ตอนที่ 159 เจ้าพ่อมาเฟียคนใหม่…
หลังจากการประชุมคณะกรรมการมาเฟียสิ้นสุดลง
และเมื่อเจ้าพ่อมาเฟียขึ้นรถสีหน้าของเขาก็เหี่ยวแห้งลงอย่างมาก
มันเหมือนกับว่าการประชุมครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกแย่จริงๆ
…
เจ้าพ่อมาเฟียหลับตาลงและไม่พูดอะไร
ทอมมองไปที่พ่อทูนหัวของเขาและบอกคนขับรถให้ขับกลับไปคฤหาสน์
เจ้าพ่อมาเฟียไม่ได้พูดอะไรตลอดทางและทอมก็รู้ว่าเขาไม่ได้หลับ เพราะมือของเขากำไปป์อยู่ตลอดเวลา
รถขับกลับไปที่คฤหาสน์ครอบครัวคอร์เลโอเน ทุกคนทักทายเขาและช่วยเจ้าพ่อมาเฟียกลับเข้าไปในบ้าน
เจ้าพ่อมาเฟียมองไปที่ไมค์ เฟรโด คลีเมนซ่าและเทสซิโอที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับพูดว่า “พวกเธอไปที่ห้องหนังสือกับฉัน ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศ”
ทุกคนรีบตามเจ้าพ่อมาเฟียเข้าไปในห้องหนังสือ
ประตูปิดลง
เจ้าพ่อมาเฟียนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาเป็นเวลานาน
เหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หรือไม่ก็กำลังเรียบเรียงคำพูดของเขา
และหลังจากไม่กี่นาทีที่ยาวนานเขาก็กล่าวว่า
“ในการประชุมคณะกรรมการในวันนี้ ฉันได้ตกลงที่จะทำธุรกิจยาแล้ว โดยทางครอบครัวคอร์เลโอเนจะเป็นคนติดต่อกับนักการเมืองและใช้เส้นสายที่มีปกป้องธุรกิจนี้”
ไมค์แปลกใจ
เพราะมันไม่เหมือนกับพ่อยามปกติ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป…
เจ้าพ่อมาเฟียกล่าวต่อ “แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉันก็รู้สึกว่าธุรกิจของครอบครัวคอร์เลโอเนจำเป็นจะต้องถูกโอนย้ายและมันจะไม่อยู่ในนิวยอร์กอีกต่อไป”
“ในอนาคตธุรกิจของครอบครัว คอร์เลโอเนจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจคาสิโนในลาสเวกัส ยกเว้นในนิวยอร์ก ซึ่งฉันได้รับหุ้นอีก 39% ของคาสิโนฟรามิงโก้จากสามครอบครัวมาครอบครองแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เจ้าพ่อมาเฟียก็เหลือบมองไปที่ไมค์ และหันหัวไปมองทอม พร้อมกับพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ทอม เธอก็เป็นลูกของฉัน ฉันตัดสินใจแล้วที่จะปล่อยให้เธอดูแลธุรกิจของครอบครัว ดังนั้นเธออาจจะต้องทำงานหนักขึ้นในอนาคต”
มีความตกใจในสายตาของทอม
ค่อยๆ ส่งมอบธุรกิจของครอบครัวให้กับตัวเขา?
มันหมายความว่าจะให้เขารับตำแหน่งผู้นำเหรอ?
เฟรโด คลีเมนซ่า และเทสซิโอ ทุกคนก็ดูประหลาดเช่นกัน
ทว่ามีเพียงไมค์ที่ไม่รู้สึกตกใจอะไร เพราะเขาไม่เคยคิดที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่ต้น
ถ้าไม่ใช่เพราะการลอบสังหารพ่อของเขาในครั้งนี้ เขาก็จะไม่เข้ามามีส่วนร่วมอะไรในครอบครัวอย่างแน่นอน
“เอาล่ะ ทุกคนออกไปก่อน ส่วนทอมเธออยู่ก่อน ฉันมีอะไรจะพูดอีก” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
คนอื่นๆ ออกไปข้างนอก
เจ้าพ่อมาเฟียโบกมือให้ทอม ทอมเดินเข้าไปหาเจ้าพ่อมาเฟีย และเจ้าพ่อมาเฟียก็ยื่นมือออกมา
ซึ่งทอมก็คุกเข่าลงและจับมือเจ้าพ่อมาเฟียไว้
“พ่อ”
เจ้าพ่อมาเฟียลูบหัวทอมด้วยมืออีกข้าง
“ทอม ลูกเป็นนักกลยุทธ์มาหลายปีแล้ว และยังได้เข้าร่วมการประชุมเมื่อสักครู่นี้ด้วย ลูกเห็นอะไรในนั้นบ้าง?” เจ้าพ่อมาเฟียถาม
ทอมหยุดคิดชั่วคราว
“ผมเห็นทุกครอบครัวโจมตีพ่อเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาเป็นเหมือนกลุ่มของไฮยีน่า หากพ่อไม่ยอมรับคำขอของพวกเขา ทุกคนก็จะรีบเข้ามารุมกัดพ่อจนตาย”
เจ้าพ่อมาเฟียยิ้ม
“ลูกพูดได้ถูกต้องแล้ว และบอกตามตรงว่าชั่วขณะหนึ่งพ่อก็รู้สึกกลัวจริงๆ ขึ้นมาในใจ ซึ่งมันก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมานานมากแล้ว ฮ่าๆ”
“ถ้าพ่อไม่ตกลง พวกเขาจะจัดการกับครอบครัวคอร์เลโอเนด้วยวิธีที่รุนแรงกว่านี้ และครอบครัวคอร์เลโอเนก็อาจไม่มีอยู่อีกต่อไป”
“พ่อเลยต้องก้มหน้ายอมรับ”
“และลูกก็น่าจะเห็นใช่ไหม? เมื่อตอนที่พูดคำว่าเห็นด้วย ซึ่งหลายคนๆ ก็มีรอยยิ้มแห่งชัยชนะบนใบหน้าของพวกเขา”
“แน่นอนบางครั้งเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ลูกต้องรู้จักยอมรับมัน เพราะลูกต้องเป็นผู้นำของครอบครัวในอนาคต ดังนั้นจงเข้มแข็งเมื่อจำเป็นต้องเข้มแข็ง และประนีประนอมเมื่อจำเป็นต้องประนีประนอม”
“พ่อ…” ทอมต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่เจ้าพ่อมาเฟียก็ตบมือของทอมเพื่อขัดจังหวะเขา และกล่าวต่อว่า “ซึ่งตัวของเฟรโดนั้นไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบต่อครอบครัวทั้งหมดได้ และไมค์ก็ต้องการพัฒนาธุรกิจนอกครอบครัว มันจึงเป็นลูกที่ต้องแบกรับภาระนี้”
“จริงๆ แล้วพ่อก็หวังว่าไมค์จะพัฒนาธุรกิจของเขาหรือหรือโลกการเมืองไปพร้อมกันได้ ดังนั้นทอม พ่อมีเรื่องจะขอให้ลูกช่วย โดยหลังจากเข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว ลูกจะช่วยไมค์ด้วยกำลังทั้งหมดได้ไหม? เพราะถ้าไมค์พัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ ครอบครัวก็จะได้ประโยชน์ด้วย”
เจ้าพ่อมาเฟียมองไปที่ทอมหลังจากพูดจบ
ทอมเข้าใจ
พ่อทูนหัวต้องการผลักดันตัวเขาเองให้มีอำนาจและใช้กำลังของครอบครัวเพื่อคุ้มครองตัวเขา
ทอมจึงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของพ่อทูนหัว
ในฐานะลูกบุญธรรม เขาสามารถพูดได้เลยว่าเขาโชคดีมากที่ได้อยู่ที่นี่
ซึ่งเขาจะใช้พลังของครอบครัวช่วยไมค์อย่างแน่นอน
เพราะหากไมค์มีสถานะสูงขึ้น มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวคอร์เลโอเนในทุกทาง
“ผมสัญญาครับพ่อ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยไมค์ในอนาคต” ทอมกล่าว
เจ้าพ่อมาเฟียยิ้ม
“ตราบใดที่พี่น้องทำงานร่วมกันอย่างหนัก พ่อก็เชื่อว่าครอบครัวคอร์เลโอเนจะพัฒนาได้ดีขึ้น”
“แต่ตอนนี้ลูกยังเด็กอยู่ เมื่อลูกได้เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ลูกก็น่าจะเห็นแล้วว่าหัวหน้าครอบครัวทั้งหมดคือจิ้งจอกเฒ่า ซึ่งลูกก็ต้องการเวลาที่จะเติบโตมากกว่านี้”
“ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พ่อจะค่อยสอนให้เป็นผู้นำของครอบครัว และค่อยๆ ส่งมอบทรัพยากรทางการเมืองส่วนหนึ่งให้”
“เอาล่ะทอม นี่คือทั้งหมดที่พ่อจะพูดแล้ว ลูกออกไปและเรียกเฟรโดเข้ามา” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
ทอมลุกขึ้นและเขาก็เดินออกไปเรียกเฟรโด
เฟรโดปิดประตู และใบหน้าของเขาก็ดูไม่ดีเท่าไหร่
“พ่อครับ”
พ่อทูนหัวโบกมือให้เฟรโดและเฟรโดก็รีบเดินเข้าไป
พ่อทูนหัวมองไปที่ลูกชายคนที่สองที่อยู่ในวัยสามสิบปี แต่บางครั้งเขาก็ทำตัวเหมือนวัยรุ่นที่ไม่มีประสบการณ์…
“เฟรโด ลูกได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในครอบครัวในวันนี้หรือเปล่า? พ่อรู้ว่าเธอเป็นลูกกตัญญูมาตั้งแต่เด็ก ลูกรักแม่กับพ่อมาก และพ่อก็เข้าใจลูกเป็นอย่างดี”
“เฟรโด จากนี้ไปลูกจะอยู่กับแม่และพ่อ มันจะเป็นชีวิตที่เรียบง่าย แต่ลูกก็จะมีความสุขกับมัน เพราะแม่ของลูกไม่สามารถที่จะสูญเสียใครอีกต่อไปได้แล้ว”
ความกังวลก่อนหน้านี้ของเฟรโดหายไปทันที
อันที่จริงเขารู้ดีเกี่ยวกับบุคลิกของเขาอยู่แล้ว
มันไม่เหมาะกับการต่อสู้เลย และนับประสาอะไรกับการเป็นหัวหน้าครอบครัวคอร์เลโอเน…
“ตกลงครับพ่อ ผมจะอยู่กับพ่อกับแม่นับจากนี้” เฟรโด้ยิ้ม
เจ้าพ่อเฒ่าโบกมือให้เขา
เฟรโดก้มหัวลง
พ่อทูนหัวจูบเขาที่หน้าผาก
“ไปเรียกไมค์เข้ามาทีนะ” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
เฟรโดเรียกไมค์ให้เข้ามา
ซึ่งไมค์ก็เดินไปหาพ่อของเขาอย่างใจเย็น และนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ เขา
เจ้าพ่อมาเฟียมองไปที่ลูกชายตัวน้อยอย่างระมัดระวัง
“วิกฤตของครอบครัวได้ยุติลงชั่วคราวในตอนนี้ พ่อบอกกับพวกเขาว่า ไม่ว่าลูกๆ ของพ่อเจอกับอันตรายอะไรในอนาคต พ่อจะลงมือกับพวกเขาและแก้แค้นด้วยกำลังทุกอย่างที่มี”
“พ่อได้รับหุ้นของคาสิโนฟรามิงโก้มา มันก็คือหุ้นคาสิโนทั้งสามครอบครัวรวมกันที่ 39% และคาสิโนที่ลาสเวกัสนั้นก็เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย พ่อจะมอบธุรกิจนี้ให้ และผู้ถือหุ้นอีกรายของคาสิโนก็คือฮาร์ดี้ที่ถือหุ้นอยู่ 61%”
“ไมค์ พ่อจะฝากธุรกิจของครอบครัวไว้กับทอมเพื่อให้เขาดูแลในอนาคต ลูกจะต้องทำอย่างดีที่สุดในธุรกิจของลูกเอง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือเข้าสู่เส้นทางการเมืองอะไรก็ตามที่ลูกต้องการ ซึ่งพ่อก็ได้ตกลงกับทอมไว้ว่า เขาจะเป็นคนควบคุมครอบครัวและทำทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุนลูก”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เจ้าพ่อมาเฟียก็มองไปที่ไมค์อย่างลึกซึ้งแล้วพูดว่า “ไมค์ ลูกสงสัยไหมว่าทำไมจู่ๆ พ่อถึงเปลี่ยนไปและตกลงทำธุรกิจยา?”
“ผมเชื่อว่าพ่อมีเหตุผลของตัวเอง” ไมค์กล่าว
พ่อทูนหัวกัดฟันแล้วพูดว่า
“พ่อแข็งแกร่งมาตลอดชีวิตของพ่อ และได้เจอพายุร้ายๆ มานับไม่ถ้วน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตายของลูกๆ พ่อก็ทนมันไม่ไหว…แค่การตายของซันนี่มันก็ทำให้พ่อเศร้ามากแล้ว”
“และพ่อก็ไม่ต้องการสูญเสียใครอีกต่อไปแล้ว ในการประชุมวันนี้ครอบครัวอื่นๆ รุมข่มเหงพ่อ ซึ่งพ่อก็ไม่ได้กลัวพวกเขาอยู่แล้วแต่พ่อเป็นห่วงชีวิตของลูกๆ มากกว่า และหากพ่อไม่เห็นด้วย พวกเขาจะตอบโต้อย่างดุเดือดและลอบสังหารลูกอย่างแน่นอน”
“แล้วถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ…ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของพ่อหรือแหล่งข้อมูลทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ค่า และพ่อก็ต้องยอมแพ้”
ไมค์รู้สึกโกรธมาก
กล่าวอีกนัยหนึ่งมันก็คือความเศร้าโศกและความโกรธ
พ่อคือต้นแบบของเขามาตั้งแต่เด็กๆ ทว่าพ่อของเขากลับถูกบังคับให้เลือกเส้นทางนี้โดยครอบครัวเหล่านั้น
มันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากกว่าพ่อซะอีก
“ไมค์ จากนี้ไปลูกจะต้องเลือกทางเดินด้วยตัวเอง ตราบใดที่ลูกคิดว่ามันเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ลูกจะต้องเดินหน้าไปอย่างแน่วแน่และอย่ายอมแพ้”
“พ่อจะแบ่งเส้นสายทางการเมืองออกเป็นสองส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับธุรกิจของครอบครัว และอีกส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับลูก เส้นสายทั้งสองส่วนจะไม่ทับซ้อนกันและไม่เกี่ยวข้องกันเด็ดขาด ดังนั้นลูกจะเธอว่าเป็นคนถูกกฏหมายอยู่เสมอ”
ลำคอของไมค์กระตุกสองครั้ง เพื่อพยายามระงับอารมณ์ของตนเอง
“ผมจะตั้งใจทำงาน ครับพ่อ…”
……
ไมค์ออกมาจากห้องหนังสือและเรียกเทสซิโอกับครีเมนซ่าให้เข้าไป
เจ้าพ่อมาเฟียคุยกับกับสหายเก่าทั้งสองอีกครั้ง เพื่อบอกสิ่งที่พวกเขาต้องทำในอนาคต
แน่นอนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อธุรกิจยาได้เติบโตอย่างเต็มที่
…
เมื่อเทสซิโอและคลีเมนซ่าออกไป
เจ้าพ่อมาเฟียก็หลับตาของเขาและพักผ่อนเป็นเวลา 10 นาที
หลังจากที่เขาลืมตาขึ้นเขาก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาบ้าง
เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกไป
ซึ่งการโทรก็ถูกเชื่อมต่อในไม่ช้า
“ฮาร์ดี้ นี่วีโต้”
“สวัสดีคุณวีโต้ การประชุมคณะกรรมการสิ้นสุดลงแล้วเหรอครับ?”
“ใช่ มันจบแล้ว เนื้อหาของการประชุมก็เป็นไปตามที่ฉันคาดเอาไว้ ฉันเห็นด้วยกับคำขอของพวกเขา และในอนาคตครอบครัวคอร์เลโอเนจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาเสพติด ซึ่งความขัดแย้งก่อนหน้านี้จะถูกลบล้างไป” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
ฮาร์ดี้ถอนหายใจ
มันเป็นเรื่องของธุรกิจจริงๆ ด้วยสินะ
“ฮาร์ดี้ ฉันใช้ทรัพยากรทางการเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนหุ้น 39% ที่เหลือของฟลามิงโกมาแล้ว และฉันก็มีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
“คุณวีโต้ พูดได้เลยครับ”
“ฉันตั้งใจจะเก็บหุ้นนี้เอาไว้ แต่ฉันก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ 3 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นนี้ เธอคิดยังไงฮาร์ดี้?” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณวีโต้ หุ้นของคุณมาจากสามครอบครัวใหญ่ ดังนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องให้เงินกับผมแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว
เจ้าพ่อมาเฟียยิ้ม “ฮาร์ดี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอครอบครัวคอร์เลโอเนก็จะไม่ได้หุ้นนี้เลย และเธอจะมีพี่น้องช่วยดำเนินการในอนาคตด้วย”
“ซึ่งคาสิโนฟลามิงโก้เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉันเลยตัดสินใจที่จะมอบธุรกิจนี้ให้กับไมค์ จากนี้ไปไมค์จะมีส่วนร่วมในธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และฉันก็จะค่อยๆ ส่งเรื่องของครอบครัวให้กับทอม และบางทีแก๊งมาเฟียอาจจะไม่มีครอบครัวคอร์เลโอเนอีกต่อไป แต่จะเป็นครอบครัวเฮเก้นขึ้นมาแทน” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าพ่อมาเฟียพูด
ทำไมเจ้าพ่อมาเฟียถึงเลือกทอมให้เป็นหัวหน้าครอบครัวคนต่อไป?
นี่มันไม่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เลยสักนิด
หรือจะเป็นการปรากฏตัวของเขาเองที่เปลี่ยนเส้นทางของประวัติศาสตร์ไป?
แต่เมื่อฮาร์ดี้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รู้ว่าทางเลือกของเจ้าพ่อมาเฟียนั้นฉลาดมาก
ทอมไม่ใช่คนทรยศ ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวก็ตาม
เขาก็จะไม่ทรยศต่อตระกูลคอร์เลโอเน แต่จะเป็นความช่วยเหลือให้กับไมค์ในอนาคต
สำหรับไมค์อาจมันอาจจะเป็นเส้นทางที่ดีกว่าเดิม
เพราะในภาพยนตร์ต้นฉบับตอบจบของไมค์นั้นเลวร้ายมาก
เนื่องจากข้อพิพาทในครอบครัว เขาจึงต้องเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และเส้นทางชีวิตของเขาก็ไม่เป็นตามที่เขาคิดไว้
เพราะเพื่อที่จะแบกรับภาระของครอบครัว เขาจึงเลือกที่จะเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าคนใหม่
และเขาก็เจอทางพายุที่เลวร้ายมากมาย
โดยภรรยาของไมค์ไม่ต้องการให้ไมค์มีส่วนร่วมในธุรกิจโลกใต้ดิน
เธอจึงเลือกเดินหนีไป
พี่เขยได้ทรยศเขา…
เขาจึงต้องลงมือฆ่าพี่เขย และน้องสาวที่รับไม่ได้ก็หนีเขาไป
ต่อมาเฟรโดก็ร่วมมือกับครอบครัวอื่นเพื่อทรยศเขา ทำให้เขาต้องลงมือฆ่าพี่ชายของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม
อันที่จริงการลงมือทั้งหมดนี้ทำให้ไมค์เจ็บปวดใจมาก
เพราะเขาดิ้นรนมาตลอดครึ่งชีวิต แต่กลับต้องมาลงมือฆ่าครอบครัวของตัวเอง
และการตายของลูกสาวของเขาในปีต่อมา มันก็ทำให้ไมค์สูญเสียวิญญาณและจิตใจแตกสลาย…
ซึ่งเขาก็แก่ตายอย่างโดดเดี่ยวในซิซิลี…
ในมุมมองของฮาร์ดี้ ไมค์หรือเจ้าพ่อมาเฟียรุ่นที่สองนั้นดูมีชีวิตที่รุ่งเรืองและน่าตื่นเต้นในภาพยนตร์ก็จริง
ทว่าจริงๆ แล้ว ตัวตนของเขามันน่าสังเวชมาก
ถึงแม้ความรุ่งโรจน์ในอดีตของเขาก็คือการได้กลายเป็นผู้นำมาเฟียที่ทรงพลังในฝั่งตะวันออก
ทว่านี่ไม่ใช่ความต้องการของไมค์ เขามีความต้องการเป็นของตัวเอง
แต่ในการเผชิญหน้ากับชีวิตนั้น มันช่างมืดมนและโหดร้าย…
ซึ่งเขาก็ต้องก้มหัวและอดทนด้วยความเจ็บปวด
การที่เจ้าพ่อมาเฟียเลือกทอม เขาจึงคิดว่าเจ้าพ่อมาเฟียเลือกได้ฉลาดมาก
ในช่วงเวลานี้การแสดงของทอมอยู่ในสายตาของเจ้าพ่อมาเฟียตลอดเวลา
ซึ่งทอมสามารถพิจารณาการต่อสู้ของแก๊งจากมุมมองทางธุรกิจแทนที่จะทำตามใจของตัวเอง
ส่วนซันนี่นั้นเป็นคนหุนหันพลันแล่น ไมค์นั้นเด็ดขาดเกินไป และเฟรโดก็อ่อนแอ
ดังนั้นจึงเป็นทอมที่ใจเย็นกว่าที่ถูกเลือก
ถึงแม้บางทีเขาอาจจะไม่สามารถดูแลครอบครัวคอร์เลโอเนได้
แต่เขาก็คือคนที่สามารถปกป้องคนอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน
ฮาร์ดี้ยิ้ม
“ตกลงครับคุณวีโต้ ผมยอมรับข้อเสนอนี้ และจะนำเงินมาสร้างคาสิโนต่อไป ซึ่งผมก็เชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้ของครอบครัวคอร์เลโอเนจะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่าในอนาคต”
เจ้าพ่อมาเฟียหัวเราะอย่างมีความสุข “ฮ่าๆ เอาล่ะ ฉันจะรอฟังข่าวดี”
ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกของค่ำคืนนี้ที่เจ้าพ่อมาเฟียได้หัวเราะออกมา…