อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 222 การเผชิญหน้ากับคณะกรรมการมาเฟีย

ตอนที่ 222 การเผชิญหน้ากับคณะกรรมการมาเฟีย

ฮาร์ดี้ได้รับโทรศัพท์หลายสายในวันนี้ คนแรกมาจากเจ้าพ่อมาเฟีย ตัวเขานั้นบอกกับฮาร์ดี้ว่าบาซินี่กำลังเรียกประชุมครอบครัว สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในซานฟรานซิสโก โดยหลังจากนั้นทั้งสองก็คุยโทรศัพท์กัน เกือบหนึ่งชั่วโมง

จากนั้นฮาร์ดี้ก็รับสายอีกสองสามสาย เช่น หัวหน้าครอบครัวลูเซร์ซจากไมอามี หัวหน้าครอบครัวบรูโนจากฟิลาเดลเฟีย หัวหน้าครอบครัวมาร์เซโล่จากนิวออร์ลีนส์และอื่นๆ ที่ติดต่อมา

ซึ่งพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ถือหุ้นของ ‘โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยน’ และมีความกังวลมากเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ฮาร์ดี้ก็อธิบายทั้งหมดกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าแก๊งแอลเอต้องการที่จะยึดพื้นที่ของครอบครัวเซลตัน แต่เป็นครอบครัวเซลตันเองที่มีการขัดแย้งภายใน และถ้าดินแดนไร้ผู้ปกครอง มันก็จะมีพวกสารเลวบางคนฉวยโอกาสเข้าไปยึดครอง แล้วคิดว่าผมจะปล่อยมันไปง่ายๆ งั้นเหรอ?”

“ถึงแม้ว่าบริษัทแอลเอจะไม่ได้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการมาเฟียแต่ต้นกำเนิดก็ยังคงเกิดมาจากมาเฟีย ผมคิดเสมอว่าเราทั้งหมดนั้นเป็นครอบครัวเดียวและคุณคิดว่าไง?”

ฮาร์ดี้ถามอย่างมีเลศนัย

หลังจากได้ยินว่าฮาร์ดี้ปราถนาอยากจะเป็นสมาชิกของครอบครัวมาเฟีย เหล่าครอบครัวมาเฟียที่ได้ยินก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา

“แต่นายก็รู้ว่าคณะกรรมการปฏิเสธที่จะรับคนที่ไม่ใช่ชาวอิตาลีมาโดยตลอด ฉันช่วยอะไรไม่ได้ในเรื่องนี้ และมันก็น่าเศร้าอยู่เหมือนกัน ซึ่งฉันก็คิดอยู่เสมอว่าหาต้องการให้ธุรกิจเติบโต มันก็ควรจะเปิดกว้างมากกว่านี้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ฉันก็ขอให้บริษัทแอลเอได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ หรือได้เป็นส่วนหนึ่งของเรา”

มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมาเฟียที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการเต็มรูปแบบได้ เพราะท้ายที่สุดมันก็มีผู้อาวุโสมากกว่า 20 คนที่จะต้องมารวมตัวกัน และในครั้งนี้พวกเขาทั้งหมดต้องไปรวมตัวกันที่นิวยอร์ก

วีโต้คอร์เลโอเนพาทอมเข้าไปในห้องประชุม เมื่อหัวหน้าครอบครัวและคนอื่นๆ เห็นเจ้าพ่อมาเฟียหลายๆ คนก็ลุกขึ้นยืนเพื่อเข้าไปทักทาย

“วีโต้ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ?” มีคนเข้ามาทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม

“อ่า ดีมากเลยล่ะ คูเนโอมักจะชวนฉันออกไปล่าสัตว์อยู่บ่อยๆ และเมื่อสองสามวันก่อนฉันก็ยิงกวางเอลก์ได้ด้วย” เจ้าพ่อมาเฟียพูดด้วยรอยยิ้ม…

หัวหน้าครอบครัวคูเนโอก็ยิ้มและพูดว่า “นั่นเป็นกวางตัวที่ใหญ่ที่สุดในฟาร์มของฉันเลย แถมเขาก็ฆ่ามันด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว ซึ่งฉันก็คิดว่าฝูงกวางคงจะไม่ออกมาง่ายๆ อีกแล้วล่ะในอนาคต”

หลังจากได้ยินคนอื่นๆ ก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน

ทอมที่เดินตามเจ้าพ่อมาเฟียเข้าไป

เวลานี้เขามีความรู้สึกเดียวเท่านั้น

ความเคารพ

และผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวเหล่านี้ก็ให้ความเคารพเจ้าพ่อมาเฟียมากกว่าเมื่อก่อนด้วย

โดยในการประชุมครั้งล่าสุด

เจ้าพ่อมาเฟียเป็นเหมือนสิงโตที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังเผชิญหน้ากับการล้อมกลุ่มของไฮยีน่า แต่ดูตอนนี้สิคนเหล่านี้ต่างก็ทำหน้ายิ้มแย้มให้กับเขา

สิ่งที่เกิดขึ้นตัวเขานั้นรู้ดี

ทั้งหมดเป็นเพราะฮาร์ดี้

ถึงแม้ว่าฮาร์ดี้นั้นจะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการมาเฟียและเขาก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของมาเฟียด้วย แต่เขาก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อมาเฟียทุกฝ่าย

การที่ครอบครัวคอร์เลโอเนสามารถฟื้นคืนสู่สภาพปัจจุบันได้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะฮาร์ดี้ทั้งหมด

เอมิลิโอ บาซินี่ผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวบาซินี่ ฟิลิปผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตาตาลยา โคโลโบผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวสตราชีย์และคนอื่นๆ ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องประชุมและได้เห็นเจ้าพ่อมาเฟียกับคนอื่นๆ พูดคุยพร้อมกับหัวเราะด้วยกัน… 

มันก็ทำให้เขารู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย

บาซินี่เดินไปนั่งที่ประธาน

ผู้อาวุโสสูงสุดของแต่ละครอบครัวก็เข้าไปนั่งที่ของตัวเองและไม่ช้าการประชุมก็เริ่มขึ้น

บาซินี่เหลือบมองไปที่ผู้อาวุโสสูงสุด 20 กว่าคนที่นั่งอยู่ก่อนจะหันไปมองที่นั่งอันว่างเปล่าและพูดว่า “พวกนายสังเกตไหมว่าคณะกรรมการของเราขาดผู้อาวุโสสูงสุดไปหนึ่งคน?”

เมื่อได้ยินทุกคนก็มองไปที่นั่งนั้นทันที ซึ่งทั้งหมดรู้ดีว่าบาซินี่กำลังพูดถึงเลบเซลตัน และทั้งหมดก็รู้ด้วยว่าทำไมจึงมีการประชุมเกิดขึ้นในวันนี้

บาซินี่พูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “มีใครบางคนปล้นสนามหญ้าของครอบครัวเซลตัน ฉันรู้ดีว่าพวกนายทุกคนน่าจะได้รับข่าวแล้ว ว่าคนที่ทำแบบนั้นก็คือแก๊งแอลเอ ที่มีการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อหารือว่าจะเอาพื้นที่ของซานฟรานซิสโกคืน” “

“เพราะยังไงครอบครัวเซลตันเป็นสมาชิกของคณะกรรมการมาเฟีย และเมื่อเรานั้นเข้าร่วมมาแล้วมันก็มีกฏที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะพร้อมช่วยเหลือข้อพิพาทภายในครอบครัวและสร้างพันธมิตรเพื่อป้องกันภัยคุกคาม ดังนั้นถ้ามีกองกำลังภายนอกบุกรุกผลประโยชน์ของเรา พวกเราก็ต้องต่อสู้กับพวกมันด้วยกัน!” “

“เวลานี้ครอบครัวเซลตันถูกโจมตีและพื้นที่ของพวกเขาได้ถูกปล้นไป ฉันก็เลยเรียกให้มีการประชุมเพื่อหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้ และฉันก็จะไม่ยอมแก๊งแอลเอหรอก!”

บาสซินี่พูดจบและมองไปที่ทุกคน

ซึ่งบรรยากาศตอนนี้ก็ถือว่าเงียบมาก

ยังไงคนที่นั่งอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครเป็นคนโง่ พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอที่จะต่อสู้กับแก๊งแอลเอ?

อย่าลืมว่าแก๊งแอลเอเป็นของฮาร์ดี้

และผู้คนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่นี่ก็มีการลงทุนไปกับคาสิโนเดอะเวเนเชี่ยนเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งเงินพวกนั้นจะถือว่าเป็นเงินทั้งหมดของพวกเขาก็ได้ และพวกเขาก็ไม่ได้โง่ที่จะมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเซลตัน แต่พวกเขาก็ไม่อยากให้การลงทุนที่อยู่ในมือของฮาร์ดี้พังทลายลงไป…

ดังนั้นหลายคนก็เลยมองไปที่เจ้าพ่อมาเฟียวีโต้ คอร์เลโอเนทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ

เจ้าพ่อมาเฟียมองไปที่บาซินี่และถามเบาๆ ว่า “บาซินี่ฉันขอเหตุผลที่นายอยากทำสงครามกับแก๊งแอลเอหน่อยสิ “

“เพราะพวกเขาโจมตีครอบครัวเซลตันและปล้นพื้นที่ซานฟรานซิสโกไป” บาซินี่พูดด้วยใบหน้าเย็นชา

เจ้าพ่อมาเฟียเม้มปากของเขาและส่ายหัว “แต่สิ่งที่ฉันได้ยินมานั้นก็คือครอบครัวเซลตันมีการต่อสู้ภายในไม่ใช่เหรอ? เห็นว่าคนของเซลตันและทตโตได้ทำการเปิดฉากปะทะกัน แล้วหลังจากมีผู้บาดเจ็บและโดนฆ่าไปจำนวนมาก ทั้งหมดที่เหลือรอดก็ถูกทำลายลง โดยเป็นตำรวจที่เข้าไปจับพวกที่เหลือด้วยตัวเองและไม่มีการช่วยเหลือจากแก๊งแอลเอเลยสักนิด”

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลลุคเชเซพยักหน้า “ฉันก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน มันเป็นทตโตเองที่กระหายอยากได้บัลลังก์ และเซลตันก็ก็ส่งไปฆ่าเขาแต่มันกลับล้มเหลวจนทำให้เกิดการสู้กันภายใน”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หัวหน้าครอบครัวลุคเชเซก็พูดอย่างเหยียดหยามว่า “เซลตันช่างไม่คิดอะไรเลยจริงๆ ถึงกลับใช้วิธีนั้นจัดการกับครอบครัวตัวเอง”

ทว่าบาซินี่ก็ตอบกลับด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ว่า “แต่ฉันสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้แก๊งแอลเออาจจะวางแผนไว้ก็ได้”

“ทำไมนายถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” เจ้าพ่อมาเฟียถาม

“เพราะพวกเขาได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้นมากที่สุด” บาซินี่กล่าว

เจ้าพ่อมาเฟียส่ายหัว “บาซินี่…เหตุผลแค่นี้ไม่สามารถโน้มน้าวเราได้หรอก แล้วหลังจากครอบครัวเซลตันล้มลงพื้นที่ของพวกเขาก็ไร้ผู้ปกครอง มันก็ทำให้พวกละตินบางคนต้องการเข้ามายังพื้นที่เหล่านั้น ทว่าแก๊งแอลเอกลับเห็นปัญหาตรงนี้ก่อน พวกเขาก็เลยส่งคนไปคุ้มกันพื้นที่เหล่านั้นไว้”

“ซึ่งมันก็ดีกว่าที่พื้นที่เหล่านั้นอยู่ในมือของแก๊งแอลเอมากกว่าที่จะเป็นชาวเม็กซิกันไม่ใช่เหรอ?” เจ้าพ่อมาเฟียถาม

บาซินี่มองไปที่เจ้าพ่อมาเฟียและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “วีโต้นายต้องการละเมิดกฎที่คณะกรรมการกำหนดว่าจะไม่สนับสนุนคนนอกงั้นเหรอ? ฉันรู้นะว่านายมีความสัมพันธ์กับทอมฮาร์ดี้แบบไหน!”

เมื่อต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาของบาซินี่เจ้าพ่อมาเฟียก็ไม่ได้ร้อนใจอะไร

“หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกฉันก็โทรหาฮาร์ดี้เพื่อคุยกับเขา และเขาก็บอกว่าไม่ต้องการเห็นพื้นที่ของมาเฟียตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลเดียวที่เขาส่งคนเข้าไปในดินแดนของตระกูลเซลตัน” “

“ฮ่าๆๆ เขาใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” บาซินี่หัวเราะเยาะ

“แล้วทำไมมันจะไม่ได้ล่ะ? ถ้าจะให้แก๊งแอลเอกลายเป็นครอบครัวมาเฟีย และถ้าหากเรายินดี ฮาร์ดี้ก็บอกว่าจะให้แก๊งแอลเอเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

เมื่อได้ยินลุคเชเซก็เปิดปากพูดว่า “เวลานี้แก๊งแอลเอกลายเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในชายฝั่งตะวันตกแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งมาก ดังนั้นถ้าพวกเขาเข้าร่วมกับเรา ฉันก็เชื่อว่ามันจะช่วยพัฒนาครอบครัวมาเฟียของเราอย่างแน่นอน”

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลบรูโนจากฟิลาเดลเฟียก็พยักหน้าเช่นกัน “ใช่ เพราะตอนนี้ความแข็งแกร่งของเราบนชายฝั่งตะวันตกนั้นอ่อนแอเกินไปและแทบจะไม่มีครอบครัวมาเฟียของเราอยู่ที่นั่นเลย แถมความแข็งแกร่งของแก๊งแอลเอก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ดังนั้นถ้าเราต้องการพัฒนาธุรกิจบนชายฝั่งตะวันตกในอนาคต พวกเราก็ต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง”

หัวหน้ามาเฟียหลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าควรให้แก๊งแอลเอเข้าร่วมเป็นครอบครัว ทว่าตอนนี้ใบหน้าของบาซินี่กลับดูน่าเกลียดมาก เพราะจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือการกำจัดแก๊งแอลเอให้ออกไปจากซานฟรานซิสโก แต่พวกเขากลับพูดคุยเกี่ยวกับการให้แก๊งแอลเอเข้าร่วมเป็นหนึ่ง ในคณะกรรมการ?

สิ่งนี้ทำให้บาซินี่โกรธมาก

บาซินี่ลุกขึ้นยืนอย่างโกรธเกรี้ยวและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขลึมว่า “ฉันไม่ยอมหรอก! และอย่าลืมสิว่าครอบครัวของเราที่นี่มีแต่เชื้อชาติอิตาลี ดังนั้นคนที่จะเข้าร่วมคณะกรรมการก็ต้องมีเชื้อชาติอิตาลีด้วย! ไอ้พวกชาติอื่นอย่าได้หวังเลย!”

เจ้าพ่อมาเฟียก็ลุกขึ้นยืนมองไปที่บาซินี่และพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “บาซินี่ฉันคิดว่านายควรเปลี่ยนความคิดของตัวเองบ้าง”

หลังจากพูดจบเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสของครอบครัวมาเฟียคนอื่นๆ และพูดด้วยเสียงดังว่า “อย่าลืมสิว่าแก๊งมาเฟียนั้นมีต้นกำเนิดที่ซิซิลีแล้วไม่ต้องพูดอะไรอีกว่าเรามาที่สหรัฐอเมริกาทำไม…มันไม่ใช่ว่าเราต้องการพัฒนาธุรกิจของเราให้อยู่รอดอย่างนั้นหรือ? และเมื่อตอนนั้นทุกครอบครัวก็ขยายออกเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวเล็ก พัฒนาดีขึ้นจนเราได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา”

“ซึ่งเจตนาเดิมที่เราจัดตั้งคณะกรรมขึ้นก็เพื่อแก้ไขข้อพิพาทภายในและส่งเสริมพัฒนาพวกเราให้ดีขึ้น ดังนั้นเรื่องในวันนี้มันไม่ใช่เหตุผลหลักเลยสักนิด”

“เพราะอย่าลืมว่าในครอบครัวเรานั้นก็มีคนจำนวนมากที่ไม่ใช่เชื้อสายอิตาลี แถมหลายๆ คนก็ได้นั่งตำแหน่งสูงๆ อีก! และยังมีพวกเราหลายคนที่เกิดในสหรัฐอเมริกา เช่นแอล คาโปนที่เกิดในนิวยอร์ก ดังนั้นเราจะนับเขาเป็นคนอิตาลีหรือเปล่า? หรือว่าเป็นชาวอเมริกัน?”

“แล้วถ้าหากนายต้องการแบบนั้นจริงๆ มันก็จะมีแค่ชาวซิซิลี่เท่านั้นที่เป็นมาเฟีย และบาซินี่ฉันจำได้ว่านายมีเชื้อสายเนเปิลใช่ไหม? ส่วนตาตาลย่านายมาจากคาลาเบรียหรือเปล่า? คนอื่นๆ ล่ะ? หือ!”

“บาซินี่…ตอนนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว พวกเราเองก็ต้องเปลี่ยนให้ตามทันยุคสมัย และมันก็มีแต่ต้องรับคนมีความสามารถเข้ามาเท่านั้นถึงจะทำให้เราพัฒนาได้ดีขึ้น ดังนั้นแนวคิดเก่าๆ บางอย่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนอะไรก็ตามที่ขวางการพัฒนาของเราหรือขัดขวางการสร้างรายได้ของเรา พวกมันทั้งหมดต้องถูกกำจัด!”

บาซินีมองไปที่เจ้าพ่อมาเฟียอย่างว่างเปล่า

เพราะเขาคุ้นเคยกับคำพูดของวีโต้มาก

มันเหมือนกับตอนนั้นที่เขาบังคับให้วีโต้ปล่อยเส้นสายทางการเมืองเพื่อสนับสนุนธุรกิจค้าหญ้า ซึ่งตัวเขาเองก็พูดอะไรที่คล้ายกับวีโต้…

วันนี้วีโต้ก็เอาคำพูดเหล่านั้นมาโจมตีตัวเขาเอง

ซึ่งเดิมทีการประชุมที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็เพื่อร่วมกันจัดการกับแก๊งแอลเอและจากนั้นเขาก็ใช้โอกาสนี้ในการควบคุมซานฟรานซิสโกเอง

เห็นไหมว่ามันก็ดูเป็นเรื่องง่ายๆ มาก เพราะถึงแม้แก๊งแอลเอกับฮาร์ดี้จะมีอำนาจในชายฝั่งตะวันตกมากแค่ไหน แต่ถ้าโดนสมาชิกของคณะกรรมการมาเฟียกดดันฮาร์ดี้ก็คงจะต้องยอมแพ้และยกซานฟรานซิสโกให้อย่างเชื่อฟังอย่างแน่นอน

ทว่ากลับมีเรื่องไม่คาดคิดวีโต้ได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปในทิศทางอื่น โดยพูดว่าแก๊งแอลเอควรได้เข้าร่วมเป็นสาชิกคณะกรรมการหรือไหม…

และมันช่างน่าประหลาดใจที่มีคนจำนวนมากสนับสนุน

โดยเฉพาะครอบครัวที่เคยร่วมมือกับฮาร์ดี้

ในขณะนี้

บาซินี่ได้รู้สึกถึงความไร้อำนาจ มันเหมือนกับว่าคนเหล่านี้จะไม่เชื่อฟังเขาอีกต่อไป

พวกมันช่างเป็นกลุ่มคนที่มีแต่ความละโมบ!

แค่คนคนนั้นมีข้อเสนอที่ดีกว่า พวกมันก็ไม่ฟังฉันแล้ว…

การประชุมได้จบลงแล้ว

วันนี้ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดการแก๊งแอลเออีกเลยหลังจากผ่านไปสักพัก และแน่นอนว่าข้อเสนอที่จะให้แก๊งแอลเอเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วยก็ไม่ผ่าน

ทำให้เวลานี้คณะกรรมการแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน

หนึ่งกลุ่มมีบาซินี่เป็นหัวหน้าและอีกกลุ่มคือเจ้าพ่อมาเฟียเป็นหัวหน้า ซึ่งกองกำลังทั้งสองนั้นถือว่าเท่าเทียมกัน เลยไม่มีใครข่มแห่งกันได้อีก

แต่ถ้าตามปกติแล้ว

มันถือว่าบาซินี่นั้นล้มเหลว

ตัวเขานั้นไม่สามารถชักชวนให้คณะกรรมการมาเฟียลงความจัดการแก๊งแอลเอได้ และแค่ความแข็งแกร่งของบาซินี่มันก็ไม่มากพอที่จะเข้าไปจัดการหรือทำสงครามกับฮาร์ดี้

ดังนั้นเขาจึงสูญเสียซานฟรานซิสโกไปตลอดกาล

หลังจากการประชุมจบเจ้าพ่อมาเฟียคุยกับฮาร์ดี้ทางโทรศัพท์และบอกฮาร์ดี้ว่าเกิดอะไรขึ้นในที่ประชุมบ้าง “ฉันเกรงว่าการเป็นสมาชิกของคณะกรรมการมาเฟียสำหรับแอลเอจะต้องเป็นครั้งหน้าแล้วล่ะ”

“ฮ่าๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกครับยังไงเป้าหมายของการร่วมมือมันก็แค่เอาไว้หาช่องทางสร้างรายได้เท่านั้น และแค่ตอนนี้มีสมาชิกครอบครัวมากกว่าครึ่งโหลมันก็เพียงพอแล้ว”

“แต่คุณวีโต้ คุณช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ?” ฮาร์ดี้กล่าว

“ให้ฉันช่วยอะไรล่ะ?”

“คุณช่วยติดต่อครอบครัวมาเฟียทุกคนไม่ว่าจะร่วมมือกับเราหรือไม่ร่วมมือกับเราว่าฮาร์ดี้อยากจะทำธุรกิจกับพวกเขา โดยผมจะทำการเปิดคาสิโนที่คิวบาในเร็วนี้ๆ และช่วยถามพวกเขาว่า ‘อยากจะลงทุนด้วยกันหรือไม่'” ฮาร์ดี้กล่าว

“เปิดคาสิโนในคิวบาเหรอ?”

“ใช่ครับ เปิดคาสิโนที่คิวบา และการที่ติดต่อไปหาพวกเขา มันก็เพื่อที่จะสร้างความไว้ใจสำหรับการยอมให้เข้าคณะกรรมการมาเฟียได้ง่ายขึ้นครับ” ฮาร์ดี้กล่าว

“ตกลง ฉันจะติดต่อพวกเขาให้” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

หลังจากวางสายฮาร์ดี้ก็ยิ้มออกมา

เพราะตัวเขานั้นโกหกเจ้าพ่อมาเฟีย

และจุดประสงค์จริงๆ ของฮาร์ดี้ก็ไม่ใช่การลงทุนในคิวบาเลย แต่เขาแค่กำลังขุดหลุมฝังศพให้กับบาซินี่ ซึ่งการที่เขานั้นไม่ได้บอกความจริงกับเจ้าพ่อมาเฟีย เพราะว่าเขานั้นอยากให้มันเป็นความลับมากที่สุด

ต้องบอกก่อนว่าเวลานี้คิวบายังไม่มีการปฏิวัติ มันยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็คือฟุลเฮนซิโอ บาติสตา โดยตัวเขานั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับบาซินี่หรือง่ายๆ ก็คือเพื่อนกัน

ส่วนฮาร์ดี้นั้นรู้ว่าในอนาคตหรือในสามสี่ปีข้างหน้าชายหนุ่มชื่อเลากาจะทำการพลิกคิวบา หรือทำการปฏิวัติการลงทุนของสหรัฐทั้งหมดให้หายไป ซึ่งฮาร์ดี้ก็แค่อยากจะล้มบาซินี่เพียงเท่านั้น และเขาก็ไม่ต้องทำเอง

เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำพร้อมกับรอให้คนอื่นเป็นคนลงมือแทนเท่านั้น

Leave a Comment

ไม่ดี!