพเดวิดหลายภาพ รวมไปถึงกองแร่หน้าค่าย
นักข่าวได้ถามอีกครั้ง
“คุณเดวิด วอลช์ แล้วคุณคิดอย่างไรกับราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์”
เดวิดวางแร่ลงบนพื้น เขาปัดฝุ่นในมือออกแล้วพูดกับนักข่าว “ผมคิดว่ามูลค่าของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริงมากเกินไป”
“ที่นี่เราพบร่องรอยของเส้นเหมืองแร่ และอาจมีเหมืองทองคำที่มีค่ามากกว่านั้น ผมเชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นราคาหุ้นของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์จะทะยานขึ้นไปสิบถึงยี่สิบเท่า ซึ่งตอนนี้มันเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
“ดูเหมือนคุณจะมั่นใจมากว่าจะขุดพบเหมืองแร่ขนาดใหญ่?”
“แน่นอนผมมีความมั่นใจ ผมเชื่อว่าในอนาคตบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการขุดเหมืองในสหรัฐอเมริกา และเราจะขยายธุรกิจไปทั่วโลก”
ยังไงการโม้ก็ไม่ต้องใช้เงิน
ขอโม้ให้สุดเลยก็แล้วกัน
เดวิดกำลังโอ้อวดอย่างเต็มที่
นักข่าวทั้งสองคนใช้เวลาครึ่งวันสัมภาษณ์ในค่ายขุดเหมือง พวกเขาถามคำถามพร้อมถ่ายภาพมากมาย และออกเดินทางกลับในช่วงเย็น
เดวิดโบกมือลาพวกเขา
ขณะดูรถนักข่าวขับออกไป เขาก็พูดกับตัวเอง “คุณภาพของนักข่าวหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิสนั้นสูงกว่านักข่าวหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีสไทม์สมาก ครั้งล่าสุดที่นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีสไทม์สเข้ามา พวกเขาถามคำถามแค่สองสามข้อแล้วก็จากไป ดูหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิสสิ สัมภาษณ์ตั้งครึ่งวันแถมยังถ่ายภาพหลายสิบใบ ต้องแบบนี้สิที่เรียกว่ามืออาชีพ”
เดวิดตั้งหน้าตั้งตารอรายงานจากหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิส
เขาเชื่อว่ารายงานนี้จะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งระดับ และพวกคณะกรรมการในบริษัทก็จะไม่มากดดันไล่เขาออกจากตำแหน่งประธานอีก
สามวันต่อมา
ในที่สุดรายงานเกี่ยวกับบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ก็ออกมา
เมื่อเดวิดเห็นเนื้อหาของรายงาน เขาก็ตกตะลึง
เขาพูดอย่างนั้นไปด้วยเหรอ?
นี่มันเกินกว่าที่เขาพูดไปหน่อยมั้ย?
ซึ่งบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์มีภาพสีเดวิดกำลังยิ้มขณะถือแร่ในมือ