อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 126 สวรรค์ของคนโกหก

ตอนที่ 126 สวรรค์ของคนโกหก

แลนสเตอร์นำบุคลากรจากบริษัทรักษาความปลอดภัยมาสอบถามมัสก์และจอห์น เพื่อจะได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และในเวลาเดียวกันก็ขอให้นักวาดภาพให้วาดภาพเหมือนลีโอ

ลีโอเป็นนักต้มตุ๋นแสดงว่าชื่อของเขาควรจะเป็นของปลอม ภาพเหมือนจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ 

แน่นอนว่าแผนกข่าวกรองของบริษัทรักษาความปลอดภัยได้จ้างนักวาดภาพมืออาชีพ ซึ่งสามารถวาดภาพบุคคลผ่านการให้ปากคำของพยานและจากการอธิบายลักษณะของฝ่ายตรงข้ามได้

แถมลีโอยังติดต่อกับผู้คนมากมาย นักวาดภาพจึงวาดออกมาได้อย่างรวดเร็ว 

หลังจากการปรับเปลี่ยนบางอย่างในที่สุดภาพบุคคลหนึ่งก็ปรากฏออกมา

“ใช่ มันเป็นเขา ภาพนี้คล้ายกับเขามาก นี่แหละคือลีโอ” มัสก์กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ภาพเสมือนนี้

คนอื่นๆ ที่บริษัทประมูลยังยืนยันว่าภาพนี้คล้ายกันกับเขามาก

มีอีกทีมกำลังตรวจสอบเช็คปลอม หลังจากตรวจสอบแล้วก็รู้ว่าเป็นเช็คจริงแต่ตัวเลขแค่ถูกเปลี่ยนไป 

ซึ่งเดิมทีเช็คนี้ควรจะเป็นเช็คจำนวน 100 ดอลลาร์ แต่ถูกเปลี่ยนเป็น 100,000 ดอลลาร์อย่างกะทันหัน

กลโกงพวกนี้ทำให้โดนหลอกได้ง่ายมาก และคุณจะไม่สามารถบอกได้ถ้าคุณไม่ได้มองอย่างระมัดระวัง

และอย่างน้อยมันก็ง่ายที่จะหลอกคนอย่างมัสก์

“คนคนนี้อยู่ที่ลอสแองเจลิสมาสี่เดือนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นเลย ลองหาข้อมูลคนที่ติดต่อกับเขาสิ เพื่อดูว่าเรามีเบาะแสอะไรบ้าง” แลนสเตอร์กล่าว

ฮาร์ดี้พยักหน้าและพูดว่า “ให้นักวาดภาพบุคคลวาดภาพอีกสักสองสามภาพ และนำภาพเหล่านั้นไปให้กับแก๊งของบิลเพื่อที่พวกเขาจะได้หาคนที่จะตรวจสอบภาพเหล่านั้นได้”

“ฉันจะโทรหาอลันเพนน์จากแก๊งยิวและขอให้พวกเขาหาชายคนนี้ ดังนั้นส่งภาพไปให้พวกเขาด้วย”

“ตรวจสอบอาคารผู้โดยสาร และสนามบินเพื่อดูว่าบุคคลนี้ได้ออกจากลอสแอนเจลิสจริงหรือไม่”

“เอาล่ะ! ฉันจะหาคนที่จะทำมัน” แลนสเตอร์ตอบ

คนจากแก๊งยิว แก๊งบิล ถือรูปเลโอและเริ่มเดินไปรอบๆ โรงแรม บาร์ ไนท์คลับ ห้างสรรพสินค้า และสถานที่อื่นๆ 

โดยถามคนแถวนั้นว่าเคยเห็นบุคคลนี้หรือไม่ และในขณะเดียวกันก็ถามพวกโจรและนักต้มตุ๋นในท้องที่ด้วยพร้อมกับที่ฝ่ายข่าวกรองได้ตรวจสอบข้อมูลสนามบินและตรวจสอบว่าลีโอออกไปแล้วจริงหรือไม่

เมื่อถึงเวลาบ่าย ข่าวก็มาจากทุกฝ่าย แลนเสตอร์รายงานว่า “บอส มีคนเห็นชายคนนี้จริงๆ เขาได้เข้าพักในโรงแรมสองสามแห่งเช่น ซีตี้การ์เดนและเขายังได้ติดต่อกับบริษัทประมูลและบริษัทศิลปะอื่นๆ อีกหลายแห่งด้วย ซึ่งฉันคิดว่าการที่เขาเข้าหาบริษัทประมูลอย่างต่อเนื่องครั้งนี้ก็เพื่อเขาจะได้เป้าหมายที่ดีที่สุด”

“ลีโอบอกกับคุณฮันว่าเขาจะออกจากลอสแองเจลิสเพื่อไปที่อื่น ในความเป็นจริงมีใครบางคนได้เห็นเขาในลอสแอนเจลิสในช่วงเวลานั้น มันจึงแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ออกไปไหนเพียงแต่รอโอกาส”

“ส่วนข้อมูลที่ได้รับจากแก๊ง พวกเขาได้ไปหาแก๊งต้มตุ๋นแก๊งหนึ่ง พวกนั้นบอกว่าไม่เคยเห็นลีโอคนนี้มาก่อน แสดงว่าลีโอน่าจะมาจากข้างนอก ตอนนี้ผมได้ส่งคนออกไปตรวจสอบและก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในลอสแอนเจลิสแล้ว”

ตอนที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เฮนรี่กลับมา

“บอส พนักงานที่สนามบินได้ตรวจสอบชายที่ชื่อลีโอแล้วว่าเขาได้ขึ้นเครื่องไปไมอามี่ โดยออกไปหลังจากที่เขาได้รับเช็คนานกว่า 20 นาที”

“ในเวลานั้น ลีโอ มัสก์ จอห์นกำลังรอเครื่องบินอยู่ที่นิวยอร์กและก็โดนโกงเช็คพอดี และเป็นตอนที่เขาขอไปห้องน้ำพร้อมกับออกไปขึ้นเครื่องไปไมอามี่ และเขายังซื้อตั๋วไปไมอามี่ไว้ก่อน มันแสดงว่าคนคนนี้วางแผนไว้ล่วงหน้านานแล้ว”

ไปไมอามี่?

ลอสแองเจลิสเป็นดินแดนของฮาร์ดี้และอีกฝ่ายจะมีปัญหาถ้าไม่ออกจากลอสแอนเจลิส

ฮันเยจินและอิริน่าต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง

นักต้มตุ๋นคนนี้หนีไปไกลแล้ว แถมยังไปถึงเมืองอื่นอีกแสดงว่าพวกเธอจะไม่ได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน

ฮาร์ดี้หรี่ตาครู่หนึ่ง

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง

โทรศัพท์ดังหลายครั้งและก็มีคนรับสาย

“ใช่บ้านของคอร์เลโอเนหรือเปล่าครับ? ผมกำลังมองหาคุณคอร์เลโอเน ผมฮาร์ดี้” ฮาร์ดี้กล่าว

“สวัสดีฮาร์ดี้ นี่ทอมรับสาย”

เสียงของทอมนักวางกลยุทธ์ของตระกูลคอร์เลโอเนออกมาจากทางโทรศัพท์

“สวัสดีทอม ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะต้องคุยกับคุณคอร์เลโอเน”

“ได้ ฉันจะเรียกพ่อบุญธรรมของฉันให้”

หลังจากเงียบไปสองวินาที เสียงแหบพร่าของเจ้าพ่อมาเฟียก็ดังมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง “ฮาร์ดี้ มีอะไรหรือเปล่า?”

“คุณคอร์เลโอเน่มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ลอสแองเจลิส ผมเลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ”

“หือ?”

“ผมเป็นเจ้าของบริษัทประมูลและมีคนมาขายภาพวาดเมื่อไม่กี่วันก่อน…” ฮาร์ดี้บอกกับเจ้าพ่อมาเฟียถึงขั้นตอนทั้งหมดของการถูกหลอกและในที่สุดก็พูดว่า “คนคนนั้นไปไมอามี่ด้วยเครื่องบิน ผมคิดว่าเขาน่าจะเพิ่งลงจากเครื่องบิน ผมเลยต้องการส่งคนไปตามหาเขา ผมสังสัยว่าคุณคอร์เลโอเนพอจะคุ้นเคยกับกองกำลังท้องถิ่นในไมอามี่หรือเปล่าและช่วยพูดกับพวกเขาให้ผมหน่อยได้ไหม?”

“ไมอามี่เป็นดินแดนของตระกูลลูเซร์ซ ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแอนเดอร์โน ลูเซร์ซ ฉันจะโทรหาเขาและคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้โดยตรง” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

“ขอบคุณครับคุณคอร์เลโอเน” ฮาร์ดี้ขอบคุณ

“มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องขอบคุณหรอก” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเขาวางสาย ฮาร์ดี้ก็บอกกับเฮนรี่ว่า “เฮนรี่ นายพาคนไป 30 คน เช่าเครื่องบินไปไมอามี่ด้วยความเร็วสูงสุด และติดต่อคนในครอบครัวลูเซร์ซ และขอให้พวกเขาช่วยตามหาผู้ชายที่ชื่อลีโอ”

ฮาร์ดี้พูดและส่งภาพไปให้เฮนรี่

“ตกลงบอส ผมจะพาคนไปเอง” เฮนรี่ออกไปพร้อมกับภาพ

มีเพียงฮาร์ดี้ ฮันเยจิน และอิริน่าที่ถูกทิ้งไว้ในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไปของบริษัทประมูล 

ฮันเยจินมองไปที่ ฮาร์ดี้และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “แม้ว่าเงิน 100,000 จะถูกกู้คืนอย่างรวดเร็ว แต่มันจะต้องใช้คนและเงินจำนวนมากอีก”

ฮาร์ดี้ยิ้ม “ฉันไม่สนเรื่องเงินแสนหรอก ฉันแค่ถูกโกงเงินและรู้สึกไม่ชอบใจกับมัน ก็แค่อยากจะสั่งสอนเขาว่าไม่ควรจะมายั่วยุทอมฮาร์ดี้คนนี้”

ฮาร์ดี้เอื้อมมือไปลูบหน้าฮันเยจิน “ไม่ต้องรู้สึกเศร้าไปหรอกมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แล้วตอนนี้เธอหิวหรือเปล่า? ฉันจะพาเธอไปกินอะไรหน่อย”

เมื่อฮาร์ดี้สัมผัสใบหน้าของเธออีกครั้ง ฮันเยจินก็ดูเขินอายเล็กน้อยแต่ไม่ได้ต่อต้าน

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปล้างหน้า แล้วแต่งหน้าก่อนนะ” ฮันเยจินกระซิบ

เธอได้ร้องไห้ไปเมื่อกี้ และเมคอัพต่างๆ บนใบหน้าของเธอก็หลุดหมดแล้ว 

ฮาร์ดี้ยิ้ม “ได้สิ”

อิริน่าออกไปกับฮันเยจิน 

ทั้งสองคนเข้าห้องน้ำเพื่อแต่งหน้า อิริน่ามองไปที่ฮันเยจินและเดินเข้าไปหาเธอและกระซิบว่า “เยจินเธอรู้สึกว่าคุณฮาร์ดี้หล่อขึ้นหรือเปล่า!”

“ทำไมเหรอ?” ฮันเยจินถามขณะเช็ดหน้าของเธอ

สีหน้าของอิริน่าเต็มไปด้วยความชื่นชม “พวกเราถูกโกงเงินไปหนึ่งแสนดอลลาร์ แต่เขาดูไม่สนใจเลยสักนิด เขาคอยปลอบใจเธออยู่ข้างๆ แถมหลังจากโทรศัพท์ไม่กี่ครั้งทั้งลอสแอนเจลิสก็ออกล่าตัวคนหลอกเราเลยทันที และยังเจอข้อมูลเกี่ยวกับเขาในไม่กี่ชั่วโมง ถึงแม้ว่าเขาจะหนีไปที่ไมอามี่แต่คุณฮาร์ดี้ยังโทรหาคนที่ช่วยเขาและตามรอยได้ ฉันรู้สึกเลยว่าคุณฮาร์ดี้น่าจะมีความสามารถมาก”

“ฉันชอบผู้ชายแบบนี้จัง”

ฮันเยจินเหลือบมองอิริน่า “ถ้าเธอชอบ เธอก็ไปสารภาพรักสิ”

อิริน่าถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “น่าเสียดายนะ ที่เขาชอบเธอมากกว่า”

ฮันเยจินชะงักจากนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “เธอพูดออกมาได้ยังไงว่าเขาชอบฉัน? อย่าพูดจาไร้สาระสิ!”

อิริน่าหัวเราะ “อย่าบอกว่าเธอไม่รู้สึกอะไรนะ เมื่อเธอร้องไห้ก็มีคุณฮาร์ดี้เช็ดน้ำตาให้แถมยังกอดเธออีก เธอเห็นท่าทางอ่อนโยนของเขาไหม? นั้นแหละมันหมายความว่าเขาชอบเธอ”

“น…นั่นก็แค่การปลอบใจฉัน!” ฮันเยจินพูดตะกุกตะกัก

“เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ~ ~ ” อิริน่ากลอกตา

……

วิคเตอร์เดินออกจากสนามบินไมอามี่โดยไม่มีกระเป๋าเดินทางใดๆ อยู่กับตัว และเขาก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีแสงแดดเจิดจ้า พร้อมกับเอาแว่นตากันแดดออกมาจากกระเป๋าและใส่มันบนหน้า

เขาชอบไมอามี่

ในเดือนมกราคมไมอามี่จะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 23.4 องศาและต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 14.5 องศา 

มันรู้สึกดีมากและสาวๆ ที่นี่ก็กระตือรือร้นมากด้วย 

แน่นอนว่าตราบใดที่คุณมีเงินคุณก็สามารถหาสาวๆ ได้ที่นี่หลายคน

เมื่อเขามาถึงเมืองและพบโรงแรมที่จะเข้าพัก วิคเตอร์ก็เอาเช็คออกจากกระเป๋าของเขาเป็นครั้งแรก

“หนึ่งแสนดอลลาร์ ฮ่าๆ ธุรกิจครั้งนี้มันสุดยอดจริงๆ” เขาพูดและจูบบนเช็ค

เขาคือลีโอที่โกงเงินฮันเยจินเป็นจำนวนเงิน 100,000 ดอลลาร์ 

ชื่อจริงของเขาคือวิคเตอร์ 

เขาเป็นคนโกหกว่าเป็นคนฝรั่งเศส 

เขาเคยถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 5 ปีในข้อหาหนึ่ง

หลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง คุกได้ปล่อยนักโทษทั้งหมดและปล่อยให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพเพื่อต่อสู้ 

วิคเตอร์ใส่เครื่องแบบทหารเพียงสองหรือสามวันและตำแหน่งที่พวกเขาจัดขึ้นก็ถูกระเบิดทิ้งโดยเยอรมัน ทำให้กองทัพฝรั่งเศสแตกพ่ายทั้งหมด 

เขาจะไม่สู้เลยถ้าเขาอยู่ในสนามรบ เพราะยังไงเขาก็เป็นเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้งวิคเตอร์จึงหาโอกาสหนีจากกองทัพและวิ่งไปถึงสหรัฐอเมริกาก่อนจะแอบซ่อนตัว

เมื่อเขามาถึงสหรัฐอเมริกาเขาก็เริ่มที่จะกลับไปทำธุรกิจเก่าของเขา 

เขานั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับการเงินและศิลปะวิธีการพูด การเข้าหาผู้หญิง วิธีขับรถ แน่นอนเขาจึงเก่งในเรื่องการหลอกลวงผู้อื่นและยังสำเร็จทุกครั้งอีกด้วย

ในมุมมองของวิคเตอร์สหรัฐอเมริกาเป็นสวรรค์ของคนหลอกลวง มันมีเหรียญทองอยู่ทุกหนทุกแห่งบนพื้นและเขาสามารถหยิบได้หนึ่งกำมือตราบใดที่เขาก้มลง

วิคเตอร์ขอให้โรงแรมเอาอาหารกลางวันและผลไม้มาให้ 

หลังจากรับประทานอาหารเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบนเตียงและโทรออกไป

“หือ ใครเหรอ?” มีเสียงผู้หญิงออกมาจากโทรศัพท์

“ฉันเอง ทริช” วิคเตอร์ยิ้ม

“วิคเตอร์! ฉันคิดถึงคุณมากเมื่อไหร่คุณจะกลับมา?” ผู้หญิงคนนั้นถามทางโทรศัพท์

“ฉันจะกลับไปเร็วๆ นี้ ตอนนี้ฉันทำงานได้ดีเลยได้เงินมาเยอะมาก และจะกลับไปอยู่กับเธอได้นานเลยล่ะ แล้วตอนนี้ลูกของเราเป็นยังไงบ้าง?” วิคเตอร์ถาม

หญิงสาวแตะท้องนูนของเธอ ยิ้มและพูดว่า “เธอสุขภาพดีมาก เธอชอบที่จะเตะฉันเมื่อเธอไม่มีอะไรทำ เธอจะต้องเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ซุกซนแน่ๆ”

“เธอแน่ใจได้อย่างไรว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ?”

“เพราะฉันชอบเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ยังไงล่ะ” ผู้หญิงคนนี้กล่าว

หลังจากวางสายวิคเตอร์ก็อารมณ์ดีมากจากที่เขาใช้เวลาหลายปีในสหรัฐอเมริกา เขาก็ได้พบกับเด็กสาวที่ชื่อทริชในโรงเหล้า

ทริชเป็นผู้หญิงที่เรียบง่ายและสวยงาม 

เธอมีอายุเพียง 19 ปีในปีนี้ส่วนวิคเตอร์นั้นอายุเกือบสี่สิบปีและมีอายุมากกว่าทริชถึงสองเท่า 

เขาเป็นทหารผ่านศึกในด้านความรักแต่ถูกเธอจับไว้โดยการพบกับเธอในไม่กี่ครั้ง 

วิคเตอร์เป็นคนอารมณ์ร้อนและก็ได้ตกหลุมรักเธอเข้าทันที

หลังจากนั้นไม่นานทริชก็พบว่าเธอตั้งครรภ์ วิคเตอร์ก็ตื่นเต้นมากที่ได้ยินข่าวนี้ 

เขาอายุเกือบสี่สิบปีแล้วแน่นอนว่าต้องการมีลูกและครอบครัว

ทำให้ในตอนนี้ ทริชได้กลายเป็นผู้หญิงของวิคเตอร์และตอนนี้มันก็ผ่านไปมากกว่า 7 เดือนแล้ว 

ซึ่งเด็กน้อยของเขาจะเกิดในอีก 2 เดือนข้างหน้า

วิคเตอร์ออกมาทำแบบนี้ก็เพื่อหาเงินรอเลี้ยงลูกของเขา 

เพราะยังไงการเลี้ยงลูกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ซึ่งบ้านของวิคเตอร์อยู่ในบอสตันแมสซาชูเซตส์ 

มันเป็นอพาร์ทเมนท์สองชั้นติดทะเลและวิคเตอร์ชอบสภาพแวดล้อมที่นี่ 

เพื่อความปลอดภัยเขาจึงเลือกที่จะอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออก และวิ่งไปทำการโจรกรรมที่ลอสแองเจลิสที่เป็นชายฝั่งตะวันตกในครั้งนี้

หลังจากวางแผนไม่กี่เดือนในที่สุดเขาก็ออกปฏิบัติการและได้เงินมาหนึ่งแสนดอลลาร์ 

แน่นอนว่ามันเพียงพอแล้วที่เขาจะอยู่กับทริชและลูกๆ ไปอีกหลายปี

Leave a Comment

ไม่ดี!