อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 218 บอสของเราถูกใจคุณ

ตอนที่ 218 บอสของเราถูกใจคุณ

หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องออดิชั่น ซึ่งในห้องนี้นั้นมีกรรมการสามคนนั่งอยู่พร้อมกับกล้องที่อยู่รอบๆ และหญิงสาวก็มองไปที่กรรมการทั้งสามคน แล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “เอ่อ…ไม่ใช่ว่าพิธีกรบอกว่ากรรมการคือเอวา การ์ดเนอร์และแครี่แกรนท์กับคนอื่นๆ เหรอค่ะ?”

หนึ่งในกรรมการวัยกลางคนยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “เราเป็นกรรมการสำหรับรอบออดิชั่นนะ และถ้าเธอต้องการพบคุณเอวากับคุณแกรนท์ เธอต้องเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้ ซึ่งเธอคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะดูทั้งสองคนนั้นหรอกใช่ไหม?”

“ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะมาดูดาราสองคนนั้นแหละค่ะ”

หญิงสาวมองไปที่กรรมการทั้งสามคนพร้อมกับดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ซึ่งมันก็ทำให้ที่ปรึกษาทั้งสามคนเจ็บปวดมากจริงๆ

“แล้ววันนี้คุณจะมาร้องเพลงอะไร?” กรรมการคนหนึ่งถาม

หญิงสาวตอบกลับไปชื่อเพลงดังเพลงหนึ่ง และกรรมการก็ขอให้เธอนั้นร้องเพลงโดยไม่มีเพลงประกอบ ซึ่งพวกเขาก็พบว่าหญิงสาวนั้นมีเสียงและทักษะการร้องเพลงที่ดีมาก

โดยกรรมการทั้งสามนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา บางคนนั้นเป็นผู้จัดการของเอชดีฟิล์มและบางคนก็เป็นอาจารย์จากบริษัทเอชีเรคคอร์ด ทั้งสามนั้นเก่งเรื่องดนตรีมาก

เมื่อได้ยินหญิงสาวร้องเพลงจบ กรรมการทั้งสามก็ให้เธอผ่านโดยไม่มีข้อกังขา

มันทำให้หญิงสาวมีความสุขมากๆ จริงเพราะเธอผ่านแล้ว

…ตอนนี้การออดิชั่นผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก เพราะบางคนนั้นเข้าแค่เข้าไปร้องเพลงเพียงไม่กี่คำพวกเขาก็ถูกให้เชิญออกทันทีเนื่องจากพวกเขานั้นร้องเพลงได้แย่เกินไปและมันก็เหมือนเป็นการทรมาณกรรมการด้วย ซึ่งกรรมการบางคนนั้นถึงกับปิดหูของตัวเองไปเลย แต่พวกเขาก็แสดงออกให้มันตลกเท่านั้น

อยากโชว์ตัวเหรอ?

แน่นอนว่าทุกคนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการออดิชั่นได้

ส่วนจะผ่านหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการ

และเมื่อตาของแพตตี เพจ หญิงสาวตัวอ้วนคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง ซึ่งเธอนั้นเคยได้ขึ้นไปแสดงคอนเสิร์ตมาบ้างแล้ว มันก็เลยทำให้เธอนั้นมีความมั่นใจมาก

โดยเธอนั้นเลือกที่จะร้องเพลงแนวป๊อปสุดคลาสสิก และหลังจากที่เธอร้องเพลง กรรมการก็บอกได้เลยว่ามันไพเราะมาก น้ำเสียงไม่มีการเร่งรีบเต็มไปด้วยความสงบ พร้อมกับความไพเราะในเสียงสูงของเธอ กรรมการทั้งสามนั้นรู้สึกดีกับหญิงสาวคนนี้มาก พวกเขาก็เลยให้เธอผ่านอย่างเป็นเอกฉันท์

คนต่อไปเป็นเอลวิสที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกีตาร์ที่อยู่ในมือ และเขาก็ก้มหัวให้กรรมการทั้งสามก่อนจะเริ่มร้องเพลง แถมมันก็ทำให้แปลกใจมากจริงๆ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งเอง กรรมการทั้งสามก็เลยฟังอย่างตั้งใจ ต้องบอกเลยว่าเลยว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้ร้องเพลงได้ดีมาก ทั้งจังหวะดนตรี การที่ถือกีตาร์ร้องเพลงพร้อมกับเต้นไปด้วย มันช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีจริงๆ

“ผ่าน”

“ผ่าน”

“ผ่าน!”

หลังจากได้ยินเสียงโหวตทั้งสาม เด็กหนุ่มก็กระโดดดีใจอย่างตื่นเต้น “เยส! ขอบคุณครับ” ก่อนจะหันหลังและรีบวิ่งออกไปทันที

คนต่อไปก็คือแพทซี่ คลินที่เดินเข้ามาในห้อง โดยในสายตาของกรรมการทั้งสาม เธอก็คือป้าคนหนึ่ง และพวกเขาทั้งหมดก็สงสัยอีกว่าเธอนั้นโกหกอายุของตัวเองหรือเปล่า

เวลานี้แพทซี่ คลินรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอนั้นรู้สึกกังวลใจเล็กน้อยเมื่อได้เข้าไปในห้อง

แต่เมื่อเธอเริ่มอ้าปากร้องเพลง มันก็ทำให้เธอกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในทันที เสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความนุ่มนวลเสมือนกับแม่เหล็กที่ดูดทุกอย่างให้มองมาที่เธอ

ซึ่งกรรมการทั้งสามต่างก็อ้าปากค้าง เพราะยังไงพวกเขาก็ถือว่าเป็นคนที่อยู่ในวงการดนตรี พวกเขาทั้งหมดเข้าใจในการร้องเพลงและน้ำเสียงเป็นอย่างดี และเธอคนนี้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกตะลึงออกมาได้ มันต้องยอมรับเลยว่าเสียงของผู้หญิงคนนี้มันไม่เหมือนใครเลย และการร้องเพลงของเธอมันก็ดึงอารมณ์ร่วมจนทุกคนถึงกับอินไปกับเสียงร้องของเธอ แถมเมื่อเธอได้ร้องเพลง มันก็ไม่มีความกังวลและความตื่นเต้นออกมาเลย

“แปะๆๆๆ”

เมื่อหญิงสาวร้องเพลงจบ กรรมการทั้งสามก็ลุกขึ้นปรบมือพร้อมกัน

“สุดยอดไปเลย! อ่า…มันเป็นเสียงที่ดีที่สุดสำหรับฉันในวันนี้เลยละ!”

“ไม่ว่าจะเป็นวิธีการร้องเพลงของเธอที่มีอารมณ์ร่วมไปกับมัน และฉันก็ยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเสียงของเธอด้วย ราวกับว่าเธอนั้นเข้าสู่โลกแห่งเสียงดนตรีไปเลย! ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เธอไม่เหมือนใคร”

“ฉันให้ผ่าน!”

“ฉันก็ให้ผ่านเหมือนกัน”

เมื่อได้ยินว่าผ่านสามครั้งหญิงสาวก็ก้มลงให้กับกรรมการทั้งสามด้วยความขอบคุณก่อนจะเดินออกจากห้องพร้อมกับน้ำตา

ตอนนี้มาริลีน มอนโรกำลังยืนรออย่างกระวนกระวายใจ โดยเธอนั้นยืนอยู่ไม่ไกลจากห้องออดิชั่นมากนัก และเธอก็ได้ยินเสียงของผู้เข้าร่วมอย่างชัดเจน ซึ่งบางคนก็มีเสียงที่ไพเราะจนเธอคิดว่าเธอนั้นสู้ไม่ไหว

มันก็เลยทำให้เธอกังวลว่าเธออาจจะไม่ผ่านการออดิชั่น

และหลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันคนก่อนออกไปพนักงานก็เรียกคนต่อไปเข้ามาทันที “คุณมาริลีนมอนโรอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ? ถึงเวลาคุณแล้ว”

มาริลีน มอนโรรู้สึกประหลาดใจและเธอก็ยกมือขึ้นทันที “ฉันอยู่นี่ค่ะ”

มาริลินมอนโรเดินเข้าไปในห้อง พร้อมกับที่กรรมการทั้งสามก็ตาเป็นประกายทันทีเมื่อได้เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้อง… 

เธอนั้นมีผมบลอนด์และตาสีฟ้า เอวบาง สะโพกผาย ซึ่งถือว่าเป็นสาวงามของอเมริกันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะร้องเพลงได้แย่แค่ไหนภาพลักษณ์ของเธอก็ควรค่าแก่การชื่นชมแล้ว

“สวัสดีค่ะ กรรมการทั้งสามคน”

“สวัสคุณมอนโร เริ่มร้องเพลงของคุณได้เลย”

มอนโรไอเล็กน้อยและเริ่มร้องเพลงอะแคปเปลลา เธอนั้นร้องเพลงยอดนิยมเมื่อสองสามปีก่อน แต่ถึงแม้ว่าเธอฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เพราะความสามารถและเสียงของเธอมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่านักร้องที่ยอดเยี่ยมเลย

มันไม่ได้ใกล้เคียงกับนักร้องดังแบบเอวาการ์ดเนอร์เลยสักนิด

หลังจากร้องเพลงจบ

มอนโรก็มองไปที่กรรมการทั้งสามด้วยความประหม่าเล็กน้อย

“กรรมการค่ะ ฉันร้องเพลงจบแล้ว…”

มอนโรมองไปที่กรรมการทั้งสามด้วยความเขินอาย

และกรรมการทั้งสามก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่พักหนึ่ง…

“อ่า…ผมคิดว่ามันโอเครมาก ผมให้ผ่าน” กรรมการคนแรกพูดขึ้นทำลายความเงียบ

เมื่อมอนโรได้ยินว่ากรรมการให้ผ่าน ดวงตาของเธอก็เป็นประกายและแสดงอาการดีใจออกมาทันที

ทว่ากรรมการคนที่สองกลับส่ายหัวและพูดว่า “ฉันคิดว่าการร้องเพลงของคุณไม่ถึงมาตรฐานของนักร้องที่ดีเท่าไหร่ ผมไม่สามารถให้คุณผ่านได้”

มอนโรแสดงสีหน้าผิดหวังขึ้นมา ก่อนจะหันหน้าไปที่กรรมการคนที่สาม และแสดงสีหน้ากังวลพร้อมกับสายตาวิงวอนให้กับเขา

ซึ่งการแสดงออกของเธอนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมันแสดงให้เห็นอารมณ์ในตอนนี้ของเธออย่างชัดเจน และกรรมการทั้งสามก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของมอนโร

“อ่า…ฉันคิดว่าฉันจำข้อกำหนดของรายการซูเปอร์ไอดอลได้อยู่นะ เห็นว่ามันต้องเสียงที่ไพเราะและรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจใช่ไหม? ซึ่งตอนนี้การแสดงครั้งแรกของคุณอาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ผมคิดว่าคุณมอนโรอาจทำได้ดีในรอบต่อไป ดังนั้นฉันให้คุณผ่าน!”

หลังจากมอนโรได้ยินคำพูดของกรรมการใบหน้าของเธอก็แสดงความดีใจและพูดขอบคุณทันที

ส่วนกรรมการที่กำลังมองไปที่มอนโรก็รู้สึกว่าการลงคะแนนของเขานั้นช่างคุ้มค่ามากจริงๆ แล้วเขาก็พยักหน้าก่อนจะยิ้มให้มอนโรและไม่ได้ปกปิดความตั้งใจของเขาเรื่องการให้คะแนนกับความงามของเธอเลย

“ผลโหวตผ่านสองคะแนน ดังนั้นคุณมอนโรจะได้เข้ารอบต่อไป ยินดีด้วยนะครับ!” กรรมการคนแรกกล่าว

“ขอบคุณกรรมการทั้งสามคนนะคะ”

เมื่อกล่าวจบ มอนโรก็เดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้ม

ในวันนี้สถานีโทรทัศน์ได้บันทึกเนื้อหาไว้มากมาย และมันก็ถึงเวลาที่จะนำมันกลับไปตัดต่อแล้ว แต่ทว่าในยุคนี้การผลิตรายการขึ้นมาใหม่นั้นไม่ได้ประณีตหรือถ่ายออกมาได้ดูดีเหมือนกับในยุคปัจจุบันเลย แถมการตัดต่อก็แย่มากๆ ด้วย ซึ่งถ้าจะให้พูดก็คือพวกเขาจะใช้มันทั้งหมดนั้นแหละ…

ตอนกลางคืน

สถานีโทรทัศน์เอบีซีได้ออกอากาศรายการ ‘ซูเปอร์ไอดอล’ เป็นครั้งแรก

ตอนนี้ในจอนั้นมีเด็กหนุ่มอายุ 13 ปีกำลังร้องเพลงอย่างอย่างน่าหลงใหล

พร้อบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังร้องเพลงด้วยเหมือนกัน

และเด็กสาวก็ถามกรรมการว่า ‘ทำไมที่ตรงนี้ถึงไม่มีเอวาการ์ดเนอร์?’

แล้วยังมีชายหนุ่มที่ร้องเพลงได้แย่มากๆ ที่ถูกเชิญออกไปด้วย

ซึ่งการแสดงทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความสนุก ความน่าสนใจ และความเร่าร้อน มันก็เรียกความสนใจของผู้คนทางบ้านได้ในทันที

เนื่องจากมันเป็นการออกอากาศครั้งแรก ฮาร์ดี้ก็เลยนั่งดูอยู่ที่บ้านในเวลานี้ เขานั้นอยากอยากรู้จริงๆ ว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน แต่จากการที่เห็นการแสดงของผู้เข้าร่วมไม่กี่คน ฮาร์ดี้ก็รู้สึกได้ว่าสถานีโทรทัศน์เอบีซีนั้นจับประเด็นสำคัญที่เขาบอกไปได้ มันก็เลยทำให้เขามันใจว่าโชว์ครั้งนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก

เพราะในยุคปัจจุบันที่มีรายการวาไรตี้เต็มไปหมด ผู้คนก็ยังชอบดูโชว์แบบนี้อยู่ และนับประสาอะไรกับในปี 1940 ที่ยังเป็นยุคเริ่มต้นของโทรทัศน์ละ ดังนั้นยังไงรายการแบบนี้มันก็ต้องดึงดูดผู้คนอยู่แล้ว

ผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปนั้นเป็นหญิงสาวที่มีผมบลอนด์อันสวยงาม

ฮาร์ดี้เมื่อได้ยินหญิงสาวคนนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก

และเมื่อเธอแนะนำตัวว่าชื่อมาริลีน มอนโร…หัวใจของฮาร์ดี้ก็เต้นไม่เป็นจังหวะทันที

มันเป็นเธอ

หญิงสาวที่เป็นความใฝ่ฝันของผู้ชายชาวอเมริกันนับไม่ถ้วน มอนโร…

ไม่คาดคิดว่าเธอจะมาปรากฏตัวที่นี่ เพราะฮาร์ดี้จำได้ว่าในช่วงชีวิตของมอนโรนั้นเธอกำลังโลดเลนอยู่ในฮอลลีวูด แต่ตอนนี้เธอกลับอยู่ในจุดตกต่ำของอาชีพการงานของเธอเอง…

ที่โทรทัศน์

มอนโรกำลังร้องเพลง และมันก็ไม่ได้ไพเราะมากนัก

แถมกรรมการก็มีความเห็นไม่ตรงกันว่าจะให้เธอผ่านดีหรือไม่

แต่มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เพราะในครั้งนี้กรรมการสองคนนั้นถูกความงามของมาริลีนมอนโรดึงดูดอยู่ พวกเขาทั้งสองเลยให้เธอผ่าน และกรรมการคนสุดท้ายก็อธิบายว่าทำไมให้เธอผ่าน แต่ทุกคนก็รู้ว่าเขานั้นกำลังพยายามปกปิดอะไรบางอย่างอยู่

ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้เพราะการแสดงออก ท่าทางของมอนโรนั้นมีเสน่ห์มากจริงๆ

สีหน้ามีความสุข สีหน้าเศร้า และความปรารถนานั้นเขียนอยู่บนใบหน้าเธอไว้แล้ว ดังนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่ชายคนนี้จะปฏิเสธมันไม่ได้

แล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อีก

โดยช่างภาพนั้นได้บันทึกการแสดงของมอนโรตอนกำลังทำท่าอ้อนวอนกับกรรมการไว้อย่างเต็มที่ แถมส่วนนี้ก็ยังมีการตัดต่อที่ดูดีเป็นพิเศษอีก

ฮาร์ดี้นึกในใจว่าหลังจากกรรมการกลับบ้านไป เขานั้นจะโดนภรรยาที่บ้านดึงหูหรือเปล่านะ?

แน่นอนว่าถ้าฉากนี้ออกอากาศในที่อื่นมันก็อาจจะบอกว่าเป็นอุบัติเหตุได้

แต่ที่นี่ในสหรัฐอเมริกา ผู้คนก็จะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องสนุกและคิดว่ารายการนี้มันน่าสนใจดี พร้อมกับจะไม่มาวิจารณ์หรือคิดเล็กคิดน้อยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่าไม่เป็นมืออาชีพหรอก…

ฉากต่อไปก็เป็นตอนที่มอนโรผ่านเข้ารอบ และเดินออกไปอย่างมีความสุข ทว่าในผู้เข้าร่วมคนต่อไป ฮาร์ดี้ก็รู้สึกว่าโชว์นั้นดรอปลงไปเยอะมาก…

แน่นอนว่ามันก็เป็นเรื่องปกติของยุคนี้

ที่ถ้ามีคนออกมาพร้อมกับแสงสว่างและถ้าเขาออกไป…รอบๆ นั้นก็จะมืดลงหรือดับไป

ฮาร์ดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเอ็ดเวิร์ด

“เอ็ดเวิร์ดนายกำลังดูโชว์ของรายการซูเปอร์ไอดอลอยู่หรือเปล่า?”

“ครับบอส ผมกำลังดูอยู่…เอ่อ ที่คุณโทรมาเพราะว่ามันมีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นหรือครับ?” เอ็ดเวิร์ดถามอย่างระมัดระวัง

“ไม่ ไม่ มันทำออกมาได้ดี แต่ฉันมีอะไรบางอย่างจะบอกกับนายหน่อย”

เอ็ดเวิร์ดถอนหายใจอย่างโล่งอกที่บอสของเขาพอใจกับมัน

“บอกมาได้เลยครับ บอส”

“นายเห็นผู้หญิงที่ชื่อมาริลีน มอนโรในโชว์หรือเปล่า?”

“ครับ ผมเห็นเธอ”

“แล้วนายคิดว่าเธอมีความสามารถที่จะผ่านรอบต่อไปหรือเปล่า?” ฮาร์ดี้ถาม

“มันขึ้นอยู่กับความต้องการของบอสครับ! เพราะถ้าบอสต้องการให้เธอผ่านเข้ารอบต่อไป เธอก็จะได้เข้าสู่รอบต่อไปแน่ๆ” เอ็ดเวิร์ดกล่าว

ฮ่าๆๆ

คนของเขามันช่างรู้วิธีประจบสอพลอจริงๆ

“ฉันหมายถึงความสามารถโดยรวมของเธอ” ฮาร์ดี้กล่าว

“ถ้าบอสหมายถึงแบบนั้น ผมก็คิดว่ามันเพียงพอแล้ว เพราะเธอนั้นมีความงามที่ติดมากับตัว และยังมีความสามารถในการร้องเพลงที่อยู่ระดับปานกลางด้วย แต่ทว่าเสียงของเธอนั้นไม่มีลักษณะเฉพาะเลย แถมผู้ที่ผ่านเข้ารอบก็ยังร้องเพลงได้ดีกว่าเธอหลายคนด้วย ผมก็เกรงว่ามันยากเกินไปสำหรับเธอที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป” เอ็ดเวิร์ดตอบตามความจริง

“อ่า ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ดังนั้นนายไปหาเธอและให้เธอเซ็นสัญญา พร้อมกับหาอาจาร์ให้เธอซะ แล้วก็ให้รายการออกไปถ่ายเรื่องราวชีวิตของผู้เข้ารอบบางคนด้วย”

“ตัวอย่างเช่นหญิงสาวหน้ากลมแพตตี เพจหรือจะเป็นแพทซี่ คลินฃกับลูกๆ ของเธอและชายหนุ่มอายุ 13 ที่มีชีวิตชีวา สุดท้ายก็คือมาริลีน มอนโร จากรายชื่อทั้งหมดนี้ฉันอยากให้ไปหาพวกเขาที่บ้าน พร้อมกับถ่ายทำชีวิตส่วนตัวของพวกเขาเพื่อที่จะได้นำมาฉายให้ผู้ชมเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันของผู้เข้ารอบได้ดียิ่งขึ้น”

แน่นอนว่าตัวเอ็ดเวิร์ดนั้นมีไหวพริบที่ดีมาก เขาเข้าใจคำพูดของฮาร์ดี้ในทันที

“ผมเข้าใจแล้วครับบอส ผมจะให้บริษัทติดต่อไปหาผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเพื่อทำสัญญา และจัดทำเรื่องราวของแต่ละคนมาให้ครับ”

หลังจากวางสายเอ็ดเวิร์ดก็เม้มปากครุ่นคิดกับตัวเอง

ต้องบอกว่าหญิงสาวที่ชื่อมอนโรนั้นโชคดีมาก ที่บอสของเขานั้นถูกใจเธอ

เพราะความฝันของหญิงสาวหลายๆ คนนั้นก็คือการได้เป็นผู้หญิงของบอส และในครั้งนี้บอสของเขาก็ถูกใจสาวหน้าหวานคนนี้เอง

แน่นอนว่าถ้าบอสของเขาต้องการนอนหลับกับผู้หญิง เขาก็เชื่อว่าหญิงสาวมากกว่าครึ่งฮอลลีวูดก็ยินดีที่จะอุ่นเตียงให้บอสของเขาอยู่แล้ว

แล้วในฮอลลีวูด

หรือในสหรัฐอเมริกา

มันก็ไม่มีใครจะมาสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ

เพราะใครละอยากออกมาวิจารณ์ชีวิตส่วนตัวของดาราเหล่านี้

แล้วในความเป็นจริงหลายคนก็อิจฉา เอวา ไฮดี้ เทย์เลอร์ และเอเลน ที่พวกเธอนั้นสามารถโอบกอดภูเขาที่สูงใหญ่และดื่มน้ำจากลำธารใสสะอาดพร้อมกับกินผลไม้สดและเนื้อนุ่มๆ ได้

แล้วต้องบอกเลยว่าในตอนแรกบอสของเขานั้นชอบคุณเอวามากจนต้องลงทุนทำหนังพร้อมกับเขียนเพลงให้เธอเลย

ต่อมาก็เป็นเทย์เลอร์ที่ช่วยสอนเกี่ยวกับการแสดงและลงทุนทำหนังด้วยเหมือนกัน

สำหรับคุณไฮดี้เธอนั้นได้บทภาพยนตร์ วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก ซึ่งตอนนี้ได้กลายภาพยนตร์ที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดและยังกลายเป็นตัวเต็งสำหรับออสการ์ในปีนี้ด้วย

อีกคนก็คือเอเลนที่ถูกดันให้เป็นพิธีกรหญิงที่มีคุณรู้จักมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

และในตอนนี้บอสของเขาก็ชื่อชอบหญิงสาวมาริลีน มอนโร มันก็อาจบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีสำหรับเธอหรือเธอนั้นกลายเป็นคนที่โชคดีสุดๆ นั้นเอง

เพราะด้วยการสนับสนุนของบอส อนาคตของเธอนั้นจะสดใสอย่างแน่นอน

เอ็ดเวิร์ดเคาะประตูห้องของมาริลีน มอนโร ซึ่งมันก็ทำให้มอนโรประหลาดใจมาก แต่เอ็ดเวิร์ดก็รีบเปิดเผยตัวตนก่อนว่าตัวเขานั้นเป็นประธานของบริษัทเอชดีฟิล์ม มันก็ทำให้มอนโรปิดปากของตัวเองด้วยความประหลาดใจขึ้นไปอีก แต่เมื่อมอนโรเห็นเอกสารสัญญาเธอกลับรู้สึกตืนเต้นแทน จนร่างกายเธอสั่นไปทั้งตัวเลยย

“คุณมอนโรครับ บอสของผมสนใจคุณมาก เขาก็เลยให้ผมมาพูดคุยและเซ็นสัญญากับคุณในเบื้องต้น ส่วนอันนี้คือสัญญาระดับซีโดยมีรายได้ต่อสัปดาห์ที่ 100 ดอลลาร์ พร้อมกับคุณจะได้รับส่วนแบ่งจากผลงานอีกด้วย และเพื่อที่คุณจะได้มีความสามารถมากขึ้น เราจะฝึกคุณไปด้วย ดังนั้นคุณคิดยังไงกับข้อเสนอนี้?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้ม

มอนโรพอใจกับสัญญาตัวนี้อย่างแน่นอน

“เห็นว่าบอสมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับฉัน งั้นฉันขอถามได้ไหมว่าบอสเป็นใครเหรอค่ะ?” มอนโรถาม

เอ็ดเวิร์ดยิ้ม “บอสของผมจะเป็นใครล่ะครับ? แน่นอนว่าต้องเป็นประธานของฮาร์ดี้กรุ๊ป คุณทอม ฮาร์ดี้และเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์เอบีซีกับบริษัทเอชดีฟิล์ม”

มอนโรนั้นเคยได้ยินชื่อทอม ฮาร์ดี้ว่าเป็นตำนานของฮอลลีวูดอยู่แล้ว เพราะเขานั้นเป็นมหาเศรษฐี เจ้าของบริษัทภาพยนตร์ ประธานของสหภาพนักแสดง แต่เขากลับมองโลกในแง่ดีกับเธองั้นเหรอ? มันช่างน่าแปลกใจมากจริงๆ

ซึ่งเธอก็รีบเซ็นสัญญาอย่างมีความสุขในทันที

และระยะเวลาของสัญญาคือ10 ปี

แล้วเมื่อเห็นว่าเธอเซ็นสัญญาแล้ว เอ็ดเวิร์ดก็เตรียมตัวจากไป มอนโรก็ยืนส่งเขา แต่ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “คุณประธานค่ะ ฉันขออะไรบ้างอย่างหน่อยได้ไหมค่ะ”

“คุณต้องการอะไรเพิ่มหรือครับ”

“คุณช่วยจ่ายเงินเดือนให้ชั้นก่อนสองสัปดาห์ได้ไหมค่ะ พอดี…ชั้นค้างค่าเช่ากับเจ้าของบ้านไว้สองเดือนแล้ว” มอนโรกระซิบ

Leave a Comment

ไม่ดี!