ตอนที่ 199 คานอำนาจฮอลลีวูด
จี วาจิน่าคนนี้นั้นเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าขนาดเล็กแห่งหนึ่ง โดยในฮอลลีวูดก็มีบริษัทนายหน้าขนาดเล็กแบบนี้อยู่หลายพันแห่ง
และนายหน้าเหล่านี้ก็จะมีความสัมพันธ์หรือเส้นสายบางอย่าง เช่น รู้จักกับบริษัทภาพยนตร์หรือผู้กำกับที่มีชื่อเสียง
ซึ่งปกตินายหน้าพวกนี้ก็จะหาผู้คนหน้าใหม่มาฝึกอบรมและนำไปเปิดตัวกับผู้คนเหล่านั้น
โดยปกตินายหน้าพวกนี้ก็จะใช้ความสัมพันธ์ของตัวเองให้โอกาสกับนักแสดง
เพราะถ้านักแสดงประสบความสำเร็จมูลค่าของนักแสดงเหล่านี้ก็จะพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
โดยนายหน้าพวกนี้ก็อาจจะเก็บนักแสดงเหล่านั้นไว้เพื่อฝึกฝนหรือขายเขาทีหลังเมื่อมูลค่าสูงขึ้น และนักแสดงที่โด่งดังหลายคนก็จะเติบโตมาจากทางนี้
แต่ทั้งหมดนี้มันก็ต้องพึ่งความโชคดีของตัวเอง เพราะนักแสดงบางคนก็อาจจะมีโอกาสเติบโตขึ้นหรืออาจจะโชคร้ายโดนบริษัทนายหน้าหลอกทำสัญญา
ซึ่งนายหน้าพวกนี้ก็จะหลอกแต่นักแสดงหน้าใหม่ให้ทำสัญญาที่คล้ายกับสัญญาขายตัวเอง
แล้วหลังจากที่นักแสดงหน้าใหม่ลงนามสัญญา พวกเขาทั้งหมดก็จะถูกนายหน้าเกลี้ยกล่อมหรือข่มขู่โดยวิธีรุนแรงเพื่อทำให้พวกเขาเหล่านี้ยอมจำนน
และลูน่ากับเพื่อนร่วมห้องของเธอก็เป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายจากหญิงสาวนักแสดงหลายพันคน
…
ผู้จัดการขับรถมาจอดที่ชั้นล่างและหลังจากเปิดประตูห้องเข้าไป ลูน่าที่ได้เห็นเขาก็ดูหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหน้าของผู้จัดการ
“ลูน่ารีบแต่งตัวซะ และเอาให้สวยกว่าเดิมด้วย ตอนนี้มีรองผู้กำกับจากบริษัทใหญ่กำลังรอค้นหานักแสดงอยู่ แล้วก็มันไม่ง่ายเลยที่จะหาช่องทางเปิดตัวให้เธอได้” วาจิน่ากล่าว
ลูน่าเม้มริมฝีปากเผยให้เห็นสีหน้าดื้อรั้น
“ฉันไม่อยากไป”
ใบหน้าของวาจิน่ากลายเป็นหน้าเกลียดก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาลูน่าและจ้องมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม “เธอกล้าปฎิเสธเหรอ!”
ลูน่ารู้สึกกลัวมาก แต่เธอก็ตอบกลับไปด้วยความกล้าทั้งหมดว่า “ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่งานเปิดตัว! แต่คุณจะเอาเราไปขายและเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง! ซึ่งฉันก็ไม่อยากทำมันเพราะฉันมาที่นี่เพื่อเป็นนักแสดง ไม่ใช่โสเภณี!”
วาจิน่าแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา ก่อนจะเข้าไปดึงผมดึงลน่าและพูดกับเธอว่า “เธอคิดว่าเธอสามารถเลือกได้เหรอ? นังเนรคุณ!”
“ถ้าอยากประสบความสำเร็จ มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันทุกคนแหละ! และเธอคิดจริงๆ หรือว่าถ้ามาฮอลลีวูดแล้วจะได้เป็นดาราดังเลย? อย่าฝันเฟื่องไปหน่อยเลย!”
“งั้น…ฉ…ฉันขอลาออก!” ลูน่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ลาออก? หึ…ก็ได้! แต่เธอสามารถลาออกได้ก็ต่อเมื่อจ่ายค่าฉีกสัญญาจำนวน 50000 ดอลลาร์มาให้ฉันแล้วเท่านั้น! ตราบใดที่เธอจ่ายมาได้ฉันก็จะปล่อยเธอไป ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องเธอให้เอาหนี้ก้อนนี้ติดตัวไปด้วย! ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีเธอถึงจะปลดหนี้หมด ฮ่าๆๆ” เมื่อพูดจบวาจิน่าก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
ต้องบอกก่อนว่าเงินเดือนของคนธรรมดาในยุคนี้จะอยู่ราวๆ 2,000 ดอลลาร์ และหนี้สินจำนวนนั้นพวกเขาก็จะต้องหามาจ่ายเป็นเวลา 20 ปีโดยที่ไม่กินหรือดื่มอะไร
แล้วคิดดูสิต้องทนแบบนั้นถึง 20 ปีมันจะทนได้เหรอ?
วาจิน่าใช้มืออีกข้างบีบคางของลูน่าและพูดว่า “ฉันไม่อยากทำร้ายหน้าสวยๆ ของเธอ เดี๋ยวแขกของฉันจะไม่ชอบเอา เอาล่ะ ตอนนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว!”
ลูน่าตกใจจนตัวสั่น เธอรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมาลูน่าก็ถูกพาตัวไปที่โรงแรม
ในห้องเธอเห็นชายแก่อ้วนๆ คนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาและเดินมาดึงลูน่าไปที่บนเตียง
ในเวลาเดียวกัน
ประตูห้องก็ถูกถีบจนเปิดออกอย่างแรง!
คนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกับกล้องวิดีโอในมือ
ซึ่งชายร่างอ้วนที่แก้ผ้าอยู่ก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก เขารีบห่อตัวเองด้วยผ้าเช็ดตัวก่อนจะตะโกนใส่คนที่วิ่งเข้ามา “พวกนายเป็นใคร! และบุกเข้ามาทำไม!”
“ตำรวจ! และตอนนี่คุณก็ถูกสูงสัยว่ากำลังบังคับหญิงสาวให้มีเพศสัมพันธ์ เอาล่ะ รบกวนไปกับเราเพื่อสอบปากคำด้วย!” เมื่อพูดจบก็มีใครคนหนึ่งโชว์ตราตำรวจขึ้นมาให้เขาดู
“อ่า ตำรวจ?!” ชายแก่ร่างอ้วนตกใจกลัวจนเสียสติไปแล้ว
หลังจากนั้นวาจิน่าก็ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนด้วย ส่วนลูน่ากับเพื่อนของเธอและเด็กผู้หญิงอีก 5 คนจากบริษัทนายหน้าของวาจิน่าก็ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อรับการสอบปากคำต่อไป
ในเวลานั้นก็มีทนายความหลายคนปรากฎตัวขึ้นที่สถานีตำรวจ พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าเด็กผู้หญิงเหล่านี้ ก่อนจะถามว่า “มีใครในพวกเธอที่เป็นสมาชิกของสหภาพนักแสดงไหม?”
เมื่อได้ยินลูน่าและเพื่อนสาวของเธอรีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว “พวกเราเป็นสมาชิกของสหภาพนักแสดง!”
หลังจากเห็นทั้งสองจอห์นแมคเคนซีก็หันไปยิ้มให้กับสองสาวก่อนจะพูดว่า “เราเป็นทนายความที่จ้างโดยสหภาพนักแสดง และในฐานะสมาชิกของสหภาพคุณจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์สำหรับการขอความช่วยเหลือจากเราได้ ซึ่งตอนนี้พวกเราจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยคุณทำคดีความ”
เมื่อเด็กหญิงอีกห้าคนได้ยินหนึ่งในนั้นก็ถามขึ้นว่า “เรา…พวกเราก็เป็นผู้ถูกกระทำด้วย คุณสามารถช่วยพวกเราด้วยได้ไหม?”
แมคเคนซีส่ายหัว “ต้องขอโทษด้วย เพราะพวกเราเป็นทนายที่ถูกจ้างโดยสหภาพนักแสดง และเราจะช่วยเหลือแค่สมาชิกของสหภาพเท่านั้น”
การสืบสวนครั้งนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะมีเด็กสาวอยู่ 7 คนที่เป็นผู้รับเคราะในครั้งนี้ ทำให้วาจิน่าถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ และสิ่งที่รอคอยอยู่ก็คือคดีความติดตัวกับชีวิตในคุก
แล้วในช่วงเวลาทำคดี ทนายความก็จะเป็นคนรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของลูน่ากับเพื่อนของเธอ
โดยจะเป็นการยุติสัญญาไม่เป็นธรรม พร้อมกับเรียกค่าชดเชยกับความเสียใจทางจิตใจที่ตัวเธอนั้นได้รับ และสำหรับเด็กสาวอีก 5 คนนั้นต้องจ้างทนายเอง เพราะพวกเธอไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน
วันต่อมา
โกลบอลไทม์ก็รายงานข่าวเรื่องนี้อย่างละเอียด
โดยโกลบอลไทมส์นั้นก็เริ่มวางจำหน่ายแล้ว แต่มันจะยังมีแค่ในลอสแอนเจลิส ซานฟรานสิสโก นิวยอร์กกับลาสเวกัส ซึ่งมันก็ถือได้ว่ายังเป็นแค่สำนักพิมพ์ระดับภูมิภาคเท่านั้น
และแน่นอนว่าฮาร์ดี้ไม่ได้รีบร้อนอะไรเพียงแค่เปิดมันต่อไปเท่านั้น
เพราะยังไงธุรกิจนี้มันก็จะพัฒนาไปเอง และตราบใดที่เงินทุนเพียงพอโกลบอลไทมส์ก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
สถานีโทรทัศน์เอบีซี
ข่าวเที่ยงวันกำลังออกอากาศเกี่ยวกับกระบวนการจับนายหน้า
ซึ่งข่าวแบบนี้ผู้คนก็สนใจกันมากและหลายคนก็ให้ความสำคัญกับมัน
แต่ข่าวนี้ก็ยังไม่จบในทันที และพิธีกรก็พูดว่า “ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกมากมาย ที่ฉันไม่สามารถเล่าได้หมด หากทุกท่านต้องการรับชมให้ละเอียดยิ่งขึ้น โปรดติดตามรายการ ‘โกลบอลวิชชั่น’ ในคืนนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นอย่างพิเศษโดย ‘โกลบอลไทมส์'”
เพื่อที่จะโปรโมท ‘โกลบอลไทมส์’ ฮาร์ดี้ได้ขอให้สถานีโทรทัศน์เอบีซีสร้างรายการข่าวที่ชื่อว่า ‘โกลบอลวิชชั่น’ ขึ้นมา
โดยมันจะเป็นรายการที่ไม่ได้ออกอากาศตลอดเวลา และจะมีแค่ข่าวสำคัญๆ เท่านั้น
เวลาสองทุ่มครึ่ง
รายการข่าวโกลบอลวิชชั่นก็เริ่มออกอากาศ
ซึ่งมันก็ดึงดูดความในใจของผู้คนในทันที
โดยที่ในกล้องจะฉายอาคารของสหภาพนักแสดงและค่อยๆ เดินไปหาสำนักงานของประธานที่ตอนนี้ฮาร์ดี้กำลังนั่งอ่านเอกสารอะไรบางอย่างอยู่ พร้อมกับรองประธานและผู้ช่วยเรแกนที่นั่งอยู่ข้างๆ
ผ่านไปสักพักฮาร์ดี้ก็ส่งจดหมายที่ได้รับมาให้กับทั้งสองคน และเขาก็ขมวดคิ้วพูดว่า
“คำร้องเรียนที่ได้รับมานี้เลวร้ายมาก และสหภาพนักแสดงก็รับไม่ได้จริงๆ ที่จะให้เหตุการณ์ละเมิดทางเพศนี้เกิดขึ้นต่อไป พวกเราจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด ดังนั้นส่งคนไปสอบสวนและแจ้งความที่สถานีตรวจไว้ เมื่อได้รับการยืนยันว่ามันเป็นความจริงก็ให้ทนายความของเราดำเนินการฟ้องร้องได้เลย และเราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”
หลังจากพูดจบหน้าจอก็เปลี่ยนฉากไป
โดยมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและก็มีเสียงพากษ์ออกมาว่า ‘คนคนนี้เป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าแห่งหนึ่งชื่อวาจิน่า ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆ ที่มีนักแสดงหญิงเซ็นสัญญาอยู่ 7 คน’
เสียงพากษ์ก็ค่อยๆ เล่าให้น่าสนใจขึ้นไปอีก
‘วาจิน่าคนนี้นั้นบังคับเหล่าเด็กสาวให้ขายร่างกายและขู่ลูน่าด้วยการดึงผมของเธอจนทำให้ลูน่าได้รับผลกระทบทางจิตใจ’
เมื่อผู้ชมได้เห็นตัวอย่างเช่นลูน่า พวกเขาก็รู้สึกเศร้าใจกับชะตากรรมของเธอ
‘ลูน่านั้นถูกบังคับให้ไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่งของผู้จัดการ เธอต้องเปลี่ยนเสื้อตามคำสั่งและตามเขาไปเพื่อเอาเธอไปขายตัว’
‘แล้วขณะที่กำลังถูกกระทำก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น โดยมีตำรวจปรากฎตัวขึ้นก่อนจะเข้าจับกุมชายอ้วนที่น่ารังเกียจ’
ซึ่งจริงๆ แล้วชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ช่วยผู้กำกับแต่อย่างใด เขาเป็นแค่เจ้าของร้านขายเนื้อและก็เป็นคนมีเงินอยู่บ้าง
เขาก็เลยจะออกมาหาความสุขกับเด็กสาวเหล่านี้
แต่ต้องบอกก่อนว่าการค้าประเวณีในลอสแอนเจลิสนั้นผิดกฎหมาย ซึ่งพฤติกรรมของเขาก็คือการซื้อบริการเลยทำให้เขาซวยไปด้วย
หลังจากเข้าจับกุมตัวเจ้าหน้าที่เอชดีซีเคียวริตี้ก็จับเขาเดินไปขึ้นรถตำรวจ และมันก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกดีเป็นอย่างมาก
ส่วนเด็กสาวทั้ง 7 คนรวมลูน่าก็ถูกนำตัวไปที่สถานีเพื่อสอบปากคำ
ในเวลานี้ทนายความของสหภาพนักแสดงก็ปรากฏตัวขึ้นและบอกกับพวกเธอว่าจะมาช่วยเหลือเรื่องการฟ้องร้อง ซึ่งวาจิน่าก็ยอมรับความผิด ก่อนจะถูกขังไว้เพื่อรอขึ้นศาลและนำส่งตัวเข้าคุก
ในกล้องเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อก็ถามทนายความว่าพวกเขาสามารถช่วยเธอได้ด้วยหรือไม่
แต่ทนายความก็ตอบกลับไปว่า ‘พวกเธอต้องเป็นสมาชิกของสหภาพนักแสดงเท่านั้น เพราะพวกเรานั้นถูกจ้างมาโดยสหภาพ’
ต้องบอกเลยว่านี่มันทุนนิยมชัดๆ
แต่ผู้ชมก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ…
เพราะถ้าคุณไม่จ่ายเงิน คุณจะได้รับสิทธิอะไรล่ะ?
และด้วยวิธีนี้นักแสดงหลายคนที่ไม่ได้เข้าร่วมสหภาพก็เริ่มมีความคิดเกิดขึ้นมาในใจ เพราะถ้าเข้าร่วมกับสหภาพพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์เช่นนี้ และหากเกิดอะไรขึ้นสหภาพก็พร้อมจะช่วยเหลือพวกเขา
แถมยังแค่จ่ายค่าธรรมเนียมต่อปีแค่ 5% เท่านั้นเอง
ในตอนท้าย
จอร์จรองประธานของสหภาพนักแสดงก็กล่าวกับกล้องว่า “สหภาพนักแสดงจะติดตามเรื่องนี้จนกว่าจะจบ และเราก็ได้ว่าจ้างทนายความมารอไว้แล้วสำหรับสมาชิกของเรา”
“แล้วเวลานี้สหภาพนักแสดงก็ขอเตือนคนบางคนว่าอย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะสหภาพจะช่วยเหลือนักแสดงและแก้ปัญหาของพวกเขาด้วยใจจริง”
“ซึ่งผมก็ขอเตือนผู้คนที่มาตามหาความฝันในฮอลลีวูด ถ้าพวกคุณไม่มีบริษัทนายหน้าที่ไว้ใจได้ ผมแนะนำให้พวกคุณมาที่สหภาพ โดยสหภาพจะเป็นคนที่แนะนำช่วยเหลือพวกคุณเอง และในอนาคตสหภาพจะตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทนายหน้าทั้งหมด พร้อมกับลิสต์รายการบริษัทนายหน้าที่น่าเชื่อถือออกมาให้พวกคุณ แล้วผมก็เตือนว่าอย่าไว้ใจบริษัทนายหน้าที่ไม่ได้รับรองใดๆ เพราะพวกเขาอาจจะกำลังหลอกคุณอยู่”
การเคลื่อนไหวของฮาร์ดี้ครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นการล้างกระดานบริษัทนายหน้าไปเลย
เพราะถ้ามีรายชื่อบริษัทนายหน้าที่แนะนำออกมา บริษัทนายหน้าขนาดเล็กก็อาจจะอยู่รอดยากขึ้นและบริษัทนายหน้าขนาดใหญ่ก็จะมีความรุ่งเรืองมากกว่าเดิม
เช่น บริษัทนายหน้าเอชดี
แถมในอนาคตบริษัทนายหน้าที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ ก็จะมีน้อยลงเรื่อยๆ และจะค่อยๆ ถูกกำจัดออกจนมีแต่บริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่ในรายชื่อ
ฮ่าๆ
มันต้องบอกอีกว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทนายหน้ามันก็ต้องใช้กำลังคนเยอะ
ดังนั้นมันก็ต้องมีค่าธรรมเนียมสักหน่อย และถ้าคุณกล้าที่จะรุกรานสหภาพ คุณก็จะไม่มีโอกาสที่จะอยู่ในรายชื่อด้วย
เมื่อฮาร์ดี้ได้เป็นประธานสหภาพนักแสดง ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจสิทธิ์ของสหภาพอะไรเหมือนกัน แต่ตอนนี้สหภาพนักแสดงสามารถกลายเป็นที่คานอำนาจได้และเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากหลายสิ่งหลายอย่างผ่านสหภาพนี้
เช่นการตั้งกฎสำหรับบริษัทนายหน้า
ทันทีที่เอบีซีฉายข่าวออกไป มันก็ทำให้เกิดผลกระทบขึ้นเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น นักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ นักข่าว ดาราวิทยุ ศิลปิน นักร้อง นักพากย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านสื่ออื่นๆ
ซึ่งพวกเขานั้นมีจำนวนคนมากกว่าหลายแสนคน
แต่สหภาพนักแสดงนั้นมีแค่ 40,000 คนเท่านั้น
ทำไม?
เพราะก่อนก่อนหน้านี้สหภาพไม่สามารถคุ้มครองพวกเขาได้ทุกคน แต่เวลานี้เมื่อฮาร์ดี้ได้รับตำแหน่งเขาก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ทันทีจนทำให้ผู้คนประทับใจอย่างมาก
ปรากฏว่าสหภาพนั้นสามารถเป็นบ้านของนักแสดงได้จริงๆ
ทำให้เวลานี้
หลายคนรีบไปยื่นใบสมัครเป็นสมาชิก เพื่อหวังว่าจะเข้าร่วมสหภาพนักแสดงและได้รับความคุ้มครองจากสหภาพ
ซึ่งมันก็มีคนคิดว่าค่าสมาชิกสำหรับปีหน้าน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
…
แล้วผลที่ตามมามันก็ทำให้ผู้จัดการนายหน้าเกือบทุกต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก และพวกเขาก็ไม่กล้าเอาเปรียบนักแสดงเหมือนกับเมื่อก่อน
ทำให้บรรยากาศในฮอลลีวูดเวลานี้เปลี่ยนไปเยอะมาก
ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของฮาร์ดี้จึงดีขึ้นมากโดยเฉพาะในกลุ่มนักแสดง เพราะตอนนี้บริษัทภาพยนตร์และบริษัทนายหน้าได้เห็นอำนาจของฮาร์ดี้ ซึ่งบางที่ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากสหภาพเรื่องการค้างค่าจ้างของนักแสดง
โดยตอนแรกบริษัทก็ไม่สนใจจดหมายพวกนี้หรอก แต่เวลานี้พวกเขากลัวมันมากจนรีบจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้นักแสดงหลายคนได้รับค่าจ้างและค่าเสียเวลาอื่นๆ
เห็นไหมว่าเขานั้นไม่ได้ใช้วิธีการที่รุนแรงอะไรเลย เขาใช้เพียงแค่กฎหมายกับจดหมายทวงเงินเท่านั้น
แต่มันกลับเล่นงานพวกเขาให้ถึงตายได้
แล้วใครล่ะจะไม่กลัว?
อย่างไรก็ตามมันก็มีบริษัทนายหน้าที่มาแรงและได้รับความนิยมขึ้นนั้นก็คือบริษัทนายหน้าเอชดี
โดยเวลานี้มันก็กำลังได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นตัวเลือกแรกๆ ของเหล่าหน้าใหม่…
แล้วฮาร์ดี้ก็ไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
มันก็แค่ผลกระทบที่ตามมาและเป็นเรื่องปกติ?
แน่นอนว่ามันก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน โดยบางคนบอกว่าสหภาพนักแสดงนั้นกล้าที่โจมตีแค่บริษัทนายหน้าเล็กๆ เท่านั้น และก็คงไม่กล้าที่จะยั่วยุบริษัทนายหน้าใหญ่ๆ หรอก
แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์นั้น…มันก็มีข่าวออกมาอีกครั้งว่านักแสดงหญิงจีน่าเดวิดได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากสหภาพ โดยกล่าวว่าในระหว่างการถ่ายทำ เธอนั้นถูกคุกคามและข่มขืนโดยลุคผู้กำกับที่ทำสัญญากับบริษัทภาพยนต์โคลัมเบีย
แน่นอนว่าสหภาพนักแสดงจะไม่ทนต่อเหตุการณ์เลวร้ายดังกล่าว และพวกเขาก็ได้จ้างทนายความเข้าไปช่วยเหลือจีน่าเดวิดสำหรับการฟ้องร้อง
และมันก็ทำให้หลายคนตกใจมากเมื่อได้เห็นข่าวนี้
“สหภาพนักแสดงนี่สุดยอดจริงๆ เพราะแม้แต่บริษัทภาพยนตร์ฮอลลีวูดรายใหญ่ทั้งแปดอย่างโคลัมเบียพวกเขาก็กล้าที่จะหาเรื่อง!”
มันก็มีคนตอบคนที่พูดคนนี้ว่า “นายไม่เห็นเหรอว่าประธานของสหภาพนั้นเป็นใคร? คิดว่าทอมฮาร์ดี้จะกลัวบริษัทภาพยนตร์โคลัมเบียงั้นเหรอ? “
ซึ่งในการที่ฮาร์ดี้ทำอย่างนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
นั้นก็คือการควบคุมอำนาจ
และมันก็ไม่ใช่แค่สหภาพนักแสดงเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องมือของฮาร์ดี้…
+1