อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 214 ขนแกะ

ตอนที่ 214 ขนแกะ

ในอนาคตนั้นจะมีเกมให้สะสมของเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมสุ่มรางวัลจากคอมพิวเตอร์ เกมสะสมตัวละครนำโชคของจีน เกมสะสมภาพในมือถือเพื่อรับอั่งเปา และเกมอื่นๆ

แน่นอนว่ามันจะคำบางคำและภาพบางภาพที่ยากจะเก็บรวบรวมเสมอ

ทำไมละ?

เพราะบริษัทที่ออกกิจกรรมนั้นๆ ไม่ต้องการให้คุณได้เงินง่ายจนเกินไปนะสิ ลองคิดดูถ้าหากมีการได้รางวัลใหญ่ไปง่ายๆ ค่าใช้จ่ายที่พวกเขาต้องเสียนั้นมันจะเท่าไหร่กัน?

มันไม่มีใครยืนสู้ไหวหรอก

แล้ววิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใส่คำบางคำและภาพบางส่วนให้น้อยๆ

ฮาร์ดี้ที่เห็นกิจกรรมของโคคาโคล่าเขาก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขานั้นกำลังทำอะไร 

แน่นอนถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่อยากทำตัวนอกกฎหมายก็คงจะเล่นกิจกรรมนี้ตามรูปแบบการเล่นที่กำหนดมา

แต่เขาเป็นใคร?

เขานั้นคือทอมฮาร์ดี้!

เขาชอบเล่นนอกเกมอยู่แล้ว และมันจำเป็นต้องเล่นตามกฎกับศัตรูด้วยเหรอ?

จะให้เขาไปพูดคุยข้อกฎหมายกับศัตรู?

เมื่อเห็นวอลเตอร์ยังไม่ค่อยเข้าใจฮาร์ดี้ก็อธิบายให้เขาฟังเพิ่ม

“อันที่จริงกิจกรรมนี้มันมองออกง่ายมาก เช่นการสะสม 12 ฝาขวดเพื่อแลกเงิน 1 ดอลลาร์ แล้วถ้าปีที่แล้วโค้กขายได้ 500 หรือ 600 ล้านขวด พวกเขาจะต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับกิจกรรมสะสมรางวัลนี้?”

วอลเตอร์แมคเข้าใจมันทันทีและเขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ราวๆ 40 หรือ 50 ล้านดอลลาร์? โอ้พระเจ้า แล้วถ้าขายโค้กขวดละ 5 เซ็นต์ งั้นยอดขาย 500 หรือ 600 ล้านขวดมันก็ไม่มีพอที่จะเอามาจ่ายค่ารางวัลนี้หรอก”

“ฮ่าๆ พวกเขาก็เลยใช้วิธีการควบคุมปริมาณกลุ่มดาวที่ปล่อยออกมายังไงละ แล้วคุณรู้หรือยังว่าจะต้องทำยังไงต่อไป?” ฮาร์ดี้ยิ้ม

“ผมเข้าใจแล้ว และผมจะประกาศออกไปให้ผู้คนทราบว่าโคคาโคล่านั้นวางแผนหลอกพวกเขายังไง ถ้าหากพวกเขารู้ว่าตัวเองถูกหลอก พวกเขาจะต้องโกรธมากแน่ๆ และชื่อเสียงของโคคาโคล่าจะต้องตกต่ำลงอย่างแน่นอน” วอลเตอร์แมคพูดอย่างตื่นเต้น

ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ไม่ ไม่ มันยังไม่พอหรอก แม้ว่าเราจะรายงานออกไปโคคาโคล่าก็จะออกมาประกาศว่าพวกเขาตั้งใจที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว และยังไงผู้คนก็ยินดีที่จะยอมรับมันช้าๆ ซึ่งมันก็จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะยังไงยอดขายของพวกเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นและกดดันเป๊ปซี่ได้ต่อไป”

“แต่แน่นอนว่าฉันนั้นมีวิธีที่ดีกว่า ฉันจะทำให้โคคาโคล่านั้นสูญเสียครั้งใหญ่กว่านี้ และทำให้พวกเขาได้รู้สึกเจ็บปวดที่ทำอะไรไม่ได้! ในตอนสุดท้ายพวกเขาก็จะเอากิจกรรมนี้ออกไปด้วยตัวเองพร้อมกับชื่อเสียงที่มันลดลง เมื่อถึงตอนนั้นมันก็เป็นเวลาที่เป๊ปซี่จะกลับมาผงาดตามโคคาโคล่าทันอีกครั้ง” ฮาร์ดี้พูดออกไปด้วยความมั่นใจ

วอลเตอร์ก็มองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยความประหลาดใจ

มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะทำให้โคคาโคล่านั้นพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่จนต้องยกเลิกกิจกรรมสะสมรางวัล? 

มันจะเป็นไปได้จริงๆ เหรอ?

“แล้วคุณฮาร์ดี้จะทำยังไงเหรอครับ?” วอลเตอร์ถามอย่างสงสัย

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น เดี๋ยวฉันจัดการให้ คุณไม่จำเป็นต้องรู้และไม่จำเป็นต้องเป็นมีส่วนร่วมอะไรทั้งนั้น ฉันขอแค่คุณจัดการด้านการผลิตและการขายให้ดีก็พอ เพราะยังไงถ้ายอดขายเข้ามาเพิ่มขึ้นมันก็ถึงเวลาแล้วที่เราอาจจะต้องพิจารณาเพิ่มฐานการผลิตเข้ามา “ฮาร์ดี้กล่าว

วอลเตอร์แมคตระหนักได้ว่าฮาร์ดี้อาจจะใช้วิธีการอะไรบางอย่างเขาจึงพยักหน้ารับทราบเท่านั้น “ผมเข้าใจแล้วคุณฮาร์ดี้ ผมจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี”

วอลเตอร์แมคบอกลากลับไปและฮาร์ดี้ก็เรียกหาบิลต่อ

ช่วงนี้ชีวิตของบิลนั้นรุ่งเรืองมากกว่าแต่ก่อนเยอะ 

เขานั้นได้กลายเป็นหัวหน้าของโลกใต้ดินในลอสแอนเจลิส พร้อมกับมีพี่น้องอยู่ราวๆ 1000 คน และยังมีธุรกิจหลายอย่างที่เขาควบคุมอยู่นับไม่ถ้วน 

ซึ่งมันทำให้เขานั้นมีรายได้อยู่หลายล้านดอลลาร์ในทุกปี

เมื่อบิลเห็นฮาร์ดี้ เขาก็ทักทายบอสของเขาด้วยความเคารพ “บอส อยากให้ผมทำอะไรเหรอครับ?”

ฮาร์ดี้รินไวน์ให้บิลแก้วหนึ่ง “ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้ชีวิตของนายดูดีมากเลยนะ? เห็นว่านายยังได้คุยกับดาราหญิงคนหนึ่งด้วยใช่ไหม?”

บิลหัวเราะเบาๆ “คริสติน ทีน่า เธอเคยเป็นดาราเด็กมาก่อนและเมื่อโตขึ้นเธอก็ได้แสดงอยู่สองสามเรื่องแต่มันก็ไม่ค่อยโด่งดังเท่าไหร่ และในครั้งหนึ่งเราก็พบกันที่งานเลี้ยง ตั้งแต่นั้นมาเราก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด”

“ฉันรู้จักเธออยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าเธอน่าจะเคยทำงานกับเอลิซาเบธเทย์เลอร์มาก่อน แต่บิล…เธอบรรลุนิติภาวะหรือยัง?” ฮาร์ดี้ถามหลังจากจิบไวน์เข้าปาก

“แน่นอนสิ! เธออายุ 18 แล้วในปีนี้” บิลรีบตอบอย่างรวดเร็ว

“ฉันคิดว่าคริสตินนั้นตัวเตี้ยเกินไป และเธอน่าจะอายุต่ำกว่า 18 ปีอยู่ด้วย” ฮาร์ดี้ตอบปัดบิล

“เฮ้ นายก็รู้ว่าฉันชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ เพราะยังไงพวกเธอก็น่ารักเสมอ” บิลตอบหน้าตาย

“รอให้เธอบรรลุนิติภาวะ และอย่าทำตัวผิดกฎหมาย ตกลงไหม?”

“ฮ่าๆ ฉันทำตัวเป็นพลเมืองดีตลอดและอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว แต่บอสฉันขอให้ช่วยอะไรสักอย่างสิ” บิลกล่าว

“เรื่องอะไร?”

“สองปีที่ผ่านคริสตินไม่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เลย เธอรู้สึกกังวลใจมาก ฉันเลยมีแผนที่จะสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาร่วมกับเธอ บอสช่วยดูให้หน่อยได้ไหม?” บิลมองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยความวิตกกังวล

“ไม่มีปัญหา”

การใช้จ่ายเงินเพื่อรั้งผู้หญิงเอาไว้ฮาร์ดี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน และครั้งนี้บิลก็เป็นคนออกเงินเอง 

เขาก็ไม่รู้จะไปห้ามทำไม…

บิลหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของเขา

“บอส ฉันรู้ว่าคุณนั้นเป็นมืออาชีพด้านภาพยนตร์ ดังนั้นฉันอยากรู้ว่าเรื่องแนวไหนจะเหมาะกับเธอและบอสมีบทภาพยนตร์ดีๆ เหลือบ้างไหม?” บิลถาม

ฮาร์ดี้ครุ่นคิดอยู่สักพัก “ฉันคิดว่าเธอน่าจะเหมาะกับภาพยนตร์ซีรีส์ ยังไงตอนนี้ซีรีส์ก็กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ และการที่ดาราได้รวมตัวกันในจอเดียว มันก็จะเป็นการยกระดับคนอื่นๆ ได้ดีมากๆ ด้วย”

“ฉันจะเป็นคนออกไอเดียให้ แต่นายต้องลงทุนในเอชดีพิคเจอร์สำหรับบทภาพยนตร์และให้คริสตินเป็นนางเอก ซึ่งฉันก็รับประกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน ถึงแม้จะใช้การถ่ายทำแบบธรรมดาก็ตาม”

“แน่นอนถ้าสถานีโทรทัศน์นำซีรีส์นี้ไปออกอากาศ นายก็จะได้รับค่าตอบแทนด้วย แต่เงินจะถูกฝากไว้ใช้สำหรับการฟอกเงินของคาสิโนเท่านั้น นายคิดว่าไง?”

บิลพยักหน้าอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ยังไงบอสก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นฉันก็ต้องฟังและจะไปลงทุนทำซีรีส์เดี๋ยวนี้ หลังจากไปหาเอ็ดเวิร์ดแล้ว”

ซึ่งเวลานี้ ‘My Fairy wife’ นั้นถือว่าเป็นทีวีซีรีส์ที่ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์เอบีซีและเดิมทีนางเอกก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรเลย… 

แต่เวลานี้เธอนั้นโด่งดังมาก พร้อมกับที่เธอนั้นเป็นที่รู้จักไม่น้อยไปกว่าดาราฮอลลีวูดเลยด้วยซ้ำ

“ว่าแต่บอสอยากให้ผมทำอะไร?” บิลถาม

“มีสองเรื่อง หนึ่งคือเกี่ยวกับครอบครัวเลบเซลตันในซานฟรานซิสโก ซึ่งฉันวางแผนที่จะฆ่าพวกเขาให้หมดและปล่อยให้บริษัทแอลเอไปตั้งหลักที่นั่นแทนพวกเขา” ฮาร์ดี้กล่าว

เมื่อได้ยินฮาร์ดี้พูดเกี่ยวกับงานบิลก็ทำหน้าจริงจังด้วย

“ฉันรู้ที่ตั้งหลักของครอบครัวเซลตันมาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่พวกเขาตอนนี้จะอาศัยอยู่แถวๆ คาบสมุทร อ่าวตะวันออก และควบคุมคนอยู่แถวๆ นั้น”

“สำหรับกองกำลังอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโกนั้นจะประกอบไปด้วย แก๊งถัง แก๊งมามาเฟีย แก๊งละติน แก๊งรัสเซีย แก๊งบราซิล และแม้แต่คนผิวดำก็ยังมีกองกำลังเป็นของตัวเอง มันก็เลยทำให้ซานฟรานซิสโกนั้นวุ่นวายกว่าในลอสแอนเจลิสซะอีก”

“ซึ่งมันก็ทำให้ครบครัวเซลตันนั้นเป็นครอบครัวที่มีอำนาจมากที่สุดในซานฟราน แต่มันก็ยังมีแก๊งถังที่มีอำนาจอยู่ในระดับเดียวกับครอบครัวเซลตันด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ก็มีแค่แก๊งชาวเม็กซิกันที่มีจำนวนคนอยู่เยอะมากที่สุด ทว่าพวกเขานั้นไม่ได้อยู่รวมตัวกันและแบ่งออกเป็นสามแก๊ง แน่นอนว่าบางครั้งพวกเขาก็ยังลงมือปล้นกันเองด้วย ส่วนในวงการธุรกิจจะมีแก๊งละตินอยู่ราวๆ สี่หรือห้าแก๊งกับแก๊งอื่นๆ มากกว่าหนึ่งโหล ดังนั้นถ้าจะให้สรุปสถานการณ์ที่นั่นก็บอกได้เลยว่ามันวุ่นวายมาก”

ฮาร์ดี้พยักหน้าหลังฟังจบ

ในฐานะที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในชายฝั่งตะวันออก เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะมีกองกำลังทับซ้อนกัน

“ฉันได้บอกให้เฮนรี่และคนอื่นๆ ไปหาที่กบดานของหัวหน้าครอบครัวเซลตันแล้ว และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาก็ส่งข่าวมาว่าหาเจอเรียบร้อย มันกลับกลายเป็นพวกเขานั้นเดินทางไปทั่วอเมริกาใต้ก่อนจะไปซ่อนตัวที่ฟลอเรนซ์ อิตาลีที่คฤหาสน์ส่วนตัวของเขา ” ฮาร์ดี้กล่าว

“แล้วจะให้ฉันทำอะไร? ส่งคนไปฆ่าเขาเลยดีไหม?” บิลถาม

ฮาร์ดี้ส่ายหัวของเขา “มันโจ่งแจ้งเกินไป ฉันได้บอกให้เฮนรี่รายงานเรื่องนี้ให้กับเอฟบีไอแล้ว ซึ่งเอฟบีไอก็บอกว่าจะแจ้งตำรวจอิตาลีจับกุมตัวคนร้ายนี้ให้ แต่ฉันเดาว่าตำรวจอิตาลีน่าจะปล่อยตัวเขาไปแน่ๆ เราก็เลยจะใช้ช่วงเวลานี้ปล่อยให้ข่าวลือแพร่ออกไปว่าหัวหน้าคนที่สองของครอบครัวเซลตันได้รายงานกับเอฟบีไอว่าหัวหน้าครอบครัวคนแรกนั้นกบดานอยู่ที่ไหน แล้วนายลองคิดดูสิว่าพวกเขาจะทะเลาะกันเองหรือเปล่า?”

“ฉันคิดว่าไม่เหลือ” บิลพยักหน้าอย่างแรง

ฮาร์ดี้กล่าวต่อว่า “และไม่ว่าตระกูลเซลตันจะตายหรือไม่ก็ตาม แต่ยังไงในซานฟรานซิสโกจะต้องมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แล้วเมื่อถึงตอนนั้นฉันก็จะให้บริษัทรักษาความปลอดภัยร่วมมือกับตำรวจเข้าจับกุมครอบครัวเซลตันในนามของผู้รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย แน่นอนว่าหลังจากที่เรายึดดินแดนของพวกเขาได้แล้ว ถึงตอนนั้นมันก็จะไม่มีครอบครัวเซลตันอีกต่อไป”

บิลรู้สึกตื่นเต้นมาก

สมกับเป็นบอสจริงๆ ที่คิดได้ขนาดนี้ แน่นอนถ้าหากพวกเขาไม่ตายมันก็เท่ากับว่าพวกเขานั้นมีโชคที่สูงเสียดฟ้าจริงๆ

“แต่ยังไงก็ตามให้ติดต่อไปหาแก๊งถังล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะเรานั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแก๊งถังในลอสแอนเจลิส เราอย่าให้พวกเขารู้สึกไม่ดีในซานฟรานซิสโก และในอนาคตเราก็ยังสามารถทำธุรกิจกับพวกได้อีก” ฮาร์ดี้กล่าว

“เข้าใจแล้ว” บิลพยักหน้า

ยังไงมันก็ดีกว่าถ้าชาวจีนนั้นไม่โจมตีบริษัทแอลเอตอนที่พวกเขานั้นกำลังเข้ายึดสถานที่ แถมมันก็เป็นการเตือนที่จะไม่ให้แก๊งอื่นๆ เข้ามาใกล้ด้วย 

ตราบใดที่มีเวลาสักหน่อยบริษัทแอลเอก็จะสามารถตั้งหลักในซานฟรานซิสโกได้มั่นคง

“บอส แล้วพวกมาเฟียกลุ่มอื่นๆ จะมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่?” บิลถาม

“เรื่องนั้นฉันคิดแผนไว้แล้วว่ายังไงครอบครัวเซลตันก็เป็นเพื่อนที่ดีกับครอบครัวบาซินี่และตาตาลยา แต่กับครอบครัวมาเฟียอื่นๆ นั้นพวกเขากำลังลงทุนร่วมกับฉันสร้างคาสิโนเดอะเวเนเชี่ยนขึ้นมา ดังนั้นครั้งนี้ฉันก็อยากเห็นว่าคณะกรรมการมาเฟียจะมีปฏิกิริยาอะไรกับครอบครัวอื่นๆ แล้วจะทำยังไงกัน”

“บางทีหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปมันก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในคณะกรรมการมาเฟียก็ได้…ซึ่งฉันก็อยากเห็นมันมากจริงๆ ว่าจะเป็นยังไงต่อไป” ฮาร์ดี้พูดอย่างเย้ยหยัน

บิลมองไปที่บอสของเขาและก็คิดว่าบอสของเขานี้คิดอะไรออกมาได้เยอะมากจริงๆ 

แต่เขาไม่กลัวว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าบ้างเหรอ?

โอ้ หรือไม่บอสของเขาก็อาจจะบ้าอยู่แล้ว…

ฮาร์ดี้มองไปที่บิล “นายมองอะไร?”

บิลตกใจก่อนจะแสดงสีหน้าโง่ๆ ออกไป และยิ้มให้ฮาร์ดี้อย่างไว

“ข้อสองจะเป็นงานที่จะทำเงินให้กับนาย” ฮาร์ดี้กล่าว

เมื่อบิลได้ยินว่ามีหนทางทำเงิน ร่างกายของเขาก็ดูเต็มไปด้วยพลังทันที

“บอส ธุรกิจประเภทไหน?”

“ถอนขนแกะ”

บิลชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยิน เพราะเขาไม่รู้ความหมายของมันนั้นเอง…

ฮาร์ดี้หยิบฝาขวดของโคคาโคล่าจากบนโต๊ะขึ้นมา “เมื่อเร็วๆ นี้โคคาโคล่าได้เปิดตัวกิจกรรมสะสมรางวัลแลกของจากฝาขวดขึ้นมา”

บิลหยิบฝาขวดขึ้นมาก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ฉันได้เห็นโฆษณาแล้ว ตัวโฆษณาระบุว่าต้องเก็บสะสมฝา 12 ฝาเพื่อแลกกับ 1 ดอลลาร์ แล้วมันก็มีลูกน้องของผมคนหนึ่งชอบที่จะทำสิ่งนี้มาก โดยถ้ามีคนดื่มโค้กเมื่อไหร่เขาก็จะรีบไปขอมาเก็บทันที พร้อมกับพูดว่าที่ทำสิ่งนี้ก็เพื่อเอาไว้แลกเงิน”

“แต่ไอ้กร๊วกคนนั้นไม่ได้ต้องการเงินหรอก เขาก็แค่ชอบที่จะสะสมมันแค่นั้นเอง”

“แล้วนายเห็นช่องทางทำเงินกับมันไหม?” ฮาร์ดี้ถาม

“ช่องทางทำเงิน? หือ ช่องทางอะไรนะ?”

บิลรู้สึกสับสนมาก เพราะฝาขวดมันมีโอกาสทำเงินด้วยเหรอ?

“โค้กหนึ่งขวดเท่ากับ 5 เซ็นต์ 12 ขวดก็เท่ากับ 0.6 ดอลลาร์เท่านั้น แล้วลองคิดดูถ้าเราเก็บได้ 12 ฝาเราก็สามารถเอาไปแลกกับเงินหนึ่งดอลลาร์ได้ และโคคาโคล่าจะต้องเสียเงินกับกิจกรรมนี้เท่าไหร่กัน?”

บิลก็คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง

“มันก็จริงกับการที่โคคาโคล่าทำแบบนี้พวกเขาไม่สูญเสียเงินเหรอ?”

ฮาร์ดี้หยิบฝาขวดขึ้นมาก่อนพูดว่า “มันมีทริคบางอย่างอยู่นะสิ สำหรับกิจกรรมนี้ที่โคคาโคล่าบอกว่าต้องเก็บสะสมฝาดวงดาวเพื่อเอามาแลกกับ 1 ดอลลาร์ ซึ่งความจริงนั้นพวกเขาได้ควบคุมการออกรางวัลโดยการจำกัดจำนวนฝาขวดไว้สองรูปแบบ “

บิลกลอกตาราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา

“งั้นก็แสดงว่าการผลิตฝาขวดนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรนะสิ? ถ้าอย่างนั้นเราก็ตั้งโรงงานผลิตฝาขวดเลียนแบบกลุ่มดาวของโคคาโคล่าขึ้นมาและนำพวกมันออกไปขายอย่างลับๆ ฮ่าๆ คิดดูสิมันจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ขนาดไหน?”

บิลยังคงฉลาดมากสำหรับวิธีการทำเงินแบบนี้

“และเราจะทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ในลอสแองเจลิสเท่านั้น แต่จะขยายไปยังเมืองอื่นๆด้วย โดยพวกเราก็แค่ส่งคนของเราไปขายตามจุดอื่นๆ ที่พวกนักเลงท้องถิ่นอาศัยอยู่ และตราบใดที่เราผลิตออกมาได้มากๆ ธุรกิจนี้ก็จะมีกำไรมหาศาลอย่างแน่นอน”

“บอส ฉันเข้าใจว่าถอนขนแกะหมายถึงอะไร มันก็คือการถอนขนของบริษัทโคคาโคล่านี้เอง!” บิลพูดอย่างตื่นเต้น

“ใช่ นั่นแหละคือความจริง แต่แน่นอนว่าเราจะต้องทำแบบลับๆ และบริษัทแอลเอของเรานั้นจะไม่ได้เป็นคนเริ่มขาย แต่จะเป็นการแอบขายส่งออกไป ซึ่งของบางอย่างก็จะถูกปล่อยให้กับพวกอันธพาลล่างๆ ที่เมืองอื่นๆ เท่านั้น” ฮาร์ดี้กล่าว

“ฉันเข้าใจดีว่าอันธพาลข้างถนนนั้นสามารถทำเงินได้แค่ไม่กี่ดอลลาร์ต่อวัน และถ้าหากมีโอกาสทำเงินแบบนี้ พวกเขาก็น่าจะกระตือรือร้นมากกว่าคนอื่นๆ แน่นอน” บิลยิ้ม

ฮาร์ดี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นด้วยวิธีนี้นายจะต้องไปหาคนทำฝาขวดแบบลับๆ โดยให้ผลิตราศีเมถันกับกันย์อย่างละ 10 ล้านฝาออกมาและให้ทำการล้างบางทุกอย่าง อย่าให้เหลือร่องรอย พร้อมกับนำฝาขวดพวกนี้ไป ใส่ขวดที่เมืองท้องถิ่นรอบๆ ก่อนจะส่งไปยังเมืองใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาในครึ่งเดือนภายหลัง เมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะเริ่มขาย”

“ทำไมต้องทำแบบนั้นละ?” บิลประหลาดใจ

“ด้วยวิธีนี้มันจะไม่มีรากให้ขุดและจะไม่มีใครสามารถติดตามแหล่งที่มาของฝาขวดนี้ได้” ฮาร์ดี้กล่าว

“เข้าใจแล้วบอส” บิลจากไปอย่างมีความสุข

ฮาร์ดี้ดื่มเครื่องดื่มจากแก้วของเขา

ซึ่งสำหรับฮาร์ดี้การใช้การวิธีนี้นั้นถือว่าเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งเท่านั้น และจุดประสงค์หลักของเขาก็คือการเอาชนะโคคาโคล่า

ถึงโค้กหนึ่งขวดจะมีราคาแค่ 5 เซ็นต์ และหนึ่งเซ็นต์ก็สามารถผลิตฝาขวดออกมาได้ 10 ฝา ซึ่งสำหรับการผลิตฝาขวด 20 ล้านขวดนั้นมีมูลค่าเพียง 20,000 ดอลลาร์เท่านั้น แต่เพียงแค่นี้มันก็สามารถทำอันตรายกับโคคาโคล่าได้แล้ว

แล้วในตอนแรกมันก็จะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้หรอก แต่ถ้าหากมีการแลกเปลี่ยนเยอะขึ้น มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะพบปัญหานี้ แน่นอนว่าพวกเขานั้นมีอยู่สองตัวเลือกคือหนึ่งหยุดกิจกรรมแลกรางวัลทันทีเพื่อที่จะยุติการสูญเสียได้ทันเวลา

ซึ่งจากวิธีนี้ชื่อเสียงของโคคาโคล่าจะได้รับผลกระทบอย่างมาก

ส่วนอีกวิธีก็คือการกัดฟันสู้ แน่นอนว่าวิธีนี้จะใช้เงินเยอะอย่างมาก และฮาร์ดี้ก็คิดว่าเป็นไปน้อยที่พวกเขาจะใช้วิธีนี้ เพราะมันต้องใช้เงินเยอะแล้วมันก็จะเป็นการแปลกเปลี่ยนกำไรทั้งหมดของโคคาโคล่าเป็นเวลาหลายปี

ถึงแม้ผู้บริหารเหล่านี้อยากจะทำแค่ไหน แต่เหล่าผู้ถือหุ้นก็คงจะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

แล้วไม่ว่าโคคาโคล่าจะเลือกวิธีไหนผลลัพธ์สุดท้ายก็คือกิจกรรมนี้จะต้องหยุดลงอย่างแน่นอน และเขาก็กลัวว่าโคคาโคล่าคงจะไม่กล้าทำกิจกรรมแลกรับรางวัลใดๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน

พวกเขาจะต้องถูกดึงลงเหว

และธุรกิจก็จะได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอน ซึ่งมันก็ไม่รู้ว่าพวกเขานั้นจะต้องใช้พลังกับเงินแค่ไหนสำหรับการกู้คืนการสูญเสียในอนาคต

ถึงฮาร์ดี้จะเคลื่อนไหวได้หยาบคายมากแค่ไหน

แต่อย่าลืมว่านี่คือการแข่งขันทางธุรกิจ

เขาคิดถึงกิจกรรมการแลกรางวัลของเป๊ปซี่อีกครั้งและบางทีมันก็อาจจะมีบางคนอาจใช้ฝาขวดปลอมมาโกงรางวัล ฮาร์ดี้จึงกลับไปเตือนไมค์และบอกให้เตรียมตัวตรวจสอบการปลอมแปลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียด้วย

Leave a Comment

ไม่ดี!