อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 142 จับเสือมือเปล่า

ตอนที่ 142 จับเสือมือเปล่า

แอนดี้มาถึงนิวยอร์กพร้อมกับทีมงานและทนายความของเขา เมื่อเขาพบฮาร์ดี้ที่โรงแรม ฮาร์ดี้ก็บอกพวกเขาเกี่ยวกับการซื้อเครื่องบินจากนั้นกล่าวว่า “ฉันคุยกับนายทหารคนนี้ไว้แล้ว และเขาก็ถูกใจฉันมาก ดังนั้นเขาจะหาทางทำให้เราได้ สัญญาซื้อขายมาก่อน”

“ซึ่งแผนของฉันคือการจัดตั้งสายการบินขึ้นมา และใช้สัญญานี้เพื่อขอสินเชื่อจากธนาคารและเอาไปจ่ายค่าเครื่องบินก่อน”

“แอนดี้ตอนนี้นายมีหลายอย่างที่ต้องทำ หนึ่งคือการจดทะเบียนสายการบิน สองคือการเจรจากับกองทัพเพื่อทำสัญญาซื้อให้เสร็จสิ้น และสามคือการใช้สัญญานี้เพื่อกู้เงินธนาคาร”

แอนดี้อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและยกย่อง “บอส ความคิดของคุณยอดเยี่ยมมาก โดยที่เราใช้สัญญาซื้อขายเครื่องบินในการกู้ยืมเงินและนำเงินนั้นไปจ่ายค่าเครื่องบินก่อน เราก็จะได้เครื่องบินจำนวน 51 ลำโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”

“แอนดี้ ราคาของเครื่องบินเหล่านี้ยังถูกมาก ราคาของเครื่องบิน C-53 คือ 38,000 ดอลลาร์และราคาของเครื่องบิน C-47 คือ 36,000 ดอลลาร์ แต่มูลค่าที่แท้จริงของเครื่องบินเหล่านี้สูงกว่าราคาที่เราได้มาเยอะมาก ฉันหวังว่านายจะพูดคุยกับธนาคารและขอกู้เงินมาได้เยอะกว่า เพราะยังไงหลังจากที่เราได้เงิน เราก็ต้องเอาไปใช้กับสายการบินอีกในอนาคต” ฮาร์ดี้กล่าว

แอนดี้ชื่นชมบอสของตัวเองมากยิ่งขึ้น 

เขายังไม่พอใจกับเครื่องบิน 51 ลำที่เขาได้มาและยังต้องการนำพวกมันไปทำเงินก่อน 

แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายที่จ่ายเองอีกสำหรับการดำเนินงานสร้างสายการบิน

“ครับบอส ผมจะทำให้ดีที่สุด!” แอนดี้กล่าว

……

แอนดี้ทำงานได้อย่างรวดเร็วมาก 

เขาเสร็จสิ้นการลงทะเบียนเปิดสายการบินอย่างรวดเร็ว เพราะมันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับคนอย่างแอนดี้

หลังจากติดต่อไปที่กองทัพแผนกสนับสนุนโลจิสติกส์ พวกเขาก็ให้ความร่วมมือกับเป็นอย่างดี 

แน่นอนว่าเป็นเพราะนายพลวิลเลี่ยมส์กำลังช่วยเขาอยู่เบื้องหลัง 

มันเลยทำให้เขาได้รับสัญญาซื้อขายในไม่กี่วัน

เครื่องบินลำเลียง C-53 จำนวน 25 ลำ

เครื่องบินขนส่งสินค้า C-47 จำนวน 25 ลำ

เครื่องบินป้อมปราการทางอากาศ B-29 อีก 1 ลำ

ส่วนราคาของเครื่องบิน C-53 แต่ละลำอยู่ที่ 38,000 ราคารวมทั้งหมดจึงเท่ากับ 950,000 ดอลลาร์ ราคาของเครื่องบิน C-47 แต่ละลำอยู่ที่ 36,000 รวมเป็น 900,000 ดอลลาร์ และลำที่แพงที่สุดก็คือ B29 ที่ถูกขูดรีดเงินถึง 150,000 ดอลลาร์

ซึ่งราคารวมทั้งหมดก็ 2 ล้านพอดี

ต้องบอกก่อนว่าเครื่องบิน B29 มือหนึ่งมีราคาอยู่ที่ 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ 

แม้ว่ามันจะถูกทิ้งแต่มันก็แพงกว่า C-47 มาก 

ซึ่งฮาร์ดี้ก็ไม่มีปัญหากับราคานี้ เพราะยังไงพวกมันก็จะถูกคนที่มีเงินซื้อไปอยู่ดีและมันก็เป็นสิ่งที่หายากด้วย

….

รถยนต์สองคันขับเข้าไปในสนามบินไปที่จอดรถของสำนักงานรักษาความปลอดภัยโลจิสติกส์ 

และมันก็เป็นสถานที่ที่ใหญ่มาก

ว่ากันว่ามันมีพื้นที่มากกว่าสิบตารางกิโลเมตรและมีเครื่องบินหลายร้อยลำจอดอยู่ที่นี่

ฮาร์ดี้และนายพลวิลเลียมส์ได้ออกจากรถ 

แอนดี้เดินตามหลัง ในขณะที่คนอื่นๆ เดินถอยห่างออกไป 

พวกเขาเดินไปที่ลานจอดเครื่องบินและนายพลก็แนะนำพวกมันด้วยรอยยิ้ม

“เครื่องบินที่ผลิตโดยดักลาสมีชื่อเสียงที่ดีมากและมีความทนทานที่สูงมากเช่นกัน ซึ่งมันถูกเรียกอีกชื่อว่า ‘สกายเทรน’ และน้ำหนักบรรทุกมาตรฐานของ C-47 คือ 2.7 ตัน แต่มันสามารถบรรทุกได้ถึง 3 ตันในกรณีฉุกเฉิน”

“C-53 นั้นมี 28 ที่นั่งเป็นมาตรฐาน แต่สายการบินก็มักจะเพิ่มที่นั่งเป็น 36 ที่นั่ง”

“C-47 มีพิสัยบินที่ 2,600 กิโลเมตร มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะบินข้ามประเทศ แม้แต่จากนิวยอร์กไปลอสแองเจลิส นายก็แค่เติมน้ำมันเพียงครั้งเดียว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้นายพลวิลเลียมส์ ก็เดินเข้ามาหาฮาร์ดี้และลดเสียงลงเล็กน้อย “เครื่องบิน 50 ลำของเธอ ฉันได้คัดเลือกพวกมันเป็นพิเศษ พวกมันคือของดีที่สุดสำหรับชุดที่ขายในครั้งนี้ มันไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมแซมในตอนนี้ เธอสามารถใช้พวกมันไปได้หลายสิบปี”

“อีกอย่างฉันยังให้ชิ้นส่วนสำรองเพิ่มไปอีก ตราบใดที่เครื่องยนต์ไม่มีปัญหาร้ายแรง ฉันคาดว่าอุปกรณ์เสริมเหล่านั้นน่าจะเพียงพอไปอีก 5 ปี”

แอนดี้ที่ตามหลังและได้ยินคำพูดของนายพล เขาจึงมองไปที่ฮาร์ดี้ที่อยู่ถัดจากนายพลด้วยความชื่นชม

เขารู้ว่าฮาร์ดี้และวิลเลียมส์เพิ่งพบกันไม่นาน 

แต่เมื่อมองไปที่สถานการณ์ปัจจุบัน…

ทั้งสองดูเหมือนจะเป็นเพื่อนเก่ากันมานานมากกว่าสิบปี

เขาต้องยอมรับว่าฮาร์ดี้เก่งเรื่องการพูดคุยกับผู้คนจริงๆ 

ซึ่งแอนดี้ก็นึกออกไม่กี่คนที่ดูคล้ายกับฮาร์ดี้ 

เพราะสิ่งนี้เป็นหนึ่งในความสามารถของคนที่ประสบความสำเร็จมีอยู่ในตัวอย่างแน่นอน

หลายคนเดินไปที่ด้านข้างของ B-29

เมื่อเทียบกับเครื่องบิน C-47 

เครื่องบิน B-29 จะมีขนาดใหญ่กว่ามาก 

ความยาวและช่วงปีกของมันยาวกว่าเครื่องบิน C-47 ถึงสิบเมตรและความสูงของมันก็สูงกว่า 3 เมตร

นายพลวิลเลี่ยมส์แนะนำข้อมูลเครื่องบิน B-29 ให้ฮาร์ดี้

เครื่องบิน B-29 หนักเป็นสองเท่าถ้าเทียบกับเครื่องบิน C -47 

ซึ่งมันมีน้ำหนักอยู่ที่ 5.4 ตันและบินด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

แต่ความสามารถของมันก็ครอบคลุมกว่าและแข็งแกร่งกว่าเครื่องบิน C-47 มาก

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมันสามารถไปได้ถึง 9000 กิโลเมตร 

แน่นอนว่าด้วยเครื่องบินลำนี้ มันสามารถพาฮาร์ดี้ไปได้ทุกประเทศ

ฮาร์ดี้ชอบเครื่องบิน B -29 มากที่สุด

นี่คือเครื่องบินรบที่มีเกียรติอย่างแท้จริง 

มันได้รับชื่อเสียงในสงครามโลกครั้งที่สองและถูกเรียกว่า ‘Super Sky Fortress’ 

แต่ตอนนี้มันจะกลายเป็นเครื่องบินขนส่งที่ทันสมัยที่สุดในโลกแล้ว

ทั้งสองขึ้นเครื่องบินและไปนั่งในห้องโดยสาร

ซึ่งคนอื่นๆ ก็รออยู่ข้างนอก

ฮาร์ดี้ยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านนายพล ผมยังไม่ได้แสดงความยินดีที่ท่านได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงเลย แล้วเมื่อไหร่ที่ดาวบนไหล่ของคุณจะเปลี่ยน?”

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาวิลเลียมส์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และมันทำให้เขามีอำนาจมากกว่าแต่ก่อนมาก

วิลเลียมส์หัวเราะ “ฉันได้ส่งรายงานไปแล้ว และจะใช้เวลาสักครู่สำหรับการอนุมัติ “

“ยังไงก็ตามฮาร์ดี้ ฉันมีคนแนะนำสำหรับที่ปรึกษาของบริษัทรักษาความปลอดภัยของเธอ ชื่อของเขาคือนายพลคัตเซน นายพลคัตเซนได้รับเชิญจากประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ให้ทำหน้าที่เป็นสมาชิกของสภาที่ปรึกษาการป้องกันประเทศ พร้อมกับรับผิดชอบด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมและทำงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการผลิตในช่วงสงคราม และตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเขาก็เกษียณในปี 1945 และได้รับยศร้อยโทก่อนจะเกษียณออกไป”

“ถ้าจะให้พูดความจริงก็คือฉันเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายพลคัตเซนมาก่อน และก็ได้รับการเลื่อนยศจากเขา จนทำให้ฉันมีวันนี้ และที่ฉันสามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่างราบรื่นในครั้งนี้ ฉันได้ขอให้นายพลคัตเซนช่วยติดต่อไปหาเพื่อนเก่าของเขาที่เป็นทหารให้มาช่วย”

ฮาร์ดี้ไม่เคยได้ยินชื่อของนายพลคัตเซนมาก่อน แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี

ยศร้อยโท

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการผลิตในยามสงคราม

แถมยังเป็นหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์มาก่อน 

เพราะอย่าลืมว่าแผนกโลจิสติกส์สามารถจัดการกับกองกำลังเกือบทั้งหมดได้ 

หากคุณมีสิ่งที่ต้องการก็แค่บอกให้อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์ไปที่ไหนสักที่แบบสบายๆ 

คุณก็สามารถประหยัดไปได้หลายอย่าง

และเขาก็ยินดีที่จะใช้เงินมากขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโตแบบนี้

“เยี่ยม! ถ้าอย่างนั้นท่านนายพลวิลเลี่ยมช่วยติดต่อเขาให้ด้วย และเมื่อไหร่ถ้าท่านนายพลคัตเซนว่าง ผมจะมาหาเขาด้วยตัวเอง” ฮาร์ดี้กล่าว

วิลเลียมส์ยิ้ม “ฮ่าๆ นายพลคัตเซนอาศัยอยู่ในดีทรอยต์หลังจากที่เขาเกษียณแล้ว เขามีฟาร์มอยู่ที่นั้นและก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ยังไงฉันก็จะติดต่อเขาให้ในภายหลัง”

……

หลังจากกลับไปที่นิวยอร์กจากเวอร์จิเนีย 

ฮาร์ดี้ก็บอกแอนดี้ให้ติดต่อธนาคารและให้พวกเขามาหาเราเพื่อเจรจาธุรกิจกู้ยืมเงิน

อะไร?

ทำไมต้องเชิญพวกเขามานะหรือ?

มันก็ง่ายๆ

ในห้องประชุมของโรงแรมฮิลตัน แอนดี้ได้เชิญผู้จัดการของธนาคารทั้งหมด 6 คนในเวลาเดียวกัน 

ซึ่งมันก็มีธนาคารซิตี้แบงก์แห่งนิวยอร์ก ธนาคารแห่งชาติที่นิวยอร์ก ธนาคารนิวยอร์กเมลลอน ธนาคารแห่งอเมริกา 

ธนาคารแห่งชาติซานฟรานซิสโกและธนาคารเวลส์ฟาร์โก

แน่นอนว่าคนเหล่านี้มาเพราะฮาร์ดี้

ตอนนี้ฮาร์ดี้เป็นที่หนึ่งในวงการธุรกิจแล้ว 

เขามีเอชดีซีเคียวริตี้ เอชดีพิคเจอร์ โรงงานผลิตโทรทัศน์มิโบ เพลย์บอย ตุ๊กตาบาบี้ น้ำแร่ร็อกกี้เมาเท่น 

ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้แล้ว

และแอนดี้ส่งจดหมายเชิญไปที่ธนาคารเหล่านี้ 

ซึ่งเขาระบุว่าฮาร์ดี้พร้อมที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินและเชิญพวกเขามาหารือเรื่องเงินกู้

แล้วธนาคารคืออะไร?

มันก็เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง และมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวก็คือทำเงิน

ธนาคารจะพิจารณาความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อก่อนแล้วค่อยไปพิจารณารายได้ 

แล้วฮาร์ดี้ก็ถือสินทรัพย์คุณภาพสูงจำนวนมาก ธนาคารจึงไม่สงสัยในความสามารถของเขาในการชำระเงินกู้

เมื่อได้รับคำเชิญของฮาร์ดี้ธนาคารทั้งหมดก็ส่งคนมาที่นี่ และส่วนใหญ่ก็มาจากผู้รับผิดชอบแผนกสินเชื่อของธนาคาร

แอนดี้ยิ้มและพูดกับคนเหล่านี้ “ขอบคุณที่มาในวันนี้ ผมขอแนะนำตัวเองก่อน…ผมเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินของคุณฮาร์ดี้และผมชื่อแอนดี้ ก่อนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสินเชื่อ ผมอยากจะขอให้คุณดูสัญญาก่อน “

แอนดี้ส่งแฟ้มเอกสารให้กับพวกเขา ซึ่งมันก็มีข้อมูลสัญญาแสดงให้หัวหน้าสินเชื่อของธนาคารดู

เนื้อหาของสัญญานั้นเรียบง่ายมาก 

มันเป็นเพียงสัญญาซื้อขายปกติ 

ฮาร์ดี้จัดตั้งสายการบินใหม่ ชื่อเอชดีแอร์ไลน์และถือหุ้น 100% 

เอชดีแอร์ไลน์ได้ซื้อเครื่องบินขนส่งที่ล้าสมัย 51 ลำจากกองทัพ

แถมสัญญาฉบับนี้ยังบ่งชี้ว่าข้อตกลงได้ถูกทำขึ้นเรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งหมายความว่าฮาร์ดี้มีเครื่องบิน 51 ลำอยู่ในมือของเขาแล้ว

เครื่องบิน 51 ลำเป็นสินทรัพย์ที่เยอะมากอย่างแน่นอน

“คุณฮาร์ดี้ช่างสุดยอดจริงๆ เขาซื้อเครื่องบินครั้งละ 51 ลำและก็กลายเป็น 1 ใน 10 สายการบินที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้เลย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวชม

แต่บางคนก็ยังสงสัย “ประสิทธิภาพของเครื่องบินเหล่านี้เป็นยังไงและมีอายุการใช้งานมากี่ปีแล้ว?”

แอนดี้อธิบายด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าเครื่องบินเหล่านี้จะเป็นสินค้ามือสอง แต่ประสิทธิภาพการทำงานมันไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เราได้ให้พนักงานซ่อมบำรุงของดักลาสมาตรวจสอบแล้ว พวกเขาบอกว่าเครื่องบินเหล่านี้เป็นของใหม่ประมาณ 80% พวกมันได้รับการดูแลโดยบริษัทก่อนที่จะถูกนำมาขายให้คุณฮาร์ดี้ ทำให้มันจะไม่มีปัญหาไปสำหรับยี่สิบหรือสามสิบปี”

“และราคาของโรงงานที่ผลิตเครื่องบิน C-53 และ C-47 ออกมาอยู่ที่ประมาณ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วพวกคุณคิดว่ามูลค่าของพวกมันตอนนี้จะเท่าไหร่? ผมเชื่อว่าทุกคนมีการประเมินอยู่ในใจแล้ว ซึ่งเราก็ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าหากเครื่องบินเหล่านี้ถูกนำมาขายใหม่ เครื่องบินเหล่านี้จะสามารถขายได้ถึง 110,000 ดอลลาร์ ต่อลำอย่างแน่นอน”

อันที่จริงประเด็นนี้ แอนดี้ก็พูดเกินจริงไปหน่อย เพราะราคา 110,000 อาจจะไม่ถูกขายอย่างแน่นอน 

แต่มันจะไม่มีปัญหาที่จะขายราคา 80,000 ถึง 90,000 ดอลลาร์

ลองคิดดูว่าการหาเงินมากขนาดนั้นจะยากแค่ไหน เพราะถ้าไม่มีเส้นสายใครจะปล่อยให้คุณทำเงินเยอะขนาดนี้

แอนดี้มองไปที่ผู้จัดการธนาคารทุกคนและพูดว่า

“สายการบินเอชดีตั้งใจที่จะใช้เครื่องบินเหล่านี้เป็นหลักประกันเพื่อขอรับเงินกู้จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคาร ระยะเวลาการกู้ยืมประมาณ 5 ปี และเราหวังว่าดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลงอีก 1% จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติ”

ทันทีที่คำพูดของแอนดี้ออกมาผู้จัดการเหล่านี้บ่นทันที

“มันสูงเกินไปที่จะใช้เครื่องบินชุดนี้ในการกู้เงิน 5 ล้าน แค่ 3 ล้านก็เยอะเกินไปแล้ว”

“ดอกเบี้ยเงินกู้ปัจจุบันอยู่ที่ 4.250% และมันมากเกินไปที่จะลดอีก 1% เพราะธนาคารจะไม่ได้อะไรเลย”

แอนดี้ได้คาดเดาปฏิกิริยาของผู้จัดการเหล่านี้ไว้แล้ว เขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หลังจากที่เอชดีแอร์ไลน์ก่อตั้งขึ้น มันจะมีธุรกิจมากมายและสภาพการเงินก็จะดีกว่าเดิม ซึ่งเงินของเราจะถูกนำไปฝากไว้ในธนาคารที่เราร่วมมือด้วย”

ไม่ว่าเมื่อไหร่เงินสดก็คือสิ่งสำคัญ และสายการบินก็เป็นบริษัทที่มีเงินสดเยอะมากเช่นกัน 

แล้วถ้ามีเงินจำนวนมากถูกฝากไว้ในธนาคาร 

ธนาคารก็สามารถใช้เงินนี้ในการให้กู้ยืมเพื่อสร้างรายได้ต่อไป 

ซึ่งสำหรับธนาคารการร่วมมือกับบริษัทที่มีกระแสเงินสดเพียงพอจะเป็นประโยชน์สูงสุดมากกว่า

“เงื่อนไขของเราคือทั้งหมดนี้ คุณสามารถกลับไปเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และถ้าคุณยอมรับมัน คุณก็สามารถติดต่อมาที่ผมได้เลย”

Leave a Comment

ไม่ดี!