ตอนที่ 217 37-22-35
หญิงสาวเขียนชื่อใหม่ลงไปว่า มาริลีน มอนโร
ซึ่งมอนโรนั้นเป็นนามสกุลของแม่เธอ ส่วนมาริลีนนั้นเป็นชื่ออดีตดาราหญิงคนหนึ่งที่เธอรู้จัก เธอคิดว่าชื่อมาริลีนนั้นเป็นชื่อที่ไพเราะ เธอจึงใช้มัน
เธอกรอกข้อมูลต่อไป
อายุ: 22 ปี
ส่วนสูง: 166 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 53 กิโล
สัดส่วน: 37 22 35
ความสามารถ:ร้องเพลง การแสดง
คุณคิดว่าอะไรคือข้อได้เปรียบที่สุดของคุณ?
หญิงสาวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งพร้อมกับเล่นปากกาไปด้วย ก่อนที่จะเขียนลงไปว่า ‘รูปร่างดี รักในการแสดงและร้องเพลง พร้อมที่จะทำงานหนัก’
สุดท้ายเธอก็กรอกที่อยู่กับเบอร์ติดต่อกลับลงไป
เนื่องจากที่ห้องของเธอนั้นไม่มีโทรศัพท์ เธอก็เลยใช้หมายเลขของเจ้าของบ้านแทน
และเธอก็หยิบรูปถ่ายครึ่งตัวออกมาจากกระเป๋า เนื่องจากตอนที่เธออ่านหนังสือพิมพ์นั้น มันได้เขียนอธิบายไว้ว่าควรนำรูปถ่ายมาด้วย ซึ่งรูปถ่ายของเธอนั้นเป็นรูปตอนที่เธอเคยถ่ายให้กับนิตยสารเมื่อนานมาแล้ว…
หลังจากหยิบรูปถ่ายออกมาเธอก็เอาคลิปหนีบภาพถ่ายไว้ที่ฟอร์มลงทะเบียน
เธอวางมันกลับไปไว้ที่โต๊ะ และเธอก็ถามพนักงานว่า “การออดิชั่นจะเริ่มตอนไหนเหรอ?”
พนักงานมองไปที่สาวสวยที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูดว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งมันอาจจะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก็ได้ และตอนนี้สิ่งที่คุณทำได้ ก็แค่รอการแจ้งเตือนเท่านั้น”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณคะ” มอนโรยิ้มหวานให้พนักงานแล้วเดินจากไป
พนักงงานเอาแบบฟอร์มลงทะเบียนขึ้นมาดู ก่อนจะมองไปที่แผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินจากไป และคิดว่ารูปร่างของเธอนั้นสุดยอดจริงๆ
ต้องบอกก่อนว่าไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนเหล่าชายหนุ่มและหญิงสาวต่างก็ต้องการที่จะกลายเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ซึ่งพวกเขานั้นมีความฝันและมีความมุ่งมั่นที่จะไล่ตามทุกโอกาสที่เข้ามา
หลายคนที่เห็นรายการซูเปอร์ไอดอลจากโกลบอลไทมส์ พวกเขาก็มีความคิดเกิดขึ้นมาทันทีว่ารายการนี้แหละที่จะเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา เพราะถ้าพวกเขาสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ พวกเขาก็มีสิทธิที่จะมีโอกาสเซ็นสัญญากับบริษัทบันทึกเสียงต่างๆ
มันเป็นสิ่งที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน
ต้องบอกเลยว่ามีหลายคนรีบมาที่ฮอลลีวูดเพียงเพื่อโอกาสการได้รับสัญญาดังกล่าว
หลายคนเก็บของที่สำคัญของตัวเองเอาไปขาย เพียงเพื่อจะนำเงินก้อนหนึ่งไปซื้อตั๋วเดินทางสู่ลอสแอนเจลิส
มีแม้กระทั่งหนุ่มสาวที่ขอร้องพ่อแม่ให้พาไปยังฮอลลีวูด
ซึ่งในความเป็นจริงฮอลลีวูดนั้นก็มีคนมากมายเข้ามาตามหาความฝันอยู่แล้ว เฉกเช่นเดียวกับมาริลีนมอนโรและคนอื่นๆ ที่กำลังเดินทางมาเข้าร่วมออดิชั่น แน่นอนว่ามันก็มีเรื่องน่าเสียดาย เพราะการแข่งขันนั้นมีกฎกำหนดไว้คนที่มีสัญญาติดตัวแล้วไม่สามารถเข้าร่วมได้
แม้ว่าประเด็นนี้จะค่อนข้างไม่แฟร์กับใครหลายคน แต่มันก็อาจเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะบริษัทเอบีซีก็ใช้ทุนของตัวเองไปมากสำหรับกิจกรรมต่างๆ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ให้ผลประโยชน์สูญเปล่าไปง่ายๆ
แน่นอนว่าหลายคนที่มีคุณสมบัติแต่ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทนายหน้าอื่นๆ ไปแล้วก็รู้สึกไม่พอใจ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องโชคดีที่มอนโรนั้นไม่เคยได้เซ็นสัญญากับที่ไหนมาก่อน
…
มอนโรเดินทางกลับบ้าน
พร้อมกับที่คิดเกี่ยวกับการออดิชั่นไปด้วย ซึ่งเธอคิดว่าตัวเองนั้นต้องเตรียมตัวทำอะไรบ้างแล้ว อาจจะเป็นการออกไปหาหนังสือเพลงและเลือกเพลงออกมาสักสองสามเพลงที่เหมาะกับเสียงของเธอ
ในวันต่อๆ มา
มอนโรซ้อมร้องเพลงที่เลือกมาเกือบทุกวัน โดยเธอนั้นพยายามขัดเกลาให้ไพเราะและดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น
ไม่กี่วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้มอนโรเพิ่งกลับมาจากข้างนอกพร้อมกับถุงอาหารในมือของเธอ ซึ่งในนั้นมันมีแค่แยมและขนมปังบาแก็ตที่ราคาถูกที่สุดเท่านั้น
เธอกำลังเดินไปตามทางเดิน และทันใดนั้นประตูของเจ้าของบ้านก็เปิดออก ชายหัวล้านวัยกลางคนมองไปที่มอนโรก่อนจะพูดว่า “เจนนี่มีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากรายการซูเปอร์ไอดอลของสถานีโทรทัศน์เอบีซีถามหาคนที่ชื่อ ‘มาริลีน มอนโร’ บอกว่าให้ไปออดิชั่นในวันพรุ่งนี้”
“ฉันไม่คุ้นของชื่อหญิงสาวที่ชื่อมาริลีน มอนโรเลย เธอพอจะรู้จักไหม?”
มอนโรตื่นเต้นอย่างมาก เมื่อเธอได้ยินคำพูดจากเขา “มันคือฉันเอง! ขอบคุณมากที่บอกนะคุณคอนโอเวอร์”
“เธอเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ?” ชายวัยกลางคนหัวโล้นถาม
“มันเป็นชื่อที่จะใช้บนเวทีนะคะ ก็แหม่…ยังไงมันก็ต้องมีชื่อที่ดีๆ เพื่อสมัครเข้าร่วมการแข่งขันอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ?” มาริลีนพูดด้วยยิ้ม
“อ่า…ก็ดี แต่เจนนี่ค่าเช่าของเธอ…”
ก่อนที่เจ้าของบ้านจะพูดจบ มาริลีนก็เดินเข้าไปหาและกอดเขา ก่อนจูบไปที่ใบหน้าของเจ้าของบ้านพร้อมกับยิ้มออกมา “ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวดีกับฉันนะคะคุณคอนโอเวอร์ และฉันขอไปเตรียมตัวสำหรับการแสดงวันพรุ่งนี้ก่อน คุณจะอวยพรให้ฉันประสบความสำเร็จใช่ไหมคะ?”
“แน่นอน! ฉันจะอวยพรให้คุณประสบความสำเร็จ” เจ้าของบ้านกล่าว
มาริลีนยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไปพร้อมกับอาหารในมือ เจ้าของบ้านวัยกลางคนเลิกคิ้วของเขาและแตะไปที่แก้มเบาๆ ก่อนจะแสดงรอยยิ้มออกมา พร้อมกับตะโกนไปตามทางเดินว่า “ฉันให้เวลาเธออีกแค่สัปดาห์เดียวนะ! และไม่มีครั้งต่อไปแล้ว
มาริลีน มอนโรวิ่งกลับไปที่ห้องก่อนจะรีบปิดประตูและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนนี้เงินเธอหมดแล้ว และเงินก้อนสุดท้ายที่เธอมีก็เอาไปซื้อขนมปังเหล่านี้หมดแล้ว แถมถ้าเธออยากประหยัดด้วยการอดอาหาร เธอก็คงทำได้แค่เพียงสามวันเท่านั้น
ซึ่งเธอนั้นค้างค่าเช่ามาราวๆ 2 เดือนแล้ว และเธอก็ไม่อยากจะจูบเขาหรอก ทว่าเธอไม่เหลือทางเลือกแล้วนี้…
แต่เอาจริงๆ เจ้าของบ้านก็เป็นคนใจดีอยู่เหมือนกันและเขาก็ดูแลเธอมานานมากแล้ว
ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงการออดิชั่นในวันพรุ่งนี้ และมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง พรุ่งนี้เธอต้องแสดงออกมาให้ดีที่สุด! เพราะหากกรรมการเห็นคุณค่าของเธอ มันก็อาจจะเปลี่ยนชีวิตปัจจุบันของเธอได้เลย
…
อาหารเย็นของวันนี้มีแค่ขนมปังสองชิ้นทาแยมกับน้ำร้อนเท่านั้น
และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ มอนโรก็เริ่มจัดการกับเสื้อผ้าของเธอ เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องดูดีที่สุด! และเธอก็คิดว่าจะหาเตารีดไฟฟ้ามารีดชุด ที่เธอเคยซื้อมาในปีที่แล้วสำหรับงานเลี้ยงค็อกเทลในตอนที่ทำงานอยู่กับทเวนตีท์เซนจูรี ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยได้ใส่มันอีกเลย…
อากาศที่ลอสแองเจลิสวันนี้ดีมาก
และสถานที่จัดงานออดิชั่นของรายการซูเปอร์ไอดอลเวลานี้ก็มีผู้คนหลายร้อยคนมารวมตัวกันเต็มไปหมด ซึ่งทางรายการนั้นเรียกผู้เข้าแข่งขันมาทีละชุด เพราะถ้ามาทีเดียวมันอาจมีมากถึงหลายพันคน
เวลานี้มีพิธีกรของสถานีโทรทัศน์เอบีซีที่ในมือมีไมโครโฟนพร้อมกับตากล้องเดินตามหลังกำลังมองหาผู้เข้าแข่งขันเพื่อที่จะสัมภาษร์พวกเขาและนำฟุตเทจไปใช้ในภายหลัง
โดยตั้งแต่วันนี้ไปรายการซูเปอร์ไอดอลได้เริ่มขึ้นแล้ว และสถานีโทรทัศน์ก็ได้ส่งทีมงานที่ทำเกี่ยวกับภาพยนตร์มาถึงสี่กลุ่ม เพราะที่นี่มีสิ่งให้เก็บเกี่ยวมากมาย และในอนาคตผู้ชมก็จะมีรายการออดิชั่นให้รับชมได้ทุกวัน
ในที่โล่งเด็กชายผมสีดำกำลังเล่นกีตาร์พร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นพิธีกรก็รีบเข้าไปสัมภาษณ์ทันที
“คุณไม่ดูเด็กเกินไปหน่อยหรือครับ?” พิธีกรถามเด็กคนนี้
เด็กชายคนนี้ดูดีมากและเขาก็หันมายิ้มให้กล้องด้วยรอยยิ้มอย่างสดใส “ผมอายุ 13 ปีแล้วครับ และผมก็โตพอที่จะเข้าร่วมงานได้แล้ว”
“งั้นบอกหน่อยได้ไหมว่าเธอชื่ออะไร และเธอมาจากไหน?” พิธีกรชายถาม
“ผมชื่อเอลวิส เพรสลีย์ มาจากเทนเนสซีครับ” เด็กชายคนนี้พูดอย่างอย่างใจเย็น
“เธอชอบร้องเพลงมากเลยใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ผมชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลย”
“แล้วเธอเคยเข้าร่วมการแข่งขันมาก่อนไหม?”
“เคยสิ และครั้งหนึ่งผมเคยได้รับรางวัลรองชนะเลิศที่อลาบามาสเตทแฟร์ด้วยนะ!” เด็กชายพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“แล้วในครั้งนี้สำหรับรายการซูเปอร์ไอดอล เธอมีความมั่นใจอยู่ใช่ไหม?” พิธีกรชายถาม
“แน่นอน! ผมมั่นใจในตัวเองมากเลยแหละ”
เด็กชายคนนี้พูดก่อนจะยื่นหัวเข้าไปใกล้ๆ กล้อง และพูดเสียงดังว่า “ผมชื่อเอลวิส เพรสลีย์ ถ้าคุณชื่นชอบผม โปรดให้กำลังใจผมด้วยนะครับ! และผมจะส่งเสียงร้องที่ไพเราะที่สุดกลับไปให้คุณเอง!”
หลังจากพูดจบเขาก็นั่งลงเล่นกีตาร์ก่อนจะร้องเพลงเสียงดัง
ซึ่งรายการซูเปอร์ไอดอลนั้นแบ่งการแข่งขันออกเป็นรอบออดิชั่น รอบคัดออก รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ และเพื่อเพิ่มความรู้สึกมีส่วนร่วมกับให้กับผู้ชม ทางรายการเลยได้เปิดให้มีการโทรเข้ามาระหว่างรอบรองชนะเลิศให้สามารถโหวตไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบได้
แล้วการที่เด็กชายบอกว่าให้ผู้ชมโทรเขามาให้กำลังใจเขา มันก็แสดงให้ว่าเด็กชายคนนี้มีความมั่นใจในตัวเองมากแค่ไหนสำหรับการได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พิธีกรหันกลับมายิ้มให้กล้องก่อนจะพูดว่า “ช่างเป็นชายหนุ่มที่มีความมั่นใจมากจริงๆ นะครับ”
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้แหละ ที่จะเป็นคนสร้างความฮือฮาในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกในนามว่า เอลวิส เพรสลีย์ // ‘เดอะคิง’ นี้เองง
…
ตอนนี้ทีมงานทีมอื่นก็กำลังออกสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เช่นกัน
และพิธีกรชายก็หันไปเห็นหญิงสาวหน้าหวาน ตัวเล็ก อ้วนเล็กน้อย เขาก็เลยเรียกทีมงานถ่ายภาพให้ตามไป “เรามาจากรายการซูเปอร์ไอดอล ผมขอสัมภาษณ์คุณหน่อยได้ไหมครับ”
หญิงสาวที่เห็นที่เห็นว่าเป็นทีมงานจากรายการ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากและพูดอย่างดีว่า “แน่นอนสิคะ! พวกคุณต้องการถามอะไรเหรอ?”
“คุณชื่ออะไรหรือครับ?” พิธีกรชายถาม
“ฉันชื่อแพตตี เพจมาจากมัสโคกี โอคลาโฮมาค่ะ!” หญิงสาวที่ดูมีชีวิตชีวาคนนี้พูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะยิ้มให้กล้องอย่างน่ารัก
“คุณช่วยบอกอายุของคุณหน่อยได้ไหมครับ?”
“ฉันอายุ 21 ปีค่ะ”
“คุณเคยมีการแสดงที่ไหนมาก่อนไหมครับ?”
“อ่า! ฉันเคยเป็นนักร้องที่สถานีวิทยุเมืองมัสโกกีและบางครั้งฉันก็จะไปดูคอนเสิร์ตแจ๊สบ้างสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วก็ยังเคยเป็นคอรัสให้กับนักร้องคนอื่นที่ทัวร์คอนเสิร์ตระดับประเทศด้วย!” หญิงสาวกล่าว
“ดูเหมือนคุณจะมีประสบการณ์มากมายเลยนะครับ งั้นทำไมคุณถึงยังอยากเข้าร่วมรายการซูเปอร์ไอดอลหรือครับ?” พิธีกรชายถาม
หญิงสาวแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก
“ฉันสามารถพูดเหตุผลที่แท้จริงได้ไหม?”
“แน่นอน! ผมเชื่อว่าผู้ชมที่อยู่หน้าทีวีก็ต้องการฟังเหตุผลที่แท้จริงของคุณเช่นกัน” พิธีกรชายกระตุ้นหญิงสาว
“ฉันอยากมีชื่อเสียง! ฉันอยากเซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ๆ ฉันอยากทำเพลงและได้เป็นนักร้องจริงๆ” หญิงสาวพูดอย่างตรงไปตรงมา
ซึ่งนิสัยของหญิงสาวคนนี้ก็ช่างตรงไปตรงมาจริงๆ
“แล้วคุณมีความมั่นใจพอเข้ารอบชิงชนะเลิศไหมครับ?” พิธีกรชายถาม
“ฉันเรียนร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ งานอดิเรกส่วนใหญ่ที่ฉันทำมากที่สุดก็คือการร้องเพลง! ความฝันของฉันคือการได้เป็นนักร้อง และฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเติมเต็มความฝันของฉัน” หญิงสาวพูดอย่างหนักแน่น
“งั้นผมขอให้คุณประสบความสำเร็จ!”
ซึ่งในภายภาคหน้า
หญิงสาวคนนี้จะกลายเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในปี 1950 ถึง 1960 ในนามว่า แพตตี เพจ โดยเธอนั้นมีเพลงติดชาร์ตมากถึง 40 เพลงและยังถือว่าเป็นนักร้องหญิงที่มียอดขายมากที่สุดในประวัติการณ์ของปี 1950 อีกด้วย
หลังจากสัมภาษณ์จบพิธีกรก็หันไปเห็นหญิงสาวอายุสามสิบกว่าๆ ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอนั้นดูอ้วนนิดหน่อยและมีใบหน้าที่ดูใหญ่เล็กน้อย แน่นอนว่าเธอไม่ใช่หญิงสาวที่สวยงาม เธอนั้นใส่ชุดลายดอกไม้ที่ดูเรียบง่ายมากๆ
พิธีกรเหมือนกับได้เห็นเป้าหมายใหม่ เขาก็เลยรีบเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนี้ทันที
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผมเป็นพิธีกรของรายการโชว์ ผมรบกวนขอสัมภาษณ์คุณหน่อยไหมครับ?” พิธีกรยื่นไมโครโฟนออกไปทันทีหลังจากพูดจบ
ซึ่งมันก็ทำให้เธอเริ่มประหม่าทันทีเมื่อเห็นไมโครโฟน
“สวัสดีค่ะ ฉ…ฉันยอมรับการสัมภาษณ์ค่ะ” เธอนั้นพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย
“ผมขอถามอายุของคุณในปีนี้ได้หรือไม่ครับ?”
“ปีนี้ฉันอายุ 28 แล้วค่ะ”
“แล้วคุณแต่งงานแล้วหรือยังครับ?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ หญิงสาวก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อย “ฉันแต่งงานแล้ว และมีลูกหนึ่งคนกับหย่าร้างแล้วค่ะ…”
“คุณชื่ออะไรหรือครับ?”
“ฉันชื่อเพซีย์ ไคลน์”
“แล้วคุณมีความสามารถอะไรหรือครับ?”
“ฉันชอบร้องเพลงแนวคันทรี่ ซึ่งปกติฉันจะร้องเพลงตามวิทยุ และเพื่อนๆ กับเพื่อนบ้านของฉันก็บอกว่าฉันร้องเพลงได้ดีมาก” ผู้หญิงคนนี้กล่าว
“งั้นคำถามสุดท้าย…ทำไมคุณถึงมาเข้าร่วมรายการซูเปอร์ไอดอลครับ?”
ผู้หญิงคนนี้เงียบไปสักพัก และรวบรวมความกล้าพูดออกมาว่า “ความฝันของฉันก็คือการได้ยืนอยู่บนเวที ฉันไม่ได้มีความคิดอะไรมากนัก ฉันแค่อยากแสดงความสามารถออกมา และถึงแม้ฉันจะทำได้แค่ร้องเพลง ในชีวิตนี้ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับมันเลย”
พิธีกรรู้สึกประทับใจกับคำพูดของหญิงสาวมาก “งั้นผมขอให้คุณประสบความสำเร็จ”
“ขอบคุณคะ”
ในภายหลังหญิงสาวคนนี้ก็กลายเป็นราชินีเพลงคันทรี่ที่โด่งดังมากที่สุด
ซึ่งในเวลาเดียวกันพนักงานคนหนึ่งก็เดินออกมา และผู้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นก็มองมาทางพนักงานทันที พนักงานถือแบบฟอร์มก่อนจะพูดเสียงดังว่า “สวัสดีครับผู้เข้าแข่งขันทุกคน เวลานี้การออดิชั่นได้เริ่มขึ้นแล้ว และผมจะทำการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก พร้อมกับอธิบายกฎระเบียบบางอย่างให้พวกคุณ”
“เรามีกรรมการทั้งหมดสามคนและพวกเขานั้นจะเป็นเหมือนกับอาจารย์คนหนึ่งที่จะทำการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันที่เหมาะสมสำหรับการผ่านเข้าสู่รอบออดิชั่นรอบรองชนะเลิศ”
“เอาล่ะ! ตอนนี้การออดิชั่นได้เริ่มแล้ว ผมขอให้ทุกคนโชคดีและจะประกาศชื่อที่ผ่านคนแรกคือคุณชะไนยา ทเวน!”
หญิงสาวผมสีน้ำตาลคนหนึ่งลุกขึ้นยืนท่ามกลางฝูงชน
ซึ่งเธอนั้นมีรูปร่างที่สูงและหน้าตาสวยมาก มันทำให้ทุกคนรู้สึกตะลึงทันทีเมื่อเห็นเธอ หญิงสาวเดินไปหาพนักงานก่อนจะพยักหน้าให้เขาและเดินเข้าไปรอที่ห้องออดิชั่น