ตอนที่ 162 เปลี่ยนนักแสดง
เรแกนขอบคุณฮาร์ดี้และผู้กำกับโนแลนอีกครั้งก่อนจากไป
โนแลนมองไปที่ฮาร์ดี้และพูดว่า “ฮาร์ดี้ นายจะเลือกบทของ ‘คาร์ล’ ด้วยตัวเองไหม?”
ฮาร์ดี้โบกมือ
“นายตัดสินใจได้เลย” ฮาร์ดี้กล่าว
เขาไม่สนใจที่จะเลือกนักแสดงสมทบเหล่านั้นหรอก
“ฮาร์ดี้ และคิดว่าคนประเภทไหนที่เหมาะกับคนทรง? คนขาว ดำ หรืออเมริกาใต้?” โนแลนถามอีกครั้ง
ฮาร์ดี้กำลังจะพูดว่าคนดำออกไป เพราะคนทรงในภาพยนตร์เรื่องนี้แต่เดิมก็คือนักแสดงสาวผิวสีอูบีโกลด์เบิร์ก
แต่เขาก็นึกได้ว่านี่คือปี 1947 สถานะของคนผิวดำในตอนนี้ก็ต่ำกว่าในอนาคตมาก
ซึ่งมันก็อาจจะยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่…
แล้วถ้าเขาเปลี่ยนมันล่ะ?
โดยการให้คนทรงเป็นคนจีนแทน?
แถมในปัจจุบันความประทับใจของชาวอเมริกันต่อชาวจีนนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ถ้าเขาเปลี่ยนคนทรงเป็นนักแสดงคนจีน และถ่ายทำที่ไชน่าทาวน์
มันก็อาจจะทำให้พวกเขาเข้าใจคนจีนมากขึ้น
ซึ่งในภาพยนตร์มันก็มีการแสดงพลังลึกลับของชาวตะวันออกอยู่แล้ว
เขาจะใส่ยามที่มีวิชากังฟูของจีนเข้าไปอีก
แน่นอนว่าบทบาทนี้จะต้องปรากฏตัวในภายหลัง เพื่อที่จะเอาชนะพวกโจร
มันจะเป็นการแสดงให้ชาวอเมริกันรู้ว่าชาวจีนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรังแก
บางทีในอนาคตเขาอาจจะสร้างดาราภาพยนตร์ที่เก่งกาจในศิลปะการต่อสู้แบบบรูซลี
เพื่อให้พวกเขารู้ว่าชาวจีนทั้งหมดเป็นวิชากังฟู และจะได้เป็นการขจัดความกลัวที่ฝังอยู่ในจิตใจของพวกเขาไปด้วย
ซึ่งภาพยนตร์ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากนัก
ประมาณ 400,000 ดอลลาร์หรือ 500,000 ดอลลาร์ก็สร้างได้แล้ว
ส่วนบทของภาพยนตร์ก็ลอกจาก ‘The Raptors Cross the River’ มาเลยน่าจะดีกว่า
ส่วนจะติดบ็อกซ์ออฟฟิศไหม…
ฮาร์ดี้ไม่สนใจ
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องสูญเสียเงินลงทุนไปทั้งหมดก็ตาม
ยังไงมันก็ไม่ใช่เงินจำนวนมากเท่าไหร่ หรือเขาอาจจะไม่สูญเสียสักดอลลาร์เลยก็ได้
เพราะตอนนี้มีชาวจีนประมาณหนึ่งล้านคนในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งพวกเขาก็เป็นลูกค้าเหมือนกัน
ฮาร์ดี้พูดกับโนแลนว่า “หานักแสดงชาวจีนให้มารับบทเป็นคนทรงน่าจะดีกว่า”
“คนจีนเหรอ?”
โนแลนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ในวัฒนธรรมจีนมีการศึกษาอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังจิตลึกลับ ซึ่งชาวยุโรปและชาวอเมริกันมักจะได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลึกลับของชาวจีนมาตลอด ฉันคิดว่ามันเหมาะสมที่จะใช้พวกเขา และเราเพียงแค่หานักแสดงหญิงอายุ 30-40 ปี พร้อมกับไปถ่ายทำที่ไชน่าทาวน์” ฮาร์ดี้กล่าว
โนแลนคิดอยู่พักหนึ่ง “ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับชาวจีน แต่อาจจะมีจะเป็นปัญหาเล็กน้อยถ้าจะไปถ่ายทำในไชน่าทาวน์…”
“มีปัญหาอะไร?” ฮาร์ดี้ถาม
“ที่นั่นเป็นที่ตั้งของแก๊งถัง และแก๊งถังก็เป็นพวกอนุรักษนิยมอีกด้วย ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะให้เราเข้าไปถ่ายทำหรือเปล่านะสิ” โนแลนกล่าว
ฮาร์ดี้ยิ้มเบาๆ “ไม่ต้องกังวลกับพวกเขา เดี๋ยวฉันจะจัดการให้”
หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฮาร์ดี้ก็ออกจากเอชดีพิคเจอร์และไปที่บริษัทประมูล
ซึ่งในฝั่งไชน่าทาวน์เขาสามารถให้บิลไปคุยได้ เพราะตอนนี้แก๊งจีนและบริษัทแอลเอไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน
มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับบิลที่จะไปพูดคุยกับหัวหน้าของแก๊งถัง
แต่ฮาร์ดี้ก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็คิดได้ว่านี่ก็คือธุรกิจอย่างหนึ่ง
เขาอาจจะขอความช่วยเหลือจากฮันเยจินได้ ซึ่งเธอสามารถไปบอกกับหัวหน้าของแก๊งถังได้โดยตรงมากกว่าบิล
…
ฮันเยจินและอิริน่าทั้งคู่กำลังทำงานอยู่ในบริษัทประมูล
ตอนนี้ทั้งคู่ใกล้เรียนจบแล้ว
ซึ่งฮันเยจินนั้นศึกษาด้านสถาปัตยกรรมและอิริน่ากำลังศึกษาเกี่ยวกับช่างภาพ พร้อมกับที่ทั้งสองจะสำเร็จการศึกษาในปีนี้
ฮันเยจินนั้นเคยคิดที่จะเป็นสถาปนิก แต่หลังจากได้รับการว่าจ้างให้เป็นหัวหน้าบริษัทประมูลโดยฮาร์ดี้
เธอก็ค่อยๆ ตกหลุมรักการสะสมของเก่าและตัดสินใจที่จะทำมันต่อไป
“เยจิน เธอช่วยโทรหาชาวจีนสักคนได้ไหม? บอกกับพวกเขาว่าบริษัทเอชดีฟิล์มอยากจะถ่ายทำที่ไชน่าทาวน์ ซึ่งก็ฉันหวังว่าพวกเขาจะช่วยประสานงานได้” ฮาร์ดี้กล่าว
“ไม่มีปัญหา ว่าแต่คุณจะถ่ายภาพยนตร์เรื่องอะไรเหรอ?” ฮันเยจินถาม
ฮาร์ดี้จึงเล่าเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก’ ให้กับทั้งสองฟัง
ซึ่งพวกเธอก็ถูกดึงดูดโดยพล็อตของเรื่องนี้ทันที
ยังไงซะภาพยนตร์ที่มีฉากเลิฟซีนก็ดึงดูดผู้หญิงได้ง่ายอยู่แล้ว
“ผู้ชายได้ตายไปแล้ว แต่เขานั้นต้องการปกป้องผู้หญิงที่เขารัก มันช่างโรแมนติกจริงๆ ฉันชอบผู้ชายแบบนี้จัง” อิริน่ากล่าว
ฮันเยจินคิดถึงเรื่องอื่น และพูดเบาๆ ว่า “ฉันเคยดูภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง และพวกเขาก็ให้บทบาทที่น่ารังเกียจกับชาวจีน ผมเปีย โลภในเงิน การทรยศ แม้กระทั่งทำให้พวกเขาเป็นปีศาจ ซึ่งทุกครั้งที่ฉันเห็นบทแบบนี้ ฉันจะโกรธมาก”
“คุณฮาร์ดี้ คนทรงในภาพยนตร์ฉันหวังว่าเขาจะเป็นตัวละครที่ดี” ฮันเยจินกล่าว
“ไม่ต้องห่วง คนทรงในภาพยนตร์จะออกมาดูดีอย่างแน่นอน เพราะด้วยความช่วยเหลือของเธอ ในที่สุดแซมและมอลลี่ก็ได้เจอกันอีกครั้งและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน และฉันก็บอกให้ผู้กำกับสร้างตัวละครนี้ให้แข็งแกร่ง ดูลึกลับ และเต็มไปด้วยความยุติธรรม” ฮาร์ดี้กล่าว
“เยี่ยมเลย!”
ฮันเยจินยิ้มออกมาและหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาถังเจิ้งผู้ช่วยของแก๊งถังในลอสแอนเจลิส
ซึ่งเขาก็รับสายอย่างรวดเร็ว
ฮันเยจินเล่าเรื่องที่ฮาร์ดี้บอกกับเธอให้ถังเจิ้งฟัง และถังเจิ้งก็เห็นด้วย
“ไม่มีปัญหาอะไรเลย คุณหนูฮันสามารถบอกกับคนของเอชดีพิคเจอร์ให้มาที่นี่ได้ตลอดเวลา และหากมีสิ่งใดที่คุณต้องการก็สามารถบอกกับผมมาได้เลย”
ฮาร์ดี้คิดอะไรบางอย่างและก็พูดกับฮันเยจินว่า “เยจิน ลองถามคุณถังดูสิว่าเขารู้จักนักแสดงหญิงชาวจีนอายุ 30 หรือ 40 ปีไหม? เพราะฉันคิดว่ามันดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่ใช้นักแสดงหญิงที่ทำสัญญากับสมาคมนักแสดง”
“อย่างไรก็ตามถ้ามีชายหนุ่มที่รู้กังฟูก็ช่วยแนะนำพวกเขามาด้วย มันมีบทบาทยามในภาพยนตร์ที่ยังไม่มีใครได้ไป และมันก็เป็นบทที่ดีเหมือนกัน”
ฮันเยจินพูดสิ่งที่ฮาร์ดี้บอกกับเธอให้ถังเจิ้งฟัง
ถังเจิ้งก็ชะงักไปแปปหนึ่ง และพูดว่า “เยจินเมื่อกี้นี้คุณฮาร์ดี้พูดใช่ไหม?”
“อ่า..”
ฮันเยจินเงยหน้ามองฮาร์ดี้
ในตอนนี้เสียงของโทรศัพท์มันก็ค่อนข้างดัง ทำให้ฮาร์ดี้ก็ได้ยินคำพูดของถังเจิ้งเช่นกัน
ดวงตาของฮันเยจินมองมาที่ฮาร์ดี้เหมือนกับถามว่าจะตอบยังไง
ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่ง และยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์พร้อมกับพูดว่า “สวัสดีครับคุณถังเจิ้ง ผมทอมฮาร์ดี้”
“สวัสดีคุณฮาร์ดี้ ฉันได้ยินชื่อของคุณมาเป็นเวลานาน แต่เราก็ไม่ได้มีโอกาสเจอกันเลย” ถังเจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
ถังเจิ้นนั้นอยู่ในลอสแอนเจลิสและเขาก็รู้เกี่ยวกับสถานการณ์โลกใต้ดินในลอสแอนเจลิสมากกว่าคนอื่นๆ
แม้ว่าบริษัทแอลเอจะมีผู้นำก็คือบิล แต่จักรพรรดิใต้ดินที่แท้จริงก็คือทอมฮาร์ดี้
ซึ่งในตอนนี้บริษัทแอลเอก็ถือเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในลอสแองเจลิส
พวกเขากวาดล้างแก๊งสเปนก่อน และก็ออกกวาดล้างแก๊งฝั่งเหนือ พร้อมกับแก๊งอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่รู้จักชื่อก็ยังถูกพวกเขากวาดล้างจนเรียบ
ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงชาวเม็กซิกันและชาวจีนที่เป็นกองกำลังขนาดใหญ่ แต่ทั้งสองทำได้แค่อยู่รอดในรอยแตกเท่านั้น
โชคดีที่ชาวจีนส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจในไชน่าทาวน์ และพวกเขาก็ไม่มีข้อพิพาทกับแก๊งแอลเอ
ซึ่งทั้งสองก็กำลังทำธุรกิจบางอย่างด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาก็ถือว่าอยู่ในความสงบได้อยู่…
ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่รับประกันว่าแก๊งถังจะสามารถนั่งลงและผ่อนคลายได้
เพราะมันเหมือนมีสิงโตตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ กระต่าย
ซึ่งสิงโตก็สามารถกลืนกินกระต่ายได้ตลอดเวลา และกระต่ายตัวนั้นก็ตัวสั่นอยู่ทุกวัน
มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากจริงๆ
และหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฮันเยจินเมื่อครั้งที่แล้ว
เป็นถังเจิ้งที่ช่วยเธอไว้
ต่อมาเขาก็ได้รู้ว่าฮาร์ดี้ได้ช่วยเธอไว้จากอันธพาลก็ทำให้เขาเริ่มสนใจในตัวฮาร์ดี้ และฮันเยจินยังได้เปิดบริษัทประมูล
ซึ่งเจ้าของก็คือทอมฮาร์ดี้
ถังเจิ้งจึงเข้าใจว่าหลานสาวคนนี้น่าจะต้องอยู่กับฮาร์ดี้แน่ๆ เพราะฮาร์ดี้ได้ติดต่อมาหาเขา
อันที่จริง เขาก็มีความคิดที่จะพัฒนาแก๊งถังให้มีสถานะสูงกว่าเดิม
แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับแก๊งถังที่จะเติบโต เพราะเขาต้องมั่นใจว่ามันจะสามารถอยู่รอดในเวลานี้ได้ก่อน
ทุกๆ วัน เขาคิดจะขอให้ฮันเยจินช่วยพูดคุยเรื่องราวต่างๆ กับฮาร์ดี้ เพื่อให้เธอพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา
แต่ถังเจิ้งก็รู้สึกว่ามันเร็วเกินไป
ทว่าวันนี้ฮันเยจินได้โทรมาหา และเขาก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดอยู่ข้างๆ
เขาจึงคาดเดาว่าเป็นฮาร์ดี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงถามออกไปอย่างมั่นใจ
“ผมจะไม่รบกวนเวลาของคุณถังมากนัก ซึ่งคราวนี้ผมมีเรื่องให้คุณถังเจิ้งช่วย และผมต้องขอโทษที่ต้องรบกวนคุณจริงๆ” ฮาร์ดี้กล่าว
“ไม่มีปัญหากับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอก และคุณฮาร์ดี้กำลังมองหานักแสดงหญิงชาวจีนใช่ไหม? ฉันมีคนที่จะแนะนำให้คุณอยู่พอดี” ถังเจิ้งกล่าว
“โอ้ ใครเหรอ?”
“เธอเป็นนักแสดงหญิงจากประเทศจีน ชื่อในวงการของเธอคือ ‘Butterfly’ เธอได้แสดงนำในภาพยนตร์หลายเรื่องในประเทศจีน และเป็นที่รู้จักในฐานะสาวงามอันดับ 1 ของประเทศจีน ในปีนี้เธออายุ 40 ปี และเธอก็เพิ่งมาที่ลอสแอนเจลิสในปีนี้เหมือนกัน ฉันคิดว่าเธออาจจะเหมาะกับบทบาทในภาพยนตร์ของคุณ” ถังเจิ้งกล่าว
ฮาร์ดี้ตกตะลึง
ผีเสื้อ?
สาวงามคนแรกของประเทศจีน!
ฮาร์ดี้เคยได้ยินชื่อ ‘ผีเสื้อ’ ในชาติที่แล้วมาเหมือนกัน
เธอมีชื่อเสียงมากในประเทศจีน และได้แสดงนำในภาพยนตร์หลายเรื่อง
อย่างไรก็ตามเธอถูกควบคุมโดยไดหลี่
ซึ่งเธอก็หนีไปไหนไม่ได้จนกว่าไดหลี่จะตายเหมือนกับผีเสื้อ
เมื่อไดหลี่ตาย
มันก็มีข่าวลือออกมาว่าเธอได้ไปตั้งรกรากอยู่ที่เมืองโทรอนโตประเทศแคนาดา
แต่ไดหลี่เสียชีวิตตอนไหนล่ะ?
ดูเหมือนจะเป็นปี 1946
แสดงว่าตอนนี้ผีเสื้อก็มาถึงลอสแอนเจลิสในเวลาที่เหมาะสมจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นคุณถัง ช่วยบอกเธอให้ไปที่เอชดีพิคเจอร์ เพื่อที่พวกเราจะได้ดูว่าเธอเหมาะสมกับบทบาทหรือไม่” ฮาร์ดี้กล่าว
“ไม่มีปัญหา อีกอย่างคุณยังต้องการบทยามที่สามารถต่อสู้ได้ใช่ไหม? มีคนแบบนี้อยู่รอบๆ ตัวฉันเยอะมาก ทำไมไม่ให้ฉันส่งพวกเขาไปล่ะ?” ถังเจิ้งกล่าว
“เยี่ยมเลย! ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปเจอกันที่นั่นเลยดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็สักตอนบ่ายคุณคิดว่ายังไง?”
“ไม่มีปัญหา”
หลังจากวางหูโทรศัพท์ ถังเจิ้งก็มีสีหน้าตื่นเต้นมาก
ครั้งนี้เขาโชคดีจริงๆ ที่ได้ติดต่อกับฮาร์ดี้
ตราบใดที่เขาทำได้ดีในครั้งนี้ โดยผลักดันฮันเยจินและฮาร์ดี้ให้เกิดความรักที่หอมกรุ่น…
แก๊งถังก็จะสามารถอยู่รอดได้อย่างปลอดภัยในลอสแอนเจลิส เขาก็จะได้ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไป
เขาไม่รอช้าและสั่งให้คนของเขาติดต่อกับผีเสื้อทันที
ซึ่งเขาก็ไปรวบรวมหนุ่มสาวทั้งหมดในแก๊งที่สามารถต่อสู้ได้ และมีหน้าตาที่ดูดีด้วย
ฮาร์ดี้วางหูโทรศัพท์ หลังจากเงยหน้าขึ้นเขาก็พบว่าฮันเยจินกำลังมองเขาด้วยสายตาที่สดใส
“มีอะไรหรือเปล่า?”
ฮันเยจินถามด้วยความตื่นเต้น “ลุงถังแนะนำคุณให้รู้จักกับราชินีผีเสื้อใช่ไหม?”
ฮาร์ดี้ยักไหล่ “ไม่รู้สิ เขาบอกว่าเธอชื่อบัตเตอร์ฟลายและเธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากในประเทศจีน”
“นั่นแหละคือเธอ! ฮาร์ดี้ฉันชอบเธอมากจริงๆ ฉันได้ดูหนังมากมายที่นำแสดงโดยเธอ และก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมาที่ลอสแอนเจลิสเลย แล้วคุณจะสัมภาษณ์เธอตอนบ่ายใช่ไหม? ฉันขอร้องล่ะ พาฉันไปดูด้วยได้ไหม?” ฮันเยจินถามอย่างตื่นเต้น
“ฮ่าๆ แน่นอน แต่ตอนนี้มันก็เที่ยงแล้ว ทำไมเราไม่ไปทานอาหารกันก่อนล่ะ? และค่อยไปบริษัทเอชดีฟิล์มหลังจากทานเสร็จ”
“ได้เลย!” ฮันเยจินพยักหน้า
อิริน่ารีบพูดขึ้นทันที “ฉันก็อยากไปด้วยเหมือนกัน!”
“แน่นอน พวกเราไปกินข้าวด้วยกันเถอะ” ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม
อิริน่ายิ้มออกมาทันที
…
ในอีกด้านถังเจิ้งก็กำลังบอกให้ใครบางคนไปพูดคุยกับบัตเตอร์ฟลาย
ซึ่งบัตเตอร์ฟลายที่ได้ยินว่ามีคนกำลังมองหาเธอให้ไปรับบทบาทที่ต้องแสดงโดยชาวจีน มันก็ทำเธอก็รู้สึกประหลาดใจ
เพราะบทบาทนั้นมาจากเอชดีพิคเจอร์
“คุณบัตเตอร์ฟลายครับ คุณถังให้มาถามว่าคุณเต็มใจที่จะไปออดิชั่นที่เอชดีฟิล์มไหม?”
“แน่นอน และฉันจะไปที่นั่นในช่วงบ่าย” บัตเตอร์ฟลายตอบตกลง