ตอนที่ 121 พบเจอเอสเต ลอเดอร์
เปรี้ยง!
ฝนที่ตกลงมาบดบังท้องฟ้าเต็มไปหมด
โทรศัพท์ที่คาสิโนดังขึ้นซีเกลจึงไปรับสายและก็เป็นที่ลอสแอนเจลิสโทรมา
เนื่องจากฝนตกหนักเครื่องบินที่เขาจ้างทั้งหมดตอนนี้ไม่สามารถขึ้นบินได้
ซีเกลรู้สึกหงุดหงิดมากที่บุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญไม่สามารถมาได้ และผู้เข้าพักหลายร้อยคนก็ถูกปิดกั้นบนถนนด้วยฝนที่ตกหนัก
แต่ตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว เพราะมีแขกสามถึงสี่ร้อยคนที่นี่ดังนั้นสิ่งต่างๆ จะต้องดำเนินต่อไป
หกโมงเย็นคาสิโนก็เปิดอย่างเป็นทางการ
เดิมทีมีการแสดงดอกไม้ไฟด้วย แต่เพราะฝนตกหนักจึงต้องยกเลิกและให้ทุกคนมาชมพิธีเปิดในคาสิโนแทน
ไม่มีฉากน่าตื่นเต้นเลยสักนิด ซีเกลแค่เชิญเมเยอร์และคนใหญ่โตที่รู้จักกันดีมาร่วมตัดริบบิ้นเท่านั้น
ภายใต้สภาวะที่เร่งรีบเช่นนี้คาสิโนได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
แขกนั่งลงบนโต๊ะเกมและเริ่มเล่นทำให้ห้องคาสิโนค่อยๆ มีชีวิตชีวา
ซึ่งทำให้ซีเกลโล่งใจเล็กน้อย
เมื่อถึงเวลา 4 ทุ่มในคาสิโนสายฟ้าขนาดใหญ่ก็กะพริบอยู่ด้านนอก และคาสิโนก็มืดลงพร้อมกับเสียงฟ้าร้องอย่างรุนแรง!
เปรี้ยง!
ไฟดับ
“กรีดด!”
ผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องในห้องโถงคาสิโน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พนักงานรีบหยิบไฟฉายขึ้นมา มันมีแสงริบหรี่อยู่ในห้องโถงสักพัก และผู้คนก็ดูใจร้อนเล็กน้อยในขณะนี้
ซีเกลเป็นกังวลและตะโกนบอกพวกเขา “ส่งคนไปตรวจสอบสิ ถ้ามีอะไรผิดพลาดให้รีบมาบอกฉัน!”
พนักงานวิ่งออกไปตรวจสอบท่ามกลางสายฝนและพบว่ามีปัญหากับหม้อแปลงไฟฟ้า ซีเกลจึงรีบให้พวกเขาออกไปซ่อมและในเวลาเดียวกันก็ให้พนักงานจุดเทียนในคาสิโน
แต่มันไม่มีทางที่จะเล่นเกมกับเทียนได้อยู่แล้ว ใครบางคนออกจากคาสิโนอย่างใจร้อนและกลับไปที่ห้องพักของโรงแรม และตอนนี้มันก็เป็นฤดูหนาวอุณหภูมิจึงเหลือประมาณสี่หรือห้าองศา
แถมยังมีฝนตกหนักมาซ้ำเติมอีก
หลังจากซ่อมแซมนานกว่าสามชั่วโมง ในที่สุดไฟฟ้าก็กลับมาใช้งานได้แต่ผู้คนในห้องโถงก็หายไปหมดแล้ว
การเปิดทำการวันแรกก็จบลงอย่างล้มเหลว…
ห้องรับรอง
ซีเกลกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวเขาคิดว่าวันนี้ทุกอย่างไม่ค่อยดีนัก และมันแย่มากจริงๆ
มีฝนตกหนักที่หาได้ยากในหลายสิบปี
คนใหญ่คนโตที่เชิญไปก็ไม่มา
แขกที่เหลืออยู่จึงมีแค่ครึ่งเดียว
ไม่สามารถจัดงานรื่นเริงได้และงานแสดงพลุก็ถูกยกเลิก
หลังจากรีบตัดริบบิ้นเสร็จ ผ่านไปสักพักก็เกิดไฟฟ้าดับระหว่างการเปิดให้บริการและในที่สุดแขกทุกคนก็หายไป
ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว
ผู้หญิงของซีเกล เวอร์จิเนียเดินไปหาชายคนนั้นและลูบไหล่ของเขาด้วยมือของเธอ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”
ซีเกิลถอนหายใจออกมาเบาๆ และพูดอย่างหนักแน่น “ใช่! พรุ่งนี้มันจะดีกว่าเดิม ถ้าอากาศดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ผู้เข้าพักจะมาที่ประตูทีละคน และธุรกิจจะดีขึ้น! ทุกอย่างๆ จะต้องเป็นไปตามแผน”
เขาคือใคร?
เขาคือเบนจามิน ซีเกล ราชาใต้ดินแห่งชายฝั่งตะวันตก
ความยากลำบากแค่นี้จะรั้งเขาไว้ได้อย่างไร
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันคริสต์มาส แขกรับเชิญตื่นขึ้นและเตรียมพร้อมกับงานรื่นเริงที่เมื่อวานไม่มีความสุข
อากาศในลาสเวกัสวันนี้ค่อนข้างดีมีท้องฟ้าโปร่งและเมฆสีขาว
ตอนเที่ยงแขกมาทีละคน คาสิโนจึงกลับมาคึกคักอีกครั้งและฮาร์ดี้ก็พาเอวาไปเล่นสักพัก
ฮาร์ดี้มีความสนใจในการพนันค่อนข้างน้อย
เขาได้อ่านรายงานของนักวิชาการบางคนพวกเขาบอกว่าผู้คนจะหลั่งสารโดพามีนจำนวนมากเมื่อได้เล่นการพนัน
ซึ่งสารนี้จะทำให้ผู้คนรู้สึกมีความสุข และจะกลายเป็นเครียดอีกครั้งหลังจากเลิกเล่นพนัน และก็กลับมามีความสุขอีกครั้งเมื่อเริ่มเล่น
การพนันแบบนี้เรียกว่าการเสพติด
แต่ตอนที่ฮาร์ดี้เล่นเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย เพราะมันมีความสุขน้อยกว่าการทำธุรกิจหรืออยู่กับผู้หญิงเสียอีก…
//ไหนบอกไม่ใช่เพราะผู้หญิง??????
แต่เวลานี้
คาสิโนได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกครั้ง
ผู้คนค่อยๆ รู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องโถงเริ่มเย็นขึ้นมาก
ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่คาสิโนพบว่าเครื่องปรับอากาศส่วนกลางของคาสิโนเสีย
ซึ่งตอนนี้อากาศก็หนาวขึ้น อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 10 องศาและอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1 องศา
หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ ล็อบบี้จะหนาวมากและนักพนันจะรู้สึกอึดอัด
เมื่อซีเกลได้รับรายงาน เขาเริ่มโมโหเล็กน้อย “ไอ้พวกบ้า พวกแกไม่ได้แก้จุดบกพร่องทั้งหมดมาก่อนเหรอ? ทำไมมันมีปัญหาขึ้นอีก! ไปหาคนมาซ่อมเดี๋ยวนี้”
หลังจากสิบกว่าชั่วโมงของการซ่อมแซมฉุกเฉิน เครื่องปรับอากาศในคาสิโนได้รับการซ่อมแซม แต่นักพนันทั้งหลายได้ออกไปแล้วและหลายคนก็รู้สึกผิดหวังมากในการเดินทางมาลาสเวกัสในคริสต์มาสนี้
มันไม่ใช่ความเพลิดเพลินมันเป็นเพียงความทุกข์ทรมาน
คนอย่างเมเยอร์และวอร์เนอร์ บราเธอร์สที่มาเข้าร่วมไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา และจากไปในวันรุ่งขึ้น
วันที่สาม
มีนักพนันเพียงร้อยคนในคาสิโนทั้งหมด และไม่มีเจ้าหน้าที่บริการแม้แต่น้อย
ทำให้คาสิโนขนาดใหญ่ดูเหมือนว่างเปล่า
ซึ่งโรงแรมได้รับการออกแบบโดยซีเกล มันจึงมีห้องพักมากกว่า 300 ห้องและคาสิโนสามารถรับนักพนันได้มากกว่า 1,000 คนในทุกวัน
แต่ตอนนี้ไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ยังมีการบันเทิงเพียงรายการเดียวคือการพนันและไม่มีรายการบันเทิงอื่นๆ เลย มันจึงมีแค่คนที่หมกมุ่นกับการพนันที่อยู่ที่นี่และคนอื่นๆ ได้ออกไปหลังจากเล่นแล้วหนึ่งหรือสองวัน
มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาลูกค้าไว้ถ้าไม่มีสิ่งบันเทิงเหล่านั้น
ฮาร์ดี้เห็นปัญหาของคาสิโนเขาจึงเข้าพบซีเกล
“คุณซีเกล ผมว่าลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ดีกว่า ผมเชื่อว่ามันจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้บ้าง” ฮาร์ดี้กล่าว
“มันได้รับการโฆษณาแล้ว และมันก็แค่ดึงดูดนักพนันจำนวนน้อยมาได้เท่านั้น ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่นี่ยังไม่สมบูรณ์แบบ ฟลามิงโก้จึงไม่ต่างจากคาสิโนอื่นๆ มันจึงเป็นธรรมดาที่ไม่มีคนอยู่เลย”
หงุดหงิด!.
แนวคิดดั้งเดิมของเขาคือการเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดผู้เข้าพักจำนวนมากให้มีนักพนันเข้ามากขึ้น แต่ตอนนี้ไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจเหล่านั้นเลย
มีแค่การพึ่งพาแต่นักพนัน
มันเลยไม่แตกต่างจากคาสิโนอื่นๆ ที่ไม่สามารถดึงดูดคนจริงๆ เท่านั้น
ส่วนนักพนัน
คนที่บ้าพนันตัวจริงนั้นมีจำกัด
เมื่อวานเขาได้ให้พนักงานคำนวณบัญชี และก็พบว่าไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ทำเงินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
แต่พวกเขายังสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากอีก เพราะถึงแม้จะมีมีลูกค้ามากกว่า 100 รายทุกวัน
คาสิโนก็จะยังคงสูญเสียเงินอยู่ดี
แน่นอนว่าการเปิดคาสิโนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
พนักงานบริการของคาสิโน พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานขายและพนักงานฝ่ายบริหารทั้งหมดรวมกันมากกว่าหนึ่งร้อยคน
มันจึงไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ
ฮาร์ดี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของฟลามิงโก้ในตอนนี้
เพราะจนถึงวันนี้อาจกล่าวได้ว่าซีเกลนั้นดื้อรั้นเกินไปหรือบางทีอาจเกิดจากการกดขี่ข่มเหงจากครอบครัวอื่นๆ และยังมีโชคที่ไม่ดีอีก
พระเจ้าไม่ปล่อยให้เขามีความสุขและให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
แล้วเขาจะทำเงินได้อย่างไรล่ะ?
“คุณซีเกล ผมยังมีหลายสิ่งหลายอย่างในลอสแอนเจลิสที่ต้องทำ ผมจะต้องกลับไปวันนี้” ฮาร์ดี้ก็ต้องบอกลาเขาเช่นกัน
ซีเกลพยักหน้า
“ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่คิดหาทางออกที่นี่ก่อน เพราะไม่ว่ายังไงหลังจากดำเนินการไประยะหนึ่งก็จะต้องปิดลงและทอมมี่กับพรรคพวกจะยอมแพ้ และเมื่อสถานที่แห่งนี่ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์ตามแผนของฉัน ฉันก็ยังเชื่อว่ามันจะดึงดูดผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมากอย่างแน่นอน” ซีเกลยังคงยืนกรานในความคิดของเขาเอง
…
ขบวนรถกลับไปลอสแอนเจลิสและส่งเอวากลับบ้าน ฮาร์ดี้บอกกับเธอว่า “ฉันจะต้องไปนิวยอร์ค และฉันจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน”
“เข้าใจแล้ว”
เอวารู้ดีว่าเขานั้นมีหลายอาชีพและมีธุรกิจมากมายในนิวยอร์ก
ฮาร์ดี้ได้สั่งซื้อตั๋วก่อนหน้านี้และใช้เครื่องบินตรงไปยังนิวยอร์กและลงจอดที่สนามบินนิวยอร์กในสิบชั่วโมงต่อมา
…
เมื่อเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ถ่ายทำเสร็จในวันนี้
เธอก็กลับมาที่ห้องและพบกล่องขนาดใหญ่สองสามกล่องอยู่บนเตียง
เธอเปิดกล่องและพบตุ๊กตาที่ดูละเอียดอ่อนอยู่ข้างใน
พวกมันใส่เสื้อผ้าสวยมาก
เทย์เลอร์เห็นแค่แวบเดียวเธอก็คิดออกว่านี่คือตุ๊กตาบาร์บี้ที่โฆษณาโดยคุณฮาร์ดี้และความคิดแรกของเธอคือคุณฮาร์ดี้ต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ
เธอจึงวางตุ๊กตาลงและวิ่งหาเขา
แต่กลับไม่มีใครอยู่ในห้อง
เธอวิ่งออกจากห้องของเธอไปหาผู้ช่วยและถามเขา
แต่ผู้ช่วยกลับยิ้มและบอกเธอว่าคุณฮาร์ดี้ไม่ได้มาที่นี่แค่ส่งของมาให้เฉยๆ
เทย์เลอร์กลับไปที่ห้องและเห็นการ์ดอยู่ข้างใน
มันเขียนว่า ‘เขาไม่สามารถมาได้เพราะต้องไปร่วมงานเปิดตัว’
เทย์เลอร์จึงรู้สึกผิดหวังหนักมาก
เธอขึ้นไปนอนบนเตียง
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบตุ๊กตาบาร์บี้แต่เธอก็อยากเจอคุณฮาร์ดี้มากกว่า และตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคุณฮาร์ดี้มาไม่ได้เทย์เลอร์จึงรู้สึกเศร้ามาก
เมื่อวานเธอได้รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ของเธอบอกว่าพวกเขาไม่สามารถมาใช้เวลาคริสต์มาสกับเธอได้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจขนาดนี้
และบางครั้งเมื่อเธอว่างๆ
เธอจะอ่านนิตยสารเกี่ยวกับการแสดงออกเช่นรีดเดอร์สไดเจสต์ซึ่งมันเขียนไว้ว่าสถานการณ์ของเธอตอนนี้คือกำลังมีความรัก
หรือว่าฉันกำลังตกหลุมรักคุณฮาร์ดี้?
สองวันถัดมา
การถ่ายทำได้เริ่มขึ้นและเทย์เลอร์ก็มักจะเสียสมาธิเล็กน้อย
ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็เป็นฉากที่มาทิลด้ากำลังสูญเสียทุกอย่างพอดี
อารมณ์ของเทย์เลอร์ตอนนี้จึงเหมาะมาก
บางครั้งการถ่ายทำก็สามารถผ่านได้ในครั้งเดียว
ซึ่งทำให้ฮิตค็อกและผู้กำกับเคิร์กพอใจมากและก็ชมเชยเทย์เลอร์ว่าเธอเข้าใจอารมณ์ของบทตัวละครได้มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเธอแสดงได้เป็นธรรมชาติมากจริงๆ
มันมีแค่เทย์เลอร์เท่านั้นที่รู้ว่าเธอคิดถึงคุณฮาร์ดี้จริงๆ
วันคริสต์มาสอีฟมาถึงแล้ว
ทีมถ่ายทำฉลองกันอย่างเรียบง่าย
คริสมาสต์ในครั้งนี้ทีมถ่ายทำได้หยุดงานหนึ่งวัน แต่เทย์เลอร์ไม่อยากออกไปไหนเลย
เธอมีบาร์บี้ไม่กี่ตัวที่กลายเป็นเพื่อนเล่นของเธอ
หลังคริสต์มาสผ่านไปทีมถ่ายทำก็เริ่มต้นอีกครั้งซึ่งเทย์เลอร์ก็ถ่ายทำได้ดีอีกเช่นเคย
สองวันต่อมาเมื่อเทย์เลอร์ถ่ายฉากจบ เธอก็เดินกลับไปที่พักและก็เห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่
ที่ตอนนี้ฮาร์ดี้กำลังคุยกับฮิตค็อกอยู่ว่าสี่ในห้าฉากของภาพยนตร์ได้รับการถ่ายทำเรียบร้อยแล้ว
มันจะเสร็จสิ้นในอีกประมาณยี่สิบวัน
ในเวลานั้นเขาจะกลับไปลอสแอนเจลิสเพื่อทำการตัดต่อส่งมอบต่อไป
ซึ่งความคืบหน้าของทีมถ่ายทำก็ช้ากว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย
แต่ดูเหมือนว่าผู้กำกับรายใหญ่เหล่านี้จะไม่มีปัญหาอะไร
“อ๊า คุณฮาร์ดี้!” เทย์เลอร์ตะโกนอย่างมีความสุขและวิ่งไปหาฮาร์ดี้
พร้อมกับโยนตัวเองลงในอ้อมแขนของเขา
เทย์เลอร์พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของฮาร์ดี้อย่างแรง
ฮาร์ดี้หยิบเด็กสาวขึ้นมาและส่ายหัวพร้อมกับมองไปที่ฮิตช์ค็อกและพูดว่า “คุณผู้กำกับ คุณจะให้เทย์เลอร์หยุดพักอีกหนึ่งวันได้ไหม? ฉันสัญญากับเธอไว้ว่าวันคริสต์มาสจะมาหาแต่มันก็ล่าช้าเพราะบางสิ่งบางอย่าง”
ฮิตค็อกยักไหล่ “ไม่มีปัญหา เพราะยังไงคุณก็ต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียของการถ่ายทำอยู่แล้ว”
ไม่มีอะไรปัญหาอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว
ฮาร์ดี้จึงพาเทย์เลอร์ออกไป ซึ่งวันนี้ก็คงไม่มีอะไรมากแค่พาเธอไปเดินเล่นสวนสนุก กินข้าวและช็อปปี้ง
ในความเป็นจริงเทย์เลอร์มีความสุขมากตราบเท่าที่เธอได้อยู่กับฮาร์ดี้
ทั้งสองคนมาที่ห้างสรรพสินค้าฟิฟธ์อเวนิวที่ยังมีกลิ่นอายของเทศกาลหลงเหลืออยู่ หลังจากที่มีการเฉลิมฉลองคริสมาสต์ไม่กี่วันก่อน
ห้างสรรพสินค้ามีสินค้าที่ตระการตาแทบไม่ต่างจากยุคปัจจุบันมากนัก
ฮาร์ดี้และทั้งสองจึงมาที่เคาน์เตอร์บาร์บี้ และก็พบว่าพ่อแม่หลายคนพาลูกๆของพวกเขาไปเลือกตุ๊กตาเหล่านี้อยู่
ต้องบอกว่า
ตุ๊กตาบาร์บี้มีเสน่ห์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เพราะพวกเธอยากที่จะต้านทานต่อตุ๊กตาบาร์บี้ได้
แล้วคนส่วนใหญ่ที่เดินในห้างสรรพสินค้าฟิฟธ์อเวนิวก็เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย
ดังนั้นตุ๊กตาบาร์บี้ที่นี่จึงขายได้ดีมาก
ซึ่งเด็กหลายคนก็ได้กอดกล่องตุ๊กตาและเครื่องประดับชิ้นโปรดไว้
“คุณฮาร์ดี้ หนูรู้ว่าเจ้าหญิงเอวาคือคุณเอวาแต่เจ้าหญิงจีนคือใครเหรอคะ?” เทย์เลอร์สงสัยเกี่ยวกับคำถามนี้มานานแล้ว และในที่สุดก็ถามฮาร์ดี้เมื่อเธอเห็นมันในวันนี้
ฮาร์ดี้ยิ้ม “เธอเป็นเพื่อนของฉันเอง และยังเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทประมูลของฉันด้วย”
“เธอจะต้องสวยมากแน่ๆ” เทย์เลอร์ถามและมองไปที่ตุ๊กตาเจ้าหญิงจีน
“ฮ่าๆ เธอเกือบจะเหมือนตุ๊กตาเลยล่ะ” ฮาร์ดี้ไม่ได้ซ่อนอะไร
เทย์เลอร์เหลือบมองเจ้าหญิงเอวาและเจ้าหญิงจีนอีกครั้ง
เธอคิดว่าสองคนนี้ต้องเป็นคู่แข่งของเธอในอนาคตแน่ๆ
//ใช่แล้วลูก
ทั้งสองออกจากร้านตุ๊กตาบาร์บี้และไปที่บริเวณเครื่องสำอาง
เพราะถึงแม้ว่าเทย์เลอร์จะยังเด็กแต่เธอก็มีงานอดิเรกของผู้หญิงอยู่แล้ว
เธอจึงเดินเข้าไปในพื้นที่เครื่องสำอางทันที
ผู้หญิงในวัยสามสิบและพนักงานสองสามคนกำลังขายสินค้าให้กับลูกค้า เมื่อพวกเธอเห็นเทย์เลอร์เดินเข้ามาผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มและทักทายเธอ
“สวัสดีสาวน้อย! เธอสวยมากเลย เธอสนใจที่จะลองใช้ผลิตภัณฑ์เอสเตลอเดอร์ของเราไหม? ฉันจะช่วยเธอแต่งหน้าด้วยนะ” ผู้หญิงคนนั้นถามเทย์เลอร์ด้วยรอยยิ้ม
“ตกลงค่ะ!” เทย์เลอร์ตอบตกลง
หญิงสาวนั่งบนเก้าอี้และช่วยแต่งหน้าให้กับเทย์เลอร์ ขณะที่แนะนำผลิตภัณฑ์ของตนเองไปด้วย เช่นคลีนซิ่งออยล์ ครีม โลชั่น และเอสเซ้นส์ที่ให้ความชุ่มชื้นแบบเต็มขั้น
แถมผู้หญิงคนนี้ยังบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นผลวิจัยของเธอ
ซึ่งเธอก็เป็นนักเคมีและผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณด้วย
ฮาร์ดี้ที่นั่งข้างๆ และได้ยินอะไรบางอย่างที่คุ้นเคย เขาจึงมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและก็คิดว่าเธออาจจะเป็นเอสเต ลอเดอร์แน่ๆ
เขาเคยเห็นข้อมูลการเปิดตัวของบริษัทเอสเตลอเดอร์มาก่อน
ดูเหมือนว่าเอสเตลอเดอร์ก่อตั้งขึ้นในปี 1946
เธอกับสามีของเธอได้สร้างแบรด์ที่ชื่อว่าบริษัทเอสเตลอเดอร์ที่ตั้งชื่อตามเธอ และใช้ทุน 50,000 ดอลลาร์ในการโปรโมทเครื่องสำอาง
หลายทศวรรษต่อมาเอสเตลอเดอร์ได้เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกด้วยมูลค่าตลาดกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
แล้วถ้าเอสเตลอเดอร์เพิ่งเริ่มต้น ตอนนี้เขาควรจะชิ่งซื้อก่อนดีไหม?