ตอนที่ 38 มาทำไม?
มีเตาย่างที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งของโรงงานร้าง บาร์บีคิวที่อยู่บนเตาตอนนี้ส่งเสียงดังน่าทาน ลีโอใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ แล้วเอาเข้าปากเป็นคนแรก
เทศกาลเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสได้ออกอากาศทางทีวี คล้ายกับงานกาล่าในเทศกาลตรุษจีนของประเทศจีน มีนักร้องที่สวยงามกําลังร้องเพลงอย่างไพเราะ เฮนรี่ แมทธิว ลีโอและเคอรี่ต่างนั่งดูอย่างสนุกสนาน
ส่วนคนอื่นที่เหลือนั้น…
ฌอนและไรเดอร์กลับบ้านเพื่อใช้เวลาช่วงวันหยุดกับครอบครัว
บิลไปที่โรงพยาบาล
ส่วนริชาร์ดเริ่มมีอาการอักเสบที่ดวงตามากขึ้น เขาจึงเข้ารับการรักษาที่คลินิกตามคำแนะนำของคุณหมอเมอร์ฟี่ ตอนนี้เขากําลังรอการผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาดแล้วจึงสามารถใส่ลูกตาเทียมได้
เหลือแค่เพียงสี่คนเท่านั้นที่ได้เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสร่วมกันในคืนนี้
แมทธิวกําลังหยิบมีดขึ้นมาเพื่อหั่นเนื้อ แต่ทันใดนั้น…เขาก็หยุดการเคลื่อนไหวและเงยหน้ามองไปที่คนอื่นและบอกกับทุกคนว่า “มีเสียงอะไรบ้างอย่าง จากนอกประตู”
พวกเขาทั้งสี่คนต่างเป็นคนที่รอดชีวิตจากทุ่งสังหารในสงคราม สิ่งผิดปกติเพียงเล็กน้อยไม่อาจรอดพ้นไปจากพวกเขา
สายตาของคนที่เหลืออีกสามคนจ้องมองกัน พวกเขาเข้าใจกันโดยทันทีเฮนรี่และแมทธิวดึงปืนพกออกจากด้านหลัง แล้วซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวางของลีโอและเคอรี่รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
ปัง!
ประตูถูกเตะออก
กลุ่มชายถือปืนบุกเข้าไปในโรงงานอย่างดุดัน เมื่อเข้ามาก็เห็นเตาย่างอยู่ตรงกลาง เนื้อย่างบนเตายังคงมีกลิ่นหอมลอยอยู่และยังมีเบียร์สองสามขวดอยู่ข้างๆ
“หนีไปไหนไม่รอดหรอก!! พวกนายไม่รอดจากเงื้อมมือฉันแน่!” แครนสตันตะโกนดังลั่นโรงงาน
คนของเขากระจายไปรอบๆ ทันทีบางคนเดินเข้าไปข้างใน บางคนขึ้นไปชั้นบนตามบันได
ชายสองคนเพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
ห่ากระสุนถูกยิงออกมาจากเงามืด
ชายสองคนด้านหน้าถูกยิงล้มลงกับพื้นทันที
คนอื่นๆ รีบวิ่งตามเสียงปืนด้วยความตกใจ คนที่กําลังจะขึ้นไปชั้นบนก็รีบลงมาเพื่อเตรียมที่จะโอบล้อมศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด
แต่ในขณะนั้น ปากกระบอกปืนสองกระบอกได้ยื่นออกมาจากชั้นบน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
ปืนไรเฟิลจอห์นสันยิงใส่กลุ่มคนที่ชั้นล่างกลุ่มแครนสตันวงแตกในทันที
พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายร้ายแรงเช่นนี้ พวกเขาแค่จะโจมตีพวกแก๊งชาวยิวเท่านั้นเอง
มีบางคนซ่อนตัวอยู่ที่มุมโรงงานและพยายามที่จะยิงโต้กลับ
แต่ไม่ทันไรก็ถูกค้นพบในทันที เขาได้รับการต้อนรับด้วยฝูงกระสุนปืนไรเฟิลเป็นอย่างดี
แครนสตันที่วิ่งไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมโกดังอีกด้านรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คนพวกนี้เป็นใครกันแน่วะ? เขารู้ว่าพวกนี้ต่างเคยเป็นทหารมาก่อนแต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ทําไมต้องเป็นฉันที่มาตรวจสอบการปล้นคาสิโนด้วยเนี่ย? วันนี้เป็นวันคริสต์มาสแท้ๆ แทนที่ฉันจะได้พักผ่อน ดันมายั่วโมโหคนเหล่านี้แทน
เบ็คแมนถูกยิงตายไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาถูกยิงหลายนัดในตอนแรก
ลูกน้องของแครนสตันและเบ็คแมนก็ไม่รอดเช่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่เหลือใครแล้ว
‘แม่งเอ้ย!’
จากตอนแรกที่หวังจะสร้างผลงานเพื่อให้ได้ตําแหน่งที่สูงขึ้น
ตําแหน่งหัวหน้าคนดูแลคาสิโน เงิน รถและผู้หญิง
ตอนนี้ไม่หวังอะไรแล้ว ขอแค่เอาตัวรอดจากที่นี่ให้ได้ก็พอ
แครนสตันหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปที่ประตู เหลืออีกแค่สองก้าวเท่านั้นก็จะถึงประตูแต่ทว่ากระสุนก็พุ่งเข้ามาหาเขา แครนสตันรู้สึกเจ็บปวดที่ต้นขาอย่างมากเขาล้มลงกระแทกกับพื้นในทันที
“ขาฉัน!”
“แมทธิวกับฉันจะไปเช็คว่ามีใครแกล้งตายหรือเปล่า ลีโอ เคอรี่ พวกนายคอยคุ้มกันรอบๆ ด้วย” เฮนรี่ตะโกน
“รับทราบ!”
เมื่อใส่ซองกระสุนชุดใหม่ เฮนรี่และแมทธิววิ่งออกมาจากเงามืดพวกเขายิงซ้ำใส่ศพอีกรอบ คนเหล่านี้เกือบทั้งหมดถูกยิงอย่างน้อยสามถึงสี่นัด ทั้งหมดตายแล้วอย่างแน่นอน…
เหลือเพียงแครนสตันที่ล้มลงหน้าประตู เขายังคงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
แมทธิวยกปืนขึ้นเพื่อจะฆ่าเขา แต่เฮนรี่หยุดเอาไว้ “ปล่อยให้มีชีวิตอยู่ก่อน เราต้องถามอีกฝ่ายว่าบุกมาที่นี่ทําไม”
แมทธิวตะโกนไปที่ประตูทันที “ทิ้งปืนซะถ้ายังไม่อยากตาย”
“ผมทิ้งปืนแล้ว! อย่าฆ่าผมเลย” แครนสตันตอบในทันที
เขาโยนปืนในมือออกไป นอนราบกับพื้นแล้วยกมือขึ้นสูง
แมทธิวกับเฮนรี่เดินไปหาแครนสตันแล้วมัดเขาไว้ จากนั้นอุ้มชายคนนี้ไปที่กลางโรงงาน
เฮนรี่มองดูชายคนนี้ ที่นอนอยู่บนพื้นเขาสงสัยว่าทําไมมันถึงบุกมาที่นี่
“พวกแกเป็นใคร? มาจากแก๊งไหน?”
“พวกเรามาจากแก๊งชาวสเปน” แครนสตันที่โดนยิงตอบอย่างเจ็บปวด
ทั้งสี่คนตกใจ!
“ทําไมแก๊งชาวสเปนต้องบุกมาที่นี่ ต้องการอะไร” เฮนรี่ถามเสียงเข้ม
แครนสตันกลัวเล็กน้อยที่จะพูด
เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะฆ่าเขาทันทีถ้าบอกความจริง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะโกหกอย่างไรเขาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ใบหน้าของแมทธิวเริ่มเย็นชา
เขาก้าวไปข้างหน้า เหยียดนิ้วออกแล้วทิ่มไปที่ต้นขาของแครนสตันที่โดนยิงอย่างแรง
“อ๊าก”
แครนสตันส่งเสียงร้องที่น่าสังเวชออกมา
“พูดออกมา มาที่นี่ทําไม!”
“บอกแล้วๆ คาสิโนของแก๊งเราถูกปล้น หัวหน้าแก๊งแดนี่จึงโกรธมาก เขาสั่งให้พวกเราตรวจสอบหาเบาะแสว่าใครเป็นคนทํา ต่อมาเราก็ได้เบาะแสจากโจรข้างถนนบอกผมว่าหลังจากบิลได้รับบาดเจ็บ มีชายชื่อทอม ฮาร์ดี้เข้ามาทําหน้าที่แทนบิลที่ต้องรักษาตัว และชายคนนี้ได้ก่อตั้งกลุ่มขึ้นมา ผมจึงสงสัยว่ากลุ่มพวกคุณอาจเป็นโจรที่ปล้นคาสิโน หลังจากที่ผมรายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้าแก๊งแดนี่ทราบ เขาจึงส่งผมมาตรวจสอบว่าพวกคุณเป็นโจรปล้นคาสิโนจริงหรือเปล่า”
แครนสตันรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว
“แค่สงสัย?” เฮนรี่ถาม
“ใช่ แค่สงสัย” แครนสตันรีบพูด
ลีโอมองไปที่เฮนรี่และถามว่า “คนอื่นตายหมดแล้ว แล้วจะเอาไงกับชายคนนี้ล่ะ”
“ฉันคิดว่าฆ่ามันไปเลยดีกว่า” แมทธิวกล่าว
เฮนรี่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “บางที่หัวหน้าฮาร์ดี้อาจอยากถามอะไรอีก เรายังฆ่าเขาตอนนี้ไม่ได้”
คนอื่นๆ พยักหน้าหลังจากฟังเฮนรี่พูด
“แจ้งหัวหน้าเลยไหม” แมทธิวถาม
“คืนนี้หัวหน้าอยู่กับผู้หญิงของเขาเพื่อฉลองวันคริสต์มาส นายจะไปบอกเขาตอนนี้เหรอ บ้าหรือเปล่า! ฉันต้องสอนนายเรื่องนี้เหรอเนี่ย” เฮนรี่กล่าวใส่แมทธิว
แมทธิวขดริมฝีปากของเขา เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย
“มาเก็บกวาดที่นี่กันก่อนแล้วค่อยแจ้งหัวหน้าพรุ่งนี้”
พวกเขาอยู่ในเขตโรงงานร้าง และส่วนใหญ่รอบๆ เป็นโกดังโรงงานมีคนอาศัยอยู่น้อย ไม่น่าจะมีคนได้ยินเสียงปืนเมื่อครู่นี้ ต่อให้มีคนได้ยินก็คงไม่มีใครโง่พอไปแจ้งตํารวจหรอก
ทั้งสี่คนขับรถบรรทุกสองคันที่จอดอยู่นอกประตูเข้ามาในโกดัง มีศพอยู่นับสิบศพนอนอยู่ข้างในนี้ ศพทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายไปบนรถบรรทุก
พวกเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับศพพวกนี้เลย เพราะแต่ละคนล้วนเคยเห็นศพมามากในสนามรบ ซากศพที่อยู่บนสนามเพลาะสามารถกองรวมกันเป็นภูเขาได้เลยด้วยซ้ำ
แมทธิวนําเชือกมามัดแครนสตันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี
เคอรี่มองไปที่บาดแผลกระสุนปืนที่ขาของแครนสตัน บาดแผลยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด “เขาเลือดออกเยอะมาก พรุ่งนี้เขาน่าจะเสียเลือดเยอะจนตาย ฉันจะทำการปฐมพยาบาลแบบง่ายๆ ไปก่อนดีไหม?”
“ไม่ต้องหรอก ฉันมีวิธี”
แมทธิวพูดแล้วหยิบมีดใส่เข้าไปในเตาย่าง จนใบมีดเป็นสีแดงแครนสตันรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและบิดเบี้ยว
“ไม่ๆ อย่านะ”
แมทธิวไม่สนใจ เขาเหยียบเท้าข้างหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้แครนสตันเคลื่อนไหว และเอามีดสีแดงที่กำลังร้อนๆ กดเข้าที่บาดแผลตรงต้นขา
อย่างไร้ความปรานี!
“อ๊าก!”
แครนสตันส่งเสียงกรีดร้องอย่างทรมาน
บาดแผลไม่มีเลือดไหลอีกต่อไป จากนั้นแมทธิวลากชายคนนี้ไปทิ้งที่มุมห้อง!
ตอนนี้แครนสตันมีแต่ความเสียใจ ทําไมฉันถึงอยากได้รางวัล? อยู่บ้านเฉยๆ ก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ
ลูกน้องตอนนี้ก็ตายหมดแล้ว
แถมไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดไหม
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
ฮาร์ดี้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเอวา
เขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วบอกลาเธอ เมื่อออกมาจากบ้านของเมริซา เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเฮนรี่ยีนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถของเขา
“เฮนรี่ มาที่นี่ทําไม”
“มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ผมอยากรายงานให้บอสรู้”
“รอนานแล้วหรือยัง?”
“แค่บุหรี่สองมวน”
“แล้วเกิดอะไรขึ้น?”
“แก๊งชาวสเปนสงสัยเราจึงส่งกลุ่มคนมาตรวจสอบ แต่หัวหน้ากลุ่มที่มาเป็นพวกโง่ไร้สมอง เขาเข้ามาแบบไม่มีแผนอะไรเลย พวกเราจึงจัดการได้อย่างไม่ยากเย็นอีกฝ่ายตายไป 11 คน เราปล่อยให้หัวหน้ากลุ่มยังมีชีวิตอยู่” เฮนรี่กล่าว
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ไม่นึกเลยว่าจะโดนบุกตอนกลางคืนแบบนี้ โชคดีที่เฮนรี่และคนอื่นๆ จัดการได้ดี
ฮาร์ดี้ขับรถกลับไปที่โรงงานร้าง ดูศพบนรถบรรทุกสองคันและเดินมาหาคนที่ยังมีชีวิตอยู่
“ชื่ออะไร?” ฮาร์ดี้ถามอย่างใจเย็น
“แครนสตันครับ” แครนสตันกล่าวอย่างแผ่วเบา
“นายมีตําแหน่งอะไรในแก๊งชาวสเปน”
“หัวหน้าหน่วยย่อย…”
แม้ว่าตําแหน่งของแก๊งในยุโรปและอเมริกาจะไม่ซับซ้อนมากนัก แต่พวกเขาก็มีแผนกองค์กรของตัวเองที่ชัดเจน
ในแก๊งมักจะแบ่งออกเป็นหัวหน้าแก๊ง รองลงมาคือรองหัวหน้า ที่ปรึกษาทางทหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ หัวหน้าหน่วยย่อย และลูกน้องระดับล่างสุด หัวหน้าแก๊งถือเป็นระดับบนและกระดูกสันหลังของแก๊ง ปัจจุบันฮาร์ดี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่ง ในระดับบนของแก๊งชาวยิวเช่นเดียวกัน
“บอกทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับแก๊งสเปน” ฮาร์ดี้พูดเบา ๆ
“อยากรู้เรื่องอะไร ผมยอมบอกหมดเลย” แครนสตันพูดด้วยใบหน้าขมขื่น
จากนั้นฮาร์ดี้ก็ถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับแก๊งชาวสเปน จากข้อมูลของแครนสตัน ฮาร์ดี้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับแก๊งชาวสเปน
“ฉันได้ยินมาว่าพวกแก๊งชาวสเปนกําลังเตรียมค้ายาเมื่อเร็วๆ นี้นายรู้เรื่องนี้ไหม” ฮาร์ดี้ถาม
แครนสตันส่ายหัวทันที “ผมไม่รู้ ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้”
“แล้วแก๊งชาวสเปนเอายามาจากไหน”
“เราซื้อมาจากชาวโคลอมเบีย ผมได้ยินมาว่าเขาเป็นแค่นายพลเท่านั้น และข้อมูลก็ถูกปกปิดเป็นความลับจะมีคนไปที่ท่าเทียบเรือเพื่อรับสินค้าจากอีกฝ่าย”
“ท่าเทียบเรือ พวกเขาส่งสินค้ามาทางน้ำเหรอ” ฮาร์ดี้ถาม
“ใช่ ชาวโคลอมเบียมาที่นี่ด้วยเรือขนส่งสินค้าทางทะเล ขนส่งยาจากนอกชายฝั่ง จากนั้นจึงส่งสินค้าให้เราที่ท่าเทียบเรือ เมื่อส่งสินค้าเสร็จอีกฝ่ายจะรับเงินและเดินทางกลับไปทันที”
“ท่าเทียบเรือที่ไหน?”
“มันเป็นท่าเทียบเรือส่วนตัวเล็กๆ ใกล้ท่าเรือซานตาโมนิกา ผมจําบางอย่างได้ตอนที่ผมรายงานเรื่องของคุณให้กับหัวหน้าแดนี่ ผมได้ยินเขาคุยกับรองหัวหน้าเรื่องการเตรียมคนไปที่ท่าเรือในเร็วๆ นี้”
หัวใจของฮาร์ดี้เริ่มสั่นไหว
แดนี่อาจกําลังพูดถึงการซื้อขายยากับนายพลชาวโคลอมเบีย
ขณะนี้มีการเตรียมคนที่ท่าเทียบเรือแล้ว ดูเหมือนว่าเวลาในการซื้อขายจะเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ฮาร์ดี้รู้สึกในทันทีว่ามีเรื่องใหญ่กําลังกวักมือเรียกหาเขาอยู่