อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 196 ประธานของสหภาพนักแสดง

ตอนที่ 196 ประธานของสหภาพนักแสดง

คำพูดของฮาร์ดี้ไม่เพียงแต่ทำให้แขกรับเชิญตกใจ แต่ยังสร้างความตกตะลึงขึ้นอีกเมื่ออิริน่าทูไนท์โชว์ออกอากาศ

‘กฎที่ไม่สามารถพูดได้’ นั้นเป็นเรื่องปกติในฮอลลีวูด และมันก็คือเป็นความลับที่ไม่ลับ

แต่ผู้คนนับไม่ถ้วนกลับต้องทนทุกข์กับมัน

ซึ่งไดอารี่ของมาริลีนมอนโรมีประโยคที่เขียนไว้ว่า ‘ฉันนั้นต้องนอนกับโปรดิวเซอร์เพื่องาน โดยผู้จัดการจะเป็นคนบอกให้ฉันทำและทุกคนๆ ก็ต้องทำมันเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าคุณไม่ทำมันก็จะมีเหล่าหญิงสาวที่ยืนรออยู่ข้างนอกรออยู่ ซึ่งฉันก็จำไม่ได้ว่ามีกี่คนที่เข้าไปหมอบลงและปลดโซ่กางเกงของพวกเขา’

ในเวลานี้ฮาร์ดี้กำลังท้าทายวงการบันเทิงเกือบทั้งหมด โดยที่เขาสัญญาว่าถ้าได้เป็นประธานของสหภาพนักแสดงเขาจะป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครหยุดมันและกล้าที่จะออกมาพูดถึงมันเลย

นิวยอร์กไทม์ ลอสแองเจลิสไทม์ และแม้แต่แท็บลอยด์นับไม่ถ้วนต่างก็ตีพิมพ์คำพูดของฮาร์ดี้ในวันรุ่งขึ้น

ในหนังสือพิมพ์จะมีประวัติของฮาร์ดี้ขึ้นมาเป็นหน้าแรก

‘เขานั้นได้เข้าร่วมกับกองทัพเพื่อไปออกรบที่สงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนจะได้รับเหรียญกล้าหาญและกลับสู่บ้านเกิดหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส’

‘หลังจากกลับมาที่ลอสแอนเจลิสในหน้าหนาวปี 1945 เขาก็เริ่มทำธุรกิจด้วยตัวเดียวก่อนจะขึ้นเป็นมหาเศรษฐีในเวลาแค่สองปี’

‘ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของ เอชดีซีเคียวริตี้ เอชดีพิคเจอร์ เพลย์บอย ประธานของสถานีโทรทัศน์เอบีซีและฮาร์ดี้โฮเทลในลาสเวกัส’

‘นอกจากนี้ยังมีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากภายใต้ชื่อของบริษัทฮาร์ดี้อีกหลายแห่ง’

ประวัติส่วนตัวของฮาร์ดี้ในสายตาของคนอื่นๆ นั้นมันเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวเอกในโลกนิยาย 

เสมือนเทพธิดาแห่งโชคโปรดปรานเขาหรือจะพูดได้ว่าเขาเป็นที่รักของเทพธิดาแห่งโชคก็ว่าได้

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงสิ่งที่คนธรรมดารู้เกี่ยวกับฮาร์ดี้

คนที่รู้จักเขาจริงๆ จะรู้ว่าฮาร์ดี้มีพลังมากกว่าที่เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์

‘เวลานี้ โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ นักลงทุนและผู้มีอำนาจนั้นมีสิทธิ์ในตัวนักแสดงราวกับว่าเป็นเจ้าชีวิตของพวกเขา และเพียงแค่ประโยคเดียวก็สามารถตัดสินได้ว่านักแสดงคนนี้จะมีโอกาสหรือไม่ แม้กระทั่งในอนาคตนักแสดงเหล่านี้ก็ต้องก้มหัวเพื่อเอาใจพวกเขาหรือจ่ายด้วยร่างกายของตัวเอง’

‘ครั้งหนึ่งนักแสดงหญิงที่ถอนตัวออกจากวงการแสดงได้เปิดเผยว่า เธอนั้นได้เข้าสู่วงการบันเทิงได้สามปีและก็พบเจอกฎนับร้อยที่ไม่สามารถพูดได้ พร้อมกับต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายนับไม่ถ้วนจนสุดท้ายเธอได้รับแค่บทบาทเล็กๆ เท่านั้น เธอจึงรู้สึกหดหู่ใจอย่างมากเพราะแค่บทบาทนี้เธอต้องถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่รู้กี่รอบ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสงสัยในชีวิตและรู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมายจนสุดท้ายก็ต้องออกจากวงการบันเทิงอย่างเงียบๆ’ 

‘ซึ่งนี่แหละคือกฎที่ไม่สามารถพูดได้ของวงการบันเทิง’

“ความวุ่นวายในวงการบันเทิงนั้นมีอยู่ตลอดจนมันได้กลายเป็นกฎที่ถูกยอมรับ ผมหวังจริงๆ ว่าใครสักคนจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ และนายทอมฮาร์ดี้คนนี้จะทำได้ไหม? ซึ่งผมก็หวังว่าเขาจะทำได้จริงๆ”

“ประณาม! กฎนี้ไม่สามารถยอมรับได้!”

ในวงการบันเทิงหลายคนกำลังพูดถึงหัวข้อของฮาร์ดี้และคนเหล่านี้ก็เคยตกเป็นเหยื่อของกฎที่ไม่ได้พูด

พวกเขาเคยมีประสบการณ์ได้พบเจอกับมันมาแล้ว

ในอพาร์ตเมนต์ธรรมดาแห่งหนึ่งที่ลอสแองเจลิส

เด็กสาวสองคนกำลังนั่งดูรายการที่ฮาร์ดี้พูดอยู่ และหนึ่งในนั้นน้ำตาไหลก็ค่อยๆ ไหลออกมา

“เธอเป็นอะไรไป ลูน่า?” เพื่อนร่วมห้องที่เห็นเธอร้องไห้ถามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเข้ามากอดเธอเพื่อปลอบโยน

“คงจะดีมากถ้าสิ่งที่คุณฮาร์ดี้พูดนั้นเป็นจริง และผู้จัดการของเราจะได้ไม่บังคับให้ไปนอนกับผู้ชายเหล่านั้น เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นโสเภณีคนหนึ่งที่ไม่เหมือนนักแสดงเลย” หญิงสาวพูดด้วยเสียงสะอื้น

เมื่อได้ยินเช่นนี้เด็กสาวอีกคนก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน เพราะพวกเธอทั้งคู่ต่างก็มีประสบการณ์เลวร้ายนี้ 

โดยทั้งสองนั้นถูกหลอกให้เซ็นสัญญากับบริษัทนายหน้าก่อนที่จะโดนพาไปขายร่างกายภายใต้แรงกดดันของบริษัท

“ลูน่าเราก็เป็นสมาชิกของสหภาพนักแสดง ถ้าคุณฮาร์ดี้ขึ้นมาบนเวทีเราสามารถร้องเรียนไปยังสหภาพแรงงานและสหภาพแรงงานก็จะต้องดูแลเรื่องนี้แน่ๆ” เพื่อนสาวของเธอพูดปลอบ

“เขาจะสนใจจริงๆ เหรอ?”

“ฉันก็หวังว่า”

เด็กสาวพยักหน้าอย่างแรง “งั้นฉันก็จะโหวตให้คุณฮาร์ดี้อย่างแน่นอน! เพื่อความหวังของพวกเรา”

ไม่เพียงแต่นักแสดงเล็กๆ ที่ทราบซึ่งใจเท่านั้น แต่นักแสดงบางคนที่มีชื่อเสียงแล้วก็ประทับใจมากเช่นกัน 

เพราะแม้แต่พวกเขาก็ยังต้องสละร่างกายของตัวเองเพื่อที่จะได้รับบทบาท

พวกเขาหวังอย่างยิ่งที่จะมีคนมาเปลี่ยนสถานการณ์นี้และการโหวตให้ฮาร์ดี้มันก็คือความหวัง

แน่นอนว่า

โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ตัวแทนและแม้แต่เจ้านายของบริษัทภาพยนตร์บางคนก็รังเกียจคำพูดของฮาร์ดี้ 

เนื่องจากฮาร์ดี้ได้เปิดเผยสิ่งที่พวกเขาจงใจซ่อนและกำลังทำลายความลับของพวกเขา

โดยหากเป็นคนธรรมดาพวกเขาเหล่านี้ที่มีอำนาจในแวดวงวงการฮอลลีวูดจะต้องโจมตีกลับไปอย่างแน่นอน หรือจะใช้การวิจารณ์ออกสื่อกับใช้เส้นสายเพื่อปราบปรามคนที่มากล้ายั่วยุพวกเขา

แต่สำหรับการเผชิญหน้ากับฮาร์ดี้…

พวกเขาไม่กล้าและไม่มีความสามารถพอ

หากพวกเขากล้าโจมตีฮาร์ดี้ พวกเขาจะต้องตายอย่างน่าเกลียดและน่าสังเวชอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามยังมีบางคนที่ทนไม่ได้และแอบเปิดเผยความคิดเห็นของตัวเองต่อโลกภายนอกในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ที่หัวข้อว่า ‘การโฆษณาชวนเชื่อเป็นการดูถูกทุกคน’

บทความระบุว่า ‘พวกเขาส่วนใหญ่ไม่เห็นได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย เพราะทุกคนๆ ก็โตกันแล้วและหญิงสาวหลายคนก็สมัครใจที่จะเปลื้องผ้าออกมาด้วยตัวเอง ซึ่งการที่ฮาร์ดี้ออกมาพูดถึงหัวข้อนี้สำหรับการเลือกตั้งที่จะถึงมันก็เท่ากับว่าเขานั้นต้องการได้รับความสนใจ มันถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อวงการบันเทิง และผลเสียก็จะตกอยู่กับเรา’

‘แล้วบุคคลดังกล่าวก็ไม่ควรได้เป็นประธานของสหภาพด้วย!’

ฮาร์ดี้ยิ้มหลังจากอ่านหนังสือพิมพ์จบ 

นี่คือการตอบโต้ใช่ไหม? 

มันดูไม่มีอะไรเลย… 

แต่เขาก็ยังให้คนของเขาไปตรวจสอบว่าใครเป็นคนลงบทความนี้ และเฮนรี่ก็กลับมารายงานว่าหนังสือพิมพ์ได้รับจดหมายจากบุคคลนิรนามมา 

โดยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ได้อ่านบทความนี้และก็คิดว่ามันอาจจะช่วยเพิ่มยอดขายกับความนิยมของหนังสือพิมพ์ได้

ฮาร์ดี้พยักหน้า

“รอสักสองอาทิตย์หลังเลือกตั้งจบก็ไปเผาบริษัทหนังสือพิมพ์นี้ซะ แต่อย่าให้ถึงตายละ” ฮาร์ดี้กล่าว

เฮนรี่ยิ้มและพยักหน้า

ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร แต่คุณได้ทำการโจมตีฮาร์ดี้แล้ว

มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะต่อสู้กลับ และเมื่อคุณตัดสินใจที่จะรุกรานใครบางคน 

คุณก็ควรตระหนักว่าเขาจะตอบโต้กลับมาด้วย

แล้วถ้าคุณยังคิดไม่ได้งั้นก็ถือว่าคุณเป็นคนโง่และไม่เหมาะสำหรับธุรกิจอะไร 

เพราะในครั้งต่อไปมันจะไม่ใช่แค่ เผา แต่จะเป็นมหันตภัยยิ่งกว่า

แอนดี้ได้จัดตั้งทีมบริหารการก่อสร้างของ ‘เดอะเวเนเชี่ยน’ ขึ้น พร้อมกับมีนักบัญชี ทนายความอย่างละ 2 คน 

ก่อนจะเดินทางไปเปิดบัญชีกับธนาคารเวลส์ฟาร์โกเพื่อที่จะเอาเงินของแต่ละครอบครัวมาเฟียเข้าบัญชีนี้แล้วใช้เงินของกองทุนเป็นการดำเนินงาน

แน่นอนว่าฮาร์ดี้ไม่ใช่ซีเกล ถ้าเขาอยากทำอะไรก็จะทำให้มันเป็นทางการออกมา 

โดยที่ไม่ยุ่งกับแก๊งอันธพาลและทำอย่างเปิดเผย เพื่อที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายจนใครก็ตามหาเรื่องเขาไม่ได้

หลายวันต่อมาจำนวนเงินทุนก็ค่อยๆ ไหลเข้าบัญชีทีละกอง ซึ่งคนแรกคือครอบครัวคอร์เลโอเนฮาร์ดี้เลยโทรไปนิวยอร์กเพื่อพูดคุยกับเจ้าพ่อมาเฟีย

“คุณไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะการลงทุนครั้งนี้จะไม่ทำให้ครอบครัวคอร์เลโอเนผิดหวังอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ” ฮาร์ดี้ยิ้ม

เจ้าพ่อมาเฟียพูดตอบว่า “ฮาร์ดี้ ฉันมั่นใจในตัวของนายมากกว่าที่นายคิดซะอีก”

“ขอบคุณสำหรับความไว้ใจของคุณมาก”

“ไม่หรอก…ยังไงความสามารถของนายทุกคนก็ได้เห็นแล้ว และฉันก็รู้สึกได้ว่าแค่นี้นะมันยังไม่ถึงขีดจำกัดของนายหรอก นายจะต้องสร้างสิ่งที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้แน่นอน” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

ฮาร์ดี้มีความสุขมากที่ได้รับคำชมจากคนที่เขาชื่นชอบ

“แล้วคุณคอร์เลโอเนครับ เวลานี้มีการเคลื่อนไหวของครอบครัวมาเฟียอื่นๆ บ้างไหม?” 

เพราะท้ายที่สุดครึ่งหนึ่งของครอบครัวมาเฟียนั้นไม่ได้เข้าลงทุนกับคาสิโนแห่งใหม่ 

ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอะไร?

“ฉันได้ยินมาว่าบาซินี่กำลังรวมตัวกับครอบครัวอื่นๆ เพื่อสร้างคาสิโนสุดหรูในลาสเวกัส ซึ่งมันก็เป็นเพราะความสำเร็จของนาย พวกเขาจึงให้ความสนใจกับธุรกิจในลาสเวกัสมากขึ้นเรื่อยๆ ยังไงละ”

เส้นสายภายในมาเฟียของเจ้าพ่อคนนี้นั้นดีกว่าฮาร์ดี้

แล้วฮาร์ดี้ก็รู้สึกขบขัน เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะสร้างคาสิโนในลาสเวกัสได้?

พวกเขาจะทำยังไงละถึงจะเอาชนะฉัน?

เมื่อเดอะเวเนเชี่ยนกับเอ็มจีเอ็มโฮเทลสร้างเสร็จสมบูรณ์และร่วมมือกับฮาร์ดี้โฮเทล 

แม้ว่าจะไม่ได้ใช้แก๊งอันธพาล คาสิโนอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอด

“ปล่อยพวกเขาเลย เพราะยังไงลาสเวกัสก็ต้องการผู้สร้าง และยิ่งมีอุตสาหกรรมมากขึ้นเท่าไหร่ความเจริญรุ่งเรืองก็มากขึ้นเท่านั้น ” ฮาร์ดี้พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

เจ้าพ่อมาเฟียชื่นชมความใจเย็นของฮาร์ดี้เป็นอย่างมาก

“แต่ฉันต้องขอบคุณนายด้วยฮาร์ดี้” เจ้าพ่อมาเฟียพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

“ขอบคุณผมเรื่องอะไรหรือครับ?”

“นายได้ช่วยครอบครัวคอร์เลโอเนอีกครั้งแล้ว ซึ่งเดิมทีคณะกรรมการมาเฟียนั้นถูกยึดครองโดยบาซินี่ แต่เวลานี้นายได้สร้างคาสิโนแห่งใหม่ขึ้น ทำให้พันธมิตรของพวกเขาแตกออกจากกัน ครอบครัวคอร์เลโอเนเลยพ้นจากแรงกดดันไปเยอะมาก” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าวและฮาร์ดี้ก็ตอบรับคำขอบคุณจากพ่อทูนหัวคนเก่า

แน่นอนว่าเมื่อครั้งแรกที่เขาคิดจะสร้างคาสิโนแห่งใหม่ฮาร์ดี้ก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว 

เพราะยังไงครอบครัวคอร์เลโอเนก็เป็นพันธมิตรของเขา และหลังจากที่อำนาจของบาซินี่ถูกแบ่งแยกความกดดันที่คอร์เลโอเนกำลังได้รับก็จะค่อยๆ คลายลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

แถมภายในคณะกรรมมาเฟียก็จะกลับมามีสมดุลอีกครั้งและบาซินี่จะไม่สามารถกลับมาหยิ่งผยองเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน

ซึ่งฮาร์ดี้ก็ยังมีแผนอยู่ในใจอีก…

โดยเป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือล้างบ้างสามครอบครัวใหญ่และล้างแค้นให้ซีเกล

ท้ายที่สุดซีเกลก็เป็นคนทำให้เขาประสบความสำเร็จ และฮาร์ดี้ไม่เคยลืมเรื่องนี้

แน่นอนว่าเขานั้นจะเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ตราบใดที่มีโอกาสเขาจะไม่ลังเลที่จะฆ่าผู้นำของสามครอบครัวก่อน

แล้วถ้ามีโอกาสเขาก็จะเข้าควบคุมคณะกรรมการมาเฟียด้วย 

โดยประเพณีของมาเฟียนั้นไม่รับคนอื่นนอกจากอิตาลี ซึ่งฮาร์ดี้ยังต้องการเปลี่ยนแปลงประเพณีนี้ออกไป

เขาอาจจะให้ทอมเฮเก้นเข้าไปในแก๊งชาวไอรีชและให้บิลชาวอเมริกันแท้ๆ สวมรอยเข้าไปแทน 

เมื่อคิดถึงสองคนนั้นมันก็มีความน่าสนุกอยู่เหมือนกัน

แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดของเขา และมันจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอนาคต แต่มันจะต้องไม่มากระทบต่อหน้าที่การงานของเขา

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานี้ ฮาร์ดี้ก็ได้ออกไปพูดอยู่หลายครั้ง เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามาผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหลืออยู่เพียง 3 คน โดยเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับฮาร์ดี้ ผู้คนแทบจะไม่รู้สึกถึงการเป็นอยู่ของทั้งสามเลย

การเลือกตั้งนั้นจะใช้การลงคะแนนที่จุดกำหนดและการลงคะแนนผ่านไปรษณีย์ 

แน่นอนว่าปกติสมาชิกของสหภาพนักแสดงก็จะได้รับบัตรลงคะแนนเพื่อโหวตคนที่พวกเขาชอบด้วยตัวเอง

การเลือกตั้งกินเวลาไปหนึ่งสัปดาห์และผลสุดท้ายก็ประกาศออกมาแล้วว่า…ทอมฮาร์ดี้ได้รับเลือกให้เป็นประธานสหภาพนักแสดงคนใหม่

ผู้คนก็ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ เพราะการที่เขาเป็นฮาร์ดี้นั้นทำให้เขาได้รับโบนัสบางอย่างเช่นการโฆษณาออกอากาศผ่านสถานีเอบีซีกับการที่เขานั้นพูดถึง ‘กฎที่ไม่สามารถพูดได้’ 

มันเลยเป็นเหตุให้ผู้คนโหวตให้เขาเป็นจำนวนมาก

โดยคะแนนโหวตของฮาร์ดี้คือ 83% ซึ่งคะแนนครั้งนี้สูงกว่าประธานคนก่อนอย่างมาก

หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ฮาร์ดี้ก็กำลังจัดตั้งทีมผู้บริหารของตัวเองสำหรับสหภาพนักแสดง

รองประธานของสหพันธ์จะเป็นคนของเขาชื่อจอร์จ หยาง แต่ฮาร์ดี้ชอบเรียกเขาว่าจอร์จ แล้วจอร์จก็เป็นหนึ่งในหัวหน้าเอชดีซีเคียวริตี้ เขาเคยเป็นพันโทในกองทัพและมีความสามารถจัดการกับธุรกิจค่อนข้างดี 

ฮาร์ดี้เลยเอาเขามาช่วยดูแลสหภาพนักแสดงกับงานบริหารในอนาคต

สำหรับเรแกนจะเป็นผู้ช่วยรองประธาน เป็นคนที่มาช่วยฮาร์ดี้ทำงานต่างๆ

คนต่อไปก็คือเลขารีน่า ซึ่งเธอเคยเป็นเลขาให้เขาที่เอชดีพิคเจอร์ เธอนั้นทำงานได้รอบคอบเป็นระเบียบ ฮาร์ดี้เลยย้ายเธอมาทำงานกับเขา

ยังมีพนักงานบัญชีสองคนที่ถูกย้ายมาจากบริษัทแอนดี้และพนักงานธุรการสี่คนที่ถูกย้ายมาจากเอชดีเอชดีพิคเจอร์ เพื่อทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับธุรกิจของภาพยนตร์และโทรทัศน์มากขึ้น

นอกจากนี้ยังเอาคน 8 คนจากเอชดีซีเคียวริตี้มาเป็นพนักงานด้วย และอย่าคิดว่าคนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยจะต่อสู้ได้อย่างเดียว ยังไงเมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่สองพวกเขาก็เคยเป็นนักศึกษาและความฉลาดของคนเหล่านี้ก็ไม่ได้ต่ำอะไร

หลังจากเสร็จสิ้นทีมบริหารก็ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้สหภาพแรงงานยังมีพนักงานที่คงเดิมอยู่แล้วมากกว่า 40 คน ซึ่งเขาก็ให้ทำตามปกติเหมือนเดิม

เพราะยังไงค่าจ้างของคนเหล่านี้ก็ไม่ได้จ่ายโดยฮาร์ดี้ แต่จ่ายโดยสหภาพนักแสดง 

แล้วสหภาพนักแสดงก็มีการเก็บค่าธรรมเนียมอยู่โดยค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บนั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ 

ดังนั้นสหภาพจึงมีเงินทุนเพียงพอ

ซึ่งเงินเดือนของฮาร์ดี้ก็ไม่ได้ต่ำต้อยด้วยเหมือนกัน 

โดยเงินเดือนปัจจุบันของประธานาธิบดีสหรัฐคือ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี และสำหรับทรัมป์ในอนาคตก็ได้เพิ่มเป็น 400,000 ดอลลาร์ ส่วนเงินเดือนของฮาร์ดี้ในสหภาพนักแสดงนั้นก็คือ 60,000 ดอลลาร์

มันถือว่าเป็นเงินเดือนที่สูงมากในเวลานี้

เมื่อย้อนไปตอนการก่อตั้งสหภาพแรงงานขึ้นเป็นครั้งแรก สหภาพแรงงานก็ทำดีต่อสมาชิกนักแสดงทั้งหลาย 

แต่ในกระบวนการพัฒนานั้นดันมีคนใช้อำนาจในทางทุจริต ซึ่งสหภาพแรงงานก็ไม่มีการควบคุมดูแล พวกเขาใช้ค่าสมาชิกในการดำเนินงานพร้อมกับเก็บค่าธรรมทุกปี และก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นทุกปีด้วย

แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร

ด้วยวิธีนี้เงินเดือนของประธานสหภาพแรงงานจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ และเงินมันก็ยังเหลือใช้จ่ายพร้อมกับมีเงินเก็บจำนวนมากทุกปี

แต่ฮาร์ดี้นั้นรู้แล้วว่าจะเอาเงินเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ทำอะไร

ในเวลากลางคืนฮาร์ดี้กำลังกลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์ ซึ่งเขาก็พบว่าหน้าต่างนั้นไม่มีแสงไฟออกมา แถมห้องโถงก็ยังมืดด้วยเหมือนกัน แต่เขาเห็นว่าบอดี้การ์ดของเขานั้นไม่ได้กังวลอะไรและเปิดประตูให้เขาตามปกติ

เมื่อประตูเปิดไฟในห้องโถงของคฤหาสน์ก็สว่างขึ้นทันที

ปังปังปัง!

ริบบิ้นปลิวไสวและผู้คนหลายร้อยคนร่วมกันโห่ร้องแสดงความยินดีกับฮาร์ดี้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสหภาพนักแสดง 

เวลาเดียวกันก็มีเสียงเพลงดังขึ้น เอวาการ์ดเนอร์และอิริน่าก็เดินเข้ามาลากฮาร์ดี้ไปที่ที่ฝูงชนกำลังเต้นรำกันอยู่

มันก็คือ…

ปาร์ตี้ เต้นรำ ดื่ม

ในตอนดึก

ฮาร์ดี้ก็ไปพักผ่อนที่ห้องของเอวา 

แล้วหลังจากการสนามรบจบลงเอวาก็ยิ้มและถามว่า “บอส คุณถือว่านี่คือกฎที่ไม่สามารถพูดได้ไหม?”

“ฉันคิดว่ามันไม่ใช่นะ มันก็แค่การพูดคุยกันธรรมดา แต่ว่าฉันจะให้เธอใช้กฎบ้างดีไหม? เพื่อที่เธอจะหายข้องใจ”

ฮาร์ดี้ยิ้มให้เธอ 

และเธอก็คิดว่าช่างเป็นที่วิธีที่ยุติธรรมจริงๆ

ต่อมาฮาร์ดี้ก็ถูกห้ามพูดและถูกเอวาจับให้นอนลงก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มสงคราม…

1 thought on “อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 196 ประธานของสหภาพนักแสดง”

Leave a Comment

ไม่ดี!