ตอนที่ 120 ฟรามิงโก้เปิดทำการ!
ขบวนรถกำลังขับบนทางด่วนไปที่ลาสเวกัสโดยมีริชาร์ดนั่งอยู่ในฐานะคนขับ ส่วนฮาร์ดี้และเอวานั่งอยู่ด้านหลัง
พร้อมกับที่รถของบริษัทรักความปลอดภัย 4 คันตามมาติดๆ
วันนี้เป็นวันที่ 23 ธันวาคม
คาสิโนฟลามิงโก้จะเปิดในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสอีฟพอดี และความคิดของซีเกลคือใช้วันคริสต์มาสอีฟนี้ในการจัดงานเลี้ยงครั้งใหญ่เพื่อฉลองการเปิดคาสิโน
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฮาร์ดี้และซีเกล ฮาร์ดี้จึงตัดสินใจที่จะมาถึงลาสเวกัสก่อนหนึ่งวันงาน
ขบวนรถของพวกเขาขับไปที่ลาสเวกัสและไปที่โรงแรมของฟลามิงโก้ ซึ่งจากระยะไกลเขาเห็นป้ายไฟนีออนที่ติดอยู่กับอาคารสิบชั้นกำลังเครื่องไหว
ขบวนรถขับเข้าไปที่ลาดจอดรถ และก็มีพนักงานเดินมาต้อนรับทันที
“คุณซีเกลอยู่ที่ไหน?” ฮาร์ดี้ถาม
“คุณซีเกลอยู่ที่ล็อบบี้กำลังรับแขกอยู่ครับ” พนักงานตอบ
เขาจึงให้คนอื่นรอที่นี่และฮาร์ดี้ก็พาเอวากับริชาร์ดไปที่ล็อบบี้ที่ดูกว้างขวางและหรูหราอย่างมาก
มันจึงไม่แปลกใจเลยที่ซีเกลจะใช้เงินมากขนาดนั้น
เวลานี้ยังมีคนอยู่ในห้องโถงค่อนข้างน้อย และฮาร์ดี้มีความทรงจำที่ดีมาก
เขาเหลือบไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยไม่กี่คน
คนจากห้าครอบครัวใหญ่ที่เขาพบในบ้านของเจ้าพ่อมาเฟียที่ลงทุนในคาสิโนฟลามิงโก้ และเป็นผู้ถือหุ้นได้มาที่นี่แล้ว
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมาเร็ว
ในหมู่พวกเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งอายุยี่สิบกว่าๆ นั่งอยู่ที่นั้นด้วย
ชายหนุ่มเหลือบมองฮาร์ดี้ แล้วหันไปจ้องเอวามองดูใบหน้าของหญิงสาวอย่างไร้ยางอาย
เมื่อซีเกลเห็นฮาร์ดี้เขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม และเดินเข้ามากอดฮาร์ดี้จากนั้นก็มองไปที่เอวา
“คุณเอวา คุณสวยมากจริงๆ โดยเฉพาะการร้องเพลงของคุณที่ใช้เสียงได้ดีมาก และผมก็ชอบเพลง scarborug fair ของคุณมากด้วย! ว่าแต่เมื่อไหร่ที่คุณจะออกเพลงใหม่เหรอ?”
“บริษัทกำลังทำให้อัลบั้มให้ฉันอยู่แล้ว และฉันก็จะได้สัมภาษณ์ในเร็วๆ นี้” เอวายิ้ม
“มันจะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ และคุณซีเกลต้องรอฟังมันด้วยล่ะ”
เมื่อพูดคุยกับทั้งสองแล้ว ซีเกลก็มองไปที่หัวหน้าครอบครัวเหล่านี้และพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮาร์ดี้ให้ฉันแนะนำพวกเขาดีกว่า นี่คือโคโลบหัวหน้าครอบครัวสตาแลคส่วนอีกคนคือทอมมี่ เกกลิอาโนรองหัวหน้าของตระกูลบาซินี่”
แล้วเขาก็ชี้ไปที่ชายหนุ่มคนนั้นว่า “นี่คือบรูโนบุตรชายของฟีลิปที่เป็นหัวหน้าครอบครัวตาร์ตาลยา”
จากนั้นซีเกลมองไปที่คนเหล่านี้ “พวกนายไม่อยากรู้หรือว่าใครเป็นผู้ถือหุ้นอีกคน? ฉันจะแนะนำเขาเขาอย่างเป็นทางการ นี่คือทอม ฮาร์ดี้ ซึ่งตอนนี้ฮาร์ดี้เป็นเจ้าของหุ้นอีก 18% ของคาสิโนฟลามิงโก้”
สายตาของคนหลายคนที่มองไปที่ฮาร์ดี้ได้เปลี่ยนไป
เพราะฮาร์ดี้คนนี้ดูเหมือนจะอายุแค่ 20 กว่าๆ เท่านั้น
ซึ่งพวกเขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะรวยขนาดนี้
เพราะแต่ละคนจ่ายไปทั้งหมด 800,000 ดอลลาร์ยังได้แค่ 13% ของหุ้น
แล้วเด็กคนนี้จะต้องจ่ายออกไปเท่าไหร่กัน?
แถมยังกล้าที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจการพนัน เขาไม่รู้หรือว่านี่คือเขตอิทธิพลของแก๊ง
ทอมมี่ เกกลิอาโนรองหัวหน้าของตระกูลบาซินี่เหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้และถามว่า “ฮาร์ดี้ บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้เป็นของคุณหรือเปล่า?”
ฮาร์ดีมองชายวัยกลางคนและตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ ผมเป็นคนก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยเอชดีขึ้นมาเอง”
เอชดีซีเคียวริตี้นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้มันมีคนมากกว่าพันคนและธุรกิจของบริษัทก็แผ่กระจายไปยังซานฟรานซิสโกแล้ว
ทำให้มันเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกไปโดยปริยาย
เขาจึงมีสิทธิที่จะมีปืน
ซึ่งอีกฝ่ายที่เป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัย เขาย่อมไม่กลัวพวกอันธพาลอยู่แล้ว
ทำให้ตอนนี้หลายคนจึงไม่กล้าที่จะดูถูกฮาร์ดี้อีก
บรูโน่มองไปที่ฮาร์ดี้อย่างไม่ชอบใจเล็กน้อย และก็ถามเขาว่า “ฮาร์ดี้ นายยังเป็นเจ้าของธุรกิจภาพยนตร์ของบริษัทเอชดีฟิล์มอีกใช่ไหม?”
ฮาร์ดี้มองไปที่บรูโน่ชายหนุ่มที่ดูค่อนข้างเจ้าชู้และตอนนี้ดวงตาของเขาก็ดูก้าวร้าวเล็กน้อย
“ใช่ เอชดีพิคเจอร์เป็นของฉันเอง”
บรูโน่หัวเราะเยาะ “ฮ่าๆ คนของเอ็มจีเอ็มกำลังถ่ายหนังอยู่ในนิวยอร์คตอนนี้ และยังทำร้ายคนของฉันอีก! แถมครอบครัวคอร์เลโอเนก็ถามหาฉันด้วย ฉันรู้มาตลอดว่าเมเยอร์ที่เป็นหัวหน้าเอ็มจีเอ็มไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น และก็มารู้ทีหลังว่าบริษัทที่ร่วมมือกับเขาเป็นบริษัทภาพยนตร์เอชดีพิคเจอร์ และเจ้าของบริษัทยังร่วมมือไมค์ คอร์เลโอเน ในการทำธุรกิจร่วมมือกันเปิดโรงงานโทรทัศน์ขึ้นมา มันควรจะเป็นนายใช่ไหมที่เข้าไปพบครอบครัวคอร์เลโอเน่?”
แค่การโทรศัพท์ครั้งเดียวก็ทำให้เขาไม่สามารถแบล็คเมล์ต่อไปได้ และยังต้องสูญเสียเงินไปหลายหมื่นดอลลาร์
บรูโน่จึงรู้สึกไม่พอใจฮาร์ดี้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะตอนที่เขาพาผู้หญิงสวยๆ อย่างเอวามาด้วย
ซึ่งหนังเรื่องนักฆ่าเพชรตัดเพชรเพิ่งจบลง เอวาจึงได้กลายเป็นดาราฮอลลีวูดตัวยงด้วยเพลงของเธอด้วย
และหลังจากที่เขามองไปที่เอวาและฮาร์ดี้แล้ว เอวาต้องเป็นผู้หญิงของฮาร์ดี้แน่ๆ
นอกจากนี้ฮาร์ดี้ยังเป็นชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จมากกว่าตัวเขา และผู้หญิงคนนั้นก็สวยกว่าคนของเขาอีก
บรูโน่จึงไม่พอใจฮาร์ดี้มากขึ้นกว่าเดิม
ฮาร์ดี้มองไปที่บรูโน่อย่างจริงจังและพูดเบาๆ ว่า “แสดงว่านายก็เป็นเจ้าของบริษัทภาพยนตร์นั้น และคุณวีโต้ก็เป็นคนที่ช่วยเหลือฉันสินะ ต้องขอบคุณนายจริงๆ ที่ยื่นมาช่วยเหลือขนาดนี้”
บรูโน่ได้ยินคำประชดประชันในคำพูดของฮาร์ดี้ เขาก็ยิ่งเกลียดฮาร์ดี้มากขึ้นไปอีก
ผู้อาวุโสของครอบครัวคนอื่นๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ ของบรูโน่
ทอมมี่ เกกลิอาโนรองหัวหน้าของครอบครัวบาซินี่หันมาสบตาของฮาร์ดี้และยิ้มให้
“ฮาร์ดี้ ฉันได้ยินมาว่าโรงงานทีวีกำลังขยายตัวด้วยการลงทุนหลายสิบล้าน และวางแผนที่จะกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่จะผลิตโทรทัศน์ออกมาได้ถึง 400,000 ชุดต่อปีใช่ไหม? ฉันเลยสงสัยว่าเราจะร่วมมือกันได้ไหม ถ้าทำได้ฉันก็หวังว่าจะได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทโทรทัศน์บ้าง”
จุดประสงค์หลักของแก๊งค์คือการหาเงิน และเป้าหมายนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ซึ่งแก๊งเหล่านี้จะติดต่อไปยังทุกพื้นที่ที่มันสามารถทำเงินได้
…
มันเป็นครั้งแรกที่ซีเกลรู้ข่าวว่าฮาร์ดี้และไมค์ลงทุนหลายสิบล้านเพื่อสร้างโรงงานด้วยกัน
ซึ่งมันทำให้เขาประหลาดใจเพราะในตอนเริ่มต้นเขาก็มองชายหนุ่มคนนี้ในแง่ดี แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะพัฒนาได้เร็วขนาดนี้และสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ในเวลาอันสั้น
“แค่กู้จากธนาคารก็พอแล้ว เรายังไม่อยากรับการลงทุนในขณะนี้ แน่นอนเมื่อโทรทัศน์ถูกผลิตออกมาคุณทอมมี่แค่ซื้อมันก็พอ แค่นั้นก็ถือว่าสนับสนุนธุรกิจของเราแล้ว” ฮาร์ดี้ยิ้ม
ใบหน้าของทอมมี่ดูหมองคล้ำ
การถูกปฏิเสธอย่างเป็นทางการทำให้เขารู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย
ฮาร์ดี้มองไปที่ทอมมี่ด้วยรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขา
แก๊งพวกนี้ต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจของเขา?
ถ้าเขาเป็นคนจากข้างนอกฮาร์ดี้ก็อาจจะเอาไปลองคิดดู
แต่เขาดันเป็นคนของแก๊ง
แถมคู่หูของฮาร์ดี้ก็คือไมค์ที่มาจากครอบครัวคอร์เลโอเน่อยู่แล้ว
ดังนั้นเขาจะฉี่ใส่พวกตัวเองได้ยังไง?
บนโลกสีขาวเล่าจื๊อเป็นผู้บริสุทธิ์…และเมื่อพูดถึงสีดำเล่าจื๊อจะเลวยิ่งกว่าคุณ
ฮาร์ดี้ไม่สนใจที่จะพูดคุยกับมาเฟียเหล่านี้อีก เขากล่าวทักทายซีเกลและพาเอวาไปเดินรอบๆ พร้อมกับบอกเธอว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่และต้องการเข้าใจสิ่งที่เขาลงทุนไปด้วยตัวเอง
คาสิโนที่นี่ได้รับการจัดเรียงอย่างสวยงามมันมีหลายร้อยเครื่องสล็อตจึงเป็นที่น่าตื่นตาอย่างมาก
แถมโต๊ะพนันก็มีให้เลือกหลายแบบ
ซึ่งตอนนี้พนักงานยังทำความสะอาดอยู่เพื่อพร้อมต้อนรับผู้เข้าพักในวันพรุ่งนี้
เลานจ์บาร์และห้องอาหารก็พร้อมแล้วเช่นกันพวกเขาสามารถรับคนได้แล้ว
ทั้งสองคนจึงไปที่ที่โรงแรมต่อ และก็ได้การตกแต่งของโรงแรมที่หรูหราอย่างมากมาก
ซึ่งมันเป็นมาตรฐานของโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน
แต่นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเหล่านี้
โครงการบันเทิงอื่นๆ ทั้งหมดที่ซีเกลเคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ยังไม่สมบูรณ์
กล่าวอีกนัยหนึ่งผู้คนที่มาจะสามารถเล่นแค่การพนันได้เท่านั้น
ฮาร์ดี้ได้แต่ถอนหายใจเพราะยังไงมันก็เร่งรีบเกินไป
ครอบครัวนักเลงพวกนั้นมองการณ์ไกลไม่เป็นจริงๆ
หากพวกเขายินดีที่จะสนับสนุนซีเกลให้นานกว่านี้
ซีเกลจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
วันต่อมา
ท้องฟ้าในลาสเวกัสดูมืดหม่นไปหน่อย
อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ประมาณ 5-6 องศา
ซีเกลมองท้องฟ้าด้วยความเป็นห่วงและพูดกับเวอร์จิเนียว่า “ฉันจัดเครื่องบินไปรับคนจากลอสแอนเจลิสแล้ว และก็หวังว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นปัญหามากนัก”
ตอนเที่ยง
ผู้เข้าพักมาทีละคนและส่วนใหญ่มาโดยรถยนต์ เพราะอย่างไรมันก็อยู่ห่างจากลอสแอนเจลิสแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
คนเหล่านี้ได้รวมนักกฎหมาย นักบัญชีและคนดังมากมาย
ซึ่งฮาร์ดี้ก็รู้จักพวกเขาหลายคน และหัวหน้าของเอ็มจีเอ็มเมเยอร์ หัวหน้าวอร์เนอร์ก็มาด้วย
ฮาร์ดี้จึงไปทักทายพวกเขาและพูดคุยกันนิดหน่อย
ตอนนี้ตัวตนของฮาร์ดี้เทียบได้กับเมเยอร์และวอร์เนอร์แล้ว ถึงเอชดีพิคเจอร์จะไม่ดีเท่าบริษัทภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั้งแปดแห่งแต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของฮาร์ดี้ก็ไม่แพ้พวกเขา
ฮาร์ดี้และเมเยอร์ยืนอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับแก้วไวน์และก็พูดคุยกันเกี่ยวกับภาพยนตร์
“ผู้กำกับของภาพยนตร์ ฉันคิดว่าจะให้จอร์จฟอร์ทเชอมากำกับ เพราะ 4 ปีก่อนภาพยนตร์เรื่อง ‘House of Loyalty’ ที่เขากำกับได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยอดเยี่ยม แถมสไตล์ภาพยนตร์เราน่าจะเหมาะกับเขามาก”
“ผู้กำกับ singing in the rain ฉันตั้งใจจะให้สแตนลีย์โดแนน เขาเคยกำกับภาพยนตร์มิวสิคัลมาก่อนและมีประสบการณ์ด้านละครเพลงอยู่ด้วย ฉันเลยอยากถามนายว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับสองคนนี้ไหม?” เมเยอร์ถาม
ฮาร์ดี้งุนงงเล็กน้อย
สแตนลีย์โดแนนถ้าเขาจำไม่ผิดดูเหมือนว่า singing in the Rain จากอีกโลกหนึ่งก็ถูกถ่ายทำโดยผู้กำกับโดแนนเหมือนกัน
“ผมไม่มีข้อโต้แย้งอะไร ผมเชื่อมั่นในฝีมือของเอ็มจีเอ็มอยู่แล้ว” ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม
เมเยอร์ยิ้มและพูดว่า “ฉันได้ซื้อเพลย์บอยมาอ่านแล้ว ฮาร์ดี้ฉันต้องบอกเลยว่าคุณมีวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ นิตยสารเล่มนี้จะต้องติดใจผู้คนอย่างแน่นอน มันเป็นธุรกิจที่จะทำเงินได้เยอะแน่ๆ”
“มันก็เป็นแค่ธุรกิจขนาดเล็ก” ฮาร์ดี้ยิ้ม
“ธุรกิจขนาดเล็ก? ฮ่าๆ ตอนนี้ราคาหุ้นของเพลย์บอยได้เพิ่มขึ้นเป็น 6 ดอลลาร์แล้ว แถมนายยังเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดในบริษัทนิตยสาร ถ้าให้ฉันเดามันคงจะทำเงินได้มากกว่า 5 ล้านเหรียญเลย”
เมเยอร์เต็มไปด้วยความอิจฉาตอนที่เขาพูด
เพราะเอ็มจีเอ็มของเขาใหญ่มากจนเขาไม่สามารถทำเงินได้มากในหนึ่งปีแม้จะทำงานอย่างหนัก
จากนั้นทั้งสองพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’
ซึ่งบ็อกซ์ออฟฟิศของ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ ได้รับการยืนยันแล้วว่าอยู่ที่ 7.86 ล้าน มันจึงได้รับการล็อคผลไว้ว่าในปีนี้มันจะเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้กว่าจะแบ่งกันเสร็จก็ช่วงกลางปีหน้าและยังเป็นแค่ก้อนแรกเท่านั้น
เขาจึงกลัวว่ามันจะใช้เวลาหนึ่งหรือสองปีที่จะได้รับเงินทั้งหมด
นอกจากนี้ฮาร์ดี้ยังมีรายได้อีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘การปล้นธนาคารลอสแอนเจลิส’
บ็อกซ์ออฟฟิศของสารคดีเรื่องนี้มียอดขายเกิน 2 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว
“คุณเมเยอร์ แล้วผลรางวัลของออสการ์ปีนี้เป็นยังไงบ้าง?” ฮาร์ดี้ถาม
เมเยอร์ยิ้ม “มีภาพยนตร์ดีๆ มากมายในปีนี้ แต่ฉันคิดว่านักฆ่าเพชรตัดเพชรมีข้อได้เปรียบบางอย่างในการแข่งขันครั้งนี้คือนักแสดงที่ดีที่สุด นักเขียนบทที่ดีที่สุดและเพลงที่ดีที่สุดสำหรับรางวัลลูกโลกทองคำ”
“แล้วออสการ์ล่ะ?” ฮาร์ดี้ถาม
“นายไม่เคยได้ยินเหรอ รางวัลลูกโลกทองคำก็คือสิ่งยืนยันแล้วว่าจะได้ออสการ์”
…
ในตอนบ่าย
แขกสามหรือสี่ร้อยคนได้มาถึงแล้ว และส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มีภูมิฐานดี
ซึ่งนี่และคือความคาดหวังของซีเกลที่จะต้องทำให้มันยิ่งใหญ่
และเขายังคงรอเที่ยวบินที่ซีเกลจ้างไว้สองสามลำเป็นพิเศษที่ให้นำแขกมาส่งอยู่
ในหมู่พวกเขาจะมีคนใหญ่ๆ ที่เขาเชิญมาด้วยคือผู้บังคับใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
คนเหล่านี้แหละคือแขกรับเชิญที่แท้จริงของเขา
ต้องบอกว่า
คนรู้จักของซีเกลนั้นกว้างขวางมากและเขาก็รู้จักคนใหญ่คนโตมากมาย
แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ปรานีเขา
ตอนบ่ายสามหรือสี่โมงมีฝนตกหนักอย่างกะทันหันในลาสเวกัส
ต้องบอกว่าลาสเวกัสเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยมากและฝนตกหนักแบบนี้ก็มีน้อยมากกว่าอีก
แต่วันนี้วันที่นกฟลามิงโก้ได้ออกบินกลับมีฝนตกหนักซึ่งหาได้ยากในรอบหลายสิบปี
เมฆมืดเต็มท้องฟ้าและมีฟ้าผ่าเป็นครั้งคราว
ใบหน้าของซีเกลดูน่าเกลียดอย่างยิ่งเมื่อยืนอยู่ที่หน้าต่าง