ตอนที่ 35 ฝังมัน!
แซนเดอร์ตื่นเต้นมากระหว่างที่ขับรถกลับมาที่สำนักงาน เขาไม่ได้เสียเงินสักดอลลาร์จากการเซ็นสัญญาซื้อขายครั้งนี้ นักแสดงที่อยู่ในสัญญาล้วนเป็นคนที่ถูกเขาหลอกทั้งนั้น
แค่เวลาเพียงหนึ่งหรือสองปี แต่ละคนขายได้มากกว่าหกพันดอลลาร์ ซึ่งธุรกิจประเภทนี้ไม่มีต้นทุนอะไรเลยด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องชีวิตของนักแสดงเหล่านั้นในอนาคต เขาไม่สนใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว
กลับไปถึงบริษัทนายหน้า เมื่อแซนเดอร์ลงจากรถ เขามองไปที่อาคารสองชั้นที่มีสภาพค่อนข้างทรุดโทรม แซนเดอร์คิดว่าปีหน้าเขาควรหาเช่าตึกที่ดีกว่านี้เพื่อทําให้บริษัทดูน่าเชื่อถือ หากมีการปรับปรุงสํานักงานของบริษัท เขาคงหลอกหนุ่มสาวให้มา เซ็นสัญญาง่ายกว่าเดิมมาก
นอกจากนี้ยังวางแผนการที่จะจ้างลูกน้องเพิ่มอีกสองสามคน กระจายแต่ละคนให้ไปเป็นแมวมองในหลาย ๆ พื้นที่ หากสามารถหลอกพวกคนโง่ให้เซ็นสัญญาได้ 30 ฉบับต่อปี นั่นคือ 195,000 ดอลลาร์ แล้วถ้าหลอกได้ 50 ฉบับนั่นคือ 325,000 ดอลลาร์ ถ้าหลอก ได้ 100 ฉบับ นั่นคือ 650,000 ดอลลาร์
ถึงตอนนั้น ฉันก็จะกลายเป็นเศรษฐี
ฮ่าๆๆ
แซนเดอร์ก้าวเดินอย่างเร็วเพื่อขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูสํานักงานและเข้าไป
วางกระเป๋าหนังลงบนโต๊ะ มาที่บาร์เล็กๆ เพื่อรินไวน์สักแก้วให้ตัวเอง เปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียง เสียงเพลงอันไพเราะก็ค่อยๆ ดังขึ้น
จิบไวน์แล้วค่อย ๆ ขยับร่างกายไปตามจังหวะเสียงเพลง
เขาเดินมาที่โต๊ะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า มองไปที่กองเงินหนา ๆ บนโต๊ะ แซนเดอร์หยิบมันขึ้นมาดมอย่างแรง
กลิ่นของเงินมันหอมมาก
เปิดลิ้นชักที่ด้านล่างของโต๊ะ พบกุญแจยาว จากนั้นเดินไปที่ภาพวาดบนผนัง เมื่อขยับภาพวาดออกไปด้านข้างเผยให้เห็น ตู้นิรภัยเล็ก ๆ ด้านหลัง
แซนเดอร์ใส่กุญแจ หมุนรหัส
ตู้นิรภัยเปิดออก
ในนี้มีข้อมูลสําคัญและเงินอยู่จํานวนหนึ่ง
ใส่เงินที่เขาได้รับในวันนี้เข้าไปอย่างเรียบร้อย เมื่อเห็นเงินกองหนาในตู้นิรภัย เขารู้สึกพอใจมาก
‘ก็อกๆๆ’
ทันใดนั้น ประตูสํานักงานก็ถูกเคาะอย่างกะทันหัน
แซนเดอร์ตกใจ เขารีบปิดประตูตู้นิรภัยดึงกุญแจออกมาแล้วใส่ลงในกระเป๋าเสื้อของเขา จากนั้นผลักภาพวาดกลับไปที่ตําแหน่งเดิม
“นั่นใคร?”
แซนเดอร์ถามขณะเดินไปที่ประตู
“มาเช็คมิเตอร์น้ำครับ”
เสียงผู้ชายดังมาจากนอกประตู
แซนเดอร์สงสัย
เช็คมิเตอร์น้ำ ฉันมีมิเตอร์น้ำอยู่ที่นี้ด้วยเหรอ?
เขาพูดพร้อมกับเปิดประตู
“คุณมาผิดที่หรือเปล่า?”
ก่อนที่แซนเดอร์จะพูดจบ ปากกระบอกปืนสีดําก็จออยู่บนหน้าของเขาแซนเดอร์ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ
เขาตระหนักได้ว่าในตอนนี้เขากำลังถูกปล้นซะแล้ว
เฮนรี่ใช้ปืนจ่อหัวแซนเดอร์และดันเขาเข้าไปในห้อง แซนเดอร์ก้าวถอยหลังกลับเข้ามา หลังจากประตูถูกปิดลง แมทธิวก็ต่อยเข้าที่ท้องของแซนเดอร์
อั๊ก!
แซนเดอร์ครางออกมา
หมัดนี้ทําให้เขารู้สึกว่ากระเพาะของเขากําลังปั่นป่วน
เขาล้มลงนอนบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
ตัวงอจนเหมือนกับกุ้ง
หลังจากที่แซนเดอร์ล้มลง แมทธิวก็ไม่ปล่อยเขาไป หยิบเชือกออกจากกระเป๋าแล้วมัดมือแซนเดอร์ไว้ด้านหลัง
เฮนรี่ค้นสํานักงานโดยเน้นที่กระเป๋าหนังของแซนเดอร์ ซึ่งในนั้นมีเอกสารเพียงบางส่วนเท่านั้น
เฮนรี่ค้นตัวแซนเดอร์ เจอแค่เพียงกุญแจนิรภัย
“บอกมา ตู้นิรภัยอยู่ไหน” เฮนรี่ถาม
“ผมไม่มีตู้นิรภัย นั่นคือกุญแจบ้านของผม” แซนเดอร์พูดอย่างเจ็บปวด
แมทธิวคว้าแซนเดอร์ขึ้นมา แล้วต่อยเข้าที่ท้องอีกครั้ง
อั๊ก!
แซนเดอร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
เฮนรี่เยาะเย้ยขณะถือกุญแจของตู้นิรภัย “คิดว่าฉันโง่เหรอ นี่คือกุญแจของตู้นิรภัยแบรนด์ดีโบลต์”
เขาพูดพลางเขย่ากุญแจต่อหน้าแซนเดอร์
มีตราโลโก้อยู่ตรงที่จับกุญแจ
“ไม่! ไม่ ผมไม่มีเงิน ผมไม่มีเงินให้พวกคุณจริงๆ” แซนเดอร์เริ่มร้องไห้
ผัวะ!
แซนเดอร์โดนหมัดหนักๆ อีกครั้ง
หลังจากรื้อค้นสํานักงาน ในที่สุดเฮนรี่ก็พบตู้นิรภัยที่ด้านหลังภาพวาด เขาใส่กุญแจเข้าไปแล้วหันกลับมาถามแซนเดอร์ “บอกรหัสมาเดี๋ยวนี้!”
“091521…”
ตู้นิรภัยเปิดออก
เผยให้เห็นเงินเป็นฟ่อน ๆ ข้างใน
แซนเดอร์รู้สึกใจจะสลาย
เพิ่งหาเงินได้มาแท้ ๆ แต่ดันโดนปล้นก่อนที่เขาจะได้ใช้เงินด้วยซ้ำ หัวใจของเขาเหมือนมีเลือดออก
เฮนรี่เหลือบมองแมทธิว ทันใดนั้นแมทธิวก็ตีหลังหัวของแซนเดอร์อย่างแรง
พลั่ก!
แซนเดอร์หมดสติในทันที
เฮนรี่หยิบเงินทั้งหมดออกจากตู้นิรภัยและใส่ไว้ในกระเป๋าหนังของแซนเดอร์
เอกสารอื่นๆ เขาทิ้งไว้เหมือนเดิมตู้นิรภัยถูกล็อคอีกครั้งดึงกุญแจออกและดันภาพกลับที่เดิม
เฮนรี่จัดการสํานักงานให้เรียบร้อย ไม่มีใครรู้ว่ามีการปล้นเกิดขึ้นที่นี่
“โอเค! ออกไปกันเถอะ”
ทั้งสองออกไปพร้อมกับพาตัวแซนเดอร์ไปด้วย ล็อคประตูสํานักงาน ทั้งสองเดินไปหารถที่จอดอยู่หน้าประตูบริษัท นีลที่รออยู่ลงจากรถและเปิดกระบะด้านหลังให้ เฮนรี่และแมทธิวโยนแซนเดอร์เข้าไปอย่างรวดเร็ว
ประตูรถปิดลง เขาขับออกจากบริษัทนายหน้าภายในเวลาไม่กี่นาที ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นสำนักงานนี่
รถขับออกจากตัวเมืองลอสแองเจลิสมาถึงป่าทึบ
ภายในป่ามีรถจอดอยู่ พร้อมกับหลุมที่ถูกขุดขึ้นข้างๆ
รถของนีลหยุดลง
เฮนรี่หยิบกระเป๋าหนังแล้วลงจากรถ
หลังจากเห็นฮาร์ดี้ เขายิ้มแล้วพูดว่า “หัวหน้า คุณได้เงินคืนมาเยอะเลยแซนเดอร์มีเงินเก็บไว้ด้วย ผมจึงเอาเงินมาทั้งหมดหมดเลย”
ฮาร์ดี้พยักหน้าอย่างพอใจ
“ฉันจะเอาแต่เงินของตัวเองคืนเท่านั้น เงินที่เหลือพวกนายก็เอาไปแบ่งกันเองก็แล้วกัน” ฮาร์ตี้กล่าว
คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฮาร์ดี้ทั้งหมดหัวเราะอย่างมีความสุขพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าแค่ทํางานเล็กน้อยนี้ ก็จะได้เงินมาด้วยลองนับเงินคร่าวๆ น่าจะแบ่งได้ประมาณคนละ 500 ดอลลาร์เลย
“หัวหน้า คุณจะจัดการกับชายคนนี้อย่างไร” เฮนรี่ถาม
“เรามีหลุมที่พร้อมใช้งานอยู่พอดี” ฮาร์ดี้กล่าว
พวกเขาทั้งหมดเข้าใจความหมายของฮาร์ดี้
แซนเดอร์ถูกลากลงมาจากรถ ฝนที่เย็นยะเยือกกระทบหน้าใบหน้า เขาถูกปลุกให้ตื่นในทันที ก่อนที่จะได้ทําอะไร เขาก็ถูก โยนลงไปในหลุมอย่างแรง
แซนเดอร์รู้ตัวทันที
ความรู้สึกกลัวกําลังเข้ามาในหัวใจของเขา
“อะ อย่านะ อย่าฆ่าผม!”
เขาดิ้นรนอย่างหนัก แต่เขาถูกมัดมือแน่นจนไม่สามารถทําอะไรได้
ส่วบๆ
ลีโอและนิลกําลังใช้พลั่วขุดดินกลบหลุม
แซนเดอร์เริ่มกลัวมากขึ้น
“พวกแกเป็นใคร ทําไมถึงอยากฆ่าผม ผมมาจากแก๊งสเปนนะโว้ย ถ้าพวกแกฆ่าผม เรด แดนีไม่ปล่อยพวกแกไปแน่” แซนเดอร์ตะโกนอย่างเจ็บปวด
ลีโอและเฮนรี่ที่กําลังขุดดินหยุดเคลื่อนไหวและหันไปมองทางฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้ได้ยินเสียงกรีดร้องของแซนเดอร์เช่นเดียวกัน
คาดไม่ถึงจริงๆ
แซนเดอร์คนนี้เป็นสมาชิกของแก๊งชาวสเปน
แต่พอลองคิดดูแล้ว
สิ่งที่ชายคนนี้ทําคือ การหลอกลวงเขาหลอกชายหญิงให้เซ็นสัญญาและพาไปขายร่างกาย ไม่ต่างอะไรกับการก่ออาชญากรรม
ถ้าไม่มีแก๊งคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ชายคนนี้คงทําอะไรไม่ได้มากเท่านี้
“เฮนรี่ ถามสิว่ารู้อะไรบ้าง” ฮาร์ดี้บอกเฮนรี่ที่ยืนข้างๆ เขา
เฮนรี่เดินไปถาม
แซนเดอร์ต้องการเอาตัวรอดมากที่สุดในตอนนี้ เขายอมตอบทุกคําถามที่เฮนรี่ถามเขา
แน่นอนเขาไม่รู้ข้อมูลภายในแก๊งชาวสเปนมากนัก
“ผมไม่รู้อะไรมาก หน้าที่ของผมคือการรับผิดชอบเฉพาะบริษัทนายหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมกับบริษัทอื่นเลย”
“บริษัทนายหน้าของนายส่งเงินไปให้แก๊งชาวสเปนด้วยรึเปล่า?”
“ส่งไปๆ ส่วนแบ่งของผมคือ 40% และส่วนของแก๊ง 60%”
“แก๊งชาวสเปนมีบริษัทนายหน้ากี่แห่ง?”
“มีทั้งหมดสามแห่ง ฉันรู้จักชื่อผู้จัดการบริษัททั้งหมดด้วยนะๆ” จากนั้นแซนเดอร์ก็บอกชื่อพวกเขาออกมา
“จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่นายเซ็นสัญญาด้วย?”
“บางคนถูกขายให้บริษัทใหญ่ บางคนถูกส่งไปขายตัว บางคนก็หนีหายไปเลย และบางคนถูกส่งไปบริษัทภาพยนตร์ของแก๊งชาวสเปน”
“แก๊งชาวสเปนมีบริษัทหนังชื่ออะไร”
“บริษัท ภาพยนตร์ฮอนเนส (The Honest Film Company)”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮาร์ดี้ได้อ่านข้อมูลมากมายเกี่ยวกับวงการฮอลลีวูด และเขาเคยเห็นชื่อบริษัท ภาพยนตร์ฮอนเนส มาแล้ว
นึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นอุตสาหกรรมของแก๊งชาวสเปน
หลอกให้เซ็นสัญญา บังคับขายตัว ในท้ายที่สุดก็พาเข้าไปถ่ายทําภาพยนตร์แบบผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นบริการแบบครบวงจรจริง ๆ
ดูดเลือดอย่างเดียวไม่พอ พวกนั้นยังขูดเนื้อไปถึงไขกระดูก
ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรู้จักกับเมริซา เธอก็คงจะไม่มีโอกาสฉีกสัญญาพวกนี้
ฮาร์ดี้เหลือบมองแซนเดอร์ในหลุมแล้วพูดอย่างเย็นขาว่า “ฝังมัน!”
“ไม่ไม่!”
“ปล่อยผมเถอะ ปล่อยผมไป…”
แซนเดอร์ที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินกรีดร้องออกมา
หลังจากกลบดินเสร็จแล้ว แมทธิวและคนอื่น ๆ ก็เกลี่ยดินให้เรียบก่อนจะจากไป
หญ้าที่นี้คงจะโตได้ดีแน่ๆ