อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 51 Scarborough Fair (สการ์โบโรแฟร์)

ตอนที่ 51 Scarborough Fair (สการ์โบโรแฟร์)

เอวาเรียนร้องเพลงมานาน ต่างจากฮาร์ดี้ที่แทบไม่มีทักษะพื้นฐานในการร้องเพลงเลย เขาจึงให้เธอลองร้องเพลงตามที่ฮาร์ดี้ร้อง

“เอวาเธอลองร้องตามฉันสิ” ฮาร์ดี้กล่าว

เอวาพยายามร้องเพลงอย่างตั้งใจ

“คุณจะไปงานสการ์โบโรห์ไหม? ผักชีฝรั่ง…เสจ โรสแมรี่ และโหระพา”

เมื่อเอวาร้องในครั้งแรก เธอยังก็มีการร้องที่สะดุดเล็กน้อย แต่เสียงและทักษะการร้องเพลงของเธอนั้นดีกว่าฮาร์ดี้มาก

“เอวา แก่นของเพลงนี้คือการหวนคำนึงถึงคนที่อยู่ห่างไกล ลองร้องโดยใช้เสียงที่ออกโทนเศร้าสร้อยที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเห็นใจและคล้อยตามดู” ฮาร์ดี้อธิบายแนวความคิดการถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงนี้ให้เธอฟัง

เอวาพยักหน้า

เธอตั้งสติแล้วร้องอีกครั้ง คราวนี้การร้องเพลงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงของเธอกังวานมาก และน้ำเสียงก็ไพเราะมากจนใครได้ยินก็ต้องหยุดฟัง

คราวนี้เอวาแทบจะไม่มีการหยุดระหว่างการร้องเพลง หลังจากร้องเพลงเสร็จ 

ฮาร์ดี้ลืมตาขึ้นจากความเพลิดเพลิน

เสียงของเธอไพเราะอย่างมาก มีน้อยคนนักที่จะมีเสียงแบบเธอ

ฉันต้องดูแลเธอให้ดี

เอวามองฮาร์ดี้ด้วยความตื่นเต้น “ฉันชอบเพลงนี้มาก เพลงนี้มันเพราะมากเลย ตอนที่ฉันร้อง ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังเดินเตร่อยู่ในทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ฉันชอบความรู้สึกนี้มาก”

“ลองร้องอีกสิ” ฮาร์ดี้กล่าว

เอวาร้องเพลงอีกครั้ง

เธอชอบร้องเพลงและยิ่งชอบมากขึ้นไปอีกเมื่อการร้องเพลงของเธอทำให้คนอื่นเพลิดเพลินและมีความสุข

“เอวามากับฉันสิ” ฮาร์ดี้จูงมือเอวาและเดินออกไป

“เราจะไปไหนกัน?”

“บริษัทนี้มีสตูดิโอบันทึกเสียง เราไปบันทึกเพลงกันเถอะ” ฮาร์ดี้กล่าว

“เราต้องทำเพลงเองเลยเหรอ?”

“ไม่! มีคนของบริษัทจัดการให้” โนอาห์ อาร์คเป็นบริษัทใหญ่ที่นี่มีคนเรียบเรียงเพลงที่มีความเชี่ยวชาญอยู่

มีหลายคนทำงานอยู่ในห้องบันทึกเสียง พวกเขากำลังทำเพลงประกอบภาพยนตร์อิสระ ตอนนี้โนอาห์ อาร์คไม่ได้มีการสร้างภาพยนตร์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่พึ่งงานที่ได้จากบริษัทภาพยนตร์ภายนอกเท่านั้น

ผู้อำนวยการเจสันเห็นฮาร์ดี้เข้ามา เขายืนขึ้นเพื่อทักทาย “ผู้ช่วยฮาร์ดี้ คุณต้องการอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณน่ะ” ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม

“เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องใหม่เหรอ?” ผู้อำนวยการเจสันถาม

ข่าวแพร่กระจายเร็วมากเรื่องที่ฮาร์ดี้เตรียมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่กระจายไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว

“ใช่! ผมมีเนื้อเพลงเรียบร้อยแล้ว”

“มีเนื้อเพลงแล้ว?”

ฮาร์ดี้มอบเนื้อพลงให้อีกฝ่าย หลังจากเจสันอ่านแล้ว เขาเริ่มมีสีหน้าสนใจมากยิ่งขึ้น เขาเดินไปที่เปียโนเพื่อเล่นพร้อมกับฮัมเพลงในปาก

“มันดีมาก! ผมจะหาคนมาร้องและลองเล่นอีกครั้ง” เจสันกล่าว

“คุณไม่ต้องไปหานักร้องแล้ว ผมเตรียมนักร้องมาแล้ว” จากนั้นฮาร์ดี้ก็ผลักเอวาออกไป “เอวา ลองร้องเพลงนี้ให้ทุกคนฟังหน่อยสิ”

พนักงานบางคนหยุดทำงานและมองดูเอวาร้องเพลง

เอวาร้องเพลงนี้หลายครั้งแล้ว เธอจับจังหวะในการร้องได้แล้ว 

ในครั้งนี้เธอร้องเพลงได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้น เสียงที่ไพเราะดังก้องอยู่ในห้อง

มันดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

‘เสียงผู้หญิงคนนี้ไพเพราะมาก’ ผู้ช่วยฮาร์ดี้ไปหาเธอมาจากไหน

เจสันมีปฏิกิริยาหลังจากได้ยินเอวาร้องเพียงไม่กี่คำ เขาเริ่มเล่นเปียโนบรรเลงตามเสียงร้องทันที 

ทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าเพลงนั้นไพเราะขึ้น พวกเขาต่างคล้อยตามไปกับเสียงเพลง

เพลงจบลง

ในที่สุดผู้คนก็ตื่นขึ้น

“ว้าว…นี่มันเพราะมาก ผมคิดว่านี่เป็นเพลงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา”

“ผมรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า พร้อมกับมีเมฆล้อมรอบอยู่รอบตัว”

“ผมคิดว่าเพลงนี้คล้ายกับเพลงลูกทุ่งของสก็อตแลนด์ แต่ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เพลงนี้ไพเราะและมีเสน่ห์มากกว่า”

“ผมได้ยินประโยคของการต่อต้านสงครามในเนื้อเพลงด้วย”

เจสันรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาถามเอวาในทันที “ผมแน่ใจว่าผมไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อน ขอถามคุณผู้หญิงหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเหรอ”

เอวาส่ายหัวแล้วมองไปที่ฮาร์ดี้

“ฉันไม่ได้แต่งเพลงนี้ คนแต่งเพลงนี้คือฮาร์ดี้”

เจสันตกตะลึง พนักงานคนอื่นๆ ในห้องก็ตกตะลึงเช่นกัน

ไม่มีใครนึกได้ว่าผู้ช่วยฮาร์ดี้จะเป็นคนที่สามารถแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมและไพเราะแบบนี้ได้

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ช่วยฮาร์ดี้ได้รับการว่าจ้างจากประธานซีเกลให้รับตำแหน่งผู้ช่วยตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ ทั้งการเตรียมถ่ายทำภาพยนตร์ซึ่งทำให้ทั้งบริษัทมีชีวิตชีวาขึ้นมา และตอนนี้ยังแต่งเพลงได้อีก

บางคนถึงกับคิดบางอย่างหรือว่าประธานซีเกลกำลังฝึกผู้ช่วยฮาร์ดี้ให้เป็นประธานคนต่อไปอยู่

ฮาร์ดี้มองไปยังเจสัน “คุณเจสัน ช่วยผมหน่อยได้ไหม ทำเพลงนี้ให้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องใหม่ได้หรือเปล่า”

“ได้สิครับ!” เจสันตกลงทันที

เขารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับโอกาสในการเรียบเรียงเพลงนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นเพลงคลาสสิคที่จะถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง ชื่อของเขาก็จะถูกจดจำไปด้วย

“หลังจากแต่งทำนองได้แล้ว รบกวนคุณช่วยเอวาบันทึกเพลงนี้ให้หน่อยนะ”

“ได้ครับ ผมขอถามชื่อเพลงนี้หน่อยได้ไหม” ผู้อำนวยการเจสันถาม

“เพลงสการ์โบโรแฟร์ (Scarborough Fair)”

ฮาร์ดี้และเอวากำลังขับรถกลับบ้าน จนถึงตอนนี้เอวาก็ยังตื่นเต้นอยู่ วันนี้เธอได้รับบทเป็นนางเอกและมีโอกาสได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความฝันของเธอ เธอรู้สึกเหมือนเป็นซินเดอเรลล่าที่ได้รับไม้กายสิทธิ์

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันน่าทึ่งมาก

เอวามองดูรถที่ผ่านไปผ่านมา เธอฮัมเพลงในปาก หลังจากร้องเพลงได้ประโยคหนึ่ง เธอก็มองไปที่ฮาร์ดี “ฮาร์ดี้ ฉันอยากรู้ว่าผักชีฝรั่ง โหระพา โรสแมรี่ และไธม์ในเนื้อเพลงมีความหมายว่าอะไร”

“พืขเหล่านี้เป็นตัวแทนของความหวาน ความแข็งแกร่ง ความภักดี และความกล้าหาญของความรัก” ฮาร์ดี้กล่าว

ดวงตาของเอวาหวานชื่นขึ้นทันที เธอเริ่มหายใจถี่ขึ้น “ฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้ฉันยิ่งรู้สึกอยู่เลยว่าเพลงนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งมาก”

“ยังไงก็เถอะฮาร์ดี้ ฉันได้ยินว่าเพลงนี้มีประโยคเกี่ยวกับการต่อต้านสงคราม มันจริงไหม?” เอวาถามอีกครั้ง

ฮาร์ดี้รู้ดีว่าเพลงนี้ ‘สการ์โบโรแฟร์’ ถูกแต่งขึ้นในปี 1965 มันถูกแต่งขึ้นเพื่อแสดงออกในการต่อต้านสงครามเวียดนาม

แต่ตอนนี้สงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งจบลง งั้นเปลี่ยนเป็นการต่อต้านสงครามโลกครั้งที่สองก็แล้วกัน

“จริงสิ! เป็นการต่อต้านสงครามโลกครั้งที่สองน่ะ ว่าแต่เอวาวันนี้เธอฝึกร้องเพลงให้ดีนะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปบันทึกเสียงที่บริษัท” ฮาร์ดี้กล่าว

“ได้สิ ฉันจะฝึกร้องให้ดีเลย” เอวากล่าวอย่างตื่นเต้น

……

วันรุ่งขึ้น ฮาร์ดี้พาเอวาไปที่บริษัทอีกครั้ง เขาพาเธอไปหาเจสันเพื่อเริ่มบันทึกเสียง จากนั้นเขาไปหาโนแลนด้วยตัวเอง

โนแลนเห็นฮาร์ดี้เดินมา เขารีบทักทายฮาร์ดี้ “ฮาร์ดี้! เข้ามาดูเอกสารสิผมได้เลือกกลุ่มนักแสดงระดับสองและสามมาแล้ว มาดูกันว่ามีคนที่เหมาะสมในกลุ่มนี้ไหม” 

เอกสารของนักแสดงแต่ละคนมีรูปถ่าย ข้อมูลส่วนตัวนอกจากนี้ยังมีประสบการณ์การแสดงที่ผ่านมาในอดีต

เห็นได้ชัดว่าค่าตัวของคนเหล่านี้เทียบไม่ได้เลยกับดาราดัง บางคนถึงกับได้รับเป็นเงินประจำสัปดาห์แค่สองร้อยหรือสามร้อยดอลลาร์เท่านั้น

หลายคนมีประสบการณ์และทักษะการแสดงมากมาย

พวกเขาขอแค่โอกาสเท่านั้น

โจ ตัวเอกของเรื่อง ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชรง เป็นชายวัยสามสิบที่มีลักษณะเต็มไปด้วยความหยาบคาย นักแสดงที่มีลักษณะประเภทนี้มีมากมายในฮอลลีวูด ซึ่งฮาร์ดี้กับโนแลนกำลังมองหานักแสดงที่เหมาะสมอยู่

“คนนี้ดูใจดีไป”

“ตาใหญ่ไป”

“ขากรรไกรน่าเกลียดเกินไป”

เมื่อเขาพลิกเอกสารคนต่อไป ฮาร์ดี้ตะลึงเมื่อเห็นภาพและข้อมูลส่วนตัว

คลินต์ อีสต์วูด อายุ 33 ปี เคยเล่นบทตัวประกอบในภาพยนตร์ต้นทุนต่ำหลายเรื่อง แต่ฮาร์ดี้ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับภาพยนตร์เหล่านี้มาก่อน

นั่นคือเขา!

เป็นไปได้ยังไง

เห็นได้เลยว่ารูปถ่ายนั้นเป็นของอีสต์วูดในความทรงจำของฉันจริงๆ

ตามประวัติศาสตร์ตอนนี้อีสต์วูดควรจะมีอายุแค่ 15 ปีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เขาอายุเกินไปมากเลย

แต่ฮาร์ดี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ในโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างจากโลกเดิม และโลกนี้ยังมีตัวละครและเหตุการณ์ในภาพยนตร์อีกมากมาย ทำไมฉันต้องมากังวลด้วย

“โนแลน ผู้ชายคนนี้” ฮาร์ดี้ชี้ไปที่อีสต์วูดแล้วผู้กำกับโนแลน

โนแลนมองไปที่รูปถ่าย

“คิดว่าเขาเหมาะสมกับบทพระเอกเหรอ?”

ฮาร์ดี้ยิ้ม “เขาเหมือนทองที่ถูกฝังอยู่ในทรายเลยล่ะ”

Leave a Comment

ไม่ดี!