อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 127 ไม่มีที่ซ่อน

ตอนที่ 127 ไม่มีที่ซ่อน

เฮนรี่ซื้อตั่วเครื่องบินไปไมอามี่และเขาก็ออกไปขับรถตรงไปที่สนามบิน

เพราะเฮนรี่ต้องไปพบคนอื่นๆ ที่นั้น

“สวัสดีคุณเฮนรี่ ผมอลันจากครอบครัวลูเซร์ซ ผมได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าอันเดอร์โนของผมว่าให้รับผิดชอบคุณและช่วยเหลือคุณในครั้งนี้”

“ขอบคุณมาก” เฮนรี่จับมือกับอีกฝ่ายเพื่อขอบคุณเขา

เมื่อเขามาถึงที่อยู่ของแก๊งโดยรถยนต์ เฮนรี่ก็หยิบรูปถ่ายหนึ่งกองออกมาแล้วพูดว่า “ชายคนนี้ที่เราต้องหาเขา”

“ไม่มีปัญหา ในการหาคนครั้งนี้ผมได้รวบรวมคน 200 คน ซึ่งทุกคนเป็นคนในท้องถิ่นที่พร้อมจะรับคำสั่งคุณและช่วยหาเขา” อลันกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นให้แบ่งเป็น 30 กลุ่ม แต่ละกลุ่มพยายามดูรูปถ่ายและมองไปรอบๆ นอกจากนี้ผมอยากขอให้คุณช่วยตรวจสอบว่าบุคคนในภาพนี้มีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยไหม?” เฮนรี่กล่าว

ที่เขาหมายถึงก็คือกองกำลังภายนอกเช่นพวกโจร แก๊งอันธพาล โจรขโมยรถ และคนเก็บเงินกู้ 

แน่นอนว่าคนเหล่านี้จะทำอะไรไม่ได้มาก แต่พวกเขาก็ช่วยหาข้อมูลได้

“ไม่มีปัญหา” อลันตอบ

ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไป 

ในช่วงเวลาหนึ่ง บาร์ ไนท์คลับ โรงแรมและแม้แต่สี่แยกในไมอามี่ล้วนเป็นคนเหล่านี้ที่ไปยืนเฝ้า 

ส่วนผู้คนในโลกใต้ดินที่ไมอามี่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าครอบครัวลูเซร์ซกำลังตามหาผู้ชายที่ชื่อลีโอ

ไม่ว่าชายคนนี้จะทำผิดพลาดอะไรก็ต้องบอกว่าชายคนนี้กำลังมีปัญหาใหญ่

……

หลังจากวางสายจากทริชวิคเตอร์ก็โทรหาชายคนหนึ่ง 

ชายคนนี้มีชื่อว่าชาร์ล 

เขาเป็นคนอังกฤษที่ฉลาดมาก และชาร์ลเก่งเรื่องการฟอกเงิน 

ในอดีตวิคเตอร์ได้เช็คมา และเขาก็เข้าไปให้ชาร์ลดูหลายครั้ง 

ให้ช่วยเขาจัดการกับเช็คพวกนั้น

“ชาร์ลนี่ฉันเองเพื่อนเก่าของนายวิคเตอร์” วิคเตอร์ทักทายเพื่อนเก่าด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย

ปลายสายเงียบไปสองสามวิ และชาร์ลก็พูดด้วยเสียงต่ำว่า “วิคเตอร์ฉันเกรงว่า นายกำลังมีปัญหาใหญ่อยู่ในเวลานี้”

วิคเตอร์ชะงักไป

“หมายความว่าไงชาร์ล ฉันมีปัญหาอะไร?”

“ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้ใช่ไหม? ตอนนี้ทั้งไมอามี่กำลังมองหาชายที่ชื่อลีโอ สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลลูเซร์ซ เขาเปรียบเทียบภาพเหมือนของชายคนนั้นไปทุกที่ ถามหุ้นส่วนทั้งหมดและกองกำลังของโลกใต้ดินในไมอามี่ก็กำลังเคลื่อนไหวในตอนนี้…”

“ฉันยังได้เห็นภาพนั้นอีกด้วย มันเป็นภาพที่คล้ายกับนายมากวิคเตอร์ นายคือลีโอที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในครั้งนี้ใช่ไหม?”

วิคเตอร์ชะงักไป

ครอบครัวลูเซร์ซนั่นคือครอบครัวมาเฟียใหญ่ของอเมริกา

เขารู้ว่าไมอามี่เป็นดินแดนของครอบครัวลูเซร์ซ

แต่ทำไม?

ทำไมพวกเขาถึงมองหาเขา?

หรือจะเป็นสิ่งที่ฉันทำในลอสแองเจลิส?

เขาเป็นเพียงคนต้มตุ๋นคนหนึ่ง และเขากลัวมากถ้าเขายั่วยุมาเฟียเช่นตระกูลลูเซร์ซ ถ้าเขาตกอยู่ในมือของคนเหล่านั้นเขาอาจจะตายอย่างทรมานได้

ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์วิคเตอร์ไม่ได้พูดเป็นเวลานาน 

ชาร์ลจึงพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะเป็นนายจริงๆ ใช่ไหม”

“ชาร์ลสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” วิคเตอร์ถามอย่างกังวล

“เพียงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาครอบครัวลูเซร์ซได้ส่งคนจำนวนมากไปตามหาชายคนหนึ่งชื่อลีโอ พร้อมกับภาพวาดในมือ ไม่ว่าจะเป็นที่บาร์ โรงแรง ไนท์คลับ และยังกำชับว่าถ้าเจอให้แจ้งข่าวกลับมา”

“ฉันเหลือบมองไปที่ภาพเหมือนนั้นและฉันก็แน่ใจว่าเป็นนาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่นายไปทำอะไรไว้วิคเตอร์?”

วิคเตอร์พูดไม่กี่ครั้งว่า “ฉันแค่ไปโกงเงิน 100,000 ดอลลาร์กับบริษัทหนึ่งในลอสแอนเจลิสเท่านั้นเอง”

“นายไม่ได้สืบประวัติของอีกฝ่ายก่อนที่นายจะเริ่มหรือ ?” ชาร์ลถาม

“ฉันตรวจสอบแล้ว บริษัทนี้เป็นบริษัทประมูลที่ดำเนินการโดยผู้หญิงเอเชียและไม่พบภูมิหลังที่แข็งแกร่ง” วิคเตอร์กล่าว

ชาร์ลถอนหายใจเบาๆ “หญิงสาวคนหนึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทประมูลที่ไม่สามารถหาภูมิหลังของเธอได้ นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแล้ว เพราะมันเป็นไปได้ว่าภูมิหลังของเธอแข็งแกร่งมากจนนายหามันไม่เจอ จากสถานการณ์ปัจจุบันฉันเกรงว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนใหญ่โตมาก “

“วิคเตอร์คุณอยากให้ผมช่วยคุณฟอกเงินใช่ไหม? แต่บอกเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ ฉันไม่กล้ารับธุรกิจครั้งนี้”

“ฉันไม่ต้องแจ้งข่าวครั้งนี้กับนายก็ได้แต่เป็นเพราะเราทำงานด้วยกันมาหลายปี ทว่าครั้งนี้วิคเตอร์นายต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองแล้ว”

ชาร์ลพูดจบเขาก็วางหูไป

วิคเตอร์มีอารมณ์ที่มีความสุขมากเมื่อกี่นี้ เพราะเขาได้รับเช็คเป็นเงินถึง 100,000 ดอลลาร์มา และทริชก็กำลังรอเขากลับไปที่บ้าน 

ตราบใดที่เขาแลกเเปลี่ยนเงินที่ไมอามี่แล้ว เขาก็สามารถกลับไปมีชีวิตกับครอบครัวที่ดีได้

แต่กลับมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

เขาไม่มีอารมณ์ดีของเมื่อกี้แล้ว มันเหลือเพียงความแค่กังวลอยู่ในใจของเขา

อีกฝ่ายเป็นใครถึงได้สั่งให้ผู้คนเคลื่อนไหวได้ขนาดนี้

ทำไมถึงตามหาตัวเขา?

ยิ่งวิคเตอร์คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น ชาร์ลบอกว่าอีกฝ่ายกำลังค้นหาที่โรงแรมอยู่ 

เขาจึงสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและเดินออกจากห้อง

เขาไม่กล้าอยู่ในโรงแรม

เขากลัวว่าจะถูกค้นพบ

และการเดินไปบนถนนก็ยิ่งจะถูกเจอตัวได้ง่าย

แล้วเขาจะไปที่ไหนได้บ้าง?

ชาร์ลบอกว่าโลกใต้ดินทั้งหมดในไมอามี่กำลังตามหาเขาอยู่ 

เขาจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน

และวิคเตอร์ก็คิดไอเดียออกตอนนี้มันมีรถของคนอื่นจอดอยู่ข้างทางหลายคัน 

ชาร์ลจึงหยิบเหล็กเส้นเล็กๆ ออกจากกระเป๋าและก็ทำการเปิดประตูโดยการสะเดาะล็อค พร้อมกับขึ้นไปนั่งด้านหลังเพื่อที่จะพักผ่อน

ถ้าโรงแรมไม่สามารถนอนได้ก็มีแค่ในรถเท่านั้นที่ยังพอได้พัก

เขาต้องหาทางออกจากไมอามี่ในวันพรุ่งนี้

ที่นี่อันตรายเกินไป

ส่วนเรื่องการแลกเช็คนั้น เขาค่อยมาคิดทีหลังเพราะตอนนี้ยังไงชีวิตก็สำคัญกว่า

มันก็แค่นั้นแหละ

วิคเตอร์หลับในเบาะหลังของรถทั้งคืน

เขาตื่นเช้าในวันรุ่งขึ้นและไปที่ร้านเครื่องสำอางอย่างระมัดระวัง พร้อมกับซื้อของบางอย่างและเดินเข้าไปที่ห้องน้ำสาธารณะเพื่อที่จะตัดผมและทำหนวดปลอมขึ้นมา

เขาสวมหมวกและแว่นตาอีกครั้ง และคิดว่าตอนนี้คนอื่นน่าจะจำเขาไม่ได้ 

วิคเตอร์จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง

วิคเตอร์เดินเตร็ดเตร่ไปตามถนน และมีความรู้สึกเหมือนทุกคนกำลังมองเขา 

เขาได้กลายเป็นคนที่น่าสงสัยไปแล้ว… 

เขาไปที่สนามบินด้วยแท็กซี่และเตรียมซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อออกจากไมอามี่

แต่เมื่อเขามาถึงสนามบิน เขาก็พบชายสองสามคนสวมชุดสูทสีดำที่ทางเข้ากำลังจ้องมองทุกคนที่เข้ามาในสนามบินด้วยสายตาเคร่งขรึม

มีชายคนหนึ่งสวมหมวกเดินเข้าไป และคนเหล่านั้นก็เอาหมวกของชายคนที่เดินเข้ามาออกทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญเล็กน้อย 

แต่ชายชุดดำจ้องมองกลับไป มันทำให้ชายคนนี้กลัวมากเขาจึงหยิบหมวกและรีบเดินออกไป

วิคเตอร์สั่นกลัว

เขารู้ว่าชายชุดดำพวกนี้กำลังมองหาเขา 

พระเจ้า!

เขาไปทำให้ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาขุ่นเคืองใจหรือเปล่าถึงได้มีคนมากขนาดนี้!

“2.5 ดอลลาร์ครับ” คนขับรถหันไปหาวิคเตอร์ซึ่งนั่งอยู่หลังรถ

วิคเตอร์ไม่กล้าลงจากรถและเมื่อเขากลอกตา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจทันทีว่า “โอ้พระเจ้า ฉันลืมกระเป๋าเงินไว้ที่โรงแรม นายช่วยขับรถรีบพาฉันกลับที ฉันอยากได้กระเป๋าเดินทางของฉันคืน”

เมื่อคนขับได้ยินว่าต้องขี่กลับไปอีก เขาก็รีบเติมน้ำมันและขับออกไปอย่างมีความสุข

ย้อนกลับไปในตัวเมืองไมอามี่วิคเตอร์ที่ลงจากรถและคิดอยู่ว่าเขาควรจะออกไปยังไง 

เครื่องบินไปไม่ได้ 

เขาเกรงว่าจะมีแต่แก๊งอันธพาลควบคุมไว้หมดแล้ว 

เขาไม่กล้าเสี่ยงเพราะรู้ดีว่าบางครั้งอันธพาลพวกนี้ก็เก่งกว่าเอฟบีไอ 

วิคเตอร์มองไปที่ถนนและก็เห็นรถฟอร์ดซีดานที่กำลังเขียนว่าลด 70% 

ฟอร์ดเป็นรถที่ถูกที่สุดและราคาก็แค่ประมาณสองหรือสามร้อยเหรียญ 

แน่นอนมันจะสะดุดตาน้อยที่สุดถ้าขับรถชนิดนี้

เขาหยิบกุญแจผีออกมา และทำการไขอยู่ไม่กี่ครั้งก็เกิดเสียง ‘คลิก’ พร้อมกับประตูเปิดออก 

วิคเตอร์รีบขึ้นไปบนรถ และก้มไปใต้พวงมาลัยจับสายไฟต่อกันไม่กี่เส้นแล้วก็ขับรถออกไป

ด้วยความคิดของเขา 

เขาจะขับขึ้นไปบนทางด่วนข้ามทวีปเพื่อที่ไปกบดานที่จอร์เจีย

…. 

หลังจากออกจากเมืองไมอามี่ในที่สุดวิคเตอร์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

รอยยิ้มที่ผ่อนคลายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง

“มันไม่ง่ายที่จะจับฉันหรอกนะ ตอนที่ฉันอายุสิบหาปี ฉันก็ได้ออกไปผจญภัยแล้วแค่นี้ไม่สามารถหยุดฉันได้หรอก!”

เขาพูดอย่างเบาๆ เพราะยังคงเกรงกลัวกองกำลังของอีกฝ่าย 

เขาคิดว่าต้องกลับไปที่บอสตันและเก็บเช็คไว้ก่อนรอให้ผ่านไปสักหนึ่งหรือสองปี แล้วค่อยหาคนเอาไปแลก

เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไล่ล่าเขาด้วยเงินแค่ 100,000 ดอลลาร์เป็นเวลาสองปีโดยไม่ปล่อยมือ

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาวิคเตอร์ก็ขับรถไปแอตแลนต้า แถมเมื่อวานเขายังไม่ได้พักผ่อนเลย 

เขาซื้อชุดสูทและกระเป๋าหนังในเมือง หาโรงแรม อาบน้ำ และนอนหลับ

จากนั้นจึงนั่งเครื่องบินไปบอสตันในวันรุ่งขึ้น

……

ไมอามี่ตอนนี้ก็ยังคงค้นหาที่อยู่ของวิคเตอร์แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาหนีไปแล้ว

เฮนรี่ได้รับรายงานจากคนของเขาว่าพบเบาะแสบางอย่างในโรงแรม แผนกต้อนรับของโรงแรมบอกว่ามีชายคนหนึ่งที่มีภาพเหมือนกับลีโอที่เข้ามาในโรงแรมเมื่อวานนี้

เฮนรี่พาคนเข้าไปในห้องและพบว่าห้องนั้นว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่เลย 

บุคคลดังกล่าวหายตัวไปแต่ไม่ได้เช็คเอาท์ 

แสดงว่ามันต้องเป็นเขาแน่ๆ

“บ้าจริง! เขาหนีไปแล้ว”

เฮนรี่สบถอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

เขาเลยพาพี่น้องออกจากโรงแรมเพื่อค้นหาต่อไป ทว่าทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างออกและถามผู้จัดการโรงแรม “ห้องนี้โทรศัพท์ได้หรือเปล่า?”

“ได้ แต่มันจะเป็นการโอนสายจากห้องพักไปเข้าคอนโซลหลัก หากผู้เข้าพักได้ทำการโทรออกไปแล้ว มันก็น่าจะเป็นไปได้ที่จะหาว่าโทรไปที่ไหน” ผู้จัดการกล่าว

“พาผมไปดู” เฮนรี่กล่าว

หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์ก็คือผู้ที่อยู่ในโรงแรมได้โทรออกสองครั้ง คนหนึ่งมีหมายเลขท้องถิ่นในไมอามี่และอีกสายหนึ่งมีหมายเลขในบอสตันรัฐแมสซาชูเซตส์

เฮนรี่หัวเราะเยาะสองครั้ง

ด้วยหมายเลขพวกนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามหาเขา

แก๊งไมอามี่ในท้องถิ่นนำชายคนหนึ่งชื่อชาร์ลจากอังกฤษมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อชาร์ลเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของอลันและดวงตาที่เย็นชาของเฮนรี่เขาก็สั่นสะท้านทันทีด้วยความหวาดกลัว

เขาอดไม่ได้ที่จะด่าวิคเตอร์ว่าสร้างปัญหาให้ตัวเอง

“นายน่าจะรู้ใช่ไหมว่าทำไมเราถึงพาตัวนายมา?” เฮนรี่พูดอย่างเย็นชา

ชาร์ลกล่าวอย่างขมขื่น “ผมรู้…พวกคุณน่าจะมาเพราะเขา วิคเตอร์”

“ใครคือวิคเตอร์ ?” เฮนรี่ถาม

“เป็นคนที่คุณกำลังมองหาในไมอามี่ด้วยภาพเหมือน” ชาร์ลกล่าว

อลันรู้สึกรำคาญขึ้นเล็กน้อยทันที “ไอ้สารเลวแกรู้ว่าเรากำลังตามหาเขาอยู่ แล้วเมื่อวานทำไมแกไม่พูดออกมา!”

ชาร์ลส์เกือบจะคุกเข่าลง “บอสอลัน ผมบอกไม่ได้จริงๆ ผ…ผมเคยทำธุรกิจหลายอย่างกับวิคเตอร์ ผมกับเขาเป็นเพื่อนกัน และแน่นอนว่าผมต้องซ่อนเข้าไว้ และผมก็ไม่ต้องการที่จะโกหกคุณอยู่แล้ว”

“บอกมาว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับวิคเตอร์บ้าง” เฮนรี่ถาม

“เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิคเตอร์เจอฉันโดยบังเอิญ เขาได้ยินว่าฉันสามารถช่วยคนฟอกเงินและทำเงินได้ เขาเอาเช็ค 10,000 ดอลลาร์ออกมาให้ฉันแลก ตั้งแต่นั้นมาเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน เขาโทรหาผมเจ็ดหรือแปดครั้งและก็ทำแบบเดิมทุกครั้ง”

“เมื่อวานตอนบ่ายเขาโทรหาผมและบอกว่าเขาได้เช็คมาใบหนึ่ง ผมเห็นการเคลื่อนไหวในไมอามี่ ผมเลยถามเขาว่าคราวนี้ได้ไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า ผมไม่กล้าที่จะรับเช็คจากเขาในครั้งนี้ ผมจึงวางสายโทรศัพท์ไป”

เฮนรี่หัวเราะเยาะ “ถ้านายกล้ารับเช็ค ฉันนี้แหละจะเอานายไปฝังแถวปะการังในไมอามี่ด้วยตัวเอง”

ชาร์ลส่ายหน้าอย่างรุนแรง เขาเชื่อว่าคนเหล่านี้จะกล้าทำในสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างแน่นอน

เขาบอกให้ชาร์ลออกไปข้างหนึ่ง เฮนรี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อหมายเลขไปบอสตัน ผ่านไปสักพักเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง “ฮัลโหล นั้นใครเหรอ? “

“วิคเตอร์อยู่ที่บ้านหรือเปล่า?”

“อ่า วิคเตอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาออกไปทำธุรกิจบางอย่าง เขาออกไปเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วว่าแต่คุณเป็นใครหรือคะ?” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย

“ผมเป็นเพื่อนของเขา และผมต้องการพูดคุยธุรกิจเกี่ยวกับเขาสักหน่อย” เฮนรี่กล่าว

“ฉันเกรงว่ามันจะต้องใช้เวลาสองสามวัน วิคเตอร์โทรมาเมื่อวานและบอกว่าเขาจะกลับมาในอีกสองวัน “

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว”

หลังจากวางโทรศัพท์ เฮนรี่ก็ขอบคุณอลันและพาใครบางคนไปบอสตันทันทีโดยเครื่องบิน 

คราวนี้มันยากสำหรับเขาที่จะหนีแล้ว…

Leave a Comment

ไม่ดี!