ตอนที่ 202 ไอ้หนุ่มคนนี้มันช่างหน้าไม่อาย…
“เราชนะสงครามโลกครั้งที่สอง และเราก็เป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นไม่ต้องไปคิดอะไรมากเลยยังไงผู้คนก็ชอบมีชีวิตที่มั่นคง งั้นแสดงว่าสินค้าที่จำเป็นสำหรับในชีวิตประจำวันทั้งหมดก็จะขายดี ซึ่งเราก็สามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจนี้ได้”
“และเมื่อชีวิตคนคนหนึ่งมีทุกอย่างแล้ว งั้นความบันเทิงก็คือสิ่งที่จะทำให้มันไม่น่าเบื่อเกินไป ซึ่งในอนาคตมันก็จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แถมมันก็ยังมีช่องทางให้ทำธุรกิจอีกมากมายเช่น ภาพยนตร์ โทรทัศน์ แผ่นเสียง”
“ส่วนในอนาคตน้ำมันก็จะยังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมเคมีทั้งหมดที่ได้จากปิโตรเลียมก็จะถูกใช้ในปริมาณมากเพื่อการดำรงชีวิตของผู้คนเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมรถยนต์…ถึงแม้ตอนนี้ในครัวเรือนจะมีแค่ 5% เท่านั้นที่มีรถยนต์ แต่ในอนาคตจำนวนมันก็จะพุ่งขึ้นสูงมาก และมันก็จะกลายเป็นหนึ่งครอบครัวต่อหนึ่งคันเลยด้วยซ้ำ”
“อีกอันก็คือธุรกิจที่เกี่ยวกับทหาร เพราะอะไรที่เกี่ยวกับทหารมันก็จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และเพื่อทำให้ตัวเองมีอาวุธที่สามารถตอบโต้คนอื่นได้ ยังไงรัฐบาลก็ต้องรักษาความได้เปรียบไว้ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ตระหนี่สำหรับอุปกรณ์ทางทหาร แถมแค่เพียงคำสั่งเดียวจากกระทรวงกลาโหม ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้กี่บริษัทถึงจะพอ”
“แล้วในอนาคตธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะเวลานี้สงครามโลกครั้งที่สองได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อหลายๆ ประเทศ อย่างพันธมิตรของเราเช่นอังกฤษและฝรั่งเศส แน่นอนเมื่อพังลงมันก็ต้องมีการสร้างกลับขึ้นมาใหม่ ดังนั้นมันจะต้องมีความต้องการเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างและเหล็กเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันก็จะช่วยให้การผลิตเหล็กในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ถึงแม้ราคาเหล็กอาจจะพุ่งสูงขึ้น แต่ผลผลิตที่ได้ออกมาก็จะมีคุณภาพดีและยังส่งผลไปถึงเหมืองแร่ทำให้มีรายได้เข้ามามากขึ้น”
“แล้วก็ยังมีบางประเทศในเอเชียที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโดย พวกเขานั้นจะต้องเกิดการขาดแคลนวัตถุดิบอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งตรงนี่มันก็คือตลาดขนาดใหญ่สำหรับการเข้าไปทำเงินในอนาคต โดยเราสามารถหาข้อมูลก่อนจะเอาไปขายที่นั่นได้”
อมาดิ เจียนนินีมองไปที่ฮาร์ดี้และเขาก็พยายามซ่อนอาการตกใจไว้ข้างใน เพราะสิ่งที่ฮาร์ดี้พูดนั้นมันเหมือนกับสิ่งที่ธนาคารแห่งอเมริกาวิเคราะห์ไว้เลย
แถมฮาร์ดี้ก็ไม่ได้มีคลังความคิดอะไรเลย ซึ่งธนาคารแห่งอเมริกานั้นจะมีคลังความคิดที่ตกทอดกันมาหลายๆ รุ่น ก่อนจะเอาไปวิเคราะห์พัฒนาเพื่อก้าวเข้าสู่อนาคต
โดยอาจจะผ่านทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การทหาร การทูต เทคโนโลยีและข้อมูลอื่นๆ
เจียนนินีรู้สึกเสมอว่าคลังความคิดนี้ช่วยเขาไว้ได้มากและเขาก็ต้องพึ่งมาคลังความคิดนี้ด้วยเหมือนกัน
โดยคลังความคิดนี้ก็คืออนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ แถมยังเป็นตัวช่วยสำหรับการหาทิศทางของการพัฒนาธุรกิจในอนาคตอีกด้วย
ซึ่งการคาดการณ์ของฮาร์ดี้เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของผู้คน ความบันเทิง เหล็ก วัสดุก่อสร้าง รถยนต์ ธุรกิจเกี่ยวกับทหาร และแม้แต่การส่งออกก็เกือบจะคล้ายกับของคลังความคิดที่เขามีอยู่
แล้วสิ่งที่ชายชราตกใจมากที่สุดก็เพราะคลังความคิดของเขานั้นจัดทำร่วมกับรัฐบาล
โดยจะเป็นข้อมูลจำนวนมากของเขาและข้อมูลภายในของรัฐบาล
ซึ่งเขาก็ไม่เชื่อว่าฮาร์ดี้จะได้รับข้อมูลเหล่านี้ เพราะเขาได้ตรวจสอบแล้วว่าฮาร์ดี้กับรัฐบาลยังไม่ได้มี ‘ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอะไร’
แต่การวิเคราะห์ของฮาร์ดี้นั้นแม่นยำมาก ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่าตัวเขานั้นมีความฉลาดแค่ไหนกับวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นสถานการณ์ต่างๆ ได้มากมาย
และไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่สามารถมองเห็นทิศทางของอนาคตได้ แม้จะแค่ปีหรือสองปีแค่นี้มันก็อาจจะมีช่องทางทำเงินได้มากมายแล้ว
มันจึงไม่แปลกใจเลยที่ฮาร์ดี้จะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้กับเวลาแค่ 2 ปี
…
สิ่งที่ฮาร์ดี้พูดนั้นแตกต่างจากสิ่งที่คลังความคิดวิเคราะห์เล็กน้อย
เช่นแทบเอเชีย
โดยพวกเขานั้นวิเคราะห์กันว่าเอเชียจะไม่มีพัฒนาขึ้นอย่างน้อย 10 ปี และไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนใดๆ เวลานี้
ธนาคารแห่งอเมริกาเลยโฟกัสแค่ธุรกิจในประเทศกับออกไปแทบยุโรปเล็กน้อย และอันที่จริงกลยุทธ์ปัจจุบันของบริษัทอเมริกันส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน
เมื่อพูดถึงตรงนี้ฮาร์ดี้ก็ยิ้มก่อนจะมองไปที่เจียนนินีและพูดกับเขาว่า “ธุรกิจทุกอย่างของผมนั้นจะอยู่ในเส้นทางที่ผมพูดไป…ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์เอบีซี เอชดีแอร์ไลน์ เพลย์บอย เครื่องสำอาง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นธุรกิจที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้คน และตราบใดที่ธุรกิจนี้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ช่องว่างสำหรับการพัฒนาก็จะกว้างขึ้นไปอีก”
“ส่วนอีกอันก็คือธุรกิจการพนัน และธุรกิจนี้ก็มีช่องว่างให้พัฒนาเยอะอยู่แล้ว ซึ่งผมก็เชื่อว่าในอนาคตลาสเวกัสจะกลายเป็นเมืองการพนันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาหรือจะเปรียบมันเป็นเมืองการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้ เพราะตราบใดที่มันมีชื่อเสียง มันก็จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้จ่ายที่นี่ได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นมันก็ถือว่าธุรกิจนี้คือธุรกิจที่ทำเงินได้มากที่สุดและเติบโตไปทางไหนก็ได้”
เจียนนินีพยักหน้า “ฉันได้เห็นฮาร์ดี้ฮาร์ดี้โฮเทลของเธอแล้ว และถ้าดูกลยุทธ์ที่เธอวางไว้มันก็จะเห็นว่าแปลกแหวกแนวมาก เช่นการเล่นเกมลอตเตอรี่ผ่านโทรทัศน์ และบริษัทรับเดิมพัน ซึ่งมันเป็นการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือกฎหมายต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด”
“แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าเกมลอตเตอรี่นั้นทำกำไรได้มากกว่าตัวคาสิโนด้วยใช่ไหม?” เจียนนินีถาม
“ใช่ครับ แต่ตอนนี้รางวัลก็จะนิ่งๆ ที่60,000 ดอลลาร์ต่อการออกลอตเตอรี่หนึ่งครั้ง และถ้าคิดรายได้ต่อปีมันก็จะอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์ แล้วถ้ารวมของคาสิโนเข้าไปด้วยมันก็น่าจะอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
เจียนนินีคิดในใจว่า ‘ธนาคารแห่งอเมริกาของฉันหลายสิบแห่ง มีผลกำไรต่อปีแค่ 200 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่คาสิโนเล็กๆ ของนายกลับมีกำไรต่อปีที่ 40 ล้านดอลลาร์ แล้วลองคิดดูว่ามันจะไม่ให้ผู้คนอิจฉาได้ยังไง?’
“ฮาร์ดี้ คาสิโนแห่งใหม่ของเราจะมีกิจกรรมนี้ด้วยไหม?” เจียนนินีถาม
“แน่นอนว่ามันต้องมีอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้สถานีโทรทัศน์ บริษัทเดิมพัน เข้าไปร่วมมือด้วยคุณอาจจะต้องจ่ายเงินแยกต่างหาก โดยเมื่อถึงตอนนั้นเราก็แค่ส่งผู้บริหารไปเจรจาธุรกิจกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีกับบริษัทเดิมพันเท่านั้นเอง” ฮาร์ดี้กล่าว
เจียนนินีมองไปที่ฮาร์ดี้และก็คิดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริงๆ
เพราะผู้บริหารก็คือนายและสถานีโทรทัศน์เอบีซีกับบริษัทเดิมพันทั้งสองนี้ก็เป็นของนายอีก
ซึ่งมันก็เหมือนกับการกลับไปคุยกับตัวเองและก็รับเงินทั้งหมดเข้ากระเป๋าตัวเอง…
มันช่างเป็นแผนการที่แยบยลจริงๆ
ชายชรามองดูเวลาและพูดกับฮาร์ดี้ว่า “ฉันชอบที่จะไปเดินเล่นในสนามทุกช่วงบ่าย และเวลานี้แดดก็ดีมาก งั้นทำไมเราไม่ออกไปเดินพูดคุยกันล่ะ?”
“ได้สิครับ” ฮาร์ดี้พูดและลุกขึ้นยืน
ทั้งสองเดินออกจากบ้านไปที่สวนขนาดใหญ่ข้างนอก ซึ่งมันก็เชื่อมต่อกับเนินเขาด้านหลังที่ไม่ค่อยมีหญ้าให้เห็นสักเท่าไหร่…
ชายชรากวักมือเรียกคนใช้ที่อยู่ข้างๆ และรอไม่นานพ่อบ้านก็เดินมาส่งกล่องๆ หนึ่งให้ชายชรา
ชายชราเปิดกล่องและหยิบซิการ์ที่ตัดแต่งแล้วออกมาสองอันก่อนที่เขาจะยื่นซิการ์อันหนึ่งมาให้ฮาร์ดี้
“สักหน่อยไหม?”
ฮาร์ดี้รับซิการ์ไปและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เดวิดอฟฟ์ อืม…ซิการ์นี้มีชื่อเสียงได้ก็เพราะเชอร์ชิลสูบมันบ่อยๆ”
“ใช่ และฉันก็ชอบรสนี้ด้วย”
ทั้งสองจุดซิการ์ของตัวเองก่อนจะเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ขณะที่ผู้ติดตามไม่ได้เดินตามไป แต่กระจายตัวไปปกป้องรอบๆ แทนและอยู่ห่างออกไปราวๆ 30 เมตร
“ฮาร์ดี้เธอรู้จักธนาคารแห่งอเมริกาของฉันไหม?” เจียนนินีถาม
“ผมรู้บางส่วนเท่าที่คุณเผยแพร่ข้อมูลให้กับสาธารณะรับรู้” ฮาร์ดี้กล่าว
ชายชรายิ้มและพูดว่า “ธนาคารแห่งอเมริกาตอนนี้มีสาขามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และปีที่แล้วผู้ใช้ของฉันก็มีจำนวนมากถึง 5 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อรวมสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารก็จะเท่ากับ 11.6 พันล้านดอลลาร์”
ซึ่งนี่คือสินทรัพย์รวมไม่ใช่มูลค่าตลาด โดยมูลค่าของธนาคารแห่งอเมริกาเวลานี้นั้นอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์
“ในเวลาเดียวกันธนาคารแห่งอเมริกาก็ยังมีการลงทุนอยู่หลายบริษัทเช่น เวลส์ฟาร์โก ล็อกฮีด ลิตตันอินดัสทรีส์ นอร์ธรอปกรัมแมนที่เป็นองค์กรทางทหาร ซึ่งฉันก็เชื่อว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่ดีและประสบความสำเร็จ”
ฮาร์ดี้คิดในใจว่า ‘ยังไงในอนาคตพวกเขาก็มีอนาคตที่สดใสอยู่แล้ว โดยล็อกฮีดจะกลายเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก และนอร์ธรอปกรัมแมนก็เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่อันดับสองของโลก ส่วนลิตตันอินดัสทรีส์นั้นจะเป็นผู้ค้าอาวุธอันดับสี่ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา’
“แล้วธนาคารแห่งอเมริกายังได้ลงทุนในธนาคารอื่นๆ อีกเช่น ธนาคารแห่งซานฟรานซิสโก ธนาคารลอสแองเจลิส และธนาคารเวลส์ฟาร์โก และยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันอีกอย่างคือ ธุรกิจประกันภัย เหมืองแร่ ถลุงโลหะ ผลิตภัณฑ์ทางเกษตรและผู้ค้ารายย่อยอื่นๆ ซึ่งถ้านับรวมหุ้นส่วนทั้งหมดสเกลของเราก็จะมีมูลค่าอยู่ที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์”
เวลานี้ชายชรากำลังเล่นกลเล็กๆ น้อย โดยที่เขานั้นไม่ได้พูดถึงสินทรัพย์ของทั้งหมดของตัวเอง และจริงๆ สินทรัพย์ทั้งหมดของเขาก็ไม่ใช่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่ชายชราพูดมาหรอก
เพราะจากข้อมูลที่เฮนรี่หามาให้ฮาร์ดี้ สินทรัพย์รวมทั้งหมดของสมาคมแคลิฟอร์เนียจะอยู่ที่ราวๆ 8 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วบางบริษัทก็ดูไม่น่าเชื่อถือตามชื่อของพวกเขา และขนาดบริษัทของพวกเขาก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก
ดังนั้นสินทรัพย์รวมบริษัทเหล่านี้ก็จะอยู่ที่ราวๆ 10 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในยุคนี้บริษัทที่มีเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ก็ถือเป็นบริษัทที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
หลังจากชายชราพูดจบเขาก็รอให้ฮาร์ดี้ย่อยข้อมูลที่เขาบอกไป และหยิบซิการ์ขึ้นมาสูบก่อนจะพ่นออกมาทางจมูก
“ฮาร์ดี้ เธอสนใจที่จะเข้าร่วมกับเราไหม?” ในที่สุดชายชราก็ถามประโยคนี้
ฮาร์ดี้รู้ว่าดีว่าที่ชายชราเรียกเขาออกมานั้นมันไม่ใช่แค่การเดินเล่นปกติหรอก แต่แค่เขาไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง
เพราะท้ายที่สุดบทสนทนาของพวกเขาก็อาจเกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่และมันอาจได้รับผมกระทบถ้าหากการสนทนารั่วไหลไป
แน่นอนว่าเมื่อฮาร์ดี้มาที่นี่เขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าสมาคมแคลิฟอร์เนียอาจสนใจในตัวเขา ซึ่งเขาก็ได้คิดคำนวณเรื่องต่างๆ ไว้ในใจหมดแล้ว
โดยในเวลานี้สมาคมแคลิฟอร์เนียนั้นเป็นกลุ่มที่พัฒนาขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง มันก็อาจจะมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าในอนาคตอยู่บ้าง
เพราะมันกำลังอยู่ช่วงพัฒนาตัวเอง และการเข้าร่วมในเวลานี้ก็ถือได้ว่าเป็นหุ้นดั้งเดิม
แถมธุรกิจทั้งหมดของฮาร์ดี้ก็อยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกและศูนย์ใหญ่สมาคมแคลิฟอร์เนียก็อยู่ที่นี่
แต่ถ้าเขาไม่ได้เข้าร่วม เขาก็เชื่อว่าตัวเองสามารถพัฒนาฮาร์ดี้กรุ๊ปให้เป็นแบบนี้ได้ด้วยความรู้จากอนาคต
แน่นอนว่าการพัฒนามันอาจจะยากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้พบกับสมาคมแคลิฟอร์เนีย
ส่วนถ้าเขาเข้าร่วมนั้น มันก็จะได้รับประโยชน์มากมาย เพราะเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของสมาคมก็คือการรวมทรัพยากรเข้าด้วยกัน และสมาคมแคลิฟอร์เนียก็เกือบจะผูกขาดธุรกิจส่วนใหญ่ในแคลิฟอร์เนียกับชายฝั่งตะวันตกไปแล้ว
และถ้าคุณพัฒนาตัวเองโดยมีสมาคมช่วยเหลือ มันก็เหมือนกับว่าคุณนั้นได้รับผลประโยชน์ถึงสองเท่าโดยที่ลงแรงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่าทรัพย์สินของคุณต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย
เพราะยังไงนี่ก็คือการได้ผลประโยชน์ร่วมกัน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดเพียงคนเดียว
ตัวอย่างง่ายๆ
ในการก่อสร้างคาสิโนที่ลาสเวกัสนี้ต้องลงทุนถึงร้อยล้านดอลลาร์ ดังนั้นก็ต้องใช้บริษัทรับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในเครือพันธมิตรกัน
แล้วถ้าคุณต้องการเหล็ก ไม้ ปูนซีเมนต์ คุณก็ต้องหาบริษัทจากในสมาคมก่อน
นอกจากนี้ถ้าใช้ของสมาคมมันก็อาจจะประหยัดเงินมากกว่าการที่ออกไปหาจากข้างนอก
อีกอันก็คือ…
ถ้าคุณมีเงินไม่เพียงพอคุณก็อาจจะขอค้างชำระไว้ก่อนหรือคุณยังสามารถหาธนาคารในสมาคมเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้
นี่แหละคือการใช้บริษัทที่อยู่ในสมาคมและหุ้นส่วนที่อยู่ในสมาคมก็ยังได้ทำเงินอีกด้วย
มันเลยลงตัวมากๆ และนี่แหละคือการรวมทรัพยากรผลัดกันใช้
โดยมันก็เป็นเรื่องยากที่ผู้อื่นจะเข้ามาแทรกแซงในสมาคมถ้าหากของสิ่งสิ่งนั้นมีอยู่แล้ว
ซึ่งสิ่งนี่ก็เหมือนกับการผูกขาดบางอย่างด้วย
แน่นอนว่าหากคุณต้องการเข้าร่วมสมาคมมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าร่วม เพราะคุณต้องมีผลประโยชน์ที่สามารถทำประโยชน์ต่อสมาคมได้
ซึ่งในเวลานี้ฮาร์ดี้นั้นมีอะไรบางอย่างที่สมาคมแคลิฟอร์เนียต้องการมันอย่างมาก
เช่น สถานีโทรทัศน์เอบีซี
เพราะฮาร์ดี้นั้นสามารถทำให้สถานีโทรทัศน์กลายเป็นกองกำลังใหม่ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในสหรัฐอเมริกาภายในเวลาสั้นๆ และสมาคมแคลิฟอร์เนียก็ให้ความสนใจอย่างมากสำหรับการโฆษณา
เพราะยังไงถ้าอยากพัฒนาสมาคมมันก็ไม่สามารถแยกจากการโฆษณาได้ และถ้าหากต้องการมีอิทธิพลต่อวอชิงตันหรืออยากได้แรงสนับสนุนของประชาชนมันก็ต้องทำโดยการใช้โฆษณา
โดยสมาคมแคลิฟอร์เนียนั้นต้องการทำให้สถานีโทรทัศน์เอบีซีเป็นปากกระบอกเสียงของตัวเอง
ส่วนบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้นั้นตอนแรกผู้คนก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่เวลานี้มันกลายเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาแล้ว และธนาคารแห่งอเมริกาก็เป็นลูกค้าของเขา
ซึ่งสมาคมนั้นไม่ได้สนใจความสามารถในการทำเงินของพวกเขา แต่แค่ต้องการพลังของเอชดีซีเคียวริตี้
อีกอันก็คือคาสิโนในลาสเวกัส ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าคาสิโนที่ลาสเวกัสนั้นทำเงินได้มากแค่ไหน โดยเฉพาะตอนที่ฮาร์ดี้คาสิโนเปิดตัวขึ้นมา และในเวลานี้ถ้าหากคุณต้องการเข้าไปลงทุนที่ลาสเวกัสคุณจะต้องได้รับความยินยอมจากฮาร์ดี้
โดยเมื่อก่อนลาสเวกัสนั้นตกอยู่ในการควบคุมของมาเฟีย มันก็เลยไม่มีใครสามารถเข้าไปลงทุนได้
แต่ตอนนี้ฮาร์ดี้นั้นยินดีที่คนอื่นจะเข้ามาลงทุนในลาสเวกัส
มันเลยเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างโชคลาภอย่างแน่นอน
และยิ่งคนจากสมาคมที่เป็นคนกระหายเงินขนาดนี้ มันก็เหมือนกับการโยนเหยื่อชิ้นโตเข้ามาเลย
จุดสำคัญอีกอย่างก็คือฮาร์ดี้นั้นควบคุมกองกำลังใต้ดินของลอสแอนเจลิสไว้ โดยเป็นสองเมืองที่สำคัญที่สุดในแคลิฟอร์เนียคือซานฟรานซิสโกและลอสแอนเจลิส
เพราะยังไงราชาที่สามารถควบคุมโลกใต้ดินได้นั้นก็เปรียบเสมือนมีพลังที่แข็งแกร่งจะทำอะไรก็ได้
และมันไม่ใช่แค่ลอสแองเจลิส เขารู้ว่าคาสิโนที่สร้างขึ้นใหม่ของฮาร์ดี้นั้นมีการร่วมมือกับ 15 ครอบครัวมาเฟีย
ซึ่งสิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นว่าฮาร์ดี้นั้นสามารถร่วมมือกับกองกำลังมาเฟียได้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยครอบครัวมาเฟียนั้นตั้งอยู่ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และพวกเขาก็มีกองกำลังอยู่ในโลกใต้ดินเยอะมาก
ถ้าหากได้ฮาร์ดี้มามันก็เท่ากับว่าสมาคมแคลิฟอร์เนียอาจจะขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำธุรกิจบางอย่างได้
ยกตัวอย่างก็ง่ายๆ ถ้าหากคุณต้องการเข้าสู่ตลาดใหม่คุณก็ไม่ต้องกลัวการโจมตีจากคู่แข่งของคุณ
ยังไงพันธมิตรของเรานั้นก็รู้วิธีจัดการ เพราะบ่อยครั้งที่กองกำลังของแก๊งอันธพาลจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าสู่ตลาดท้องถิ่นอย่างราบรื่น
เช่นวันนี้รถอาจจะระเบิด พรุ่งนี้โกดังก็อาจจะถูกเผาหรือคนกลุ่มหนึ่งอาจกระโดดมาขอค่าคุ้มครองจากคุณ และถ้าคุณไม่ให้ คุณก็อาจจะเจอปัญหาบางอย่างจนธุรกิจไม่อาจดำเนินต่อไปได้
ในอนาคตสมาคมแคลิฟอร์เนียก็เป็นสมาคมที่มีแต่บริษัทการค้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาพบเจอฮาร์ดี้ พวกเขาก็ถูกดึงดูดโดยคุณสมบัติของฮาร์ดี้ทันที
แน่นอนว่าพวกเขานั้นพร้อมแล้วที่จะดูดซับฮาร์ดี้เข้ามา
…
ฮาร์ดี้ไม่ตอบตกลงในทันที
เขาสูบซิการ์และก็เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ขณะที่ชายชราก็ไม่ได้รีบร้อนเค้นคำตอบจากเขา ก่อนจะเดินมองหญ้าข้างทางไปเรื่อยๆ “คุณเจียนนินีผมมีอะไรอยากจะขอให้คุณช่วยสักสองสามอย่าง”
ในที่สุดฮาร์ดี้ก็พูดออกมา
“โอ้ ไหนลองพูดมาก่อนสิ”
ฮาร์ดี้สูดลมหายใจแล้วพูดว่า “ผมต้องการให้คุณช่วยฉันซื้อ ธนาคารเวลส์ฟาร์โก และแน่นอนว่าจะดำเนินการโดยธนาคารแห่งอเมริกา เหตุผลก็เพราะตอนนี้ผมมีเงินไม่พอ แล้วผมก็ไม่อยากจะขายธุรกิจอื่นๆ ออกไป ซึ่งผมก็หวังว่าคุณจะจ่ายให้ผมก่อนได้”
ธนาคารแห่งอเมริกานั้นถือหุ้นของธนาคารเวลส์ฟาร์โกอยู่ราวๆ 12% ซึ่งคิดเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของเวลส์ฟาร์โก โดยในเวลานี้ธนาคารเวลส์ฟาร์โกนั้นเป็นเพียงธนาคารท้องถิ่นขนาดเล็กที่กระจายอยู่ในซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัสและเมืองอื่นๆ เท่านั้น
ส่วนมูลค่าตลาดปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์และสินทรัพย์รวมเช่นเงินฝากออมทรัพย์ เงินกู้ และการจำนองจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
ซึ่งชายชราก็ไม่แปลกใจที่ฮาร์ดี้ต้องการซื้อธนาคาร แต่ชายชรารู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ฮาร์ดี้พูดมากกว่า
ให้ธนาคารแห่งอเมริกาเข้ามาช่วยซื้อกิจการ
ให้ธนาคารแห่งอเมริกาออกเงินให้ก่อน
ไอ้หนุ่มนี่จะซื้อกิจการโดยไม่จ่ายสักบาทแบบหน้าด้านๆ งั้นเหรอ?!
……..
///*คลังความคิด=Think Tanks>ประมาณว่ามีผู้คนที่ฉลาดมาช่วยวิเคราะห์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นงานวิจัย*