ตอนที่ 207 คิดจะเป็นป๋านะมันไม่ง่าย
หลังจากเสร็จเรื่องคุยกับวอลเตอร์ไมค์ พร้อมกับที่เขาจัดการเรื่องในซานฟรานซิสโกเรียบร้อยแล้ว
ฮาร์ดี้ก็กำลังจะกลับไปที่ลอสแอนเจลิส
ส่วนรายละเอียดที่เหลือจะเป็นเรื่องของคนของเขาโดยแอนดี้จะจัดการมันทีหลัง
…
หลังจากกลับไปที่ลอสแองเจลิสฮาร์ดี้ก็โทรเลขหาวิคเตอร์ซึ่งอยู่ในฮ่องกง พร้อมกับบอกเขาว่าจะมียาจัดส่งไปที่นั่นในเร็วๆ นี้
วิคเตอร์โทรเลขกลับมาทันทีว่าเขาจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด แต่อันที่จริงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายาที่ส่งมานี่จะส่งมาเท่าไหร่…
โดยในครั้งนี้หนึ่งลังนั้นจะมีเพนิซิลลินอยู่ 1,200 ขวดและของที่ส่งไปครั้งนี้ก็จะมีมากถึง 80 ลังหรือมากกว่า 100,000 ขวดนั้นเอง
ซึ่งมันก็จะไปอยู่ในมุมเล็กๆ มุมหนึ่งที่ไม่โดดเด่นอะไร แต่ยังไงก็ตามการจัดส่งของไปฮ่องกงครั้งนี้นั้นมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
…
คริสมาสกำลังมาถึงแล้ว
หลังจากโปรโมท ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก’ ไปได้หนึ่งเดือนมันก็ถึงเวลาออกฉายอย่างเป็นทางการ
ซึ่งมันก็ตรงกับคริสต์มาสที่จะถึงพอดี และเขาก็ยังไม่อยากทำอะไรในช่วงเวลานี้
แต่สองสามวันก่อนที่ฮาร์ดี้จะกลับไปลอสแองเจลิสภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว และเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเป็นไปได้ด้วยดี สถานีโทรทัศน์จึงออกอากาศภาพยนตร์เรื่องนี้ทันทีจนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลเมื่อออกฉาย
เอ็มจีเอ็มก็เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำเงินได้หลายสิบล้านดอลลาร์
มันเลยเป็นเหตุให้ไฮดี้รามาโด่งดังขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งในอดีตไฮดี้รามานั้นก็โด่งดังอยู่แล้วแต่ผู้คนก็จะมองเธอเป็นแค่หญิงสาวนักแสดงที่มีหุ้นอันสวยงามเท่านั้น
เพราะต่อมาเธอนั้นไม่ได้มีผลงานที่โด่งดังอะไรจนเธอค่อยๆ ถูกลืมไปนั่นเอง
แต่เมื่อปีที่แล้วเธอก็ได้ขึ้นปกเพลย์บอยเลยเป็นเหตุให้ไฮดี้รามากลับมาอยู่ในสายตาของผู้คน แถมในเวลานี้ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghost)’ กำลังออกฉายไฮดี้รามาก็ได้กลับมาแจ้งเกิดในจิตใจของผู้คนอีก
นักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายคนก็ชื่นชมไฮดี้รามาอย่างมาก พวกเขาพูดว่าทักษะการแสดงของเธอนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์และมีความธรรมชาติ และยังบอกอีกว่าเธอนั้นมีหวังที่จะได้เข้าแข่งขันชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้
สำหรับนักแสดงชายเรแกนพวกเขาก็ยังชื่นชมไปในทิศทางบวกเช่นกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าเรแกนก่อนหน้านี้นั้นเป็นนักแสดงรองเท่านั้นและเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเขากลายเป็นนักแสดงชั้นนำแนวหน้าทันที
ฮาร์ดี้ไปหาเรแกนเพื่อฟังเขาพูดเกี่ยวกับสหพันธ์นักแสดง พร้อมกับที่ถามเขาว่าจะทำงานที่นี่ต่อหรือจะไปโฟกัสกับงานนักแสดง
ซึ่งเรแกนก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “คุณฮาร์ดี้ผมอยากจะทำงานที่สหพันธ์นักแสดงต่อไป และก็หวังว่าคุณจะไม่ว่าอะไรผม”
“แล้วนายไม่กลัวที่จะเสียอาชีพนักแสดงของนายไปเหรอ? ตอนนี้นายก็กำลังมีชื่อเสียงอย่างมากและยังได้เงินเยอะกว่าการเป็นผู้ช่วยแบบนี้อีก” ฮาร์ดี้กล่าว
เรแกนส่ายหัว “หลายคนชอบวิจารณ์ทักษะการแสดงของคนนี้ดีไม่ดี ซึ่งในความเป็นจริงทุกอย่างมันจะอยู่ที่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์นั้นๆ มากกว่า ไม่อย่างนั้นทำไมนักแสดงบางคนถึงแสดงได้ดีในบางเรื่องและเรื่องต่อไปกับทำได้ไม่ดีล่ะ? คิดว่ามันเป็นเพราะทักษะการแสดงของเขาเหรอ? ไม่ใช่เลยมันอยู่ที่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์นั้นๆ ต่างหาก”
“ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากที่นักแสดงคนหนึ่งจะได้พบบทดีๆ ในช่วงชีวิตของเขา ถึงจะมีบางคนที่โชคดีได้บทดีๆ มา แต่ส่วนมากจะไม่ได้มีความโชคดีเลยต่างหาก และผมก็แสดงภาพยนตร์มานานกว่า 10 ปีจนได้มาแสดงภาพยนตร์ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก’ บทบาทนี้ก็ทำให้ผมพอใจกับมันมากแล้ว ดังนั้นในอนาคตผมก็เลยอยากจะทำสิ่งอื่นๆ มากกว่า”
ดูเหมือนว่าชายคนนี้คงจะหลุดจากวงการการเมืองไม่ได้สินะ
แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะบางที่เวลาหรือโชคชะตาก็จะเป็นคนกำหนดทางเดินให้เอง
ฮาร์ดี้ติดต่อไปหาไฮดี้รามา และหลังจากที่หญิงสาวคนนี้รู้ว่าฮาร์ดี้กลับมาแล้ว เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ฮาร์ดี้ฉันยังไม่ได้ไปดูภาพยนตร์เลย เพราะฉันนั้นรอที่จะไปดูกับคุณอยู่ และก็หวังว่าคุณจะไปดูภาพยนตร์กับฉันได้คุณพอมีเวลาไหม?”
“แน่นอนว่าผมมีเวลาอยู่แล้ว”
ฮาร์ดี้ไปรับไฮดี้รามาเพื่อไปดูภาพยนตร์ที่เธอแสดง
โดยเธอนั้นใช้ผ้าพันคอปิดหน้าไว้และเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์กับฮาร์ดี้
แล้วก็ต้องบอกก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในโรงมาหนึ่งสัปดาห์ แต่อัตราการเข้าชมก็ยังมากถึง 80% และตอนที่ภาพยนตร์นี้ฉายอยู่ไฮดี้รามาก็จับมือของฮาร์ดี้ไว้ตลอดเวลา
ในช่วงท้ายของภาพยนตร์ก็มีคนลุกขึ้นปรบมือ พร้อมกับที่คนอื่นๆ ปรบมือตามไปจำนวนมากทันที
ซึ่งผู้คนก็ยังพูดคุยเกี่ยวกับบทในตอนท้ายของภาพยนตร์อีกด้วย
“มันเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมาเลย แล้วฉันก็หวังว่าตัวเองจะได้พบกับคนรักแบบนั้น พร้อมกับได้ปกป้องเธอแม้ว่าตัวเองจะตายไปแล้วก็ตาม”
“ทักษะการแสดงของไฮดี้รามานั้นดีมาก แต่ก่อนฉันก็คิดแค่ว่าเธอนั้นมีแค่ร่างกายที่สวยดูดีเท่านั้น เวลานี้ฉันรู้แล้วว่าทักษะการแสดงของเธอก็โดดเด่นไม่แพ้กัน”
“ฉันจะต้องมาดูมันอีกครั้งอย่างแน่นอน”
“งั้นอีกสองวันเรามาดูด้วยกันไหม?”
ฮาร์ดี้และไฮดี้รามาเดินไปขึ้นรถ พร้อมกับที่เธอนั้นจับมือของฮาร์ดี้อยู่ตลอดเวลาและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความหลงใหล “ฮาร์ดี้ ฉันขอไปคฤหาสน์ของคุณได้ไหม?”
ฮาร์ดี้พยักหน้าเล็กน้อย
ในห้องห้องหนึ่ง
ที่เตียงใหญ่
มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจ้ำจี้กันอย่างดุเดือด
ซึ่งไฮดี้รามาก็ระบายความตื่นเต้นทั้งหมดของเธอออกมาด้วยวิธีนี้ เพราะเธอรอมานานมากแล้วสำหรับวันนี้
และเธอก็รู้สึกมีความพึงพอใจอย่างมากทั้งทางจิตใจกับร่างกาย
หลังจากสงครามอันดุเดือดจบลง
ฮาร์ดี้ก็ลุกขึ้นไปหยิบกล่องเครื่องประดับจากลิ้นชักออกมา และเปิดมันยื่นไปด้านหน้าของไฮดี้รามา “นี่เป็นของขวัญคริสต์มาสสำหรับเธอ”
“ว้าว ~ สวยจังเลย”
ในกล่องเครื่องประดับนั้นมีต่างหูเพชรอันสวยงามอยู่ 1 คู่
ตรงกลางนั้นก็คือเพชรขนาดใหญ่ประมาณสามกะรัต พร้อมกับรอบๆ ล้อมไปด้วยเพชรขนาดเล็ก
ซึ่งมันก็ดูคล้ายกับดอกทานตะวันและขนาดก็ประมาณเหรียญเล็กๆ ที่กำลังส่องแสงสีสันออกมาดูงดงาม
เมื่อมองครั้งแรกก็จะเห็นเลยว่าสะดุดตาแค่ไหน
โดยในคลังสมบัติของฮาร์ดี้ตอนที่ได้รับโรงกลั่นไวน์ในฝรั่งเศสมานั้นจะมีกองเพชรและอัญมณีต่างๆ อยู่ด้วย
วันหนึ่งฮาร์ดี้ก็นึกถึงพวกมัน เขาก็เลยหาบริษัททำเครื่องประดับระดับโลกมาออกแบบและปรับแต่งชุดเครื่องประดับเหล่านี้
เพราะยังไงถ้ามันอยู่เฉยๆ และไม่ได้ใช้อะไรมันก็จะกลายเป็นสูญเปล่า
ฮาร์ดี้หยิบต่างหูขึ้นมาและพลิกมัน ซึ่งไฮดี้รามาก็เห็นชื่อย่อของเธอจางๆ ภายใต้แสงไฟ
มันก็เลยทำให้เธอตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เธอจึงเข้าไปกอดฮาร์ดี้และจูบเขาอย่างรุนแรง
วันต่อมา
ฮาร์ดี้ก็ไปหาฮันเยจิน โดยฮันเยจินนั้นกำลังจะกลับไปที่ซานฟรานซิสโกเพื่อไปอยู่กับพ่อแม่เนื่องในวันคริสต์มาสที่จะถึงนี้
ฮาร์ดี้ก็ยิ้มแล้วพูดกับเธอว่า “ถ้าเธอจะไปเอง มันน่าจะนานเกินไป”
“เดี๋ยวฉันพาเธอบินไปเองดีกว่า”
เมื่อเขาพูดจบเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 ก็ออกจากสนามบินทันที
บนเครื่องบินฮันเยจินมองไปที่เตียงใหญ่และพูดว่า “คุณน่าจะสนุกกับที่นี่จริงๆ แล้วปกติคุณก็นอนบนเครื่องบินเหรอ?”
“ก็เที่ยวบินจากระยะไกลมันเหนื่อยมาก ดังนั้นมันก็เลยสะดวกสบายกว่าถ้ามีเตียงอยู่ที่นี่”
หลังจากพูดจบเขาก็พาฮันเยจินไปนั่งบนเตียงด้วยกัน
และฮันเยจินก็รู้สึกอายมากเมื่ออยู่ใกล้ฮาร์ดี้
“นี่เป็นของขวัญให้เธอสำหรับวันคริสต์มาส และฉันก็หวังว่าเธอจะมีความสุข” ฮาร์ดี้หยิบกล่องหนึ่งออกมามอบให้กับฮันเยจิน
ฮันเยจินรับและเปิดกล่องออก
ด้านในนั้นเป็นสร้อยคอทองคำขาวที่ดูละเอียดอ่อนและดูบอบบาง พร้อมกับจี้ทับทิมอันสวยงามที่ตัดเป็นรูปหยดน้ำราวๆ 6 กะรัต
คำนิยามของมันก็คือเรียบง่ายและสง่างาม
“สวยมากเลย!”
ยังไงฮันเยจินก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มันจึงไม่แปลกที่เธอจะสนใจเครื่องประดับสวยๆ เหล่านี้
“ให้ฉันใส่ให้เธอได้ไหม?”
“หือ?”
ฮาร์ดี้เก็บผมของฮันเยจินและหยิบสร้อยคอมาสวมให้เธอ ซึ่งเวลานี้ที่รอบคอของเธอนั้นจะมีสร้อยอันสวยงามและอัญมณีทรงหยดน้ำอยู่ตรงหน้าอกของเธอ
“เธอชอบไหม?”
“ชอบมากเลย”
ทั้งสองสบตากันและก็ค่อยๆ เข้าหากันช้าๆ
ริมฝีปากของทั้งสองขบกันเบาๆ พร้อมกับที่รุนแรงขึ้น
ทันใดนั้นเครื่องบินก็สั่นสะเทือนจากการตกหลุมอากาศจนทำให้ทั้งสองทรุดตัวลงบนเตียงใหญ่
อย่าเข้าใจกันผิดล่ะ
นี่นะไม่ใช่การสั่นสะเทือนของกล้องเลยสักนิด
…
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโกในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
แล้วฮาร์ดี้ก็บอกลาฮันเยจินเพราะเขานั้นไม่ได้ลงจากเครื่องบินไปกับเธอด้วย และมันจะมีคนมารับเธอไปเอง
ซึ่งที่นี่ก็มีเครื่องบินเต็มไปหมดแล้วแทนที่เขาจะกลับไปที่ลอสแอนเจลิส เขากลับบินตรงไปนิวยอร์กเพราะเขากำลังจะไปหาเอวาการ์ดเนอร์
เวลานี้การถ่ายทำ ‘Across he World’ กำลังจะจบลงแล้ว และทีมงานก็กำลังถ่ายทำฉากสุดท้ายในนิวยอร์ก
เอวาก็เลยโทรมาบอกฮาร์ดี้ว่าเธอนั้นไม่สามารถใช้เวลาช่วงคริสต์มาสกับเขาได้
มันทำให้เธอรู้สึกเสียใจและก็เศร้ามาก…
ก๊อกๆๆ
ประตูห้องพักของโรงแรมเอวาถูกเคาะ
“ใครเหรอ?”
เอวาเปิดประตูออกไปดูและก็ได้เห็นช่อดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าเธอ พร้อมกับชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง และเขาก็โดนช่อดอกไม้ขนาดใหญ่บังไว้ทำให้เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขา
เอวาขมวดคิ้วเล็กน้อย และเธอก็คิดว่าน่าจะเป็นแฟนคลับของเธอที่ทำแบบนี้
แต่ดอกไม้ก็ค่อยๆ เลื่อนลงช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฮาร์ดี้
“อ่า!”
เอวากรีดร้องอย่างตื่นเต้นและรีบวิ่งไปที่ชายคนนี้ทันที
“ฮาร์ดี้! ฉันคิดถึงคุณมากเลย!”
“ฉันก็เหมือนกัน และก็สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ”
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับประตูที่ค่อยๆ ปิดลง
แขกคนอื่นๆ ที่พักอยู่ที่นี่ได้ยินเสียงกรีดร้อง พวกเขาก็มีความอยากรู้อยากเห็นและเปิดประตูเพื่อออกมาตรวจสอบสถานการณ์
แล้วพวกเขาก็ได้เห็นชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำพร้อมกับแว่นกันแดดยืนอยู่ที่หน้าประตูของเอวาการ์ดเนอร์
กลางคืน
ฮาร์ดี้พาเอวาไปร้านอาหารชื่อดังในนิวยอร์ก ซึ่งเอวาเวลานี้นั้นสวมชุดราตรีที่สวยงามแสดงให้เห็นรูปร่างอันดูดีของเธอ พร้อมกับสร้อยคอเพชรเม็ดงามที่คอระหงที่ตอนนี้มันช่างเตะตาเหลือเกิน
เมื่อเอวาเดินเข้าไปในร้านอาหารมันก็ดึงดูดความสนใจทั้งผู้ชายผู้หญิงที่นี่ทันที
ซึ่งหลายคนก็จำเอวาได้
เพราะยังไงยอดขายของเธอก็พุ่งไปหลายล้านชุดแล้ว และในความคิดของผู้คนตอนนี้เธอก็เป็นนักร้องอันดับต้นๆ ในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว
แถมสถานีโทรทัศน์เอบีซีก็ออกอากาศทุกวันและเอวาก็เป็นแขกรับเชิญบ่อยครั้งด้วย
แล้วดูผู้ชายคนนั้นที่ยืนข้างๆ กันสิ
ช่างเป็นหนุ่มหล่อเหลือเกิน
ใครบางคนที่ไม่รู้จักฮาร์ดี้ก็กระซิบกับเพื่อนของเขาว่า “นี่คุณเอวาการ์ดเนอร์คงไม่ใช่คนรักของไอ้หน้าขาวคนนี้หรอกใช่ไหม?”
เพื่อนของเขาเหลือบมองด้วยความดูถูก “นั่นคือคุณทอมฮาร์ดี้เจ้าของบริษัทเอบีซี และหนังสือพิมพ์รายงานเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเขาได้ซื้อกิจการเวลส์ฟาร์โกทำให้ตอนนี้ทรัพย์สินของเขาน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์”
“หลายร้อยล้านดอลลาร์จริงเหรอ?”
แม้ว่าทุกคนที่เข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้จะมีความมั่งคั่งอยู่บ้าง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมหาเศรษฐีพวกเขาก็ยังถือว่าตามหลังอยู่มาก
และการที่ผู้ชายคนนี้มีหญิงสาวสวยๆ ทุกๆ คนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
เอวานั่งลง และก็สัมผัสสร้อยที่คอของตัวเอง
เมื่อคืนที่ฮาร์ดี้นั้นหยิบสร้อยคอออกมา เธอก็กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น และหลังจากที่ฮาร์ดี้ช่วยสวมมันให้เธอก็รีบวิ่งไปที่กระจกทันทีเพื่อถ่ายรูป
ที่กระจกสูงจรดเพดาน
มีร่างเปลือยที่สมบูรณ์แบบของหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าท้องแบนราบ ต้นขาเรียวยาว หน้าอกขนาดใหญ่ที่ทำให้เธอดูเหมือนรูปปั้นของวีนัส
แล้วเมื่อทั้งสองจะออกไปรับประทานอาหารที่นอกบ้าน เอวาก็จงใจสวมชุดราตรีและออกมาพร้อมกับสร้อยคอ
ซึ่งจริงๆ ในเวลานี้นิวยอร์กอยู่ในช่วงเวลาคริสต์มาสและมันก็หนาวมาก
แต่มันก็ไม่สามารถหยุดความกระตือรือร้นของผู้หญิงได้หรอก
วันต่อมา
ฮาร์ดี้ก็กลับไปที่ลอสแอนเจลิสที่เวลานี้มันเป็นวันคริสต์มาสอีฟพอดี
อิริน่าเดินออกมาจากตึกสถานีโทรทัศน์หลังจากเลิกงานแต่เธอก็ถูกหยุดโดยชายในชุดสูทที่หน้าประตู “คุณเอเลนครับ บอสของเราขอเชิญคุณไปยังที่แห่งหนึ่ง”
อิริน่าจำได้ว่านี่คือบอดี้การ์ดของฮาร์ดี้เธอก็เดินขึ้นรถไปกับเขา และพวกเขาก็พาเธอไปที่บ้านสองชั้นที่เงียบสงบในเบเวอร์ลี พร้อมกับที่ไฟในห้องยังเปิดอยู่
อิริน่ามองไปที่บอดี้การ์ดและบอดี้การ์ดก็ยิ้มให้กับเธอ “บอสกำลังรอคุณอยู่ข้างในครับ”
อิริน่าเปิดประตูเข้าไปด้วยความประหลาดใจ
เธอเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับรอยยิ้ม และเสียงฟืนแตกในเตาผิงที่ทำให้ห้องนี้อบอุ่นมากๆ
ฮาร์ดี้โบกให้อิริน่า พร้อมกับที่อิริน่ารีบวิ่งไปหาฮาร์ดี้ทันที
“ที่นี่คือที่ไหนหรือคะ?”
อิริน่านั่งอยู่ข้างๆ ฮาร์ดี้และจับแขนของชายคนนั้นไว้
“นี่เป็นของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเช่าบ้านในอนาคตยังไงละ” ฮาร์ดี้ยิ้ม
อิริน่าปิดปากด้วยความประหลาดใจ “บ้านของฉันเองเหรอ? โอ้พระเจ้า มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ แล้วเธออยากจะเดินเยี่ยมชมบ้านของเธอเลยไหม?”
“เย้! ดีเลย”
บ้านหลังนี้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก มันมีสองชั้นและมีพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร พร้อมกับลานเล็กๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูเหมือนคฤหาสน์ที่เบเวอร์ลีมากนักแต่การตกแต่งภายในนี้ก็อบอุ่นมาก
อิริน่าชอบมันมากจริงๆ
คืนนั้น
ทั้งสองก็ทดสอบความแน่นของเตียงอย่างลึกซึ้ง
และหลังจากอาบน้ำ
ฮาร์ดี้ก็หยิบกล่องๆ หนึ่งออกมา โดยในนั้นมันมีเข็มกลัดเพชรที่ถูกแกะสลักไว้ด้วย
“ฉันจับได้ว่าเธอเกิดช่วงราศีเมษก็เลยทำสิ่งนี้ให้เธอเป็นพิเศษ”
อิริน่าจึงโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น
…
คริสต์มาสอีฟมาถึงแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามมันไม่มีหิมะในลอสแอนเจลิสเลย
แถมปู่คริสต์มาสหรือซานตาคอสก็ไม่ได้มามีแต่ฮาร์ดี้ที่มาหาเอลิซาเบธเทย์เลอร์ และพาเธอไปช้อปปิ้งอย่างสนุกสนาน พร้อมกับพาไปวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นอีกครั้ง
โดยทั้งสองนั้นได้เดินไปเล่นสเกตที่ตั้งอยู่ในสนามเด็กเล่น ซึ่งเทย์เลอร์นั้นก็ล้มลงในอ้อมแขนของฮาร์ดี้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน…
เมื่อถึงตอนเย็นฮาร์ดี้ก็พาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ และหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จทั้งสองก็นั่งอยู่ที่ลานบ้านเพื่อดูพลุ เพราะคืนนี้จะมีการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง
เมื่อถึงเวลาที่ดอกไม้ไฟบานสะพรั่งบนท้องฟ้าเขาก็คิดว่ามันช่างสวยงามจริงๆ
คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาวทั้งสองก็เลยห่อตัวเองด้วยผ้านวม โดยเทย์เลอร์นั้นหดตัวอยู่ในอ้อมแขนของฮาร์ดี้และเธอก็ชอบความรู้สึกแบบนี้มากจริงๆ
“คุณฮาร์ดี้ หนูจะอายุ 16 ปีแล้วนะคะ” เทย์เลอร์หันไปมองฮาร์ดี้ด้วยดวงตาสีม่วง
“ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเธอก็จะโตขึ้นแล้ว” ฮาร์ดี้จูบแก้มป่องๆ ของเทย์เลอร์ก่อนที่เขาจะหยิบกล่องออกมาจากด้านหลัง
“ของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับเธอ”
เมื่อพูดจบเขาก็เปิดกล่องขึ้นโชว์ให้เห็นของด้านในที่เป็นสร้อยคอไพลิน
ไพลินนี้มีขนาดใหญ่ถึง 10 กะรัตและส่องแสงสีฟ้าที่มีเสน่ห์ออกมา
ซึ่งเทย์เลอร์ก็ชอบสีนี้มากเธอเลยขึ้นไปขี่ฮาร์ดี้ด้วยความตื่นเต้นก่อนจะนอนทาบไปที่หน้าอกของเขาและระดมจูบอย่างรุนแรง
วันนี้พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานมาก
แต่ก่อนจะถึงเที่ยงคืนฮาร์ดี้ก็ต้องพาเทย์เลอร์กลับบ้าน
แล้วเมื่อซาร่าห์ได้เห็นสร้อยคอไพลินของเทย์เลอร์เธอก็อดจะอิจฉาไม่ได้
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของเทย์เลอร์ แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิง แล้วผู้หญิงทุกคนก็ชอบของขวัญที่ได้จากคนรักตัวเองอยู่แล้ว
แต่ถ้าจะเอาต้นแบบอย่างฮาร์ดี้ เขานั้นต้องให้ของขวัญไม่รู้กี่อัน…
ดังนั้นอย่าไปเลียนแบบเขาดีกว่า…
ดีที่มันมีสมบัติเยอะอ่ะนะ
คิดตังก็ได้นะครับ แต่อัพบ่อยๆหน่อย