อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 205 ล็อกฮีด: นายต้องการเครื่องบินไหม? ฮาร์ดี้: ไม่!

ตอนที่ 205 ล็อกฮีด: นายต้องการเครื่องบินไหม? ฮาร์ดี้: ไม่!

ฮาร์ดี้กับเดวิดเมอร์ซี่ย์กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคาสิโน ซึ่งสิ่งที่เมอร์ซี่ย์กังวลมากที่สุดก็คือการไหลเวียนของนักท่องเที่ยวในอนาคต ฮาร์ดี้จึงยิ้มและพูดกับเขาว่า “เรื่องนั้นมันง่ายมาก เพราะเราก็แค่ทำให้ลาสเวกัสเป็นทรวงสวรรค์สำหรับผู้ชายแค่นั้นก็พอแล้ว”

“ทรวงสวรรค์สำหรับผู้ชาย?”

“การพนัน ไวน์ ผู้หญิง การแสดงทุกประเภทนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนชื่นชอบและการที่ลาสเวกัสนั้นมีแต่ความเพลิดเพลินมันก็เหมือนกับเป็นสถานที่ของเหล่าผู้ชายแล้ว”

“ซึ่งลาสเวกัสนั้นจะมีการประกวดนางงาม การประกวดนางแบบชุดชั้นใน การแข่งขันชกมวย การแข่งขันสุนัข การแข่งขันม้า โดยทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก”

เดวิดเมอร์ซี่ย์ยิ้มและพยักหน้า “ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้วฮาร์ดี้”

ฮาร์ดี้หยุดคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไปว่า “เดวิด ฉันมีเพื่อนอยู่ที่ทางตะวันออก และเขาก็บอกว่าที่นั่นกำลังขาดแคลนเพนิซิลลินเป็นจำนวนมาก ซึ่งฉันก็สงสัยว่าจะขอซื้อจากคุณบ้างได้หรือไม่?”

“เวลานี้ยังไงเพนิซิลลินก็ขาดตลาดอยู่แล้ว ถึงจะมีความต้องการเป็นจำนวนมากที่ประเทศจีนและยุโรป พวกเราก็ยังไม่ได้คิดที่จะจัดส่งไปยังประเทศตะวันออกเลย เพราะพวกเขานั้นยากจนเกินไป แต่แน่นอนถ้าเพื่อนของคุณต้องการผมก็ สามารถแบ่งมันให้ได้” เดวิดเมอร์ซี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แล้วคุณสามารถให้ฉันได้มากแค่ไหน?”

เมอร์ซี่ย์คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “เดือนละ 50,000 ขวดดีไหม?”

ฮาร์ดี้คิดอย่างเงียบๆ

ราคาขายส่งของผงผลิตเพนิซิลลินจะอยู่ที่ 200,000 หน่วยต่อ 1 ดอลลาร์ และต่อขวดถ้าขายที่โรงพยาบาลสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 2-3 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ถ้าเขาเอาไปขายให้กับโรงพยาบาลที่อยู่ฮ่องกงมันก็จะอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ต่อขวด ส่วนในตลาดมืดนั้นจะอยู่ที่ 30 ดอลลาร์เลยทีเดียว!

ถ้าเขาได้มาก 50,000 ขวดราคาของมันก็จะเท่ากับ 50,000 ดอลลาร์ และถ้าเขาเอาไปขายให้กับโรงพยาบาลเขาก็จะได้ราวๆ 500,000 ดอลลาร์ แต่ถ้าขายในตลาดมืดเขาก็จะได้ถึง 1.5 ล้านดอลลาร์

กำไรมหาศาล…

“50,000 ขวดนั้นน้อยเกินไป” ฮาร์ดี้กล่าว

เมอร์ซีย์แบมือของเขาอย่างช่วยไม่ได้ “ฮาร์ดี้คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณนั้นเป็นเพื่อนและเป็นหุ้นส่วนของฉัน ถ้าหากคนอื่นมาขอแบบนี้ ฉันก็ไม่มีทางให้กับพวกเขาสักขวดหรอก”

ขณะที่เมอร์ซีย์พูดจบเขาก็โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของฮาร์ดี้ก่อนจะพูดว่า “อีกเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ได้ส่งออกเพนิซิลลินจำนวนมากไปทางตะวันออกนั่นก็เพราะรัฐบาลได้สั่งพวกเราไว้”

ฮาร์ดี้เข้าใจได้ในทันที

ว่าด้วยกลิ่นของการทำเงินขนาดนี้นายทุนเหล่านี้จะไม่รู้มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และมันก็เป็นเพราะข้อจำกัดของรัฐบาลต่างหากที่สั่งห้ามพวกเขาไว้

ซึ่งธุรกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้นก็ทำเงินได้เพียงพอแล้ว หากพวกเขาไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดของรัฐบาลและยังทำการส่งออกไปยังตะวันออก พวกเขาก็อาจถูกลงโทษโดยรัฐบาล ซึ่งไม่คุ้มกับการสูญเสียสำหรับบริษัทยาขนาดใหญ่

“100,000 ขวด ถ้าน้อยไปกว่านี้ งั้นเราก็ไม่ต้องทำธุรกิจนี้กันหรอก” ฮาร์ดี้กล่าว

เมอร์ซี่ย์คิดสักพัก “ตกลง ฉันถือว่ารับปากคุณมาแล้ว”

ฮาร์ดี้ยิ้มและจับมือกับเมอร์ซี่ย์

“เมอร์ซี่ทำไมคุณถึงไม่ไปตั้งโรงงานผลิตยาในตะวันออกล่ะ” ฮาร์ดี้ถาม

เมอร์ซีย์ยิ้ม “ฉันก็เคยมีความคิดมาก่อนเหมือนกัน แต่มันก็ดันไกลเกินไปและตลาดก็ยังไม่ได้เติบโตมากนัก พวกเราก็เลยทำการเปิดตลาดที่อเมริกากับยุโรปเพื่อสร้างรายได้มากกว่า”

“เดวิดเอาอย่างนี้ดีไหม? เรามาร่วมมือสร้างโรงงานผลิตยาในฮ่องกงกันดีกว่า โดยคุณจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีและฉันจะเป็นผู้รับผิดด้านการก่อสร้าง พร้อมกับการขาย แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์แรกคือเพนิซิลลิน” ฮาร์ดี้กล่าว

เมอร์ซี่ย์มองฮาร์ดี้อย่างจริงจัง “คุณมองโลกในแง่ดีมากเกี่ยวกับตะวันออกงั้นเหรอ?”

ฮาร์ดี้พูดเสริมว่า “ผู้คนจำนวนมากกำลังจ้องมองไปที่ตลาดยุโรปกับอเมริกา แต่ตะวันออกนั้นกลับว่างเปล่า และไม่มีผู้คนให้ความสนใจกับมันมากนัก แน่นอนว่าที่นั่นก็มีผู้คนจำนวนมาก แถมประชากรของตะวันออกทั้งหมดเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เทียบเท่าได้กับยุโรปและอเมริการวมกัน ” “

เมอร์ซี่คิดเกี่ยวกับมันอย่างจริงจัง “มันก็ไม่เป็นปัญหาถ้าเราจะร่วมมือกัน และฉันก็ตกลงที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยีการผลิตพร้อมกับรับหุ้นที่ 30% ส่วนที่เหลือคุณก็เอาไปได้เลย”

ยังไงมันก็เหมือนกับการจับเสือมือเปล่า เพราะฮาร์ดี้จะลงทุนด้วยเงินของตัวเองและถ้าบริษัทไม่ทำเงิน ฮาร์ดี้ก็จะเป็นคนเสียเงินไม่ใช่เขา มันก็เป็นเรื่องง่ายที่ให้คนของเขาถอนตัวออกมาด้วย

“ตกลงตามนี้ เดี๋ยวผมจะให้คนของผมติดต่อไปหาเมอร์ซี่ฟาร์มาซูติคอลในภายหลังเอง” ฮาร์ดี้ยิ้ม

อีกหนึ่งธุรกิจขนาดใหญ่

และนี่ก็เป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถ้าคุณได้เข้าร่วมสมาคม เพราะทุกคนที่นี่จะแบ่งทรัพยากรให้คุณและมันก็จะเป็นการที่เติบโตไปด้วยกัน แล้วคิดดูว่าธุรกิจขนาดเล็กจะมาต่อสู้กับพวกเขาได้ยังไง?

ปาร์ตี้ยังคงดำเนินต่อไป

และก็มีชายกลุ่มหนึ่งไปที่สนามกอล์ฟที่หรูหราที่สุดในซานฟรานซิสโก ซึ่งสนามกอล์ฟแห่งนี้ยังเป็นของธนาคารแห่งอเมริกาด้วย ในปัจจุบันมันจะไม่เปิดรับบุคคลภายนอกให้เข้ามาเล่นและจะมีแค่คนของสมาคมเท่านั้นที่จะเข้ามาได้

พร้อมกับมีการรับประทานอาหารค่ำด้วยกันอีกครั้ง

และงานเลี้ยงก็ยังไม่จบจนเวลาล่วงเลยไปถึงสามทุ่ม

แถมตลอดทั้งงานเลี้ยงก็ไม่มีผู้หญิงปรากฏตัวสักคน และมันมีแค่การคุยเรื่องธุรกิจกับการเมือง

มันจึงถือว่าเป็นปาร์ตี้ระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง

ซึ่งการรวมตัวของสาวงามนั้นก็อาจจะทำให้งานเลี้ยงดูมีชีวิตชีวาขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันก็จะเป็นแค่การมาพูดคุยเรื่องสนุกสนานเท่านั้น และจะไม่มีการพูดถึงเรื่องใหญ่โตอะไรหรอก

……

เมื่อกลับไปที่สำนักงาน ฮาร์ดี้ก็ยิ้มออกมาและพูดกับแอนดี้ว่า “ฉันรู้สึกว่าในเดือนครึ่งนี้ฉันได้ทำอะไรหลายอย่างจริงๆ และก็ยังไม่ได้ออกจากซานฟรานซิสโกเลย”

แอนดี้ยิ้มและพูดว่า “แต่ครั้งนี้บอสก็ได้กำไรเยอะเหมือนกัน”

การเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาเดือนครึ่งนี้นั้นมีขนาดใหญ่มาก

ทั้งการเข้าซื้อกิจการของธนาคารเวลส์ฟาร์โกที่ทำให้ฮาร์ดี้กรุ๊ปมีแหล่งการเงิน พร้อมกับการที่เขานั้นได้เข้าร่วมสมาคมแคลิฟอร์เนียที่จะช่วยส่งเสริมอำนาจในแคลิฟอร์เนียในอนาคต

นอกจากนี้เขายังได้เจรจาต่อรองธุรกิจอีกสองสามอัน

เช่นเข้าซื้อหุ้นของเป๊ปซี่หรือทำความร่วมมือกับเมอร์ซี่ฟาร์มาซูติคอลสำหรับการก่อตั้งโรงงานผลิตยาในฮ่องกง

แน่นอนว่าสำหรับคนอื่นสิ่งเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับฮาร์ดี้มันก็แค่คำพูดๆ หนึ่ง

ซึ่งนี่แหละคือการมีทรัพยากรอยู่ในมือจำนวนมาก

และสมาคมก็คือแหล่งรวมทรัพยากร ทุกคนแบ่งปันทรัพยากรเข้ามาในสมาคม และในขณะเดียวกันก็คว้าทรัพยากรจากสมาคมเพื่อส่งเสริมประโยชน์ร่วมกันและส่งเสริมกันและกันนั้นเอง

แน่นอนว่า

ยังมีข้อพิพาทในสมาคมที่ต้องระวังไว้ เพราะคนในสมาคมนั้นก็กำลังเฝ้ามองทรัพย์สินของคุณอยู่เหมือนกัน ซึ่งสมาคมนั้นไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นเหมือนสมาคมที่สัตว์ร้ายรวมตัวกันเพื่อออกล่า และมันก็ต้องไม่ลืมว่าคนที่อยู่ข้างๆ คุณนั้นล้วนเป็นสัตว์ร้าย

วันต่อมา

นักลงทุนหลายแห่งของคาสิโนก็มานั่งรวมตัวกันอีกครั้งและเมเยอร์ก็เดินทางมาที่ซานฟรานซิสโกจากลอสแอนเจลิส ซึ่งตอนแรกเขานั้นเป็นคนคิดการลงทุนนี้ขึ้นมา แต่เวลานี้เขาเป็นแค่หุ้นส่วนคนหนึ่งเท่านั้น

เขามองไปที่ฮาร์ดี้

และก็ได้ยินมาว่าฮาร์ดี้นั้นได้เข้าร่วมกับสมาคมแคลิฟอร์เนียอย่างเป็นทางการเมื่อคืนนี้ พร้อมกับที่คนรวยมีอำนาจหลายสิบคนจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขา

ดังนั้นเวลานี้สถานะของฮาร์ดี้จึงเหนือกว่าของเขามาก

ปีที่แล้ว

ฮาร์ดี้ยังเป็นชายหนุ่มที่เขามองว่าใช้ได้คนหนึ่ง แต่เวลานี้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นผู้นำกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในลอสแอนเจลิสไปแล้ว

เจียนนินีเป็นประธานการประชุมในครั้งนี้ เขามองไปที่ทุกคนก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เรามาหารือเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นในคาสิโนกันเถอะ”

หลังจากพูดจบเขาก็มองหันไปมองฮาร์ดี้ “ฮาร์ดี้บอกกับฉันว่าต้องการเก็บหุ้นไว้ 20% เป็นของตัวเองใช่ไหม?”

ฮาร์ดี้พยักหน้า

“งั้นส่วนที่เหลือหลังจากเจรจาแล้วก็จะมีการจัดสรรดังนี้ เอ็มจีเอ็ม 10% เมอร์ซี่ฟาร์มาซูติคอล 10% บริษัทการเกษตรคอร์กเกอร์ 15% เป๊ปซี่ 7% บริษัทผลิตเครื่องบินล็อกฮีด 10% และธนาคารแห่งอเมริกาที่ 28%”

ซึ่งในตอนแรกเมเยอร์ต้องการที่จะเป็นผู้นำของคาสิโนแห่งใหม่ แต่เขาก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าในตอนสุดท้ายเขาจะได้หุ้นแค่ 10% เพราะหลังจากข่าวนี้ถูกนักลงทุนรายใหญ่รู้ สิ่งต่างๆ มันก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขาอีกต่อไปและตอนนี้เขาก็ถูกลดบทบาทให้เหลือเพียงหุ้นส่วนธรรมดาเท่านั้น

แต่อันที่จริงเขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแล้วที่ไม่ได้ถูกเตะออกไป…

เจียนนินีพูดต่ออีกว่า

“นอกจากนี้เกี่ยวกับการบริหาร ของคาสิโนแห่งใหม่นั้นจะถูกบริหารโดยฮาร์ดี้ ดังนั้นพวกคุณคงไม่คัดค้านอะไรกันใช่ไหม?”

ทุกคนเห็นด้วย

“ฮาร์ดี้นั้นยังมีเงื่อนไขอีกข้อนั้นก็คือทุกคนต้องลงนามในข้อตกลง ของเขาด้วย ซึ่งเขาบอกว่าก่อนที่คาสิโนจะพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ อำนาจบริหารทั้งหมดจะเป็นของเขาตลอด และครอบครัวอื่นๆ ก็ไม่สามารถแทรกแซงการดำเนินงานของคาสิโนได้ แน่นอนว่าถ้าหากคาสิโนประสบปัญหาร้ายแรงผู้ถือหุ้นก็จะมีอำนาจทันทีและสามารถไล่เขาออกพร้อมกับเลือกประธานคนใหม่อีกครั้ง ถึงตรงนี้พวกคุณมีความเห็นอะไรไหม?”

ซึ่งบางคนก็ยอบรับในทันทีเพราะฮาร์ดี้นั้นสามารถทำเงินได้ ถ้าพวกเขาไปให้ล็อกฮีดที่ผลิตแต่เครื่องบินมาบริหารและไม่รู้วิธีการดำเนินงานคาสิโนมันก็เหมือนกับการสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์

แน่นอนว่ามันก็มีบางคนที่ลังเลเล็กน้อย แต่พวกเขาก็เห็นด้วย ท้ายที่สุดคาสิโนอาจจะดำเนินงานไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องหากปราศจากฮาร์ดี้

“ต่อไปคือหุ้นส่วนของผู้บริหาร หลังจากคิดขั้นตอนสุดท้าย หุ้นส่วนผู้บริหารตอนนี้ก็คือ 12% ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด พวกคุณมีความคิดเห็นอะไรไหม?” เจียนนินีมองหน้าทุกคน

หุ้นของผู้บริหารนั้นมีสิทธิ์แค่รับเงินปันผลเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็คือ 12% ของกำไรทั้งหมดที่ทำได้ โดยจะเป็นกำไรสุทธิประจำปีหักไปให้หุ้นของผู้บริหารและที่เหลือก็จะเป็นผู้ถือหุ้น

ซึ่งบางคนก็คิดว่าหุ้นของบริหารนั้นมากเกินไป แต่เนื่องจากธนาคารแห่งอเมริกาเป็นคนเสนอมา พวกเขาก็เลยไม่มีข้อโต้แย้งอะไร

“แล้วเรื่องสุดท้ายจะให้คาสิโนชื่ออะไร?” เจียนนินีถาม

เวลานี้เมเยอร์ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

เพราะเขาได้วางแผนชื่อของคาสิโนไว้แล้วในตอนแรก โดยมันจะถูกเรียกว่าเอ็มจีเอ็มโฮเทล ซึ่งมันจะพ่วงด้วยการโปรโมทเอ็มจีเอ็มไปในตัว แต่เวลานี้เขาได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยไปแล้ว เขาจึงไม่กล้าที่จะพูดชื่อนี้ออกไปหรอก

“ฮาร์ดี้นายมีความคิดอะไรดีๆ ไหม?” เจียนนินีมองไปที่ฮาร์ดี้ก่อนจะถามเขา

ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่ง “ซีซาร์พาเลซดีไหม?”

“โรงแรมซีซาร์พาเลซ คาสิโนซีซาร์พาเลซฉันคิดว่าชื่อนี้ดีมาก” เดวิดเมอร์ซี่ย์กล่าว

ซึ่งทุกคนก็คิดว่าชื่อนี้ดี

และนี่ก็คือที่มาของชื่อของคาสิโน

จากนั้นทุกคนก็พูดถึงรายละเอียดบางอย่าง เช่น ทิศทางการออกแบบคาสิโน สภาพธุรกิจ ฯลฯ โดยฮาร์ดี้ก็เสนอตัวออกไปพูดว่าเขาจะออกแบบคาสิโนที่ลาสเวกัสไว้ยังไง ทุกคนก็รู้สึกว่าแผนของฮาร์ดี้นั้นดีมาก

โดยเฉพาะการเอาลอตเตอรี่ไปออกโทรทัศน์พ่วงด้วยบริษัทรับเดิมพันและเพิ่มกิจกรรมลอตเตอรี่หลายๆ แบบ

เวลานี้มันก็ทำให้ทุกคนมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการทำกำไรของคาสิโน

เมื่อการพูดคุยจบลงพ่อบ้านก็นำแชมเปญมาให้พร้อมกับที่ทุกคนดื่มอวยพรให้ธุรกิจของเรานั้นรุ่งเรือง ก่อนจะรีบไปทำสัญญากับทนายความที่มาถึงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเวลานี้ทุกคนก็ได้ลงนามในข้อตกลงกันอย่างเป็นทางการแล้ว

โรงแรมซีซาร์พาเลซก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ตอนนี้

เมื่อเดวิดเมอร์ซีย์ชนแก้วกับฮาร์ดี้เขาก็เข้าไปกระซิบว่า “คุณนี่ทำงานได้รวดเร็วมากจริงๆ เพราะเมื่อวานนี้ได้มีคนเข้ามาติดต่อโรงงานผลิตยาแล้ว และก็ลงนามในจดหมาย พร้อมกับสามารถรับสินค้าไปได้ตลอดเวลา”

“ขอบคุณมาก”

“ไม่มีอะไรเลย แต่ฉันก็คาดหวังว่าคุณจะนำโชคลาภมาให้คาสิโนของเราด้วย” เดวิดเมอร์ซี่ย์ยิ้ม

“ไม่มีปัญหาฉันเก่งเรื่องคาสิโนอยู่แล้ว” ฮาร์ดี้ยิ้ม

“พวกเขากำลังเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงานเพนิซิลลินในฮ่องกงแล้ว และการลงทุนครั้งนี้โดยประมาณก็คือ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตราบใดที่การก่อสร้างมีความรวดเร็วเพียงพอก็สามารถเปิดให้ใช้งานได้ในครึ่งปี”

ทั้งสองคุยกันได้ไม่กี่คำและก็มีอีกคนหนึ่งเดินขึ้นมาข้างๆ เขานั้นก็คือโรเบิร์ต กรอส ผู้ดูแลของล็อกฮีด

ปีนี้โรเบิร์ตกรอสอายุหกสิบปีผมสีบลอนด์และก็ดูกระฉับกระเฉงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเขาก็เดินมาทักทายฮาร์ดี้ด้วยรอยยิ้มว่า “กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน?”

“พวกเรากำลังพูดถึงธุรกิจเล็กๆ เท่านั้นเอง” ฮาร์ดี้กล่าว

ในอดีตเพนิซิลลินเป็นยาที่ลึกลับมาก แต่เวลานี้หลังจากพัฒนามาได้หลายปีโรงงานก็สามารถผลิตมันได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเกินไป โรเบิร์ตกรอสก็เลยไม่ได้สนใจมันเลย แต่ครั้งนี้เขาจะมาถามฮาร์ดี้เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเอง

“ฮาร์ดี้ฉันยังมีธุรกิจที่อยากจะพูดคุยกับนายเหมือนกัน” 

“ธุรกิจอะไรเหรอ?” ฮาร์ดี้แสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาและก็สงสัยว่าเขาจะขายอะไร 

‘เพราะทำไมคุณถึงมาพูดคุยกับฉันและไม่ไปคุยกับพวกทหารแทน?’

“ฮาร์ดี้สายการบินของนายยังต้องการเครื่องบินโดยสารกับเครื่องบินขนส่งสินค้าไหม? ตอนนี้ล็อกฮีดเริ่มผลิตเครื่องบินทั้งสองชนิดแล้ว ชื่อของมันก็คือ L-049 ที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม นายสนใจมันไหม?” โรเบิร์ตกรอสถามด้วยรอยยิ้ม 

หือ?

ฮาร์ดี้ยิ้มและส่ายหัว “ฉันขอโทษด้วยจริงๆ แต่ฉันยังไม่ต้องการมันในเวลานี้”

ฮาร์ดี้ปฏิเสธเขา

เพราะเขานั้นได้เครื่องบินมาจากทหารด้วยราคาที่ต่ำมาก และการที่เขาจะซื้อเครื่องบินของล็อกฮีดมันก็ต้องเป็นไปตามราคาตลาด ดังนั้นราคาก็จะสูงมาก มันจึงถือว่าไม่สอดคล้องกับแนวคิดของฮาร์ดี้สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ

ซึ่งสีหน้าผิดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโรเบิร์ตกรอสทันที

1 thought on “อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 205 ล็อกฮีด: นายต้องการเครื่องบินไหม? ฮาร์ดี้: ไม่!”

Leave a Comment

ไม่ดี!