ตอนที่ 133 คาสิโนฟรามิงโก้ปิดทำการ…
โรงงานน้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์และผู้จัดการอดัมส์ก็ขอให้ฮาร์ดี้ไปตรวจสอบ
ฮาร์ดี้จึงพาแอนดี้และคนอื่นๆ ไปนิวเม็กซิโก
ซึ่งตอนนี้ที่เชิงเขาร็อคกี้มันมีโรงงานน้ำแร่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และอดัมส์ก็เป็นผู้แนะนำในครั้งนี้
“คุณฮาร์ดี้นี่คือถังเก็บน้ำดิบ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เก็บน้ำดิบและกรองตะกอนทรายขนาดใหญ่ ตะกอนอื่นๆ ในน้ำ”
“ต่อไปคือตัวกรองหลายชั้น ที่ใช้อุปกรณ์กรองหลายชนิดเพื่อกำจัดตะกอน สนิม สารคอลลอยด์ ของแข็ง และสารอื่นๆ ที่มีอนุภาคมากกว่า 20 ไมครอนในน้ำดิบ”
“นี่คือตัวกรองคาร์บอน… นี่คือเครื่องฆ่าเชื้ออัลตราไวโอเลต…”
โรงงานผลิตน้ำแร่ได้ผลิตน้ำแร่สองชนิด หนึ่งคือน้ำแร่สำหรับดื่มทั่วไปซึ่งสามารถบริโภคได้โดยตรงและอีกชนิดหนึ่งคือน้ำโซดาที่มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ส่วนใหญ่ใช้ในการเติมเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขวดน้ำแร่ก็ทำจากขวดแก้ว เพราะตอนนี้เทคโนโลยีพลาสติกยังด้อยพัฒนา
ซึ่งขวดน้ำแร่พลาสติกจะไม่ปรากฏจนกว่าจะถึงทศวรรษที่ 1970
ส่วนขวดแก้วถึงจะใช้งานได้จริงและดีกว่าสำหรับการเก็บรักษาน้ำแต่การขนส่งและการรีไซเคิลจะมีปัญหามากกว่า
ในห้องประชุม
ทุกคนกำลังดื่มน้ำแร่และพูดคุยกัน
“อืม มันสดชื่นและอร่อยดี! มันให้ความรู้สึกเหมือนน้ำจากภูเขาน้ำแข็ง ยังไงก็เถอะผมยังสามารถเติมสารบางอย่างได้ไหม?” แอนดี้กล่าว
ฮาร์ดี้หัวเราะเบาๆ “อันที่จริงเจ้านี่ถูกขายเป็นกิมมิก และความแตกต่างก็ไม่ได้ใหญ่อย่างที่เราคิดไว้หรอก”
“แล้วบอสคิดว่าราคาของน้ำขวดนี้เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?” อดัมส์ถาม
นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของการประชุม
มีน้ำแร่หลายชนิดในตลาดและราคาโดยทั่วไปอยู่ที่ 5 ถึง 10 เซ็นต์ ซึ่งเกือบจะเป็นราคาของโค้กหนึ่งขวดและเบียร์หนึ่งขวด
ซึ่งต้นทุนโรงงานของน้ำแร่ร็อคกี้เมาน์เทนอยู่ที่ประมาณ 2 เซ็นต์ และส่วนใหญ่ที่ราคาขนาดนี้ก็เป็นเพราะขวดแก้วมันมีราคาแพง และการส่งไปยังเมืองชายฝั่งตะวันตกเช่นลอสแอนเจลิสและซานฟรานซิสโกก็ต้องบวกค่าขนส่งเพิ่มไปอีกประมาณ 3 เซ็นต์
หากส่งไปยังเมืองต่างๆ เช่นนิวยอร์กทางชายฝั่งตะวันออกค่าใช้จ่ายอาจอยู่ที่ประมาณ 6 เซ็นต์
“แล้วพวกนายคิดว่ามันควรจะตั้งราคาเท่าไหร่?” ฮาร์ดี้มองไปที่ทุกคนและถาม
แอนดี้คิดสักพัก “ผมคิดว่า 10 เซ็นต์น่าจะเหมาะ”
“8 เซ็นต์”
“7 เซ็นต์”
“10 เซ็นต์”
อย่างไรก็ตามไม่มีใครเสนอราคาสูงกว่า 10 เซ็นต์สักนิด
ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ตอนนี้โคคาโคลาขายได้ปีละ 30 ล้านขวด ราคาของเขาคือ 5 เซ็นต์ และราคาของเบียร์ก็อยู่ที่ 10 เซ็นต์ พวกนายคิดว่ามีคนกี่คนที่ยินดีที่จะซื้อน้ำเปล่าขวดนี้ในราคาของโค้กหรือเบียร์ขวดหนึ่ง?”
ทุกคนเข้าใจดีว่าในปัจจุบันการที่เอาเงินไปซื้อน้ำเปล่าในราคานี้มันจะรู้สึกไม่คุ้มค่า เพราะหากคุณต้องการดับกระหาย
พวกเขาก็เพียงแค่ไปดื่มน้ำพุแถวในเมืองก็พอ
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมแบรนด์น้ำแร่เหล่านั้นจึงขายไม่ดี เพราะพวกเขาวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาคิดว่ามันก็คือน้ำแร่ที่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์น้ำดื่มธรรมดา” ฮาร์ดี้กล่าว
ผู้คนในสำนักงานต่างประหลาดใจ
“บอส น้ำแร่ไม่ได้มีไว้ดื่มอย่างเดียวเหรอครับ?”
ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ฉันไม่สนใจเรื่องคนอื่น อย่างไรก็ตามน้ำแร่ร็อกกี้เมาเท่นของเราไม่ใช่เครื่องดื่มธรรมดาแต่อยากให้มองเป็นของหรูหรา”
“การดื่มน้ำแร่จากร็อกกี้เมาเทนมันจะทำให้ผิวสวยงาม เสริมสร้างร่างกายให้มีชีวิตได้นานขึ้น และยังสามารถรู้สึกถึงความสดชื่นของธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับของขวัญจากภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ดังนั้นอย่าไปคิดแค่ว่าอยากจะดื่มน้ำเมื่อพวกนายกระหายน้ำ”
“และยอดขายของเราก็ไม่สามารถเทียบได้กับโคคาโคลาอย่างแน่นอน ดังนั้นเราควรทำอย่างไร? พวกเราก็แค่ใช้เส้นทางระดับไฮเอนด์ในการขายแค่นั้น!”
……
ไม่กี่วันต่อมา…
เพลย์บอยฉบับใหม่ก็ออกมาแล้ว
นี่คือฉบับที่สี่ของ ‘เพลย์บอย’ และในตอนนี้นิตยสารเพลย์บอยเป็นที่รู้จักกันดี มันได้กลายเป็นสิ่งพิมพ์ระดับไฮเอนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในใจของใครหลายๆ คน
ซึ่งในฉบับที่สามก็ขายออกไปได้ถึง 200,000 เล่ม
แน่นอนว่าตั้งแต่ฉบับที่แล้วโฆษณาก็มาลงในนิตยสารมากขึ้น รวมถึงเครื่องสำอางของเอสเตลอเดอร์ ตุ๊กตาบาร์บี้ และ MEBO TV ก็ได้ปรากฏในนิตยสารมากกว่าหนึ่งรายการ
ส่วนในฉบับที่สี่จะเป็นโฆษณาเกี่ยวกับการเปิดตัว ‘น้ำแร่ร็อกกี้เมาเทน’
จุดเริ่มต้นคือภาพถ่ายที่สวยงามของภูเขาหิมะของเทือกเขาร็อกกี้
ภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่าน ทะเลสาบที่เหมือนกระจก และต้นไซเปรสเขียวขจีที่เป็นเหมือนเทพนิยายและดินแดนมหัศจรรย์
‘เทือกเขาร็อกกี้เป็นเหมือนหลังคาของทวีปอเมริกาที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดทั้งปี แถมมันยังห่างไกลจากมลภาวะและการสัมผัสกับมนุษย์ มันยังมีน้ำที่ละลายจากภูเขาน้ำแข็งและผ่านการกรองตามธรรมชาติมานับพันปี ที่มาพร้อมกับแร่ธาตุจากธารน้ำแข็งอันมากมาย มันเป็นกระบวนการกรองตามธรรมชาติที่ยาวนานเพื่อที่จะได้แร่ธาตุที่สมดุลและบริสุทธิ์ กลายมาเป็นน้ำเหล่านี้”
‘และน้ำแร่ร็อกกี้เมาเท่นก็ได้ผ่านการกรองอีก 18 ชั้น รวมถึงการฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต มันจึงทำให้คุณภาพของน้ำมีความใสและสอาด รสชาติที่กล่มกล่อม หวานนิดๆ พร้อมกับการออกแบบขวดที่เป็นทรงกระบอกที่ดูเรียบง่าย หรูหรา และบริสุทธิ์ที่ดูสวยงามจนลืมหายใจ’
‘เพียงแค่คุณผู้ชายดื่มน้ำน้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนเป็นประจำทุกวัน มันก็จะช่วยเติมแร่ธาตุที่จำเป็นตลอดทั้งวันให้กับคุณ และทำให้มีพลังงานมากขึ้น สุขภาพดีและดูอ่อนวัยลง’
‘และมันยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่หลากหลายที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ซึ่งในการใช้น้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนในการลบเครื่องสำอางจะไม่ทำร้ายผิวของสาวๆ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเติมเต็มแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิวเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวขึ้นไปอีก ผลของมันจะทำให้คุณผู้หญิงดูอ่อนวัยลงกว่าเดิม…’
‘ส่วนน้ำโซดาร็อคกี้เมาเท่นก็จะเป็นเพื่อนสำหรับเครื่องดื่มของคุณ เครื่องดื่มที่ได้รับการชงจากน้ำโซดาร็อคกี้เมาเท่น จะให้รสชาติลึกล้ำยิ่งขึ้นและดูสวยงามกว่าเดิม”
“การดื่มน้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนสิ่งที่คุณดื่มไม่ใช่แค่น้ำ แต่เป็นการเสริมสุขภาพ ความงาม อนาคต และความรักจากธรรมชาติ”
ในเวลาเดียวกัน
บริษัทน้ำแร่ยังโฆษณาในหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆ หลายฉบับในสหรัฐอเมริกาและคำโฆษณาก็คล้ายกับในนิตยสารเพลย์บอย
โดยการ ‘โม้น้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนให้เหมือนน้ำจากสวรรค์’
แม้ว่าน้ำแร่ร็อคกี้เมาท์เทนจะยังไม่มีวางจำหน่ายแต่ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้คนได้มากพอ และคิดว่ามันเป็นของระดับไฮเอนด์จริงๆ
มันช่วยให้พวกเขาคิดว่าการดื่มน้ำนั้นมิใช่เพื่อดับกระหาย การดื่มครั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพและอนาคต
พร้อมกับความหรูหราที่เกิดขึ้น
ในขณะที่โฆษณาแพร่กระจายอย่างล้นหลาม น้ำแร่ร็อกกี้เมาเทนก็ออกขายอย่างเป็นทางการ
ซึ่งน้ำแร่นี้ไม่ได้ขายในร้านขายของชำแต่ขายโดยตรงโดยสั่งจากโรงงาน
และน้ำขวดนี้ก็ขายในราคา 0.50 ดอลลาาร์ จำหน่ายให้กับบาร์ ไนต์คลับ และการจองแบบส่วนตัว
ในครั้งนี้พวกเขาใช้เส้นทางระดับไฮเอนด์ในการเริ่มขาย
ถึงบางครั้งจะคนต้องการของที่ถูก แต่ของชิ้นไหนยิ่งราคาแพงเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งพยายามหาซื้อมัน
และยิ่งมีคนที่อยากลองมากเท่าไหร่ น้ำแร่ร็อกกี้เมาเท่นก็ยิ่งขายดีมาก
ทำให้มันขายได้มากถึง 50,000 ขวดในสัปดาห์แรก
หากมียอดขายนี้ทุกสัปดาห์ในอนาคต ยอดขายประจำปีของบริษัทน้ำแร่จะสูงถึง 1.5 ล้าน แถมต้นทุนของบริษัทน้ำแร่ยังต่ำมาก กำไรของมันน่าจะสูงถึงหนึ่งล้านดอลลาร์อย่างแน่นอน
ในตอนนี้อีกบริษัทหนึ่งเริ่มทำเงินและฮาร์ดี้มีความสุขมาก
ซึ่งมันยังมีข่าวดีอีกอย่างก็คือ การขายน้ำแร่ทำให้ราคาหุ้นของเหมืองแร่วอลช์เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง แม้บริษัทน้ำแร่จะไม่ได้อยู่ในรายการหุ้นก็ตามแต่เหมืองแร่วอลช์ก็มีหุ้นอยู่ถึง 20%
มันหมายความว่าจะสามารถปันผลได้ถึง 200,000 ดอลลาร์ต่อปี
ด้วยวิธีนี้เหมืองแร่วอลช์จึงไม่ใช่หุ้นขยะอีกต่อไป
……
ฮาร์ดี้ได้รับโทรศัพท์จากไฮดี้ลามาในวันนั้น โดยเธอบอกกับเขาว่าสคริปต์ของ ‘วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghost)’ เขียนเสร็จแล้ว และถามเขาว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะว่างมาอ่าน
วันนี้ฮาร์ดี้รู้สึกดีมากจึงขับรถไปที่สตูดิโอของไฮดี้
ตอนนี้สตูดิโอได้เปลี่ยนไปแล้ว
มันกลายเป็นเหมือนที่อยู่อาศัยส่วนตัวของไฮดี้มากกว่า ไฮดี้ก็แต่งตัวสบายๆ ออกมารับเขาและยื่นสคริปต์ให้กับฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้อ่านมันและก็พบว่าบางสถานที่ไม่เหมือนกับภาพยนตร์ต้นฉบับที่เขาเคยดูมาก่อน
ซึ่งบางแห่งก็ไม่ดีเหมือนเดิมและบางแห่งก็ดีกว่าเดิม
“ไฮดี้ ผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องเสริมบทตอนทำเครื่องปั้นดินเผาให้ดีมากกว่านี้ เพื่อให้พระเอกและนางเอกสามารถแสดงความรักออกมาได้มากขึ้น”
ฮาร์ดี้จำฉากทำเครื่องปั้นดินเผานี้ได้ดี
“ในฉากนี้ฉันก็ได้ลองทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตัวเองแล้ว แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดี” ไฮดี้กล่าว
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณมีอุปกรณ์เครื่องปั้นดินเผาด้วยหรอ?”
“ใช่มันอยู่ในห้องถัดไป เดี๋ยวฉันโชว์ให้คุณดู” ไฮดี้พาฮาร์ดี้ไปที่ห้องถัดไปที่ตอนนี้มีชุดเครื่องปั้นดินเผาอยู่ในห้อง และมีกองโคลนอยู่บนโต๊ะพร้อมกับโคลนที่คดเคี้ยวสองสามเส้นวางอยู่บนหิ้งข้างๆ
บางทีไฮดี้อาจจะทำมันขึ้นมาเอง
หลังจากเปิดเครื่อง
ไฮดี้ก็นั่งบนเบาะ เทน้ำลงบนโคลนและเริ่มทำเครื่องปั้นดินเผาอย่างช้าๆ เธอเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ฮาร์ดี้พร้อมกับพูดว่า “หลังจากทำสิ่งนี้สองสามครั้ง ฉันก็พบว่าการทำเครื่องปั้นดินเผานั้นน่าสนใจมากทีเดียว”
“แต่ความรู้สึกนั้นฉันก็ยังไม่เจอมันเหมือนกัน” (ความรู้สึกตกหลุมรัก)
ฮาร์ดี้คิดสักพักและก็ลงไปนั่งอยู่ข้างหลังไฮดี้ ซึ่งตัวของไฮดี้ก็แข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ฮาร์ดี้ก็จับมือของไฮดี้และทั้งสองก็ทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยกัน
ทำให้อารมณ์ที่ละเอียดอ่อนเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง…
ร่างกายของไฮดี้ค่อยๆ อบอุ่นและนุ่มนวลขึ้น
ทันใดนั้น
เธอก็รู้สึกว่าเขากำลังจูบไปที่ต้นคอของเธอ…
“เธอรู้สึกอะไรไหม?…”
“…”
……
วันต่อมา
ฮาร์ดี้พาไฮดี้ไปที่เอชดีพิคเจอร์และพบผู้กำกับโนแลน “นี่คือบทละครโรแมนติกแฟนตาซีในเมือง นายลองอ่านมันดูสิ”
หลังจากอ่านบทภาพยนตร์ โนแลนก็ตกหลุมรักกับเรื่องนี้ทันทีและพูดกับฮาร์ดี้ด้วยความตื่นเต้นว่า”คุณฮาร์ดี้ให้ผมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไหมครับ!?”
“ฮ่าๆ ได้เลย!”
“ฉันจะให้ไฮดี้รามาเป็นนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้และจะหานักแสดงที่เหมาะสมอีกในภายหลัง คราวนี้จะเป็นการถ่ายภาพยนตร์แบบสีงบจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์ มันจะถูกผลิตขึ้นทั้งหมดโดยเอชดีพิคเจอร์ และนายมีความมั่นใจใช่ไหม?” ฮาร์ดี้ถาม
“ไม่ต้องกังวลครับคุณฮาร์ดี้ มันจะออกมาดีอย่างแน่นอน” โนแลนพูดอย่างตื่นเต้น
……
เวลาล่วงเลยเข้าสู่เดือนมีนาคมในชั่วพริบตา
จู่ๆ ฮาร์ดี้ก็ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรอง
“บอส คุณบอกให้ผมเฝ้าดูสถานการณ์ของคุณซีเกลใช่ไหม? ตอนนี้กำลังมีบางอย่างผิดปกติในลาสเวกัสอยู่ครับ!” เฮนรี่กล่าว
“สถานการณ์เป็นยังไง?”
“เมื่อวานนี้คาสิโนฟลามิงโกประกาศว่าจะปิดทำการชั่วคราว และตอนนี้มันก็ไม่เปิดให้บริการแล้ว เพราะในช่วงเวลานี้คาสิโนกำลังสูญเสียเงินตลอดเวลา ซึ่งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมามันสูญเสียมากกว่า 1.2 ล้าน และคุณซีเกลก็ไม่สามารถให้มันไปต่อได้ ดังนั้นเขาจึงประกาศว่าจะปิดชั่วคราว”
ฮาร์ดี้ถอนหายใจเล็กน้อย
มันต้องปิดอยู่แล้วเพราะตั้งแต่คาสิโนฟลามิงโกเปิดมันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
ซึ่งเรื่องแรกก็เป็นตอนที่ฝนตกหนักและแขกครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถมาร่วมพิธีเปิดได้ เรื่องที่สองก็มีไฟฟ้าดับในเวลากลางคืนทำให้ระบบปรับอากาศส่วนกลางได้พังลงในวันถัดไปและทำให้ผู้เข้าพักทุกคนต้องออกจากที่พัก
ในวันต่อๆ มาเพื่อดึงดูดนักพนันซีเกลก็ได้ใช้มาตรการพิเศษต่างๆ เช่นการอัดเม็ดเงินเข้าไปให้มากขึ้น เพิ่มเงินรางวัลอีกครึ่งหนึ่ง และส่วนลดที่พักโรงแรม คูปองอาหาร
มาตรการเหล่านี้ก็ดึงดูดนักพนันบางคนได้ก็จริง แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีการนี้คือการดับความกระหายของพวกเขาด้วยการดื่มยาพิษฆ่าตัวเองและไม่ได้รับเงินจากนักพนันมากนัก
ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงมาก และการสูญเสียรายเดือนก็มากกว่าสามหรือสี่แสนดอลลาร์
หลังจากยืนหยัดอยู่ได้สามเดือน ซีเกลก็ทนไม่ไหวจริงๆ และต้องประกาศว่าฟลามิงโก้จะปิดชั่วคราว
ส่วนความคิดของซีเกลในตอนนี้ก็คือการเพิ่มเงินอีกก้อนหนึ่ง เพื่อที่จะทำการก่อสร้างตามแผนทั้งหมดที่วางไว้ให้เสร็จและเปิดมันอีกครั้ง
เพราะเขายังคงเชื่อว่าฟลามิงโก้ยังสามารถทำเงินได้…