ตอนที่ 216 ชื่อใหม่ของหญิงสาว
เวลาล่วงเลยเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์
ตอนนี้อุณหภูมิในลอสแอนเจลิสจะอยู่ระหว่าง 18 ถึง 12 องศา ซึ่งมันก็เป็นอากาศที่ดีมากที่จะใส่ชุดกันลมเดินเล่นสักตัว และฮาร์ดี้ก็ชอบอุณหภูมินี้มากจริงๆ ยังไงเหงื่อออกในเวลานี้มันก็ดีกว่าช่วงฤดูร้อนมาก
วันนี้เขากำลังยืนรอคนอยู่ที่สนามบิน
เพราะการถ่ายทำ ‘Across the World’ นั้นสิ้นสุดลงแล้วและทีมงานถ่ายทำก็กำลังเดินทางกลับมาที่ลอสแอนเจลิส ซึ่งฮาร์ดี้ก็มาที่นี่เพื่อรอทักทายพวกเขา แต่แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขานั้นมารอรับเอวาการ์ดเนอร์
ทีมงานลงจากเครื่องบินพร้อมกับที่ผู้กำกับและนักแสดงเดินไปจับมือกับฮาร์ดี้ด้วยความเคารพ ฮาร์ดี้ให้กำลังใจพวกเขาด้วยคำพูดไม่กี่คำก่อนที่เขาจะพาเอวาขึ้นรถจากไป
ในรถเอวากำลังกอดฮาร์ดี้อย่างตื่นเต้น “ในที่สุดฉันก็กลับได้มาแล้ว! คราวนี้ฉันก็คงสามารถพักผ่อนได้สบายๆ สักที”
ฮาร์ดี้ยิ้ม “มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ”
ทั้งสองคุยกันระหว่างทางและเอวาก็พูดคุยเกี่ยวกับ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก’
“ที่นิวยอร์กฉันได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว มันเป็นภาพยนตร์ที่ดีมากเลย แม้ว่าจะไม่มีฉากยิ่งใหญ่มากนัก แต่มันก็สร้างอารมณ์ค้างอยู่ในใจฉันอยู่ตลอดเวลา”
“แล้วเพลงประกอบภาพยนตร์นั้นก็ดีมาก ฮาร์ดี้คุณสร้างผลงานเพลงคลาสสิกขึ้นมาอีกครั้งแล้วจริงๆ และความเป็นจริงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็โด่งดังมาก ซึ่งมันก็ได้เพลงนี่แหละที่ช่วย”
“ว่าแต่เวลานี้มันก็หมดช่วงฉายแล้วใช่ไหม? แล้วรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศมันเท่าไหร่เหรอ?” เอวาถาม
ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องวิญญาณ ความรัก ความรู้สึกไม่ได้ฉายแล้ว แต่เพราะการเปิดตัวนั้นเป็นไปด้วยดีมันก็เลยถูกฉายอยู่เกือบสองเดือน โดยสถานการณ์นี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในอนาคต แต่ในยุคนี้มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และบางครั้งมันก็ออกฉายได้ถึงยาวนานเป็นเวลาครึ่งปี…
“มันหยุดฉายแล้วก็จริง และข้อมูลอย่างเป็นทางการก็ยังไม่ประกาศออกมา แต่เอ็มจีเอ็มก็กระซิบมาบอกแล้วว่าบ็อกซ์ออฟฟิศที่ได้ครั้งนี้ก็ราวๆ 11.2 ล้านดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
“ว้าว! มันเยอะมากเลย”
เอวาอุทานด้วยความประหลาดใจ
“เดิมทีฉันคิดว่า ‘Across the World’ คงจะพอแข่งกับ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก’ ได้ แต่ตอนนี้มันก็คงจะยากแล้ว…” เอวากล่าว
“ฮ่าๆ ไม่หรอก เพราะตราบใดที่การโฆษณานั้นทำได้ดี ‘Across the World’ ก็จะโด่งดังได้ไม่ยาก” ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม
“แล้วหัวหน้ามีแผนที่จะโปรโมทยังไงเหรอ?”
“ฉันมีงานบางอย่างให้เธอทำ และแน่นอนว่ามันเป็นผลดีสำหรับการโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้” ฮาร์ดี้กล่าว
“อ่า ฉันเพิ่งจะกลับมาเอง! คุณช่างเป็นนายทุนที่ชั่วช้าจริงๆ”
เอวาพูดอย่างไม่พอใจ
“ฟังสิ่งที่ฉันพูดก่อนสิ แล้วค่อยตัดสินใจ…” หลังจากพูดจบฮาร์ดี้ก็เริ่มแนะนำรายการ ‘ซูเปอร์ดราฟ’ ให้กับเอวาฟัง ตั้งแต่การออดิชั่นระดับประเทศไปจนถึงรอบคัดเลือก รอบชิงชนะเลิศหรืออื่นๆ ที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะต้องเดินไปตามทางของพวกเขา
เพียงแค่ฟังสิ่งที่ฮาร์ดี้พูดเอวาก็รู้สึกได้เลยว่ารายการนี้จะต้องดึงดูดใจใครหลายคนอย่างแน่นอน
“ฉันอยากให้เธอเป็นผู้ตัดสินพร้อมกับไฮดี้รามา จอห์นนี่ ฟอนเทนและแครี่แกรนท์ ซึ่งฉันคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเวทีนี้” ฮาร์ดี้กล่าว
เขาคิดว่าผู้ตัดสินชุดรายชื่อเหล่านี้ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับความแข็งแกร่ง
ตอนนี้เอวาการ์ดเนอร์ก็เป็นนักร้องหญิงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วย ผลงานเพลง ‘สการ์โบโรห์แฟร์’ ตอนนี้ได้กลายเป็นเพลงคลาสสิกของยุคนี้ไปแล้ว ภายหลังมันยังมีการเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง พร้อมกับยอดขายแผ่นเสียงมากกว่า 100,000 แผ่น
แล้วไฮดี้ไฮดี้รามาก็เป็นนักแสดงหญิงยุคแรกๆ ซึ่งตอนนี้เธอได้กลายเป็นนักแสดงหญิงที่ร้อนแรงที่สุดในปีนี้จากการแสดงภาพยนตร์เรื่องวิญญาณความรักความรู้สึก
สำหรับจอห์นนี่ฟอนเทนเขานั้นเป็นนักร้องชาวอเมริกันที่ผู้คนรู้จักกันดี เขามีชื่อเสียงมานานมากกว่าสิบปีและก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้พิพากษา
และสุดท้ายแครี่แกรนท์นักแสดงที่ได้รางวัลออสการ์มันก็ไม่มีคนสงสัยเรื่องคุณสมบัติของเขาหรอก
“ตกลง! ฉันจะทำมัน” เอวารีบเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
ทำให้เวลานี้ผู้ตัดสินก็ถือว่าถูกเลือกไว้แล้ว ดังนั้นส่วนที่เหลือก็จะถูกทิ้งให้สถานีโทรทัศน์เอบีซีจัดการ เวลานี้ทีมโปรดักชั่นได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมตัวเปิดตัวเร็วๆ นี้
…บิลได้ทำการส่งคนไปหาโรงงานผลิตฝาขวดที่ไม่ใช่อยู่ในลอสแอนเจลิสอย่างลับๆ ซึ่งพวกเขาก็เจอที่หนึ่งในแอตแลนตาและก็ทำการจ่ายเงินสดซื้อเรียบร้อย พร้อมกับที่พวกเขาใช้เงิน 10,000 ดอลลาร์สำหรับการหาโรงงานรับผลิตฝาขวดสองสามราย ทำให้ตอนนี้การผลิตฝาขวดเลียนแบบโคคาโคลาได้เริ่มขึ้นแล้ว
แน่นอนว่าหลังจากผลิตฝาขวดเสร็จแล้วทีมก็จะถูกยุบและพวกเขาก็จะได้รับการเตือนว่าห้ามพูดเรื่องนี้ออกไป แล้วถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยพวกเขาก็ไม่สามารถหนีรอดเงื้อมมือไปได้หรอก
และคนพวกนี้ก็ไม่รู้ตัวตนของนายจ้างที่แท้จริงตั้งแต่ต้นจนจบการผลิต พร้อมกับที่โรงงานจะถูกขายต่อถึงแม้จะต้องขาดทุนไปถึง 2000 ดอลลาร์ก็เถอะ
…เวลานี้ฝาขวดกำลังถูกส่งไปยังเมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับถูกเก็บไว้ที่โกดังชั่วคราวก่อน หลังจากรอประมาณครึ่งเดือน บิลก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วและเขาก็โทรหาฮาร์ดี้ “บอสทุกอย่างพร้อมแล้ว บอสจะเริ่มงานตอนไหนดี?”
“มันจะเริ่มในอีกสามวัน” ฮาร์ดี้กล่าว
ไม่กี่วันก่อนฮาร์ดี้และแอนดี้ได้มานั่งคุยกัน โดยเขานั้นได้บอกกับแอนดี้ว่าพวกเรากำลังจะขุดหลุมฝังโคคาโคล่า ซึ่งแอนดี้ก็ตระหนักได้ทันทีว่าเขานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ
เช่นใช้บัญชีลับเพื่อปั่นหุ้นโคคาโคล่า
เนื่องจากกิจกรรมสะสมของแลกรางวัล มันก็เลยทำให้ยอดขายของโคคาโคล่าช่วงนี้ดูดีมากและยังสามารถทำยอดขายได้ถึง 70 หรือ 80 ล้านขวดในเวลาเพียงเดือนเดียว
หลายคนเริ่มเก็บสะสมฝาขวดไว้ในมือ แต่แน่นอนว่ามีคนแลกได้ไม่กี่คนเท่านั้น
โดยโคคาโคล่าได้ทำข้อตกลงกับร้านขายของชำกับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กไว้ ว่าพวกเขานั้นจะรับผิดชอบขายโค้กและก็ต้องรับผิดชอบต่อการแลกรางวัลด้วย ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเก็บสะสมฝาขวดได้จำนวนหนึ่ง พวกเขานั้นจะต้องนำมาแลกกับผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่อีกทีและก็ค่อยมาชำระบัญชีกับโคคาโคล่า แล้วฝาขวดที่จะนำมาแลกก็สามารถ เอาไปชำระเงินที่ค้างไว้ได้ด้วย
…
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหลายคนได้นำฝาขวดที่เก็บรวบรวมไว้ไปร้านขายของชำหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อแลกเงิน ซึ่งในบางร้านก็มีคนนำฝาขวดมาแลกมากกว่าหนึ่งร้อยดอลลาร์ต่อวัน
และคนส่วนใหญ่ที่แต่เดิมนั้นจะไม่มีฝาขวดเวอร์โก้กับเมถุน แต่วันนี้กลับมีพวกอันธพาลจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าเอาฝาขวดทั้งสองนั้นมาจากไหน โดยพวกมันนั้นเอามาขายฝาละ 30 เซนต์ แถมยังมีมากเท่าที่คุณต้องการอีกด้วย
ซึ่งมันไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในทุกเมืองและทั่วสหรัฐอเมริกาหรือแม้แต่ในเมืองเล็กๆ
ทำให้เวลานี้มีผู้คนไปแลกรางวัลกันอย่างต่อเนื่อง
ไม่กี่วันต่อมาร้านขายของชำและซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กก็เอาฝาขวดที่รับแลกมาไปหาผู้จัดจำหน่ายเพื่อแลกเป็นเงิน ยังไงพวกเขาก็เป็นคนแรกที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ซึ่งในครั้งแรกผู้จัดจำหน่ายก็ไม่ได้คิดอะไรมาก โดยพวกเขาก็แค่คิดว่าโคคาโคล่านั้นอาจตั้งรางวัลให้มากขึ้นเพื่อการประชาสัมพันธ์ แต่หลังจากผ่านไปไม่นานพวกเขาก็พบว่า มีร้านค้ามาแลกกันมากขึ้นและมันก็ดูน่าผิดปกติเล็กน้อยพวกเขาก็เลยรายงานไปยังสำนักงานใหญ่ของโคคาโคล่า
เมื่อโคคาโคล่าได้ยินข่าวพวกเขาก็ตระหนักถึงสถานการณ์วิกฤตในทันทีและติดต่อผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
“วอชิงตันตอนนี้พวกคุณรับแลกรางวัลไปได้เท่าไหร่แล้ว?”
“มากกว่าสี่พันดอลลาร์”
“โอกลาโฮมาที่นั่นแลกรางวัลไปเท่าไหร่?”
“แปดพันดอลลาร์แล้ว”
“ฟิลาเดลเฟียที่นั่นมีคนมาแลกมากแค่ไหน?”
“ตอนนี้มีคนนำมาแลกไปมากกว่า 6000 ดอลลาร์แล้ว”
“บ้าเอ้ย!”
ต้องบอกก่อนว่าโคคาโคล่านั้นมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 50 รายในสหรัฐอเมริกา หลังจากถามไปยังพวกเขา มันก็ทำให้รู้ว่ามีการแลกไปมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์แล้ว
ผู้บริหารของโคคาโคล่าก็รู้สึกว่าหัวของพวกเขากำลังจะระเบิด เพราะว่าพวกเขานั้นไม่ได้กำหนดรางวัลไว้มากขนาดนี้ ซึ่งพวกเขานั้นวางแผนแรกรางวัลไว้แค่แสนดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น แต่ตอนนี้ผ่านไปเพียงแค่ 1 เดือนพวกเขาก็ปล่อยเงินออกไปมากกว่า 20,000 – 30,000 ดอลลาร์แล้ว มันมาจากไหน? ไอ้ฝาขวดที่นำมาแลกรางวัลเยอะขนาดนี้!
ของปลอม?!
ประธานของโคคาโคล่าตระหนึกถึงปัญหาร้ายแรงนี้ทันที
“หยุด! หยุดการแลกรางวัลในที่อื่นๆ เดียวนี้ จากนี้ไปกิจกรรมแลกเงินจะยุติลงแล้ว! รีบไปแจ้งให้ผู้จัดจำหน่ายในเมืองต่างๆ ให้ทราบและให้ตัวแทนจำหน่ายไปบอกกับร้านค้ารายย่อยด้วย!” ประธานของโคคาโคล่ารีบออกคำสั่งทันที
ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายที่โคคาโคล่าจะแจ้งไปยังตัวแทนจำหน่าย แต่สิ่งที่ยากก็คือการที่ตัวแทนจำหน่ายเหล่าต้องไปแจ้งร้านค้ารายย่อยให้ทราบด้วย เพราะร้านขายของชำ และซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ เหล่านี้กระจายอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา ถึงจะมีหลายคนที่จะมารับสินค้าก็เถอะ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะแจ้งให้พวกเขาทราบทั้งหมด..
ยังไงตอนนี้มันก็ไม่ใช่ยุคอนาคต ที่ทุกคนก็แค่อยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วเพียงแค่ส่งการแจ้งเตือนไปมันก็แจ้งให้ทราบได้ทั่วทั้งประเทศ แต่ตอนนี้มันทำได้แค่การโทรไปแจ้งเท่านั้น และตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากก็ไม่มีข้อมูลติดต่อร้านค้ารายย่อยเหล่านั้นหรอก
แล้วจะใช้วิธีไหนละ? เดินไปบอกบ้านต่อบ้านงั้นเหรอ? อย่ามาล้อเล่น คิดดูสิมันไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้นหรอก
มีการออกประกาศระงับการแลกเปลี่ยนแล้ว แต่ร้านค้ารายย่อยนั้นยังคงทำการแลกเปลี่ยนอยู่ขณะนี้และแต่ละร้านก็ยังมีการแลกเปลี่ยนอยู่หลายสิบหลายร้อยดอลลาร์
ประธานของโคคาโคล่าได้แจ้งเตือนไปยังประธานที่สูงกว่าอื่นๆ ทันทีและท่านประธานก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์นี้ “ไปตรวจสอบให้แน่ชัดและถ้ามีใครโกงจริงๆ ให้โทรแจ้งตำรวจทันที!”
มันไม่ยากที่จะนำฝาขวดมาตรวจสอบ ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็ได้รับฝาขวดจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ในจำนวนฝาขวดทั้งหมดนี้รูปแบบของกลุ่มดาวราศีเมถุนและราศีกันย์นั้นถูกทำขึ้นมาใหม่อย่างดี แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันเล็กน้อยจากกลุ่มดาวอื่นๆ ที่ผลิตโดยโคคาโคล่า
แน่นอนว่าคนธรรมดาไม่สามารถรู้ได้เลย เพราะยังไงพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นของจริงอยู่แล้ว
ต้องแจ้งตำรวจ!
และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่จนเอฟบีไอก็เข้ามาตรวจสอบด้วย
ซึ่งหลังจากตรวจนสอบเอฟบีไอก็พบว่าฝาขวดพวกนี้ถูกขายโดยอันธพาลเล็กๆ และเอฟบีไอก็จับพวกอันธพาลหายคนมาสอบสวน แต่อันธพาลเหล่านี้ก็ไม่รู้อะไรมาก โดยพวกมันทั้งหมดก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีคนชักชวนให้ทำ ซึ่งพวกเขาก็ซื้อมันมาในราคา 20 เซนต์ต่อฝาเท่านั้น
ในที่สุดเอฟบีไอก็พบว่าเหตุการณ์นี้นั้นมีพวกอันธพาลหลายพันคนมาเกี่ยวข้อง และมันก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกเขานั้นเอามันมาจากไหน
เบาะแสทุกอย่างถูกทำลายไปหมดแล้ว
และนี่ก็ไม่ใช่ศตวรรษที่ 21 แต่ถึงอย่างนั้นบิลก็ยังทำผิดพลาดอย่างน้อย 5 อย่าง
และมันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยเพราะกระดาษจะไปหยุดไฟที่ลุกลามได้ยังไงจริงไหม? ข่าวการยกเลิกกิจกรรมของโคคาโคล่าถูกสื่อสำนักข่าวรู้อย่างรวดเร็ว ผ่านไปแค่วันเดียวสำนักพิมพ์รายใหญ่ก็ออกมารายงานเรื่องนี้
‘นิวยอร์กไทมส์’
“กิจกรรมแลกรับรางวัลของโคคาโคล่าได้หยุดลงแล้ว จากเหตุการณ์ที่ฝาขวดปลอมจำนวนมากได้ปรากฏขึ้น ซึ่งจำนวนของฝาขวดนั้นสูงกว่าที่โคคาโคล่าตั้งไว้ เลยเป็นเหตุให้โคคาโคล่าขาดทุนไปมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังพยายามตรวจสอบหาผู้ปลอมแปลงอย่างเต็มที่”
‘โกลบอลไทมส์’
‘จากกิจกรรมแลกรางวัลของโคคาโคล่า เวลานี้โกลบอลไทมส์ได้สัมภาษณ์กับตัวแทนจำหน่ายของโคคาโคล่า และร้ายขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กหลายแห่ง ซึ่งพวกเขาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโคคาโคล่านั้นสัญญาจะจ่ายเงินให้ถ้ามีคนมาแลกรางวัล ทว่าตอนนี้มันหยุดลงแล้ว แต่พวกเขาก็แลกเงินรางวัลออกไปหลายสิบดอลลาร์แล้วเหมือนเกิน โดยตอนนี้พวกเขานั้นต้องการให้โคคาโคล่าออกมาพูดอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้โคคาโคล่าก็ยังไม่มีการตอบรับอะไรออกมาเลย’
‘มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีตัวแทนจำหน่ายหลายหมื่นรายในสหรัฐอเมริกาและเงินที่แลกไปเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่าการสูญเสียครั้งนี้โคคาโคล่าพร้อมที่จะช่วยเหลือตัวแทนจำหน่ายทั้งหลายหรือไหม? เรามารอให้โคคาโคล่าแถลงข่าวออกมากันเถอะ’
‘นิวยอร์กไทมส์
“บริษัทโคคาโคล่ารีบจัดประชุมผู้ถือหุ้นอย่างรวดเร็วและพวกเขาก็มมติตรงกันว่าให้ปลดประธานคนปัจจุบันลงก่อน พร้อมกับมอบหน้าที่ให้ประธานคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งคือการแก้ไขเหตุการณ์ปลอมแปลงฝาขวด ซึ่งทางเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเหตุการณ์นี้จะได้รับการจัดการอย่างถูกต้องหรือไม่”
‘เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายของโคคาโคล่า โดยมันทำให้ยอดขายของพวกเขานั้นลดลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันชื่อเสียงของพวกเขาก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ผลกระทบจากเรื่องนี้ทำให้ราคาหุ้นของโคคาโคล่าลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งลดลงไปมากถึง 26% เมื่อวานนี้’
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางเป๊ปซี่ที่เป็นคนเริ่มกิจกรรมแลกของรางวัลเป็นคนแรกก็กำลังให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์อยู่
โดยประธานของเป๊ปซี่และประธานวอลเตอร์ไมค์กล่าวว่า “เป๊ปซี่จะระวังไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดและทางเราจะปรับเปลี่ยนกลไกการรับรางวัลของเป๊ปซี่ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาสำหรับเหล่าร้านค้าตัวแทน โดยจะให้ใช้ ‘รหัส’ มาทำการแลกแทน”
“แล้วจะแจกรางวัลยังไง?” นักข่าวถาม
“เป๊ปซี่จะยกเลิกรางวัลเล็กๆ และแทนที่ด้วยรางวัลใหญ่ตั้งแต่ 5 ดอลลาร์ 10 ดอลลาร์ 20 ดอลลาร์ และ 100 ดอลลาร์ โดยในแต่ละฝาจะมีรหัสที่มีสิทธิ์รับรางวัลและอีกรหัสจะใช้ป้องกันการปลอมแปลง ทางเราจะจับสลากแบบสุ่ม ซึ่งหมายเลขที่ชนะจะถูกประกาศลงหนังสือพิมพ์ และผู้ชนะก็สามารถส่งฝาขวดมาที่บริษัทเป๊ปซี่ได้เลย ทางเราจะทำการเช็คเพื่อยันยันความถูกต้อง ก่อนจะส่งรางวัลให้กับผู้ชนะ”
ปัญหาในฝั่งของเป๊ปซี่ได้รับการแก้ไขแล้วแต่ฝั่งของโคคาโคล่านั้นยังคงยุ่งเหยิงอยู่ เหล่าลูกค้าจำนวนมากที่มีฝาขวดอยู่ในมือนั้นไม่สามารถนำไปแลกรางวัลได้ โดยฝาขวดนี้มันก็ต้องใช้เงินซื้อมา ซึ่งในเวลานี้มันไม่สามารถทำเงินได้ แต่ยังต้องเสียเงินอีก ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนนั้น จะต้องการความรับผิดชอบจากโคคาโคล่า
และแน่นอนว่าตัวแทนจำหน่ายนั้นย่อมต้องการฟังความเห็นมากกว่า
เพราะพวกเขาจ่ายเงินไปแล้วหลายหมื่นดอลลาร์ แต่ตอนนี้โคคาโคล่ากลับไม่มีความรับผิดชอบอะไรออกมาเลย มันทำให้พวกเขารู้สึกโกรธมากจริงๆ ซึ่งในช่วงเวลานี้เหล่าร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งก็หยุดการสั่งสินค้ากับโคคาโคล่าแล้ว
มันก็เลยทำให้ตัวแทนจำหน่ายเหล่านี้ประสบปัญหาเช่นกัน เพราะเดิมทีโคคาโคล่าตกลงกับพวกเขาไว้ว่าจะแจกรางวัลและนำไปลดราคาสั่งซื้อ ทว่าตอนนี้ตัวแทนจำหน่ายนั้นมีฝาขวดที่พร้อมแลกรางวัลอยู่หลายหมื่นดอลลาร์ กองพะเนินเต็มโกดัง และโคคาโคล่าก็ไม่ต้องการมันแล้ว…
ดังนั้นใครล่ะจะมาแบกรับความสูญเสียนี้?!
เวลานี้บริษัทโคคาโคล่ากำลังตกอยู่ในสภาวะความไม่มั่นคง เพราะหากพวกเขาไม่จ่ายเงิน ช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนในอนาคตก็อาจพังทลายลงไป และการสร้างเส้นทางขายใหม่นั้นก็มีค่าใช้จ่ายมากไม่น้อย
แต่ถ้าจ่ายเงินออกไป
มันก็จะเป็นเงินมากกว่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งโคคาโคล่าก็รับไม่ได้เช่นกัน
และเพื่อรักษาชื่อเสียงประธานก็ได้ออกความเห็น ต่อคณะกรรมการบริษัทโดยเขาหวังว่าคณะกรรมการจะเห็นด้วยที่จะยิมยอมชดใช้และจัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้อง แต่คณะกรรมการกลับปฏิเสธพร้อมกับไล่ประธานคนนี้ออก ก่อนจะแต่งตั้งประธานคนใหม่เข้ามา
ประธานคนใหม่ยังปล่อยให้มติของคณะกรรมการอยู่เหมือนเดิม และแน่นอนว่ายังพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
เพราะตัวเขานั้นไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าจะไม่รับผิดชอบ ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการลับๆ และไม่เคยอธิบายว่าจะจัดการกับมันยังไง
แต่เนื่องจากที่โคคาโคล่าขาดความรับผิดชอบมานาน มันก็เลยทำให้ความน่าเชื่อถือของโคคาโคล่าลดลงอย่างจริงจัง พร้อมกับราคาหุ้นที่ลดลงอีกครั้ง
เนื่องจากโคคาโคล่ายังคงอยู่ในหล่ม ฮาร์ดี้ก็เลยไม่ได้สนใจพวกเขาอีกต่อไป และหันไปสนใจที่จะทำรายการ ‘ซูเปอร์ไอดอล’ ดีกว่า
14 กุมภาพันธ์
เป็นวันวาเลนไทน์~~~
วันนี้โกลบอลไทมส์ได้ออกข่าวใหญ่ว่า ‘สถานีโทรทัศน์เอบีซีกำลังจะจัดรายการ ซูเปอร์ไอดอลที่จะเป็นเวทีแสดงความสามารถต่างๆ ซึ่งไม่ว่าคุณจะมาจากประเทศไหนหรือจะเป็นผู้ชายผู้หญิงแค่อายุระหว่าง 12 ถึง 28 ปี พร้อมกับที่สามารถเดินทางมายังลอสแอนเจลิสที่เป็นเมืองแห่งสวงสวรรค์นี้ได้ คุณก็จะสามารถเข้าร่วมกับรายการโชว์แสดงความสามารถพิเศษที่จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซีได้’
‘ถ้าคุณมีน้ำเสียงที่ไพเราะหรือรูปร่างหน้าตาที่น่าประทับใจ จงอย่าปิดกั้นความสามารถของคุณ เพราะตราบใดที่คุณสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ คุณอาจจะได้รับการเซ็นสัญญากับบริษัทเอชดีเรคคอร์ดเป็นการส่วนตัวด้วย พร้อมกับถ้าคุณชนะการแข่งขัน บริษัทก็มอบรางวัลสุดพิเศษให้คุณด้วย”
‘มา! มาเข้าร่วมออดิชั่นกับเรา เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของคุณสำหรับการเดินทางที่จะเป็นดาวเด่น!’
‘โปรดติดตามข่าวสารให้ดี โดยสถานที่ลงทะเบียนและวิธีการลงทะเบียนสำหรับการออดิชั่นจะประกาศในภายหลัง ซึ่งรวมถึงกฎการแข่งขันในช่วงแรกและอื่นๆ’
หลังจากนั้นก็เป็นข่าวจากสถานีโทรทัศน์เอบีซี พร้อมกับที่ปรึกษาสี่คนปรากฎตัวขึ้นในโทรทัศน์ เช่น เอวา การ์ดเนอร์ ไฮดี้รามา จอห์นนี่ ฟอนเทน แครี่แกรนท์ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะมาเป็นที่ปรึกษาช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ หน้าใหม่
ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและหลังจากที่หลายคนได้ดูข่าว จิตใจของพวกเขาก็รู้สึกโหยหาที่จะกลายเป็นดาวเด่นไปแล้ว…
ณ อพาร์ตเมนต์ที่เรียบง่ายแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส โดยที่แห่งนี้มีเฟอร์นิเจอร์แค่โตะกับเตียงและเครื่องสำอางทั่วไปที่วางอยู่บนโต๊ะเท่านั้น ซึ่งลิปสติกส่วนใหญ่นั้นถูกใช้ไปจนเกือบหมดแท่งแล้ว
เวลานี้มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ใส่เพียงชุดชั้นใน อวดรูปร่างที่สมบูรณ์แบบอยู่ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์อย่างมาก
‘รอบออดิชั่นซูเปอร์ไอดอลนั้นเปิดรับทุกๆ คนตั้งแต่อายุ 12 ถึง 28 ปี อืม…เรื่องอายุของฉันนั้นไม่มีปัญหา แต่ฉันจะร้องเพลงได้ไหมนะ?’
ซึ่งเธอนั้นไม่ค่อยจะมั่นใจในการร้องเพลงสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองไปที่กระจกและดูรูปร่างของเธอตอนนี้มันก็สร้างความประทับใจมากสุดๆ
โดยเธอนั้นมาอยู่ที่ฮอลลีวูดมากกว่าหนึ่งปีแล้ว และหลังจากผ่านไปครึ่งปีเธอก็ได้เซ็นสัญญากับทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์ เธอได้รับค่าจ้างเพียง 50 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่เธอมีความสุขมากเพราะเธอรู้สึกว่าเธอมีความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นดาราที่โด่งดัง แต่ในวันต่อมาเธอก็ได้รู้ความจริง เพราะเธอได้รับแค่บทบาทสนับสนุนเท่านั้น
และหลังจากผ่านไปอีกครึ่งปี เธอก็ล้มเหลวในการต่อสัญญากับบริษัทภาพยนต์ วันต่อมาเธอก็ออกเดินทางไปทั่วฮอลลีวูด เพื่อที่จะเฟ้นหาโอกาสใหม่ๆ และหลังจากผ่านไปไม่กี่วันก็มีช่างภาพคนหนึ่งมาหาเธอและบอกกับเธอว่าถ้าเต็มใจที่จะถ่ายภาพนูด เขาจะให้เงินกับเธอ 50 ดอลลาร์
แน่นอนว่าเธอตอบรับ เพราะเวลานี้เธอไม่มีเงินเหลือแล้ว แถมภายในเดือนหน้าเธอก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าอีก ซึ่งเธอนั้นก็ไม่เต็มใจที่ย้ายออกจากที่นี่และไปใช้ชีวิตเหมือนก่อนหน้านี้ด้วย
แล้วหลังจากที่ได้เห็นรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ในวันนี้ เธอก็รู้ได้ว่าโอกาสของเธอมาถึงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็อยากลองสมัครดูเผื่อว่ามันจะสำเร็จ
เธอเริ่มหวีผมสีบลอนด์เข้มของเธอก่อนจะใส่ชุดที่ดีที่สุดใตู้ และเริ่มออกเดินไปที่จุดลงทะเบียน
เนื่องจากเธอไม่มีเงินมากนักและแท็กซี่นั้นก็แพงเกินไปที่เธอจะได้นั่ง แต่มันก็เป็นโชคดีของเธอที่จุดลงทะเบียนนั้นอยู่ไม่ไกลกับที่พักของเธอ ดังนั้นเธอก็เลยเลือกที่จะเดินมากกว่า
เวลานี้หญิงสาวมีความปรารถนาอยู่เต็มหัวใจ ถึงแม้เส้นทางเดินของเธอนั้นจะมีสิ่งกรีดขวางเล็กน้อย เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย และเมื่อเธอมาถึงจุดลงทะเบียนมันก็มีแถวที่ยาวมากอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เธอเดินไปรับแบบฟอร์ม และก็เห็นข้อมูลที่ต้องใช้นั้นมี ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และสิ่งที่คุณถนัดกับความสามารถของคุณ
หญิงสาวเริ่มหยิบปากกาขึ้นมาและกำลังจะเขียนชื่อของเธอลงไป แต่ทันใดนั้นเธอก็หยุดคิดไปสักพัก เพราะเธอต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นในเวลานี้เธอจะต้องทิ้งชื่อเดิมของเธอไป
เธอจึงเริ่มเซ็นชื่ออีกครั้งว่า
มาริลีนมอนโร