อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 145 ตาย

ตอนที่ 145 ตาย

ในที่สุดเจ้าพ่อมาเฟียก็ได้ออกจากโรงพยาบาล

หลังจากได้รับการรักษามานานกว่าหนึ่งเดือน อาการบาดเจ็บของเจ้าพ่อมาเฟียก็คงที่ขึ้นแล้ว และสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ 

เจ้าพ่อมาเฟียจึงได้กลับไปที่คฤหาสน์คอร์เลโอเน

ฮาร์ดี้ก็มาเยี่ยมเจ้าพ่อมาเฟียอีกครั้ง

เจ้าพ่อมาเฟียมองไปที่ฮาร์ดี้และพูดว่า “ฮาร์ดี้ ฉันอยากจะขอบคุณเธอจริงๆ เพื่อช่วยไมค์เธอถึงกับต้องอยู่ที่นิวยอร์กเป็นเวลาหนึ่งเดือน”

“ขอบคุณครับ และผมหวังว่าคุณจะดีขึ้นอีกในเร็วๆ นี้” ฮาร์ดี้กล่าว

ฮาร์ดี้คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะอยู่ที่นิวยอร์กนานขนาดนี้ 

วันที่เขามานิวยอร์กก็มีฝนและหิมะตก พร้อมกับเรื่องราวมากมายที่เขาได้เจอ

ซึ่งครั้งนี้ฮาร์ดี้ก็ได้รับผลประโยชน์มากเหมือนเดิม

เขาได้ช่วยไมค์และก็ได้เพิ่มความสัมพันธ์กับครอบครัวคอร์เลโอเน

ในเวลาเดียวกันก็จัดตั้งสายกินบินขึ้นมาโดยไม่เสียอะไร และสินทรัพย์ของเขาที่เพิ่มขึ้นอีกหลายล้าน 

เขาได้กลายเป็นเพื่อนกับนายพลวิลเลียมส์ที่เป็นรองผู้อำนวยการแผนกโลจิสติกส์ของทหาร 

แถมเอชดีซีเคียวริตี้ยังได้นายพลมาเป็นที่ปรึกษาด้วย

“คุณวีโต้ ผมมาอำลาคุณในครั้งนี้เพราะผมเตรียมตัวกลับไปลอสแองเจลิสแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว

เจ้าพ่อมาเฟียพยักหน้า “เธอควรกลับไปจริงๆ เพราะเธอยังมีธุรกิจมากมายที่ต้องดูแล และฮาร์ดี้หากเธอต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัวคอร์เลโอเนในอนาคต ให้โทรหาฉันได้โดยตรง เครือข่ายที่ฉันมีอยู่ในนิวยอร์กก็คือผู้พิพากษา ส่วนที่วอชิงตันจะเป็นเกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งเพื่อนของฉันบางคนอาจช่วยเธอได้”

เครือข่ายการติดต่อของเจ้าพ่อมาเฟียถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครอบครัวคอร์เลโอเน และการพูดแบบนี้กับฮาร์ดี้ก็เท่ากับว่าฮาร์ดี้สามารถใช้ผู้ติดต่อของเขาได้

แน่นอนว่าฮาร์ดี้ยังจำเป็นต้องใช้เครือข่ายพวกนี้ 

เพราะธุรกิจของเขายังต้องการเปิดตลาดที่อื่น 

ถ้าเขาได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อมาเฟีย มันก็ถือว่าสามารถช่วยเขาได้หลายอย่าง

หลังจากทานมื้อค่ำกับครอบครัวคคอร์เลโอเน 

ฮาร์ดี้ก็บอกลาและไมค์ก็ออกไปส่งฮาร์ดี้

ที่ทางเข้าคฤหาสน์ 

ฮาร์ดี้ตบไหล่ไมค์และกล่าวว่า “ถึงแม้ครอบครัวอื่นๆ จะหยุดคุกคามแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้จะปลอดภัย ในวันธรรมดานายต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นและโทรหาฉันถ้ามีเรื่องอะไร!”

ไมค์ยิ้ม “ฉันเข้าใจแล้ว”

……

ฮาร์ดี้และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามาที่สนามบินด้วยกัน 

ซึ่งตอนที่เขามาตอนแรก เขาพาคนมา 70 คน และก็มีทีมที่มาที่หลังก็คือทีมของแลนสเตอร์และแอนดี้ 

รวมถึงประธานคนใหม่ของเอชดีแอร์ไลน์แฟรงคลิน

ทำให้สนามบินตอนนี้มีคนมากถึง 80 คน

อย่างไรก็ตามแทนที่จะเช่าเครื่องบินในครั้งนี้ 

พวกเขาเลือกใช้เครื่องบินของตัวเองในการกลับไป 

ซึ่งแฟรงคลินได้ติดต่อสนามบินลอสแองเจลิสไว้แล้ว 

และเขาก็วางแผนที่จะใช้ลอสแองเจลิสเป็นสนามบินหลักที่ชายฝั่งตะวันตก 

ซึ่งคราวนี้พวกเขาได้ขึ้นบิน 10 ลำพร้อมกัน

แน่นอนว่านักบินเหล่านี้ก็ถูกเขายืมตัวมาก่อน

เพราะการดำเนินงานของสายการบินไม่ใช่เรื่องง่าย 

มันมีหลายสิ่งที่ต้องเตรียมเช่น การจัดตั้งทีมผู้บริหาร การรับสมัครนักบินและลูกเรือ การรับสมัครช่างเทคนิค การเซ็นสัญญากับสนามบินหลัก การจัดเส้นทางและอื่นๆ

เห็นไหมว่ามันเยอะจริงๆ

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะถูกปล่อยให้แฟรงคลินทำ 

ไม่งั้นเขาจะจ้างประธานมาทำไม? 

มันไม่ใช่ให้เขามาทำงานเพื่อตัวเองเหรอ?

….

ตอนนี้ฮาร์ดี้กำลังนั่งอยู่บนเครื่องบิน B29 ของเขาเอง 

แม้ว่าการเดินทางจะรู้สึกแปลกๆ และมีเสียงดัง 

แต่เขาก็รู้สึกดีเพราะมันเป็นของเขาเอง

เครื่องบินมาถึงสนามบินลอสแอนเจลิสอย่างราบรื่น

ฮาร์ดี้พูดกับแฟรงคลินก่อนลงจากเครื่องบินว่า “ค้นหาช่างซ่อมบำรุงเครื่องบินให้เร็วที่สุด และให้พวกเขาซ่อมแซมเครื่องบินลำนี้ให้ฉัน โดยให้เปลี่ยนที่นั่งเป็นแบบส่วนตัวและให้เสียงในห้องโดยสารมีน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

“ครับ บอส”

เครื่องบิน B -29 ลำนี้จะเป็นรถส่วนตัวของฮาร์ดี้ 

มันจะต้องถูกปรับปรุงให้สะดวกสบายมากขึ้นและปิดช่องท้องของเครื่องบินไป 

เพราะถ้านักบินไม่ระวังเผลอไปกดปุ่มปล่อยระเบิด 

มันก็จะทำให้เขาถูกโยนออกไปมหาสมุทรแปซิฟิกในทันที… 

และมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้…

……

เอวาไม่ได้อยู่ในลอสแองเจลิส 

ฮาร์ดี้จึงไม่ได้กลับไปที่บ้านของเธอ และไปที่คฤหาสน์เบเวอร์ลีฮิลส์ของเขาแทน

มันมีพ่อบ้านและคนรับใช้อยู่ที่นี่ แต่ฮาร์ดี้ก็รู้สึกไม่ชอบเท่าไหร่เพราะมันเงียบเกินไป

หลังจากที่เขาออกมาจากห้องน้ำ พ่อบ้านก็ชงชาดำมาให้เขา “คุณฮาร์ดี้ครับ พ่อครัวฝากมาถามว่าคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”

ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ให้เขาคิดดูและทำมันมาเลย”

เขาหยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะขึ้นมาดู

เขาพลิกหน้าไปสองสามหน้าและก็เห็นรายงานว่า ‘เอชดีพิคเจอร์ได้บอกมาว่าการเตรียมการสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่เสร็จสิ้นแล้ว มันพร้อมสำหรับการถ่ายทำในอนาคตอันใกล้นี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghost)’ ซึ่งผู้คนก็ตั้งความหวังกับมันไว้สูง’

นี่ควรเป็นบทสัมภาษณ์ของเอชดีพิคเจอร์ที่เขาจ่ายเงินให้กับหนังสือพิมพ์ และถึงมันจะดูเหมือนการสัมภาษณ์

แต่จริงๆ แล้วมันเหมือนกับการโฆษณามากกว่า

ฮาร์ดี้กำลังนึกถึงสาวสวยคนหนึ่ง

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาไฮดี้รามา 

มันมีเสียงรอสายขึ้นสองสามครั้ง พร้อมกับเสียงที่ดูขี้เกียจเล็กน้อยของไฮดี้ดังออกมา

“ใคร?”

“ผมเอง ฮาร์ดี้”

“อ่า คุณกลับมาแล้วเหรอ?”

“ใช่ เพิ่งกลับถึงบ้านเร็วๆ นี้เอง”

“อืม..ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณมีเวลาไหม? ฉันอยากเล่าเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ให้ฟัง…” ไฮดี้กล่าว

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกำกับโดยโนแลน แต่ฮาร์ดี้ก็จัดตำแหน่งสำคัญให้กับไฮดี้ไว้แล้ว 

ซึ่งฮาร์ดี้ได้ออกไปข้างนอกนานกว่าหนึ่งเดือน 

เขาคาดว่าเธอคงสะสมปัญหาบางอย่างไว้ให้เขาตัดสินใจ

“มันจะดีกว่าไหม ถ้าคุณจะมาหาผมตอนนี้” ฮาร์ดี้กล่าว  // ของจริง

“ตอนนี้…?” หญิงสาวลังเลเล็กน้อย

“ผมจะให้คนขับรถไปรับคุณ” ฮาร์ดี้พูดเอาแต่ใจเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นานคนขับรถก็พาไฮดี้รามาไปที่คฤหาสน์ของฮาร์ดี้ 

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ทั้งสองคนก็ไปเดินเล่นในสวน 

ฮาร์ดี้กำลังบอกกับไฮดี้ว่าเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่

ซึ่งไฮดี้ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “บ้านหลังนี้ก็สวยมาก ทำไมไม่อยู่ที่นี่ล่ะ? “

“มันวังเวงเกินไป”

“งั้นก็หาภรรยาสักคนแล้วก็ให้เธอกำเนิดลูกสักสองสามคน ที่นี่ก็น่าจะมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วนี่” ไฮดี้กล่าว

ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ผมไม่มีความคิดที่จะแต่งงานในชีวิตของผม”

ไฮดี้แปลกใจ “ทำไมเหรอ?”

“เพราะผมไม่อยากให้ที่ของผมมีผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่อยากให้มีผู้หญิงอยู่ทุกห้องของผม” ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม

“แล้วคุณมีกี่ห้องล่ะ?” ไฮดี้ถาม

“รวมทั้งหมดก็ 32”

ไฮดี้ลามาดูประหลาดใจ “มันน่าจะต้องลำบากมากเลยนะ เพราะคุณต้องการหาผู้หญิงตั้ง 32 คน…”

“นี่แหละถึงจะเรียกว่าลูกผู้ชาย…”

ในตอนเย็น

ไฮดี้รามาไม่ได้กลับไป

ฮาร์ดี้บอกว่าเขาไม่ชอบถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เขาจึงบอกกับเธอให้อยู่กับเขา

และก็นั่งคุยกันเป็นเวลานาน…

ในวันรุ่งขึ้น

ฮาร์ดี้โทรหาเอลิซาเบธเทย์เลอร์ และก็เล่นอะไรกับเธอเล็กน้อย 

แต่เมื่อเจ้าตัวน้อยกลับไป ริมฝีปากของเธอก็ดูแดงแปลกๆ // ไอ้เลวฮาร์ดี้

ในขณะที่ฮาร์ดี้กำลังมีความสุขกับชีวิตที่สงบสุขของเขา 

มันก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นใน ซิซิลี นิวยอร์ก และลาสเวกัส

ซันนี่ฆ่าบรูโน่ลูกชายของฟิลิปหัวหน้าครอบครัวตาร์ตาลยา 

แน่นอนว่าฟีลิปยังไม่ยอมแพ้ 

เขาได้ผลักดันให้ครอบครัวอื่นดำเนินการกับครอบครัวคอร์เลโอเนอีกครั้ง

ในวันนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ได้รวมตัวกัน และวางแผนในห้องประชุมเป็นเวลาทั้งวัน

ในวันต่อมาพวกเขาก็เริ่มแยกย้ายกันไป

ซิซิลี

ซันนี่มาหลบภัยที่ซิซิลีและผู้ชายคนนี้เกิดมาพร้อมกับความโรแมนติกจริงๆ 

เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้เห็นผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง 

เขาจึงใช้กลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นเตียง

ผู้หญิงคนนี้มีชื่อที่สวยงามว่าคานาลิส 

เธอเป็นคนสวยที่หาได้ยาก ซึ่งซันนี่ก็มาหาเธอเกือบทุกคืน

เช้านี้ซันนี่บอกลาคานาลิสอย่างพึงพอใจและเขาก็ไปขึ้นรถ 

พร้อมกับทันทีที่เขาสตาร์ทรถ…

ตูม!

รถของซันนี่ระเบิดเป็นชิ้นๆ 

ซันนี่ก็ถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ ในเวลาเดียวกัน

ในเวลาเดียวกัน

ไมค์ที่อยู่นิวยอร์กและกำลังจะไปโรงงานโทรทัศน์ 

ซึ่งก่อนที่ฮาร์ดี้จะจากไป ฮาร์ดี้ได้บอกให้เขาระวังการแก้แค้นของครอบครัวอื่น 

แน่นอนว่าไมค์จำได้ดี

เขาเลยพกบอดี้การ์ดหลายคนไปด้วยทุกวัน

บอดี้การ์ดเหล่านี้ของเขาล้วนเป็นสมาชิกของครอบครัวคอร์เลโอเน 

พวกเขามีความภักดีและไม่มีปัญหากับครอบครัวอร์เลโอเน 

พวกเขาทั้งหมดเป็นทหารและประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบริษัทรักษาความปลอดภัย

รถของไมค์ขับไปที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเตรียมเติมน้ำมัน

คนขับลงมาจากรถ และก็มีรถสีดำมาจอดอยู่ข้างๆ 

ไมค์เหลือบมองไปที่รถของอีกฝ่าย และก็พบว่าพวกเขาทั้งหมดแต่งตัวมิดชิดพร้อมกับจ้องมองมาทางเขา

ไมค์รู้สึกว่าคนพวกนี้สายตาดูอันตรายมาก

ในเวลาเดียวกันก็มีลำกล้องหลายอันยื่นออกมาจากหน้าต่างรถของอีกฝ่าย

ไมค์ตกใจและก้มลงทันที

ปังปังปังปังปังปังปัง!

ปืนกลในมือของฝ่ายตรงข้ามยิงใส่ไมค์และรถของไมค์อย่างบ้าคลั่ง 

กระสุนทะลุเข้าไปในกระจกรถ ทำให้บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ข้างไมค์ถูกฆ่าในเวลานั้น

ซึ่งมันก็เป็นโชคดีที่เขาพิงอยู่กับบอดี้การ์ดทางฝั่งมือปืน และเขาก็นอนทับไมค์หลังจากที่เขาเสียชีวิต 

และก็เป็นเขาที่รับกระสุนแทนไมค์ทั้งหมด…

คนขับรถของไมค์ที่มอบอยู่ใต้ท้องรถ เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ดีขึ้น เขาก็หยิบปืนออกมาทันทีและยิงไปที่รถของมือปืน

คนขับรถคนนี้ยิงปืนแม่นมาก 

เขายิงออกไปสองนัดและนักฆ่าก็เสียชีวิตถึง 2 คน! 

พร้อมกับที่กระจกฝั่งคนขับแตก คนขับรถตกใจมาก เขาจึงรีบเหยียบคันเร่งและขับออกไปอย่างรวดเร็ว

“คุณไมค์ คุณโอเคหรือเปล่า? คุณไมค์!” คนขับเปิดประตูรถและตะโกนเรียกหาเขา

ศพที่อยู่ข้างๆ พลิกตัวออกและเผยให้เห็นร่างของไมค์ 

ซึ่งในขณะนี้ร่างของไมค์เต็มไปด้วยเลือดและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ

เขาไม่เป็นไร

แต่บอดี้การ์ดของเขาตายหมดแล้ว

ไมค์ขอให้คนขับรถออกไปจากที่นี่และขับรถตรงกลับไปที่คฤหาสน์คอร์เลโอเนในทันที! 

สถานการณ์ของเขาทำให้ทุกคนตกใจ 

เขาจึงแจ้งให้เทสซิโอและคลีเมนซาพาคนมาที่นี่ทันที

ในเวลานี้คฤหาสน์คอร์เลโอเนก็ได้รับโทรเลขอีกฉบับจากซิซิลี

ซันนี่ถูกฆ่าโดยการวางระเบิด

เมื่อเจ้าพ่อมาเฟียได้ยินข่าว…

ร่างกายของเขาก็สั่นด้วยความโกรธ

เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องทำโดยครอบครัวใหญ่หลายครอบครัว

……

ลาสเวกัส

คาสิโนฟลามิงโกปิดแล้วแต่ไฟยังเปิดอยู่ที่นี่ และเป็นซีเกลที่ยืนกรานในอุดมคติของเขา 

เขาเชื่อเสมอว่าตราบใดที่เขาสร้างนกฟลามิงโกให้เป็นรีสอร์ทตากอากาศและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี 

มันจะทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนสำหรับคนรวยอย่างแน่นอน 

และเขาก็จะทำเงินได้มากมายเช่นกัน

โดยใช้หุ้นที่เหลือเป็นหลักประกัน เขาได้ไปยืมเงิน 2 ล้านดอลลาร์จากฮาร์ดี้ 

หลังจากกลับมา เขากังวลเกี่ยวกับคนงานแต่เขาก็จะสร้างคาสิโนฟลามิงโกต่อไป

ซีเกลกำลังเดิมพันครั้งใหญ่

เขาใช้ตัวเองเป็นหลักประกันเพื่อความสำเร็จ

เขายังเชื่ออย่างแน่วแน่ว่ามันสามารถประสบความสำเร็จได้

หลังจากที่ซีเกลขายคฤหาสน์หรูในลอสแองเจลิส 

เขาก็ซื้อคฤหาสน์อีกหลังที่ชายแดนลาสเวกัส ถึงแม้ว่าจะไม่ดีเท่าเบเวอร์ลีแต่มันก็ยังหรูหรา

หลังจากตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการเสร็จ เขาและเฟร็ดก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ 

และตอนนี้เป็นเดือนมิถุนายนที่อากาศกำลังเริ่มอุ่นขึ้น 

เมื่อซีเกลกลับไปที่คฤหาสน์ เขาก็ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำที่สะดวกสบาย

ส่วนเวอร์จิเนียผู้หญิงของเขาไม่ได้อยู่ที่ลาสเวกัสแต่ไปพบปะเพื่อนฝูง

เขารู้ว่าเวอร์จิเนียเป็นผู้หญิงที่อยู่ไม่สุขแต่ซีเกลก็ชอบเธอ 

และบอกได้คำเดียวว่าเธอเหมือนพระเจ้าที่จะทำให้ผู้คนมีความสุข

ในห้องนั่งเล่น

ซีเกลและเฟร็ดกำลังพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเปิดคาสิโน 

เขานั้นได้คิดเคล็ดลับขึ้นมากมาย พร้อมกับคิดว่าคราวนี้มันจะต้องประสบความสำเร็จ…

ในเวลาเดียวกัน

อยู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัดที่ประตู

เฟร็ดกับซีเกลชะงักไปครู่หนึ่ง

และประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับมือปืนหลายคนที่พุ่งเข้ามา

ปกติถ้าออกไปข้างนอกพวกเขาก็คงนำอาวุธไปด้วย แต่นี่คือคฤหาสน์ของเขาและมีบอดี้การ์ดยืนเฝ้าระวังอยู่ 

พวกเขาจึงไม่ได้พกอาวุธใดๆ ไว้…

ปังปังปังปัง! 

ดาดาดา!

เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ซีเกลและเฟร็ดต่างก็จมอยู่ในกองเลือดทันที…

ซีเกลซึ่งเป็นราชาใต้ดินแห่งชายฝั่งตะวันตกเป็นคนแรกได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า และเฟร็ดหัวหน้าแก๊งชาวยิวที่ลอสแองเจลิสก็กลายเป็นศพในเวลานี้…

มือปืนทั้งสองก้มลงมองพื้นจากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อยิงอีกสองนัด 

เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าทั้งสองตายก่อนที่จะออกไป…

……

ลอสแอนเจลิส

ฮาร์ดี้และแอนดี้กำลังทานอาหารค่ำพร้อมกับพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทในเครือของเขา 

ในขณะนั้นเฮนรี่ก็โทรเข้ามา

“บอส ผมมีข่าวด่วนมาแจ้ง…”

“ข่าวอะไร?”

“ซันนี่ถูกฆ่าโดยคาร์บอมบ์ในซิซิลี”

ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาถูกฆ่าโดยระเบิดที่รถ 

เพราะเรื่องราวดั้งเดิมของภาพยนตร์ ‘ก็อดฟาเธอร์’ มันควรจะเป็นไมค์ไปที่ซิซิลีเพื่อหาที่หลบภัย 

พร้อมกับอีกฝ่ายที่ไล่ตามไมค์ไปและวางระเบิดที่รถ ทว่าแทนที่ไมค์จะถูกฆ่ากลับเป็นเจ้าสาวของเขาแทน… 

ไมค์รอดมาได้

คราวนี้ซันนี่ไปซิซิลีและก็ถูกฆ่าตายในเหตุการณ์เดียวกัน 

มันแสดงให้เห็นว่าซันนี่ไม่ได้มีชีวิตเหมือนกับตัวเอก

“แล้วมีข่าวอะไรอีก?”

“ในวันเดียวกันไมค์ก็ถูกลอบสังหาร โดยที่กลุ่มมือปืนได้ไปซุ่มยิงไมค์ที่ปั้มน้ำมัน โชคดีที่คนขับรถของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วและยิงตอบโต้ พวกมือปืนได้หลบหนีไป ไมค์ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่บอดี้การ์ดของเขาสองคนได้ตายลง…” เฮนรี่กล่าว

ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจ

ถูกซุ่มโจมตีที่ปั๊มน้ำมันนี่ไม่ใช่จุดจบของซันนี่เหรอ? 

โชคดีจริงๆ ที่ไมค์มีออร่าของพระเอก

ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเสียเพื่อนที่ดีไป

“บอส ยังมีอีกข่าวหนึ่ง…เย็นวันนี้คุณซีเกลและเฟร็ดถูกกลุ่มมือปืนบุกเข้าไปในบ้าน และทั้งสองก็ถูกฆ่าตายในห้องนั่งเล่น”

คราวนี้ฮาร์ดี้ตกใจมาก

“นายบอกว่าซีเกลตายแล้วเหรอ?!”

“เฟร็ดก็ตายด้วย!”

ฮาร์ดี้ถาม

“ครับบอส! ซีเกลและเฟร็ดทั้งสองเสียชีวิตแล้ว…”

ฮาร์ดี้ถอนหายใจเล็กน้อย 

ซีเกลไม่สามารถหลุดพ้นจากชะตากรรมของการถูกยิงได้จริงๆ

Leave a Comment

ไม่ดี!