ตอนที่ 150 ลอสแอนเจลิส No.1
เช้าตรู่
เวลานี้มีหนังสือพิมพ์มากกว่าหนึ่งโหลวางอยู่บนโต๊ะของฮาร์ดี้
เป็นฮาร์ดี้เองที่ให้คนของเขาซื้อหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในวันนี้มา
ซึ่งรายงานเกือบทั้งหมดในหนังสือพิมพ์เป็นไปตามทิศทางของพวกเขา
แน่นอนว่าฮาร์ดี้เข้าใจความสำคัญของความคิดเห็นของสาธารณะเป็นอย่างดี
เพราะบางครั้งคำๆ หนึ่งสามารถสร้างผลลัพท์อะไรได้มากมาย
ในตอนนี้ด้วยแนวทางการพูดที่ถูกต้อง สงครามระหว่างแก๊งเมื่อคืนได้กลายเป็นตำรวจปราบปรามผู้ค้ายาไปแล้ว
แน่นอนว่าประชาชนก็ไม่มีการตื่นตระหนก
นักการเมืองไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความรับผิดชอบ
จะไม่มีใครกลับไปหาแก๊งฝั่งเหนือ
และฮาร์ดี้ก็เป็นผู้รับผลประโยชน์มากที่สุด
…
บิลเดินเข้าไปในห้องทำงานของฮาร์ดี้ ซึ่งบิลก็ดูเหนื่อยเล็กน้อยเพราะบิลนั้นไม่ได้นอนทั้งคืน
แต่ใบหน้าของบิลกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแสดงออกมา
“บอส รายงานออกมาแล้วและทรัพย์สินของพวกเขาทั้งหมดสิบสองแห่งของแก๊งฝั่งเหนือในตอนนี้ก็ได้อยู่ในมือของเรา รวมถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาอีกด้วย”
“ระหว่างการสำรวจ ฉันเจอเงินสดมากถึง 1.28 ล้านดอลลาร์ และของต่างๆ อีกจำนวนมาก รวมถึงม้าแข่งมากกว่า 30 ตัวและสุนัขเกรย์ฮาวด์อีกหลายร้อยตัว ซึ่งพวกมันก็มีมูลค่ามากอยู่เหมือนกัน”
“ในตอนนี้แก๊งฝั่งเหนือได้ล่มสลายไปแล้ว ทำให้อุตสาหกรรมทั้งหมดเป็นของเรา ฉันเลยอยากถามว่านายจะจัดการมันยังไงในอนาคต?” บิลถาม
ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่ง “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เดี๋ยวฉันจะกลับมาจัดการกับมันทีหลัง ยังไงหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนผู้คนก็จะลืมแก๊งฝั่งเหนือไปอย่างสิ้นเชิง ในช่วงเวลานี้ฉันอยากให้นายเตรียมสถานที่พวกนี้ไว้ให้พร้อม และอย่าลืมว่าแก๊งไอริชนั้นมีหุ้นส่วนมากมาย หลังจากที่สถานที่ต่างๆ ลงตัวเมื่อไหร่ การดำเนินการส่วนใหญ่ก็จะกระจายไปเหมือนเดิม”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
ซึ่งบิลก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ทำลายแก๊งฝั่งเหนือ เพราะดินแดนของแก๊งฝั่งเหนือจะเป็นของแก๊งบิลในอนาคต และเขาก็จะสามารถทำเงินได้มากขึ้นไปอีก
“บิล แล้วสถานการณ์ในฝั่งของยิวเป็นยังไงบ้าง?” ฮาร์ดี้ถาม
บิลส่ายหัว
“มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นายเคยให้ฉันไปทำติดต่อใครบางคนจากแก๊งยิวมาใช่ไหม? คนคนนั้นบอกว่าเขาได้รับข่าวเรื่องของหัวหน้าใหญ่ในตอนเช้า ซึ่งเขาบอกว่าพวกยิวรู้แล้วว่าคุณซีเกลและบอสเฟร็ดถูกฆ่า แถมยังมีการโจมตีเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ทำให้ตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกหดหู่และวิตกกังวลอย่างมาก”
ฮาร์ดี้พยักหน้า
ยังไงมันก็ต้องมีคนกังวลเกี่ยวกับมัน
แน่นอนว่าเมื่อจิตใจของผู้คนปั่นป่วนเวลาตึงเครียด ความทะเยอทะยานและความคิดที่ไม่สมควรของใครบางคนก็จะเริ่มออกมา
“บิลโทรหาอลันเพย์นและบอกว่าฉันต้องการคุยเรื่องนี้กับแก๊งยิว และนายจะไปกับฉันในอีกสักพัก” ฮาร์ดี้กล่าว
“ได้!”
……
หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากบิลเมื่อคืนนี้ อลันเพย์นก็กลับมาบ้านและพักผ่อนเป็นเวลานานก่อนที่จะหายดี
เขาหลับไปด้วยความงุนงง และตื่นขึ้นมาหลายครั้งในช่วงกลางคืน
เมื่อเวลา 8 โมงเช้า เขาได้รับโทรศัพท์จากบิลว่าบอสฮาร์ดี้ต้องการพบคนจากแก๊งยิว
หลังจากวางโทรศัพท์ลง อลันก็เงียบไปชั่วขณะและในที่สุดก็พูดกับตัวเองว่า “บางทีนี่อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด…”
คนขับรถพาอลันไปที่แก๊งยิว
อลันแจ้งให้หัวหน้าแผนกต่างๆ มารวมกันเพื่อประชุม ซึ่งหัวหน้าทุกคนก็รีบมาในทันที
“อลัน คุณซีเกลกับบอสเฟร็ดตายแล้วจริงๆ เหรอ?” หัวหน้าคนอื่นถามทันทีที่เขาเข้ามา
อลันพยักหน้า
“ฉันโทรศัพท์ไปที่ลาสเวกัสมาเมื่อเช้านี้ และก็สามารถยืนยันได้ว่าทั้งคุณซีเกลและบอสเฟร็ดได้ตายลงแล้ว”
ทุกคนในแก๊งยิวรู้สึกผิดคาดมาก
“บอสใหญ่เราเพิ่งตาย และเราก็ถูกโจมตีในตอนเย็นของเมื่อวาน แสดงว่ามันต้องมีคนจับตาดูแก๊งยิวของเราอยู่แน่ๆ ถ้างั้นพวกเราจะทำยังไงดี?” มีคนถามอย่างกระวนกระวายใจ
“ตอนนี้มีคนตาย 7-8 ในโกงดังยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของเรา”
“มีผู้เสียชีวิตในคาสิโนของเรา และผู้ใต้บังคับบัญชาหลายสิบก็คนถูกฆ่าตาย”
ทุกคนพูดออกมาอย่างเร่งรีบ
“อลัน นายเป็นนักกลยุทธ์ของแก๊งยิว นายคิดว่าเราควรทำอะไรต่อไปในตอนนี้?” จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นมา
ทุกคนมองไปที่อลัน
อลันเหลือบมองไปที่พวกเขา
เขารู้จักคนเหล่านี้ดี และก็รู้ความคิดของพวกเขาด้วย
เพราะในเวลานี้คือเวลาที่เหมาะสมที่จะเลื่อนขั้นตัวเองขึ้นมา ซึ่งเขาก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี
“อลัน ตอนนี้แก๊งกำลังอยู่ในเหตุการณ์วิกฤต นายน่าจะพูดอะไรบางอย่างบ้างสิ” ใครบางคนกระตุ้น
“ใช่ อย่าลืมสินายเป็นนักกลยุทธ์ของแก๊ง และตอนนี้เป็นเวลาที่นายต้องตัดสินใจแล้ว”
“ฉันคิดว่าเราจะเลือกหัวหน้าแก๊งคนใหม่เลยไหม?” มีคนกล่าวขึ้น
“แล้วเราจะเลือกหัวหน้าคนใหม่ยังไง และกฏในการคัดเลือกล่ะ?”
ทุกคนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้และพวกเขาก็ไม่เคารพอลันแล้ว
เพราะยังไงคนพวกนี้ก็มีกลุ่มของตัวเอง แม้ว่าอลันจะเป็นหัวหน้าระดับสูง
แต่เขาก็ไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาโดยงตรง ทำให้ตอนนี้เขาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว
อลันเหลือบมองไปที่คนเหล่านี้ และเปิดปากของเขาพูดว่า “บิลพิตต์หัวหน้าของแก๊งบิลเพิ่งโทรหาฉัน และบอกว่าคุณฮาร์ดี้จะมาที่นี่ในเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่ารออีกสักพักดีกว่าก่อนที่จะพูดถึงเรื่องหัวหน้าคนใหม่”
“…”
ห้องประชุมกลายเป็นที่เงียบสงบในทันที
ทุกคนหุบปากและไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกเลย
ทุกคนมองกันและกันไปมา พร้อมกับความคิดนับไม่ถ้วนที่อยู่ในใจของแต่ละคน
อลันเหลือบมองไปที่คนเหล่านี้
ในตอนแรกเขาก็สงสัยว่าคนเหล่านี้จะกระโดดออกมาแล้วพูดว่า ‘งั้นตอนนี้ฮาร์ดี้กำลังทำอะไรอยู่? แก๊งบิลล่ะมัวทำอะไรอยู่? และอย่าลืมนี่เป็นเรื่องภายในแก๊งยิวของเรา’
แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
มันเงียบซะจนเข็มตกคงได้ยินทั้งห้องประชุม
บางคนก็ไอออกมาเพื่อเรียกสถานการณ์
ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ได้โง่
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ทุกคนที่นี่ได้ยินเรื่องราวมาหมดแล้ว
บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ กรมตำรวจ และแก๊งบิลได้ร่วมมือกันจู่โจมแก๊งฝั่งเหนือแบบสายฟ้าแล่บ
มันทรงพลังมากจนแก๊งฝั่งเหนือไม่มีทางสู้กลับ
ซึ่งตอนนี้หัวหน้าใหญ่ของแก๊งยิวได้ตายลงแล้ว และแก๊งยิวก็กลายเป็นกองทรายที่ไม่สามารถต่อสู้อะไรได้อีก
…
เสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังขึ้นมาจากทางเดิน
ทุกคนในห้องประชุมลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว
ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก เป็นบิลที่เดินเข้ามาก่อนแล้วฮาร์ดี้ก็เดินเข้ามาทีหลัง
แต่ทุกคนกลับมองไปที่ฮาร์ดี้
หัวหน้าแก๊งยิวเหล่านี้รู้จักฮาร์ดี้ดี ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับฮาร์ดี้ที่อยู่ในแก๊งมาแค่ครึ่งปี
แต่พวกเขาก็ทักทายฮาร์ดี้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“สวัสดี ทุกคน” ฮาร์ดี้กล่าวและทุกคนก็พยักหน้า
ซึ่งใบหน้าของฮาร์ดี้ก็กลายเป็นจริงจังทันทีและเขาก็กล่าวว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยบางอย่างกับพวกคุณ เพราะซีเกลนั้นเป็นหัวหน้าของฉันและแก๊งยิวก็เป็นสมบัติของคุณซีเกล ดังนั้นฉันจึงไม่อยากให้แก๊งยิวหายไป”
ทุกคนต่างประหลาดใจ
“คุณฮาร์ดี้ ทำไมคุณถึงบอกว่าแก๊งยิวจะหายไปล่ะ?” มีคนถามด้วยความประหลาดใจ
ฮาร์ดี้เหลือบมองทุกคน “พวกคุณรู้ไหมว่าทำไมจู่ๆ แก๊งไอริชถึงโจมตีแก๊งยิวในครั้งนี้?”
“บางทีพวกคุณอาจจะไม่รู้ว่าครอบครัวใหญ่ทั้งห้านั้นกำลังมีเรื่องกันอยู่ เพราะเมื่อวานนี้มีคนฆ่าคนของครอบครัวคอร์เลโอเน ครอบครัวคอร์เลโอเนจึงโจมตีตอบโต้กับครอบครัวอื่นๆ และฆ่าคนสำคัญของพวกเขาอีกสองสามคน”
“ในเวลาเดียวกันก็มีคนมาฆ่าคุณซีเกลและบอสเฟร็ด ทำให้ชาวไอริชเห็นโอกาสที่จะเข้าควบคุมลอสแอนเจลิส ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็ชัดเจนมากที่จะต้องการกลืนแก๊งชาวยิว และพวกคุณสามารถถามอลันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”
ฮาร์ดี้พูดจบเขาก็มองไปที่อลัน
อลันพยักหน้า “มันเป็นเรื่องจริง เมื่อคืนไฮมี่ไวส์ได้พาคนมาจับกุมฉัน และบังคับให้ฉันนำแก๊งยิวเข้าร่วมกับแก๊งฝั่งเหนือหรือไม่เขาก็จะฆ่าฉัน แน่นอนว่าฉันไม่เห็นด้วย พวกเขาก็เลยเริ่มโจมตีอุตสาหกรรมของเรา”
ฮาร์ดี้กล่าวต่อจากอลันว่า “อันที่จริงเบื้องหลังมันไม่ได้มีเพียงแก๊งฝั่งเหนือของไฮมี่ไวส์เท่านั้น แต่ยังมีกองกำลังอื่นๆ ของไอริชเช่นเรย์มอนด์ ซึ่งฉันก็เชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นผู้บงการที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง”
ทุกคนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
ชื่อของเรย์มอนด์มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนตกใจ
เพราะพวกเขาไม่มีทางที่จะสกัดกั้นการโจมตีของเรย์มอนด์ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแก๊งยิวอย่างแน่นอน
ตอนนี้พวกเขาเชื่อคำพูดของฮาร์ดี้แล้ว ที่เขาบอกว่าแก๊งยิวอาจจะหายไปและมันก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
พวกเขารู้สึกเป็นห่วงมากขึ้น
“แต่คราวนี้แก๊งบิลได้พบความผิดปกติก่อน ฉันเลยบอกให้แก๊งบิลและเอชดีซีเคียวริตี้ร่วมมือกันเพื่อหยุดแผนการของพวกเขา แต่ฉันก็เชื่อว่าพวกเขาน่าจะยังไม่ปล่อยมือจากแก๊งยิว ฉันเลยอยากจะถามพวกคุณว่าแก๊งยิวสามารถหยุดการโจมตีครั้งต่อไปของเรย์มอนด์ได้หรือไม่?”
หลังจากที่ฮาร์ดี้พูดจบเขาก็มองไปที่ทุกคนอย่างเงียบๆ
และสมาชิกของแก๊งยิวในตอนนี้ก็จมอยู่กับความเงียบ
บิลนั่งอยู่ข้างๆ ฮาร์ดี้และสายตาของเขาก็กวาดไปทั่วแก๊งชาวยิวและในที่สุดก็พบกับสายตาของหัวหน้าแก๊งชาวยิวคนหนึ่ง
ซึ่งบิลก็จ้องมองไปที่หัวหน้าคนนี้
หัวหน้าคนนี้เห็นสายตาของบิล เขาก็หายใจเข้าลึกๆ ลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดังว่า “เหล่าพี่น้อง ผมคิดว่าคุณฮาร์ดี้พูดถูกแล้ว เพราะในตอนนี้ด้านในของมาเฟียกำลังปั่นป่วน ทำให้ไม่มีใครสนใจเราแม้ไฮมี่ไวส์จะโดนฆ่าโดยคุณฮาร์ดี้ไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่รับประกันว่าจะไม่มีใครมาอีก”
“และฉันก็มีข้อเสนอ พวกเรามาเข้าร่วมแก๊งบิลกันเถอะ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าแก๊งยิวและแก๊งบิลเป็นของคุณซีเกล ยังไงแต่เดิมเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน “
หลังจากที่ชายคนนี้พูดจบ เขาก็มองไปที่หัวหน้าคนอื่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับเขา
หัวหน้าคนนั้นเข้าใจในทันที เขากัดฟันลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ข้าเห็นด้วยกับแอนโทนี่ ข้าคิดว่าเราน่าจะรวมแก๊งยิวเข้ากับแก๊งบิลดีกว่า”
หัวหน้าคนอื่นๆ ก็รู้สึกหวาดกลัวกับคำพูดของฮาร์ดี้เช่นกัน
เพราะถ้าแก๊งยิวไม่มีผู้ปกป้องที่แข็งแกร่ง มันก็คงยากที่จะอยู่รอด
“ฉันตกลงที่จะเข้าร่วมแก๊งบิล” หัวหน้าอีกคนลุกขึ้นยืนและพูดออกมา
จากนั้นคนอื่นๆ ก็มีปฏิกิริยาและแสดงความเต็มใจที่จะเข้าร่วม
ในที่สุดทุกคนก็มองไปที่อลัน
ในความเป็นจริงอลันได้ตระหนักมานานแล้วว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นเช่นนี้ในที่สุด
ลองคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนสิ
แก๊งของบิลได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา
พวกเขาทรงพลังมากและพุ่งเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของแก๊งฝั่งเหนือแบบสายฟ้าแลบ
ทำให้ไฮมี่ไวส์ถูกยิงและคนอื่นๆ ก็ถูกฆ่า
แถมนักกลยุทธ์เดวิดจากดีทรอยต์ก็ถูกยิงตายที่ศีรษะ
ซึ่งเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความแข็งแกร่งของแก๊งยิวตอนนี้ไม่สามารถเทียบกับแก๊งบิลได้เลย
อลันมองไปที่ฮาร์ดี้และพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “คุณฮาร์ดี้ได้ช่วยฉันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงถูกไฮมี่ไวส์ฆ่าตายไปนานแล้ว ในการตัดสินใจของแก๊งยิวในครั้งนี้ ฉันเห็นด้วยที่แก๊งยิวจะถูกรวมเข้ากับแก๊งบิล”
“คุณฮาร์ดี้ ผมในนามตัวแทนของแก๊งยิว ผมอยากขอให้คุณช่วยรับปากกับแก๊งยิวด้วยที่จะอนุญาติให้เราเข้าร่วมกับแก๊งบิล”
ยังไงถ้าเราสู้ไม่ได้เราก็เข้าร่วมอย่างมีความสุขน่าจะดีกว่า…
ซึ่งเขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับตัวเองอยู่แล้ว
แถมมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำเช่นนี้ ถึงแม้อลันเพย์นจะมีฐานะเป็นที่ปรึกษาทางกลยุทธ์ของแก๊งยิวก็ตาม…
ฮาร์ดี้มองไปที่แก๊งยิวและพูดอย่างใจเย็นว่า “พวกคุณตกลงที่จะเข้าร่วมแก๊งบิลจริงๆ ใช่ไหม? แน่นอนว่าถ้าใครอยากออกก็สามารถออกไปได้เลย ฉันไม่ต้องการความขัดแย้งต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต”
ใครจะกล้า…
ใครจะกล้าพูดถึงการถอนตัวในตอนนี้?
พวกเขากลัวว่าจุดจบน่าจะเลวร้ายกว่าชาวไอริชเสียอีก
ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ได้โง่
ให้พวกเขาเข้าร่วมกับแก๊งบิลก่อนและค่อยถอนตัวออกไปในภายหลังก็ยังดีกว่าถอนตัวในตอนนี้ซะอีก
“ผมยอมรับ”
“ไม่มีความคิดเห็น”
“ไม่มีวันออกไปไหนเด็ดขาด!”
นั่นคือทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ด้วยความยินยอมของเหล่าหัวหน้าแก๊งยิว
แก๊งยิวจึงรวมเข้ากับแก๊งบิลอย่างเป็นทางการ และในตอนนี้แก๊งยิวก็ไม่มีตัวตนอีกต่อไป
วันต่อมา
ที่สำนักงานใหญ่ของแก๊งบิลได้จัดการประชุมขึ้น
โดยมีหัวหน้าทั้งหมดของแก๊งบิลและหัวหน้าทั้งหมดของแก๊งยิวดั้งเดิมเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
ในการประชุมฮาร์ดี้ประกาศว่า ‘ชื่อของแก๊งบิล เขาคิดว่ามันค่อนข้างไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เขาจึงจะเปลี่ยนชื่อให้แก๊งเป็น ‘ลอสแอนเจลิส’ อย่างเป็นทางการ’
และยังมีการใช้ประโยชน์ของการรวมแก๊งในครั้งนี้นั้นคือการจัดระเบียบบุคลากร และการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริหารของแก๊ง
ในอนาคต ‘แอลเอ’ จะไม่ใช่แค่แก๊งอันธพาลอีกต่อไป แต่มันคือบริษัทแห่งหนึ่ง //แอลเอ = ลอสแอนเจลิส
มันสามารถพูดได้ว่าบริษัทลอสแอนเจลิสได้ละทิ้งระบบของแก๊งและเปลี่ยนเป็นระบบองค์กร
ประธานคือบิลพิตต์
รองประธานคืออลันเพย์น
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินคือชาร์ลไซม่อน
ส่วนที่เหลือก็คือทีมปฏิบัติการทั้ง 4 คนก็คือผู้จัดการธุรกิจ หัวหน้างาน ผู้รับผิดชอบในการควบคุมคนปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ
และทั้งหมดก็เป็นของคนคนเดียว…