อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 215 รายการ ‘ซูเปอร์ไอดอล’

ตอนที่ 215 รายการ ‘ซูเปอร์ไอดอล’

หลังจากบิลออกไปพ่อบ้านก็มาหาฮาร์ดี้พร้อมกับจดหมายในถาด

“คุณฮาร์ดี้ครับมีจดหมายส่งถึงคุณ”

ฮาร์ดี้แปลกใจมากที่มีคนส่งจดหมายถึงเขา

เขาหยิบมันขึ้นมาดูและก็เห็นว่าวิคเตอร์เป็นคนส่งมาจากฮ่องกง

ซึ่งตัวจดหมายนั้นก็หนามากและมีอยู่หลายสิบหน้าเลยทีเดียว สุดท้ายเขาก็มองไปที่มันก่อนจะรู้ว่ามันคือจดหมายการทำงานล่าสุดของวิคเตอร์นี้เอง

มันต้องบอกก่อนว่าพวกเขานั้นจะสามารถส่งข้อความกันทางโทรเลขก็ได้ แต่มันก็มีข้อมูลบางอย่างที่บุคคลภายนอกไม่สามารถรับรู้ข้อมูลความลับนี้ วิคเตอร์ก็เลยใช้วิธีดั้งเดิมและยังเป็นวิธีปลอดภัยที่สุดด้วย

ในจดหมายวิคเตอร์ได้กล่าวถึงรายละเอียดงานที่เขาทำในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาทั้งหมด

โดยหลังจากมาถึงฮ่องกงวิคเตอร์ได้เช่าบ้านที่หันเข้าไปในย่านที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในฮ่องกง และคำอธิบายของเขาก็คือยังไงมันก็ต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้คนจดจำก่อน ฮาร์ดี้ก็คิดว่าเรื่องนี้ดีมากเพราะบางครั้งภาพลักษณ์ก็เป็นสิ่งจำเป็น

จากนั้นเขาก็ยังบอกว่าได้ขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลเพื่อที่จะเชิญบุคคลสำคัญทางการเมืองของฮ่องกงมางานเลี้ยงของเขาสำหรับการที่จะได้ทำธุรกิจในที่นี้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น

เมื่อเห็นสิ่งนี้ฮาร์ดี้ก็พยักหน้า มันต้องบอกเลยว่าวิคเตอร์คนนี้นั้นมองเห็นโลกมามากและมีความคิดที่ยืดหยุ่นสุดๆ ซึ่งมันก็คือเหตุผลหลักว่าทำไมเขาถึงส่งไปที่นั่น

เพราะยังไงผู้ที่สามารถติดคุกได้บางทีพวกเขาก็อาจจะมีความสามารถบางอย่าง

ในช่วงแรกของการสะสมของโบราณ นั้นก็เป็นเรื่องปกติโดยมีเข้ามาไม่กี่ชิ้นต่อวัน แต่หลังจากเมื่อยาเพนิซิลลินมาถึง วิคเตอร์ก็นำยาชุดแรกไปขายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในฮ่องกง ซึ่งเขานั้นต้องการบอกผู้อื่นให้รู้ว่าเขานั้นมีเพนิซิลลินอยู่ในมือและยังมีปริมาณที่เยอะด้วย

แล้วก็อย่างที่เขาคาดไว้

มันสามารถดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ได้สองราย

วิคเตอร์ก็เขียนคำอธิบายของลูกค้าทั้งสองอย่างละเอียด และฮาร์ดี้ก็รู้สึกลังเลที่ได้อ่านจบ

เพราะชายวัยกลางคนคนแรกนั้นก็เหมือนปกติที่สามารถนำทองคำและของโบราณออกมาได้ แต่คนที่สองชื่อซูที่มาจากทางเหนือนั้น เขาได้แลกเปลี่ยนเช็คจากธนาคารซิตี้แบงก์ของซานฟรานซิสโก ฮาร์ดี้ก็เลยคาดเดาว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ สำคัญคนหนึ่ง

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือนชายวัยกลางคนก็กลับมาอีกครั้ง

ซึ่งครั้งนี้วิคเตอร์ก็ให้เขาแนะนำตัวเองก่อน และเขาก็ได้รู้นามสกุลของเขาที่ชื่อกง พร้อมกับคราวนี้ที่เขานำของโบราณมาเต็มรถบรรทุกถึงสองคัน

ซึ่งวิคเตอร์ก็บอกในจดหมายว่าในครั้งแรกเขานั้นจงใจขอให้ผู้ประเมินราคาเพิ่มให้มากกว่าปกติสำหรับคุณกง และครั้งที่สองนี้วิคเตอร์ก็จงใจลดราคาให้ต่ำลง ทว่าคุณกงก็ยังเต็มใจที่จะขายมัน และเขาก็ต้องการเช็คจากธนาคารแห่งอเมริกาเท่านั้นด้วย

คุณกงคนนี้ยังบอกอีกว่าตราบใดที่วิคเตอร์ยังสามารถรับได้อีก เขาก็สามารถนำของโบราณพวกนี้มาส่งได้อีกเยอะ

ถึงแม้ว่าฮาร์ดี้จะไม่ได้อยู่ในยุคนี้มาก่อนเขาก็ยังสามารถเดาได้ ซึ่งมันก็แค่คนโลภที่ขายสมบัติทางวัฒนธรรมในช่วงวิกฤตของชาติเท่านั้นเอง

โดยตามประวัติศาสตร์แล้วมันจะเป็นนามสกุลชางที่ทำการขายของโบราณจำนวนมากในช่วงเวลานี้ ซึ่งสิ่งของโบราณจากพระราชวังต้องห้ามก็ยังโดนเอาออกมาขายเกือบหมด พร้อมกับเครื่องประดับและทองคำอีกมากมาย

ดังนั้นในช่วงเวลานี้มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ใครบางคนจะเอาของโบราณออกมาขายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และแน่นอนว่าคนพวกนี้ต้องเป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เพราะท้ายที่สุดมันก็มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่สามารถนำออกมาขายได้ปริมาณมากเช่นนี้

ซึ่งฮาร์ดี้ก็รู้สึกโมโหเล็กน้อย 

เพราะการที่เขานั้นซื้อวัตถุทางวัฒนธรรมของจีน…

มันก็เพราะเขานั้นไม่อยากให้พวกมันถูกทอดทิ้งอย่างเสียเปล่า เขาก็เลยซื้อมันมาเก็บไว้ และยังไงเงินที่มาจากการลงทุนของชาวต่างชาติในอนาคตมันก็ถือว่าเป็นการลงทุนเช่นกัน

ภายหลังเขาได้พบกับฮันเยจินมันก็เลยทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันได้กลายเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของเขา

แล้วการที่เขานั้นได้ซื้อวัตถุโบราณของจีนมากเท่าไหร่… 

มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียใจมากขึ้นต่อวัตถุทางวัฒนธรรมของจีนมากเท่านั้น 

ดังนั้นเขาก็จะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อรักษาสมบัติเหล่านี้ไว้ให้ดี

ซึ่งในจดหมายวิคเตอร์ก็ได้ถามมาว่าจะรับซื้อของโบราณเหล่านี้ไว้หรือไม่

แน่นอนว่าต้องรับ

และปล่อยให้พวกนั้นได้กำไรไปก่อน

อย่าหยุดที่จะรับซื้อ

เพราะยังไงเด็กๆ เหล่านั้นก็ไม่รู้ว่าชะตากรรมของพวกจะต้องเจอกับอะไร

เขาให้คนเอากระดาษกับปากกามาให้ ก่อนที่ฮาร์ดี้จะเขียนอะไรบางอย่างลงไป…

‘รับซื้อของโบราณทุกชิ้นแต่ราคาจะต่ำกว่าทั่วไป 30% และสำหรับเช็คนั้นจะออกโดยธนาคารเวลส์ฟาร์โก ซึ่งจะได้รับหลังจากที่ยืนยันผ่านสาขาสหรัฐอเมริกาแล้วเท่านั้น โดยหมายเลขเช็คของการทำธุรกรรมแต่ละรายการจะออกโดยธนาคารเพื่อเก็บข้อมูล’

หลังจากเขียนเสร็จแล้ว เขาก็ส่งให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ

“เอาไปที่สำนักงานโทรเลขแล้วส่งไปให้วิคเตอร์”

บอดี้การ์ดรับมันไป

ฮาร์ดี้นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะโทรหามาร์คคีนประธานของบริษัทโกลบอลไทมส์ “ตอนนี้มีบริษัทหนังสือพิมพ์อยู่ที่สาขาฮ่องกงบ้างไหม?”

“เวลานี้ยังไม่มีครับบอส พวกสาขาต่างประเทศจะมีแค่สาขาญี่ปุ่นเท่านั้น” มาร์คคีนกล่าว

“งั้นให้จัดตั้งสาขาที่ฮ่องกงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเวลานี้ฮาร์ดี้กรุ๊ปนั้นมีบริษัทอยู่ที่ฮ่องกงชื่อบริษัทประมูลฮาร์ดี้ ให้ไปที่นั่นและขอความช่วยเหลือจากวิคเตอร์ได้เลย มันจะง่ายมากสำหรับการก่อตั้งบริษัทหนังสือพิมพ์”

“หลังจากก่อตั้งสาขาฮ่องกงแล้วให้ส่งนักข่าวไปที่ประเทศจีน ประเทศเกาหลีหรือประเทศอื่นๆ ใกล้เคียงเพื่อที่จะสืบข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์แถวนั้น”

ตอนนี้มาร์คคีนไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเจ้านายของเขาถึงสั่งให้จัดตั้งสาขาที่ฮ่องกงให้เร็วที่แบบนี้ แต่เขาก็ยังเห็นด้วยกับหัวหน้าทันที

ฮาร์ดี้วางโทรศัพท์ลงก่อนจะคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง และจากนั้นก็โทรหาประธานจอห์นสตันธนาคารเวลส์ฟาร์โก “จอห์นฮาร์ดี้กรุ๊ปได้เริ่มขยายธุรกิจไปยังฮ่องกงและญี่ปุ่นแล้ว ฉันก็เลยคิดว่าเราจำเป็นจะต้องเปิดสาขาธนาคารเวลส์ฟาร์โกที่ฮ่องกงกับญี่ปุ่นแล้วละ”

“ฮ่องกงกับญี่ปุ่น? เจ้านายชอบแถวตะวันออกหรือครับ” จอห์นสตันถาม

“ใช่ และถึงแม้สภาพที่นั่นจะไม่ดีเท่ากับยุโรป แต่สำหรับอนาคตนั้นไม่ใช่ เพราะยังไงคู่แข่งมันก็มีน้อยกว่า ซึ่งแตกต่างจากประเทศในยุโรปที่แต่ละประเทศจะมีธนาคารอยู่หลายร้อยแห่ง”

“ผมเข้าใจแล้วครับเจ้านาย ผมจะรีบไปจัดการเปิดสาขาที่ฮ่องกงกับญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้” จอห์นสตันตอบ

ผ่านไปชั่วพริบตา มันก็ถึงเวลาตอนเย็น

พ่อบ้านรับสายโทรศัพท์ก่อนจะมารายงานกับฮาร์ดี้ “คุณฮาร์ดี้ครับ คุณหญิงไฮดี้รามาห์โทรมาชวนคุณไปทานอาหารเย็น คุณจะตอบรับไหมครับ?”

“ได้สิ”

มื้อเย็นของทั้งสองจัดขึ้นที่บ้านของไฮดี้และเธอก็ยังอาศัยอยู่ที่สตูดิโอของเธอ 

ก็นะเธอชอบสภาพแวดล้อมที่สบายๆ และก็ไม่ดูเป็นทางการเหมือนกับคฤหาสน์แบบนี้

แล้วเวลานี้ไฮดี้รามาก็กำลังลงมือทำอาหาร ซึ่งมันทำให้ฮาร์ดี้แปลกใจมาก

ต้องบอกก่อนว่าไฮดี้รามานั้นเป็นลูกผู้ดีตัวจริงและพ่อของเธอก็เป็นถึงนายธนาคารด้วยซ้ำ 

แถมเธอยังได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เด็กๆ อีก…

ไฮดี้รามายิ้ม “ฉันจบมาจากโรงเรียนสตรีชั้นสูงก็เพื่อที่จะเรียนรู้การเป็นหญิงสาวที่สูงศักดิ์ และถึงแม้หญิงสาวเหล่านั้นจะไม่จำเป็นจะต้องทำอาหารด้วยตัวเอง แต่พวกเธอก็ต้องรู้วิธีทำอาหาร”

“ยอดขายจากบ็อกซ์ออฟฟิศตอนนี้เกิน 10 ล้านไปแล้ว คุณรู้สึกยังไงบ้าง?” ฮาร์ดี้ถามด้วยรอยยิ้ม

“ฮิฮิ ฉันตื่นเต้นกับมันมากจริงๆ มันเป็นการเติมเต็มความฝันสูงสุดของฉันเลยละ” ไฮดี้รามากล่าว

ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ตอนนี้มันยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่คุณจะฝันกับมันหรอก เพราะภาพยนตร์นั้นได้สมัครเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์แล้ว ซึ่งภาพยนตร์ของเทย์เลอร์ ‘ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ’ กับของคุณ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (ghost)’ นั้นน่าจะได้เข้าชิงรางวัลทั้งสองอย่างแน่นอน”

“จริงเหรอ?”

“แน่นอนสิ ผมกำลังหาคนที่จะมาดำเนินเรื่องให้อยู่”

ต้องบอกก่อนว่าเขานั้นมีเพื่อนอย่างเมเยอร์ที่เป็นประธานของคณะกรรมการตัดสินออสการ์ และตัวเขาเองยังเป็นถึงประธานของสหภาพนักแสดง ดังนั้นถ้าพวกเขาทำงานร่วมกันมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคว้ารางวัลเหล่านั้นมา

ไฮดี้รามากระโดดขึ้นคร่อมฮาร์ดี้ด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับจูบไปที่ชายคนนี้จนทั่ว

หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน

ทั้งสองก็ออกมาจากห้องน้ำและนอนอยู่บนเตียง ก่อนที่ไฮดี้จะนึกอะไรบางอย่างได้แล้วรีบวิ่งไปเปิดโทรทัศน์…

แล้วหลังจากนั้นเธอก็วิ่งกลับไปที่เตียงและแอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของฮาร์ดี้

ซึ่งไฮดี้นั้นมีพื้นเพมาจากออสเตรียกับฮังการี มันก็เลยทำให้ผิวของเธอดูบอบบางมากและก็ยังรู้สึกดีด้วยเมื่ออยู่ในมือของเขา…

“ซีรีส์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะสิ เรื่องนี้มันชื่อว่า ‘แวมไพร์กับมนุษย์หมาป่า’ และมันก็น่ากลัวมากๆ ซึ่งปกติฉันก็กลัวที่จะดูคนเดียวในเวลากลางคืน แต่ฉันก็ห้ามใจไม่ดูไม่ได้จริงๆ” ไฮดี้รามากล่าว

แวมไพร์กับมนุษย์หมาป่า?

เท่าที่ฮาร์ดี้รู้สถานีโทรทัศน์เอบีซีนั้นไม่มีซีรีส์เรื่องนี้ออกมาฉายเลย แล้วในเวลาเดียวกันในจอโทรทัศน์ก็มีโลโก้ของโคลัมเบียขึ้น

มันก็ต้องบอกว่าภายใต้แรงกดดันของสถานีโทรทัศน์เอบีซีต่อเอนบีซีกับโคลัมเบียนั้นทำให้พวกเขาทั้งสองต้องเพิ่มการลงทุนและเพิ่มเวลาฉายของรายการออกมา ซึ่งตอนนี้เวลาออกอากาศเกือบทั้งหมดแทบจะเหมือนกับของสถานีโทรทัศน์เอบีซีก็คือตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม

และพวกเขายังได้ผลิตรายการออกมามากมาย แต่บางรายการก็เลียนแบบสถานีโทรทัศน์เอบีซีอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเอาไปเทียบกับรายการกีฬา รายการร้องเพลง และอื่นๆ

แม้แต่รายการทีวีช้อปปิ้งก็คล้ายกับของพวกเขา แต่เพียงแค่ไม่มีการโทรเข้าไปโดยตรงเพื่อสั่งซื้อสินค้าเท่านั้นเอง เพราะยังไงถ้าพวกเขากล้าที่จะทำแบบนั้นสถานีโทรทัศน์เอบีซีก็สามารถฟ้องร้องพวกเขาได้โดยตรงนั้นเอง โดยรายการทีวีช้อปปิ้งของพวกเขานั้นเหมือนกับการโฆษณาสินค้าซะมากกว่า เช่นไม่มีการแนะนำสินค้า มีแค่แนะนำการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ และอื่นๆ

พร้อมกับที่บอกกับลูกค้าว่าสามารถซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ที่ไหน

ช่วงเวลานี้เนื่องจากความพยายามของพวกเขาสองสถานีโทรทัศน์รายใหญ่มันก็เลยทำให้พวกเขากู้คืนยอดผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก แล้วในการสำรวจล่าสุดของยอดผู้เข้าชมสถานีโทรทัศน์เอบีซีก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้รายการโทรทัศน์ของสถานีเอบีซีจะยังเป็นชั้นนำอยู่ แต่ผู้ชมก็เริ่มสนใจรายการของช่องอื่นๆ แล้ว ช่วงนี้มันก็เลยมีรายการที่เริ่มน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

แล้วปัจจุบันคะแนนรวมของสถานีโทรทัศน์เอบีซีก็มีเพียงประมาณ 67% ส่วนอีก 30% ที่เหลืออยู่นั้นถูกหารด้วยอีกสองสถานีโทรทัศน์แทน

สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือรายการเดิมที่ฉายอยู่นั้นมันน่าเบื่อที่จะดูแล้ว และผู้คนก็กำลังมองหาความสดใหม่นั้นเอง

ฮาร์ดี้กำลังคิด

ว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำรายการใหม่ๆ ออกมาโชว์

ตัวอย่างเช่นเขาวางแผนรายการ ‘ซูเปอร์ดราฟ’ ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ผู้วางแผนรายการได้ร่างฉบับร่างออกมาและประธานของสถานีโทรทัศน์เอบีซีวิลเลียมฟ็อกซ์ก็บอกว่ามันพร้อมที่จะผลิตออกมาแล้ว แต่เรตติ้งรายการที่เหลือนั้นดีมากฮาร์ดี้ก็เลยรู้สึกว่ายังไม่จำเป็นที่จะนำมันออกมาในตอนนี้

เวลานี้ที่ฮาร์ดี้กำลังคิดอะไรหลายอย่างๆ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายได้รับแรงกดก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นเข้ามาซึ่งมันก็เป็นไฮดี้รามาที่ส่งเสียงกรีดร้องและเอาหัวของเธอซุกเข้ามาในอ้อมแขนของฮาร์ดี้

โดยในโทรทัศน์เวลานี้กำลังจะมีมนุษย์เปลี่ยนร่างกลายเป็นหมาป่าที่ดุร้ายและแสดงให้เห็นถึงเขี้ยวที่แหลมคมดูน่ากลัวมากจริงๆ

ฮาร์ดี้รีบเอามือของไฮดี้ออก และมันก็เอาออกง่ายกว่าที่คิด 

ซึ่งไฮดี้ก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติและเธอก็มองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยรู้สึกผิดในดวงตาของเธอ “ขอโทษจริงๆ ฉันเป็นคนขวัญอ่อนนะ”

“คุณเจ็บหรือเปล่า?”

“อ่า มันก็เจ็บนิดหน่อย”

“ให้ฉันไปหยิบยาให้คุณดีไหม?”

“ไม่ต้องหรอกแค่เป่ามันก็หายแล้ว”

วันต่อมา

ฮาร์ดี้มาที่สถานีโทรทัศน์เอบีซีและถามเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของสถานีโทรทัศน์ 

ซึ่งมันก็มีวิลเลียมฟ็อกซ์ที่มารายงานต่อฮาร์ดี้ “เอนบีซีและดิสนีย์ได้ทำความร่วมมือกันสำหรับการแนะนำ ‘ดิสนีย์แลนด์’ และ ‘มิคกี้เมาส์’ ให้เด็กๆ ซึ่งมันก็เป็นที่นิยมสำหรับเด็กๆ อยู่แล้ว”

“ส่วนโคลัมเบียและยูนิเวอร์แซลนั้นร่วมมือกันไม่นานมานี้ และทีวีซีรีส์ ‘แวมไพร์กับมนุษย์หมาป่า’ ที่พวกเขานำออกมาฉายนี้ก็มีเรทติ้งที่สูงมาก แต่มันก็ยังด้อยกว่า ‘A Fairy Wife’ ที่ตอนนี้ยังไงก็เป็นที่นิยมมากกว่ารายการอื่นๆ”

“ทั้งสองสถานียังได้เปิดตัวรายการอีกหลายอย่างเช่น เกมเบสบอล เกมฟุตบอล แฟชั่นโชว์ รายการช้อปปิ้ง และรายการทอล์คโชว์ ซึ่งรายการเหล่านี้ถือว่าเป็นรายการที่นิยมมาก”

ฮาร์ดี้พยักหน้า “งั้นมันก็คงถึงเวลาแล้วที่เราจะเผยการ์ดในมือ วิลเลียมคุณเริ่มแผนรายการซูเปอร์ดราฟได้เลยและในปีนี้เราก็จะเปิดตัวรายการใหม่ๆ ที่จะนำอเมริกาเข้าสู่ยุครื่นเริง”

อิริน่าเริ่มตื่นเต้นทันทีเมื่อได้ยินและเธอก็พูดว่า “ฉันกล้าที่จะพูดเลยว่าเมื่อเราเริ่มต้นซูเปอร์ดราฟ รายการของช่องอื่นๆ จะต้องถูกเราบดบังอย่างแน่นอน”

ฮาร์ดี้กล่าวเพิ่ม

“แล้วครั้งนี้ฉันก็จะเปิดตัวรายการ ‘ซูเปอร์ไอดอล’ ซึ่งจะเน้นการร้องเพลงเป็นหลัก และจะเฟ้นหาคนที่ร้องเพลงเพราะๆ พร้อมกับที่ไม่มีข้อจำกัดสำหรับเพศ แต่พวกเขาจะต้องมีอายุอยู่ระหว่าง 12 ถึง 28 ปี ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสัญชาติ เพียงแค่คุณมาที่ลอสแอนเจลิส เพื่อที่จะมาเข้าร่วมการออดิชั่นได้ก็พอ”

การแสดงความสามารถพิเศษแบบนี้นั้นจะสร้างความสนุกสนานได้มาก แต่มันก็ไม่ได้สร้างประโยชน์มากนักสำหรับการหาคนที่มีความสามารถพิเศษ แต่ถ้าหากร้องเพลงได้คุณก็สามารถลงนามกับบริษัทบันทึกเสียงและกลายเป็นนักร้องเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไปในอนาคต

ฮาร์ดี้อธิบายรายละเอียดการแข่งขันให้ทั้งสองฟัง โดยกฎหลายข้อจะถูกคัดลอกมาจาก ‘อเมริกันไอดอล’ ของอนาคต เพราะยังไงเวลานี้อเมริกันไอดอลก็ยังไม่ปรากฏตัวจนกว่าจะผ่านไปอีกหลายทศวรรษ 

ซึ่งตอนนี้ซูเปอร์ไอดอลของฮาร์ดี้นั้นก็คือต้นฉบับแน่แล้ว…

“ฉันจะหาคนที่เหมาะสมสองสามคนมาเป็นผู้ตัดสิน และฉันก็มีอยู่ในใจบ้างแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว

Leave a Comment

ไม่ดี!