ตอนที่ 180 มีแค่จอมวายร้ายที่มีความสุข!
เมเยอร์รู้ดีว่าฮาร์ดี้นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะในเวลาเพียงสองปีฮาร์ดี้ก็รวมโลกใต้ดินทั้งหมดของลอสแองเจลิสเข้าด้วยกันได้
แถมตอนนี้เอชดีซีเคียวรีตี้ก็แข็งแกร่งกว่ากรมตำรวจลอสแอนเจลิสเรียบร้อยแล้ว
ทำให้ทรัพย์สินในมือของฮาร์ดี้ช่วยให้เขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนสิ่งที่เขาต้องการจะทำ
ถึงจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมสกปรกก็ตาม…
ซึ่งสิ่งที่เมเยอร์กลัวที่สุดก็คือการที่เขาเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ มันเลยเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเจอจริงๆ
ทั้งสองถือสายและเงียบเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็ม
ฮาร์ดี้กล่าวว่า “คุณเมเยอร์ เราก็ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขมานานแล้ว ผมก็หวังว่าเราจะเป็นพันธมิตรและทำงานร่วมกันได้ดีต่อไปอีกนานๆ แล้วผมก็คิดว่าเราสามารถทำเค้กก้อนนี้ให้ใหญ่ขึ้นไปด้วยกันได้ เพราะเอ็มจีเอ็มไม่จำเป็นต้องทำแค่อุตสาหกรรมภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวหรอก”
“นายมีข้อเสนอให้งั้นเหรอ?” เมเยอร์ถาม
“ฮาร์ดี้โฮเต็ลของผมจะเปิดให้บริการในเดือนหน้า และผมก็เชื่อว่าลาสเวกัสจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่แน่นอน มันคือเหมืองทองที่สามารถขุดยังไงก็ไม่มีวันหมด แล้วถ้าเราร่วมมือกันเหมืองทองนี้ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก”
“ถ้าเอ็มจีเอ็มอยากจะเปิดคาสิโนที่ลาสเวกัส บางที…ผมอาจช่วยคุณได้หรือไม่เราก็มาลงทุนด้วยกัน”
ฮาร์ดี้โยนเหยื่อล่ออีกครั้ง
เมเยอร์รู้ดีว่าฮาร์ดี้นั้นได้สร้างฐานที่มั่นในลาสเวกัสเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องการเข้าไปตกรกรากที่ลาสเวกัส พวกเขาก็จะต้องผ่านด่านหน้าของฮาร์ดี้ไปก่อน
หลายๆ คนนั้นอิจฉาอุตสาหกรรมที่เปิดในลาสเวกัสมาก เพราะมันเป็นอิทธิพลของมาเฟียมาตลอด
แม้แต่ครอบครัวใหญ่ๆ บางครอบครัวก็ยังไม่สามารถแทรกแซงได้
แล้วจะนับประสาอะไรกับตัวเมเยอร์ล่ะ?
หากเขาสามารถสร้างคาสิโนขึ้นมาได้ เขาก็เชื่อว่าจะทำเงินได้เยอะมากในอนาคต
และเมื่อเมเยอร์ได้ยินจิตใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ฮาร์ดี้ นายจริงจังใช่ไหม?”
“แน่นอน แต่มันก็ไม่ใช่แค่เฉพาะของเอ็มจีเอ็ม เพราะผมจะไปหานายทุนเข้าลาสเวกัสอีกยังไงถ้ามีคนมาช่วยสร้าง…ลาสเวกัสก็จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว” ฮาร์ดี้แสดงทัศนคติของเขา
ในที่สุดเมเยอร์ก็รู้ว่าเค้กที่ฮาร์ดี้พูดถึงคืออะไร
ลาสเวกัสเป็นเค้กที่หอมหวานมากจริงๆ
แล้วถ้าฮาร์ดี้สามารถดึงครอบครัวใหญ่และทุนใหญ่เข้ามาได้ อิทธิพลของฮาร์ดี้ก็จะเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน
และเมเยอร์ก็รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะขึ้นรถคันนี้
เขาพลาดการซื้อหุ้นของเอบีซีเมื่อสองสามวันก่อนและตอนนี้เขาก็ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ ไปอีกแล้ว
“ฮาร์ดี้ ฉันตกลงที่ยอมรับเงื่อนไขของนาย”
“ฉันไม่มีปัญหาที่จะเอาภาพยนตร์ของเอ็มจีเอ็มให้กับสถานีโทรทัศน์เอบีซี ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมอะไรนั้น เดี๋ยวเรามาตกลงกันทีหลัง นายเอาไปออกรายการก่อนได้เลย”
“ส่วนหุ้นลอสแอนเจลิสไทมส์ ฉันจะขายให้ตามราคาหุ้นในเวลานี้”
“แล้วการเลือกตั้งประธานในปีหน้า ฉันก็จะสนับสนุนนายเต็มที่เหมือนกัน”
เมื่อเห็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ใครๆ ก็สามารถเปลี่ยนไปได้ตลอด
ฮาร์ดี้รู้สึกดีมากที่ได้ยินคำพูดของเมเยอร์ เพราะมันทำให้แผนการของเขาก้าวเข้าไปอีกขั้นแล้ว
“สำหรับหุ้นของเอบีซี ฉันขอลดลงมาเหลือที่ 12 ล้านดอลลาร์ได้ไหม?” เมเยอร์เริ่มเสนอลดราคา
“ไม่ ไม่ อย่างน้อยต้อง 18 ล้านดอลลาร์ คุณน่าจะรู้มูลค่าของบริษัทเอบีซีดีอยู่แล้ว เพียงแค่รายการทีวีช้อปปิ้งมันก็สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้ทุกปี แล้วการร่วมมือครั้งนี้ของเอ็มจีเอ็มกับเอบีซีมันก็จะสร้างผลกำไรให้คุณได้มหาศาลอย่างแน่นอน” ฮาร์ดี้พูดอย่างมั่นใจ
ทั้งสองต่อราคากันไปมาเป็นเวลานาน และในที่สุดราคาก็จบที่ 14.5 ล้านดอลลาร์
ซึ่งฮาร์ดี้ซื้อเอบีซีมาในราคา 12 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้เขาขายหุ้นไปแค่ 20% เขาก็ได้เงินคืนกลับมา 14.5 ล้านดอลลาร์
เมเยอร์รู้สึกชื่นชมฮาร์ดี้มากจริงๆ สำหรับเรื่องนี้
แล้วการที่เขานำเอ็มจีเอ็มไปทำความร่วมมือกับเอบีซี ฝั่งที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็เป็นฮาร์ดี้
เพราะเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องรายการที่จะออกอากาศอีกแล้ว
แถมฮาร์ดี้ยังเสนอเงื่อนไขมาให้เขาอีก
หุ้นของลอสแอนเจลิสไทมส์ เก้าอี้ประธานสมาคมนักแสดง
ต้องบอกเลยว่าการทำธุรกิจครั้งนี้ฮาร์ดี้ได้กำไรเต็มๆ
“ฮาร์ดี้เมื่อเราทำข้อตกลงกันเสร็จแล้ว ฉันอยากจะชวนเพื่อนของฉันสองสามคนมาสร้างคาสิโนด้วยกัน แล้วนายอยากจะได้หุ้นกี่เปอร์เซ็นต์” เมเยอร์รู้ว่าฮาร์ดี้จะต้องเข้าร่วมกับเขาอย่างแน่นอน
ไม่อย่างนั้นฮาร์ดี้จะดึงเขาไปที่ลาสเวกัสทำไม?
“ผมต้องการ 40%” ฮาร์ดี้กล่าว
“ไม่มีทาง 40% นั้นเยอะเกินไป อย่าลืมว่าฉันมีเพื่อนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้หุ้นนายมากขนาดนั้น”
เมื่อคนเราไม่มีความแข็งแกร่งอะไร
เราก็แค่หาอาหารและเครื่องนุ่งห่มสำหรับการอยู่รอดไปวันๆ
แต่เมื่อคนเรามีความแข็งแกร่ง
โลกที่อยู่นั้นก็จะแสดงออกมาอีกแบบ
แม้ว่าฮาร์ดี้และเมเยอร์จะตกลงอะไรกันเรียบร้อยแล้ว
เมเยอร์ก็ยังต้องไปหารือกับคนในบริษัทเช่น คณะกรรมการ
ซึ่งการทำธุรกรรมต่างๆ มันก็ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการก่อน
ท้ายที่สุดแล้วการลงทุนอะไรบางอย่างมันก็อาจจะใช้เงินหลายสิบล้านดอลลาร์…
อีกอย่างก็ต้องมาดูว่าคณะกรรมการจะยินดีที่จะสละหุ้นลอสแอนเจลิสไทมส์ของเอ็มจีเอ็มด้วยไหม
เพราะมันก็ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมเช่นกัน
…
รายการตอนเย็นของเอบีซียังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
ซึ่งการ์ตูนเรื่อง ‘อุลตร้าแมน’ ของฮาร์ดี้ก็ครองใจเด็กๆ ไปเรียบร้อย
อีกอันก็คือภาพยนตร์ซีรีส์ ‘A Fairy Wife’ เวอร์ชันอเมริกันก็มีคนติดตามเยอะเช่นกัน
วันรุ่งขึ้น
ตอนนี้ทีวีช้อปปิ้งกำลังขายโทรทัศน์อยู่ ซึ่งตอนนี้โรงงานมิโบทีวีได้เปิดไลน์ผลิตเต็มกำลังแล้ว
เขาสามารถสั่งผลิตทีวีขาวดำขนาด 14 นิ้วและ 17 นิ้วได้วันละ 1,000 เครื่องทุกวัน
ฮาร์ดี้ก็นำมันมาขายโดยตรงที่ทีวีช้อปปิ้ง
แต่เขานั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องการขายเท่าไหร่ เพราะเขาแค่อยากโฆษณามันเท่านั้น
ยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการร่วมมือกับธนาคารในการปล่อยสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย
การขายโทรทัศน์ครั้งนี้ก็ยังมีส่วนลดน้อยกว่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งราคาเดิมของโทรทัศน์ขนาด 14 นิ้วจะอยู่ที่ 127 ดอลลาร์ เมื่อลดราคาลงไปจะเหลือ 108 ดอลลาร์ ส่วน 17 นิ้วจะอยู่ที่ 169 ดอลลาร์ลดลงเหลือ 142 ดอลลาร์
ถึงกระนั้นมันก็ยังถูกขายไปได้ถึง 1,000 เครื่อง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ลอสแอนเจลิสไทมส์จัดทำแบบสอบถามในลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก สำหรับการตรวจสอบเรตติ้งของสถานีโทรทัศน์ทั้งสามแห่งเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งผลลัพธ์จะออกในอีกสองวันข้างหน้า และผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมันก็น่าตกใจมากจริงๆ
เพราะสถานการณ์เดิมคือสองบริษัทออกอากาศเอนบีซีและซีบีเอสจะแบ่งยอดผู้ชมได้เท่าๆ กัน
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้คนนิยมดูรายการของเอบีซีมากกว่า
ในเวลานี้ความนิยมของสถานีโทรทัศน์เอบีซีอยู่ที่ 68%
มันเยอะจนน่ากลัวจริงๆ
โดยรายการโปรดของผู้คนทุกอันดับต้นๆ จะเป็นของเอบีซีทั้งหมด
ซึ่งอันดับที่หนึ่งก็คือ ‘A Fairy Wife’ อันดับสองเป็น ‘ทีวีช้อปปิ้ง’ อันดับสามคือ ‘อิริน่าทอล์คโชว์’ อันดับสี่ ‘เซซามีสตรีท’ อันดับห้า ‘การเงินกับแอนดี้’
โดยรายการของเอนบีซีและซีบีเอสจะเริ่มจากอันดับหกลงไป
จากการสำรวจมันแสดงให้เห็นว่าเมื่อ ‘A Fairy wife’ ออกอากาศผู้ชมก็จะดูแต่ซีรีส์เรื่องนี้
แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
ผู้คนติดตามดูทุกตอน และนักแสดงของซีรีส์นี้ก็ไม่ได้เป็นดาราดังไม่ได้เป็นที่รู้จัก ทว่าตอนนี้พวกเขาล้วนถูกจดจำชื่อได้หมดแล้ว
บอกได้เลยว่าสถานีโทรทัศน์เอบีซีกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
เวลานี้ฮาร์ดี้อยากจะจัดงานปาร์ตี้ เพราะตั้งแต่เขาได้คฤหาสน์ซีเกลมาเขาไม่เคยมีปาร์ตี้ที่นี่เลย
สถานที่ที่ดีเช่นนี้เลยถูกทิ้งเหมือนของพังๆ ชิ้นหนึ่ง
เขาเลยประกาศให้มีงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ของเขา และเชิญทีมงานของเอบีซีมาเฉลิมฉลองพักผ่อนหย่อนใจ
…
งานปาร์ตี้เป็นไปอย่างคึกคัก
ชายและหญิงร้องเพลงเต้นรำกันอย่างผ่อนคลาย ส่วนฮาร์ดี้ก็ไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์อย่างเมามัน
ปาร์ตี้ลากยาวจนตีหนึ่งถึงเลิก
โดยใครที่เมาจะถูกส่งกลับบ้านโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอชดี
ฮาร์ดี้ยิ้มอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับโบกมือลาคนอื่นๆ
เขารอจนผู้คนจากไปหมด และอิริน่าก็เดินเข้ามาหาฮาร์ดี้ “บอสค่ะ ฉันมีเรื่องบางอย่างจะรายงานให้บอสทราบ”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ใครบางคนมาหาฉันและบอกว่าต้องการตัวฉันไปเป็นพิธีกรของสถานีโทรทัศน์ โดยพวกเขาบอกว่าถ้าฉันยอมไป พวกเขาจะให้สัญญาที่ดีกว่าตอนนี้ทุกอย่าง” อิริน่ากล่าว
“เอนบีซีหรือซีบีเอสล่ะ?”
“เอนบีซีเข้ามาหาฉันโดยตรง แต่ซีบีเอสนั้นมุ่งเป้าไปที่พนักงานคนอื่นๆ ในบริษัท” อิริน่ากล่าว
ฮาร์ดี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เอบีซีเพิ่งจะเริ่มออกอากาศได้หนึ่งสัปดาห์มันก็มีคนมากระตุกหนวดเสือซะแล้ว
“แล้วพวกเขาหาคนแบบไหนบ้าง?”
“พวกเขาเข้าไปหาคนจากบริษัทเราเยอะมาก เช่น พิธีกรรายการข่าว พิธีกรรายการโทรทัศน์ แม้แต่พระเอกและนางเอกของ ‘ A Fairy Wife’ ก็โดนด้วย”
“สัญญาที่ให้ก็ดีกว่าของเดิมมากๆ เหมือนกันค่ะ”
“แต่พวกเขาก็ยังไม่จบแค่นั้นด้วย เพราะเท่าที่ฉันได้ยินมาพวกเขายังไปหาคนตัดต่อและผู้กำกับของเรา รวมทั้งนักเขียนบท ช่างไฟ และคนทำพรอพ ฉันเลยคิดว่าพวกเขามาสร้างปัญหาเพื่อทำให้บริษัทเราปั่นป่วนมากกว่า” อิริน่าพูดด้วยความโกรธ
ฮาร์ดี้ยิ้มอย่างเย็นชา “ฮ่าๆ มันก็แค่ปัญหาเล็กๆ เท่านั้นเอง พวกเขาเห็นว่าบริษัทเราปล้นเรตติ้งของพวกเขาไป เลยมีความแค้นอยู่ยังไงละ”
“บอสค่ะ เรื่องนี้เราจะละเลยไม่ได้นะ เพราะจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนถูกล่อลวงไปจริงๆ? ยังไงถ้านางเอกกับพระเอกของ ‘A Fairy Wife’ ถูกแย่งตัวไป เราจะเป็นฝ่ายที่สูญเสียมากที่สุดนะคะ” อิริน่ารีบพูดเตือนอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าอิริน่ากังวลแค่ไหน ฮาร์ดี้ก็คิดว่าเลขาตัวน้อยของเขาช่างน่ารักดีจริงๆ
เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นักแสดงและศิลปินทุกคนในบริษัทนั้นเซ็นสัญญากับทางเราหมดแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็มีสัญญาติดตัวถึง 10 ปี”
“และค่าฉีกสัญญาที่เราตั้งไว้ก็สูงมาก เธออยากรู้ไหมว่าฉันตั้งค่าปรับสำหรับนางเอกและพระเอกของ A fairy Wife ไว้เท่าไหร่?”
“เท่าไหร่คะ?” อิริน่าถามอย่างสงสัย
“10 ล้านดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
///อือหือ
อิริน่าอ้าปากด้วยความประหลาดใจ “ค่าปรับสูงขนาดเลยเหรอคะ? งั้นมันก็ดีสิถ้าบริษัทเหล่านั้นดึงตัวนักแสดงของเราไปได้”
ฮาร์ดี้พูดต่อว่า “นอกจากนี้สัญญาก็ทำไว้อย่างรัดกุม เพราะถ้าใครออกจากบริษัทไป คนคนนั้นจะไม่ต้องทำงานเดิมซ้ำภายใน 5 ปี แล้วถ้าฝ่าฝืนจะต้องเผชิญหน้ากับความเสียหายและการแสดงทุกอย่างก็จะถูกระงับ”
“แล้วเธอคิดเหรอว่าบริษัทเหล่านั้นจะลงทุนทำให้ตัวเองขาดทุน?”
อิริน่ากะพริบตา
“บอสค่ะ ฉันก็เป็นพนักงานของบริษัทด้วยไม่ใช่เหรอ…แต่ทำไมฉันไม่เห็นได้เซ็นสัญญาดังกล่าวเลยหรือเป็นเพราะฉันไม่เก่งเท่าพวกเขาเลยไม่ได้เซ็นอะไร…”
ฮาร์ดี้มองไปที่สาวฝรั่งเศสแล้วยิ้ม ก่อนจะเข้าไปใกล้ๆ และกระซิบข้างหูของเธอว่า “เธอรู้ว่าความลับเกี่ยวกับตัวฉันตั้งเยอะ คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปเหรอ?”
“ถ้าเธอต้องการไปจากฉัน แค่เงินนะมันไม่พอหรอก”
ดวงตาของสาวฝรั่งเศสเบิกกว้างขึ้น
หรือเจ้านายจะฆ่าปิดปากเธอ?
น่ากลัวมาก!
…
ในขณะนี้ฮาร์ดี้กำลังเดินโซเซไปมา
วันนี้เขาดื่มหนักไปหน่อย เมื่อเขาลุกขึ้นเดินเขาก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
อิริน่ารีบเข้าไปพยุงบอสของเธออย่างรวดเร็ว
“บอส คุณน่าจะดื่มไปมากเลยใช่ไหม? เดี๋ยวฉันพาคุณขึ้นไปเองดีกว่า” อิริน่าช่วยพยุงฮาร์ดี้ที่กำลังเดินตัวสั่นขึ้นไปบนบันได
เมื่อพ่อบ้านเห็นฉากนี้เขาก็ไม่ได้สั่งให้คนอื่นไปช่วยเจ้านายฮาร์ดี้
หลังจากขึ้นไปชั้นสองอย่างยากลำบาก
อิริน่าก็พาฮาร์ดี้ไปที่ห้องนอน
เธอเดินตรงไปที่เตียงขนาดใหญ่
ทันใดนั้นเท้าของเธอก็สะดุดตรงเตียงทำให้ทั้งสองล้มลงไปทันที
ในเวลานี้ฮาร์ดี้ก็นอนอยู่ด้านล่าง ขณะที่อิริน่านอนซบอกของเขา พร้อมกับที่ดวงตาของทั้งสองจ้องกันและกัน
หัวใจของอิริน่ากำลังเต้นอย่างรวดเร็วและริมฝีปากของทั้งสองก็ชนกัน…
ก่อนที่เสื้อผ้าจะค่อยๆ หลุดออกไป
นี้แหละนะเมื่อมีความรัก ดอกท้อก็ค่อยๆ ร่วงหล่นไป
…
ฮาร์ดี้พบว่าอิริน่ายังคงเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์อยู่
แต่เธอก็ไม่ได้ประหม่าอะไรกลับแสดงความกระตือรือร้นมากซะด้วยซ้ำ
“บอส ตุ๊กตาบาร์บี้ทุกตัว ต้นแบบมาจากผู้หญิงของบอสใช่ไหม?”
“ใช่”
“งั้นบอสอย่าฆ่าคนได้ไหม?”
“ตราบใดที่เธอไม่ทรยศและจากฉันไป เรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
“บอส! ฉันรู้แล้วว่าคุณเป็นตัววายร้าย!”
“ฮ่าๆ ในโลกนี้มีเพียงวายร้ายเท่านั้นที่สามารถอยู่อย่างมีความสุขได้!”
“โอ้~~~”