ตอนที่ 160 ฮาร์ดี้คาสิโน
//ชื่อมึงเนาะ
ไม่กี่วันต่อมาไมค์ก็บินจากนิวยอร์กไปลาสเวกัส และฮาร์ดี้ก็ไปรับไมค์ที่สนามบินด้วยตัวเอง
ทั้งสองได้พบกันและก็กอดกันอย่างอบอุ่น
“ฮาร์ดี้ ขอบคุณที่ช่วยเหลือครอบครัวคอร์เลโอเน” ไมค์กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร คุณวีโต้ขอบคุณฉันมาแล้ว” ฮาร์ดี้ยิ้ม
“มันไม่เกี่ยวกันนี่คือคำขอบคุณของฉัน ฉันรู้ดีว่าตอนนั้นครอบครัวตกอยู่อันตรายแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของนาย ฉันเกรงว่าครอบครัวอื่นคงจะไม่เจรจาอะไรหรอก” ไมค์กล่าว
ฮาร์ดี้ยิ้ม “หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ให้ฉันพานายไปดูคาสิโนฟรามิงโก้ของเรากันเถอะ”
ทั้งสองมาที่คาสิโนฟรามิงโก้และเดินเข้าไปในล็อบบี้ที่หรูหรา
แล้วไมค์ก็ได้เห็นโต๊ะเล่นเกมหลายแถว โรงแรมที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ต้นปาล์มที่เรียงรายรอบๆ ทะเลสาบ
ซึ่งมันก็หายากมากที่จะมีทะเลสาบแบบนี้ในเนวาดา
“ที่นี่สวยงามมาก มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะต้องลงทุนมากขนาดนั้น และฮาร์ดี้นายวางแผนที่จะบริหารต่อไปยังไง?” ไมค์ถาม
ฮาร์ดี้คุยกับไมค์อีกครั้งเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เขาพูดกับบิล
โดยมันจะเป็นการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก
เพิ่มโต๊ะเกมหรือเกมพนันต่างๆ
ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางของการพักผ่อน
เพิ่มการประชาสัมพันธ์ โฆษณาในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร สถานีวิทยุและทีวี
การเพิ่มเที่ยวบินและรถโดยสาร
การนำตั๋วเครื่องบินและตั๋วโดยสารมาแลกชิปที่คาสิโนฟรามิงโก้
เพิ่มกิจกรรมที่น่าใจมากขึ้นในคาสิโนเพื่อดึงดูดผู้คนเช่น ล็อตเตอรี่ การแข่งขันการพนัน และกิจกรรมอื่นๆ ในอนาคต
“ฉันได้ติดต่อบริษัทก่อสร้างและผู้รับเหมาให้เข้ามาดูแล้ว พวกเขาบอกว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้นภายในสามเดือน ซึ่งก็หมายความว่าคาสิโนสามารถเปิดอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเดือนตุลาคม และสภาพอากาศในลาสเวกัสของเดือนตุลาคมก็เป็นที่น่าพอใจมาก มันเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการเปิดทำการ…”
“ฉันได้โทรหาเอชดีพิคเจอร์ โดยบอกกับพวกเขาให้ส่งผู้กำกับมาถ่ายภาพและวิดีโอของคาสิโน จากนั้นก็ให้นำไปโฆษณาในนิวยอร์กไทม์ ลอสแอนเจลิสไทมส์ นิตยสารเพลย์บอย สถานีวิทยุและทีวี”
“และยังได้ก่อตั้งสายการบินของตัวเองขึ้น ซึ่งในเวลานี้เริ่มมีการทดลองดำเนินงานแล้ว โดยที่ฉันจะเพิ่มรอบบินจากลอสแองเจลิสมาลาสเวกัส และก็จะซื้อรถบัสอีก 20 คันเพื่อเปิดให้บริการทางไกลจากลอสแอนเจลิสมายังลาสเวกัสด้วย”
“ฉันยังมีความคิดอีกอย่างหนึ่งก็คือการซื้อช่องทีวี เพื่อที่เราจะได้โชว์การเล่นพนันหรือจะเดิมพันผ่านทางทีวีก็ได้ในอนาคต โดยที่ผู้คนจะสามารถโทรเข้ามาเพื่อวางเดิมพันและเล่นลอตเตอรี่ได้”
……
เมื่อได้ยินแผนการของฮาร์ดี้ ไมค์ก็เต็มไปด้วยความตกใจและชื่นชม
ฮาร์ดี้คิดได้ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว และเขาก็มีทรัพยากรอยู่ในมือมากมายเช่น การเพิ่มเส้นทางการบิน
แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้ แต่ฮาร์ดี้มีสายการบินเป็นของตัวเองเลยจัดการได้ง่าย
ไมค์คิดสักพักแล้วพูดว่า “ฮาร์ดี้นายเคยคิดจะเปลี่ยนชื่อคาสิโนไหม?”
ฮาร์ดี้หยุดชะงักไปชั่วครู่
“นายมีความคิดอะไร?”
“ฉันได้ยินมาว่าชื่อฟลามิงโก้แต่เดิมเป็นชื่อเล่นของผู้หญิงที่ซีเกลชอบ ซึ่งตอนนี้คาสิโนเป็นของเราแล้ว ฉันคิดว่าเราควรเปลี่ยนชื่อดีกว่า” ไมค์กล่าว
“แล้วนายอยากเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร?”
“ฮาร์ดี้คาสิโน ฉันคิดว่ามันฟังดูดีกว่าฟลามิงโก้เยอะ” ไมค์พูดจบ เขาก็มองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยรอยยิ้ม
ฮาร์ดี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะออกมา
…
ตอนบ่าย
ทั้งสองไปที่แผนกธุรกิจของลาสเวกัสเพื่อที่จะเปลี่ยนผู้ถือหุ้นเดิม
และในตอนนี้หุ้นของทั้งสามครอบครัวได้เป็นของไมค์แล้ว ทำให้เขาถือหุ้นอยู่ 39% ที่เหลือ
ซึ่งเดิมทีฮาร์ดี้มีหุ้นแค่ 18% แต่ซีเกลเอาหุ้นอีก 43% มาจำนองกับเขา
เมื่อซีเกลเสียชีวิตลงก็เท่ากับว่าเขาไม่สามารถชำระเงินคืนได้ ทำให้หุ้นที่เหลือตกเป็นของฮาร์ดี้โดยตรง
หลังจากยืนยันสิทธิอีกครั้ง ฮาร์ดี้ก็ถือหุ้นคาสิโนทั้งหมด 61%
ในเวลาเดียวชื่อที่จดทะเบียนในฝ่ายบริหารก็เปลี่ยนไปด้วย
โดยมันถูกเปลี่ยนเป็น ‘ฮาร์ดี้โฮเทล’ อย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่นั้นมาคาสิโนก็เป็นของฮาร์ดี้และไมค์อย่างเป็นทางการ
…
กลับมาที่คาสิโน ไมค์หยิบเช็คออกมาแล้วยื่นให้ฮาร์ดี้ “ฮาร์ดี้ นี่คือเงินสำหรับซื้อหุ้น”
ฮาร์ดี้หยิบเช็คขึ้นมาดู และก็เห็นมันเขียนไว้ว่า 3 ล้านดอลลาร์ “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยินดีที่จะเอาเงินนี้ไปสร้างคาสิโนในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยังไม่เสร็จ”
แน่นอนว่าเงินนี้เป็นเงินส่วนตัวของฮาร์ดี้ ซึ่งคาสิโนแค่ยืมเงินไปชั่วคราวเท่านั้น
และเหนือสิ่งอื่นใดคาสิโนก็เป็นของฮาร์ดี้กับไมค์
หลังจากที่คาสิโนทำเงินได้ เขาก็จะได้รับการชำระเงินคืนทั้งหมด
วันต่อมา
คนจากเอชดีพิคเจอร์มาถึงลาสเวกัสแล้ว
ผู้กำกับก็เตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพและอุปกรณ์แสงไฟต่างๆ มาอย่างครบครัน
นอกจากนี้เขายังนำนักแสดงชายและนักแสดงหญิงหลายสิบคนที่ลงนามโดยเอชดีเอจซี่มาด้วย
พวกเขาเหล่านี้ก็รู้สึกตื่นเต้นกันมากที่ได้เจอผู้มีชื่อเสียงหลายคนที่นี่
เพราะฮาร์ดี้ได้โทรหาเอวาการ์ดเนอร์และไฮดี้รามาให้มาช่วยถ่ายวิดิโอโปรโมทให้กับเขา
ซึ่งทั้งสองก็หยุดงานของตัวเองและรีบมาที่นี่ทันที
ในเวลานี้ดาราสาวแนวหน้าของฮอลลีวูดสองคนที่สวมชุดเดรสอันงดงามกำลังช่วยแนะนำฮาร์ดี้โฮเทลอยู่หน้ากล้อง
ซึ่งฮาร์ดี้ก็กำลังเลือกฉากที่ดีที่สุดเพื่อทำให้โรงแรมของคาสิโนดูหรูหรายิ่งขึ้น
กลางคืน
แสงไฟนีออนสว่างวาบขึ้นมา และคาสิโนก็เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อ สาวสวย กำลังเล่นการพนันกันอย่างสนุกสนาน
พร้อมกับมีใครบางคนได้รับเงินรางวัลหลายพันดอลลาร์ในครั้งเดียว
ซึ่งผู้คนที่อยู่ข้างๆ ก็ดูสนุกสนานไปกับเขากันอย่างมาก
แน่นอนว่าการมีผู้หญิงสวยๆ มาเล่นการพนันโชว์นั้นช่วยได้จริงๆ เพราะสิ่งนี้คือองค์ประกอบที่ช่วยให้อารมณ์พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดี
สองวันต่อมา
….
ทีมงานถ่ายภาพนั้นเก็บภาพได้หลายร้อยภาพและวิดีโอมากกว่า 3 ชั่วโมง
ซึ่งภาพเหล่านี้ก็จะถูกนำกลับไปตัดต่อและเอาไปลงในนิตยสารพร้อมกับโฆษณาทางทีวี
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาไมค์ได้เฝ้าดูฮาร์ดี้มาตลอด และเขาก็ชื่นชมฮาร์ดี้มากขึ้นกว่าเดิม
เขาพบว่าหลังจากคำแนะนำการถ่ายภาพของฮาร์ดี้ ฉากและท่าทางต่างๆ นั้นออกมาดีกว่าที่ผู้กำกับคิดซะอีก
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าฮาร์ดี้ได้ไอเดียมากมายขนาดนี้มาจากไหน
ถ้าฮาร์ดี้รู้ความคิดของไมค์…
ฮาร์ดี้จะบอกกับไมค์ว่าหลังจากที่ได้ดูวิดิโอสักสองสามเรื่อง เขาก็สามารถกลายเป็นพระเจ้าได้
ในระหว่างการถ่ายทำฮาร์ดี้ให้เอวาการ์ดเนอร์และไฮดี่รามาอยู่ในห้องของฮาร์ดี้โฮเทล แต่พวกเธอไม่อยู่ชั้นเดียวกัน
สาเหตุหลักเพราะกลัวว่าเสียงจะตีกัน
หลังจากการถ่ายทำสิ้นสุดลง
สาวสวยทั้งสองก็จากไป
เอวากลับไปหาทีมงานเพื่อถ่ายทำต่อ และทีมถ่ายทำก็กลับไปที่ลอสแองเจลิสด้วย
ฮาร์ดี้ก็ต้องกลับไปลอสแอนเจลิสเหมือนกัน แต่เขาต้องเตรียมการบางอย่างที่นี่ก่อนที่จะจากไป
…
อัพตัน เขาเคยเป็นหัวหน้าของคาสิโนแก๊งยิวที่แม็คคินซีย์หมายเลข 5 มาก่อน
ในปีนี่เขามีอายุ 42 ปี
ซึ่งเขาก็มีประสบการณ์ในการดำเนินงานของคาสิโนและจัดการคนได้ดี
ฮาร์ดี้จึงบอกกับเขาให้พาคนมาที่ลาสเวกัสล่วงหน้า เพื่อที่จะได้ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ และก็รอให้การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยเพื่อที่จะได้เปิดทำการ
ในเวลาเดียวกันแอนดี้ก็นำนักบัญชีหลายคนมาที่นี่ด้วย
ซึ่งกองกำลังรักษาความปลอดภัยสำหรับคาสิโนก็คือรอสซี่หนึ่งในสี่หัวหน้าของบริษัทแอลเอ
และรอสซี่ก็มีคนอยู่ใต้บัญชาประมาณห้าสิบคน
อีกคนคือโรเบิร์ตดรูว์หัวหน้าเอชดีซีเคียวริตี้สาขาลาสเวกัส
เขานั้นได้จองตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ 50 คนจากสาขาลอสแอนเจลิสให้มาประจำการที่นี่
เมื่อก่อนฮาร์ดี้พาคนมาจำนวนมากเพื่อขยายอาณาเขต
และตอนนี้สถานการณ์ในลาสเวกัสเริ่มคงที่แล้ว
การที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ลาสเวกัส 50 คน และอีกคน 50 จากเอชดีซีเคียวริตี้สาขาลอสแอนเจลิสที่กำลังตามมาทีหลัง
มันก็เพียงพอแล้วที่จะคุ้มกันที่นี่
ส่วนถ้ามีเรื่องใหญ่กว่านั้น…
ลอสแองเจลิสเองก็อยู่ไม่ไกลจากลาสเวกัส มันใช้เวลาเดินทางแค่หนึ่งชั่วโมงโดยเครื่องบินและสี่ห้าชั่วโมงโดยรถยนต์ เขาก็สามารถส่งเจ้าหน้าที่มาแก้ปัญหาได้ทันอยู่แล้ว
หลังจากจัดการลาสเวกัสเสร็จ
ฮาร์ดี้ก็พาไมค์ ทีมของแอนดี้ และทีมรักษาความปลอดภัยที่เหลือกลับลอสแอนเจลิส
ซึ่งโรงงานโทรทัศน์ที่ลอสแอนเจลิสได้ก่อสร้างมาครึ่งปีแล้ว และไมค์ก็กำลังเข้าไปตรวจสอบมัน
โรงงานโทรทัศน์ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของลอสแอนเจลิส
มันครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ มีสายการผลิตอยู่ 4 สายที่ตอนนี้กำลังติดตั้งอยู่
ผู้รับผิดชอบบอกกับไมค์ว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนสำหรับการติดตั้งสายการผลิตทั้ง 4 สาย
แสดงว่าจะสามารถทดลองผลิตได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งมันก็เร็วกว่าที่เขาคาดไว้เยอะมาก
ส่วนทำไมต้องทดลองการผลิตนั้น มันก็มีไว้เพื่อทดสอบเครื่องจักร
และผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่เยอะเท่าไหร่แค่ 200 ชุดเท่านั้น แต่กำลังผลิตนี้ก็ดีกว่าโรงงานเก่าเยอะแล้ว
ฮาร์ดี้ยิ้มและกล่าวว่า “เราสามารถติดต่อกับธนาคารเพื่อหาการร่วมมือสำหรับผ่อนสินค้าต่อไปได้ ตอนนี้ฉันมีธนาคารแห่งอเมริกาและธนาคารเวลส์ฟาร์โกที่พร้อมจะร่วมมือกับเรา ส่วนธนาคารอื่นๆ เราอาจจะต้องไปพูดคุยเล็กน้อย”
ตอนที่ฮาร์ดี้คิดโมเดลการขายแบบนี้ออกมา ไมค์ก็ชื่นชมเขามาก
“เยี่ยม! แต่ฉันก็ได้เจรจากับธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งในนิวยอร์กไว้แล้ว ซึ่งพวกเขาก็ยินดีที่จะทำธุรกิจนี้ เพราะยังไงพวกเขาก็ได้ประโยชน์จากคนที่มากู้เงิน”
หลังจากตรวจสอบโรงงานโทรทัศน์
ฮาร์ดี้ก็พาไมค์ไปที่โรงงานตุ๊กตาบาร์บี้และบริษัทนิตยสารเพลย์บอย
ซึ่งบริษัททั้งสองกำลังทำเงินให้ฮาร์ดี้เยอะมาก
ตอนนี้ตุ๊กตาบาร์บี้ได้กลายเป็นของเล่นระดับไฮเอนด์แล้ว มันถูกวางขายอยู่ที่หัวเมืองใหญ่ทุกแห่ง
เมื่อทันทีที่การแข่งขันออกแบบชุดตุ๊กตาเริ่มขึ้น มันก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน และโรงงานตุ๊กตาบาร์บี้ก็ได้รับแบบแปลนการออกแบบหลายพันชิ้น
ซึ่งบางชิ้นก็ดูยอดเยี่ยมมากและมันน่าจะมาจากนักออกแบบมืออาชีพ
ตอนนี้ทุกเดือนตุ๊กตาบาร์บี้สามารถทำผลกำไรประมาณ 100,000 ดอลลาร์ให้กับฮาร์ดี้ และผลกำไรต่อปีก็ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์
ส่วนนิตยสารเพลย์บอยนั้นได้กำไรเยอะกว่ามาก
หลังจากเปิดขายออกไปหลายเดือน…ในตอนนี้ยอดขายของนิตยสารทั้งหมดคือ 300,000 ฉบับต่อชุด
ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นยอดขายทางไปรษณีย์
นักบัญชีของนิตยสารได้คำนวณรายได้ต่อเดือนออกมาคือประมาณ 400,000 ดอลลาร์และกำไรในหนึ่งปีก็จะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์
หลังจากที่บริษัทนิตยสารเพลย์บอยประกาศรายงานทางการเงินประจำไตรมาสออกมา
หลายคนก็ตกใจกับรายได้ของนิตยสารและราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้นทันที
ทำให้ตอนนี้ราคาหุ้นของเพลย์บอยพุ่งไปถึง 15 ดอลลาร์ต่อหุ้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือจะมีเพียงนิตยสารเพลย์บอยเท่านั้นที่มีมูลค่าตลาดถึง 50 ล้านดอลลาร์ และยังมีพื้นที่สำหรับการเติบโตอีกเยอะ
ไมค์ตกใจมากเมื่อเขาได้ยินตัวเลขนี้
เขานั้นร่วมมือกับฮาร์ดี้ในการลงทุนหลายสิบล้านเพื่อสร้างโรงงานโทรทัศน์
และโรงงานโทรทัศน์นี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นโรงงานโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยมันมีผลผลิตต่อปีมากถึง 400,000 ชุด
แถมครอบครัวคอร์เลโอเนก็ทำงานอย่างหนักมานานหลายทศวรรษ ซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดและการลงทุนในหุ้นต่างๆ มีมูลค่าแค่ 20 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
แต่ฮาร์ดี้เพิ่งได้บริษัทนิตยสารมา ทว่าตอนนี้มันกลับมีมูลค่าถึง 50 ล้านดอลลาร์?
มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยกับการที่เขาบอกกับพ่อทูนหัวว่าธุรกิจของโลกใต้ดินนั้นไม่มีทางเติบโตไปได้มากกว่านี้
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำเงินแถมยังอันตรายมาก
และถ้าต้องการให้ครอบครัวอยู่ในระดับที่สูงกว่าเดิม มันก็มีแต่ต้องทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเท่านั้น
ให้ธุรกิจในโลกใต้ดินเป็นได้แค่ตัวช่วยเท่านั้น
ทว่าธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลงมือทำให้สำเร็จได้ เพราะผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงมีแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
ส่วนปัจจัยในการสร้างธุรกิจของครอบครัวให้สำเร็จ คนคนนั้นจะต้องมีความสามารถที่สูงมากและมีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่มองการณ์ไกล
ซึ่งไมค์ก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าฮาร์ดี้จะประสบความสำเร็จได้
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความคิดนี้
ฮาร์ดี้อยู่กับไมค์ได้แค่ไม่กี่วัน เพราะไมค์ต้องกลับไปที่นิวยอร์ก
ส่วนฮาร์ดี้เองก็ยังมีงานต้องทำอีกมาก