อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 119 คริสต์มาสที่ซับซ้อน

ตอนที่ 119 คริสต์มาสที่ซับซ้อน

‘เพลย์บอย’ ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบของคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุอีกด้วย ยังไงความงามก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนที่มีอายุมากกว่า 14 ปีอยากจะครอบครองอยู่แล้ว

ไม่ว่าคุณจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม

ในขณะที่นิตยสารกำลังขายดีก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฮาร์ดี้มีความสุขมาก

แอนดี้มารายงานให้เขาทราบว่าเนื่องจากนิตยสารมียอดขายมหาศาลจึงทำให้ราคาหุ้นของ ‘เพลย์บอย’ เริ่มพุ่งสูงขึ้นจาก 1.5 ดอลลาร์เป็น 5 ดอลลาร์และยังมีแนวโน้มขาขึ้นไม่หยุด

มันเป็นเพราะนิตยสารฉบับแรกขายได้ถึง 50,000 เล่ม 

ข่าวนี้ไม่อาจห้ามใจผู้คนได้ หลังจากทราบข่าวนี้หลายคนก็เข้าสู่ตลาดหุ้นและซื้อหุ้นเพลย์บอยทันที

เหตุผลง่ายๆ

คุณจะรู้โดยการคำนวณ

เพลย์บอยเป็นนิตยสารรายเดือนที่มีเพียงฉบับเดียวทุกเดือน ดังนั้นถ้าคุณขายได้ครั้งละ 100,000 ชุด… 

แสดงว่ายอดขายมันจะอยู่ที่ 3 แสนดอลลาร์ 

ซึ่งกำไรประจำปีมันจะมากกว่าหลายล้านดอลลาร์

เห็นไหมว่าได้กำไรหลายล้านต่อปี

มันเป็นตัวเลขที่ทำให้บริษัทนับไม่ถ้วนอิจฉา 

ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ยังไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลยด้วยซ้ำ

… 

โรงงานโทรทัศน์ของฮาร์ดี้และไมค์เคยใช้เงินมากกว่าสองล้านดอลลาร์ในการลงทุนตอนนี้มันมีการส่งออกทีวีมากถึง 40,000 ชุดต่อปี เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำไรเพียงแค่ 1.08 ล้าน 

มันไม่ดีเท่าบริษัทนิตยสารเลยด้วยซ้ำ

จากตรงนี้คุณสามารถรู้ได้เลยว่าหุ้นเพลย์บอยในอนาคตจะมีมูลค่ามากกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นราคาหุ้นจึงเริ่มทะยานขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเวลานี้

และฮาร์ดี้ก็เป็นเจ้าของ 75% ของหุ้นที่ซื้อขายไม่ได้ของนิตยสาร และมี 24% ของหุ้นที่สามารถซื้อขายได้อยู่ในมือ 

ซึ่งถ้าคิดรวมๆ แล้วเขาจะมีเกิน 90% เสียอีก

แถมราคาหุ้นในตอนที่เขาเข้าซื้อคือ 0.04 ดอลลาร์

ตอนนี้มันได้มีการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นถึง 125 ครั้ง

ผู้คนก็ยังรู้สึกว่านี่ไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของเพลย์บอย เพราะฉบับแรกยังขายได้ตั้ง 100,000 เล่ม 

แสดงว่ายอดขายของมันจะยังคงเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน 

คิดดูสิถ้าขายได้ 1 เล่มกำไรสุทธิของมันอาจจะไปถึง 10 ล้านดอลลาร์ได้ง่ายๆ

โอ้พระเจ้า

กำไรสุทธิต่อปีหลายสิบล้าน แน่นอนว่ามันเป็นความมั่งคั่งที่จะทำให้หลายคนกลายเป็นบ้านับไม่ถ้วน

ในขณะที่เพลย์บอยขายดีมันก็ยังได้รับความสนใจจากสังคมอีกด้วย 

มันเป็นนิตยสารฉบับแรกที่ทำแบบนี้ 

มันจึงมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักอนุรักษ์นิยมบางคน

มีหลายบทความที่วิพากษ์วิจารณ์ ‘เพลย์บอย’ ในหนังสือพิมพ์ 

บางคนบอกว่านิตยสารฉบับนี้โชว์เนื้อหนังเยอะเกินไป มันจึงควรถูกแบนเป็นสิ่งพิมพ์ที่ลามกอนาจาร

นอกจากนี้ยังมีบทความที่กล่าวว่านิตยสารเพลย์บอยเต็มไปด้วยการดูถูกผู้หญิงและเป็นเรื่องผิดศีลธรรมอย่างยิ่งที่จะลดคุณค่าของผู้หญิงลงไปในฐานะของเล่น

หลังจากที่เฮฟเนอร์เห็นรายงานเหล่านี้ เขาก็เข้าพบฮาร์ดี้อย่างรวดเร็วพร้อมกับหนังสือพิมพ์ในมือ 

ทั้งสองคุยกันในห้องทำงานเป็นเวลาสองชั่วโมงและเฮฟเนอร์ก็ออกจากห้องทำงานของฮาร์ดี้อย่างมั่นใจ

วันต่อมา

นิวยอร์กไทม์สตีพิมพ์บทความของเฮฟเนอร์บรรณาธิการของนิตยสารเพลย์บอยว่า

‘เพลย์บอยไม่ใช่สิ่งพิมพ์ลามก อย่างแรกเลยไม่มีรูปโป๊อยู่ในนิตยสารและทุกอย่างก็ยังอยู่ในขอบเขตของกฎหมายอเมริกัน ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้คือศิลปะ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นผลงานของปรมาจารย์ภาพวาดสีน้ำมันที่วาดภาพโป๊เปลือยจะถือว่าเป็นงานลามกอนาจารหรือไม่? และมันก็ไม่มีการดูถูกผู้หญิงเลยด้วยซ้ำแค่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของผู้หญิงเท่านั้นเอง’ 

‘ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันคือการแสวงหาอิสระและจิตวิญญาณที่พร้อมก่อกบฐของพวกเธอ’

ส่วนเหตุผลที่ไฮดี้รามาถูกเลือกขึ้นปกฉบับแรกก็เพราะไฮดี้รานั้นมาเป็นตัวแทนของ ‘ความงามของผู้หญิงที่ต้องการแสวงหาอิสระและจิตวิญญาณที่พร้อมกบฐ’

มันจึงไม่มีใครสงสัยในความงามของเธอ ส่วนในการแสวงหาอิสรภาพ 

เธอได้กำจัดแอกแห่งการแต่งงานโดยการหนีจากสามีของเธอไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยความยากลำบาก 

เธอฉลาดมากและได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาการอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง

เธอจึงได้รับการยกย่องจากสถาบันวิทยาศาสตร์ว่า ‘ไฮดี้รามาสมกับเป็นผู้หญิงแห่งยุคใหม่อย่างแท้จริง’ 

เธอเป็นตัวแทนที่มีจิตวิญญาณของการต่อต้าน 

มันจึงไม่ใช่เธอเหรอที่ได้รับการประชาสัมพันธ์?

ความเซ็กซี่นั้นไม่ใช่ความผิด มันคือการแสวงหาความงาม 

ส่วนบทความของเพลย์บอยทั้งหมดนั้นก็เกี่ยวกับศิลปะ ปรัชญาและดนตรี 

เห็นไหมว่ามันไม่มีส่วนไหนที่หยาบคายเลยสักนิด

ซึ่ง ‘เพลย์บอย’ จะสะท้อนความต้องการและความปรารถนาของผู้คนออกมา

การแสวงหาเสรีภาพเป็นส่วนหนึ่งในของประเทศนี้ 

ภาพถ่ายที่สวยงามเหล่านี้ก็เป็นศิลปะและสิ่งที่สง่างาม 

ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นภาพลามกอนาจารก็คิดซะว่ามันเป็นความสกปรกในใจคุณดีกว่า

ทันทีที่บทความนี้ออกมามันก็ดึงดูดนักอนุรักษ์นิยมทั้งหลายให้มาโจมตีบริษัทนิตยสารทันที

คนเหล่านี้ได้ตีพิมพ์บทความในหนังสือพิมพ์และวิพากษ์วิจารณ์ว่าสิ่งนี้คือการล่วงละเมิดหรือไม่? 

เฮฟเนอร์ยิ้มเมื่อเห็นบทความเหล่านี้ 

ตอนแรกเมื่อเขาเห็นคำวิจารณ์เขาก็กังวลเล็กน้อย 

แต่หลังจากได้รับคำแนะนำจากเจ้านายแล้ว เขาก็ไม่กังวลเกี่ยวกับคนเหล่านี้อีกต่อไป

ถ้าคุณด่าฉัน ฉันก็จะประกาศออกไปเพื่อแสดงจุดยืนของฉัน

มาปฏิบัติตามกฏหมายกันเถอะ

เพราะที่นี่คืออเมริกาที่ใครจะพูดอะไรก็ได้

เราสนับสนุนการบรรลุสิทธิมนุษยชนสำหรับสตรีที่จะได้สูงขึ้น

เราสนับสนุนการปลดปล่อยจิตใจ

ถ้าคุณมีมุมมองเหล่านี้อยู่ในประเทศนี้ ยังไงก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณหรอก

แค่ทำอะไรก็ได้ที่ถูกต้องและไม่สร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่นๆ ก็พอ

เพราะผู้มีปัญญาจะกลัวการต่อสู้กับคนอื่นน้อยที่สุด พวกเขาจะติดตามคุณไปจนจบการทะเลาะวิวาท

แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับนิตยสารเพลย์บอย 

ยังไงความคิดเห็นของพวกเขาก็เป็นเหมือนโฆษณา มันทำให้คนรู้จักนิตยสาร ‘เพลย์บอย’ มากขึ้น

คุณบอกว่าสิ่งนี้ลามกอนาจาร? 

เสนอให้แบนสิ่งนี้

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลองดู…

ซึ่งในการโต้เถียงที่ร้อนแรงครั้งนี้ มันได้สร้างผลดีให้กับยอดขายนิตยสารเพลย์บอยให้เพิ่มขึ้นแทนที่มันจะลดลง 

50,000 เล่มถูกขายหมดอีกครั้ง และผู้ขายหนังสือหลายคนก็ขอให้พิมพ์เพิ่ม 

ฮาร์ดี้จึงให้เฮฟเนอร์พิมพ์เพิ่ม 50,000 เล่มทันที

และสิ่งที่ตามมาหลังจากยอดขายพุ่งขนาดนี้ หุ้นของเพลย์บอยในตอนนี้ก็ได้เพิ่มอีกครั้ง 

ซึ่งตอนนี้มันมีราคาที่ 6 ดอลลาร์ต่อหุ้นแล้ว

เห็นไหม? 

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฮาร์ดี้ก็ทำเงินได้มากมายอยู่ดี

เวลาได้ล่วงเลยไปจนวันที่ 11 ธันวาคม 

ข่าวดีก็มาจากโรงงานของเล่นว่ามีการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ขึ้นมาได้ถึง 30,000 ชุดพร้อมจำหน่ายแล้ว

และผู้ดูแลโรงงานของเล่นก็เอาของเล่นหลายชุดมาวางไว้ตรงหน้าฮาร์ดี้

“หัวหน้า ตุ๊กตาเจ้าหญิงบาร์บี้จะเป็นกล่องแยกออกมาต่างหาก และของที่อยู่ข้างในกล่องจะมีเสื้อผ้า 2 ชุด รองเท้า 2 ชุด ถุงมือ 2 ชุด หมวก 2 ชุด กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง 1 ชุด ส่วนราคาของมันจะอยู่ที่ 15.8 ดอลลาร์”

“นอกจากนี้ยังมีชุดเสริมสำหรับเจ้าหญิงทั้งสาม ที่ต่อชุดราคาจะอยู่ที่ 38.5 ดอลลาร์”

“ยังมีชุดเครื่องประดับแยกออกมาอีก 12 ชนิด โดยมันจะมี เสื้อผ้า หมวก รองเท้า วิกผม ผ้าโพกหัว กระเป๋าเป้ กระเป๋าเครื่องสำอาง ซึ่งแต่ละชนิดจะราคาอยู่ที่ 5.8 ดอลลาร์”

ฮาร์ดี้หยิบกล่องขึ้นมาดู 

เขาก็เห็นเอวาที่อยู่ในชุดราตรีสุดเซ็กซี่ เทย์เลอร์สวมชุดเจ้าหญิงที่นุ่มนวลและน่ารัก ตัวสุดท้ายเจ้าหญิงจีนที่สวมชุดกี่เพ้าสีขาว

เสื้อผ้าและเครื่องประดับเหล่านี้ก็สวยงามมาก

เสื้อผ้าทุกประเภทผลิตอย่างประณีตไม่ต่างกับเสื้อผ้าจริงเลยสักนิดเพียงแต่เสื้อผ้าเหล่านี้เอาไว้สวมใส่กับตุ๊กตาบาร์บี้เท่านั้นเอง

“ต้นทุนและกำไรที่จะได้คือเท่าไหร่?” ฮาร์ดี้ถาม

“ต้นทุนสำหรับกล่องเดียวจะอยู่ประมาณ 3.5 ดอลลาร์ และเราได้ตั้งราคาขายไว้ที่ 15.8 ดอลลาร์ ส่วนกล่องขนาดใหญ่ที่รวมตุ๊กตาไว้สามตัวจะมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 10 ดอลลาร์เราได้ขายในราคา 38.5 ดอลลาร์ ต้นทุนของกล่องประดับเสริมคือ 1.2 ดอลลาร์ต่อชุดเราจึงขายมันที่ 5.8 ดอลลาร์ต่อชุด “

“ถ้าเราคำนวณ เราจะได้กำไรประมาณสามถึงสี่เท่า”

ฮาร์ดี้พอใจกับผลกำไรมาก เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “คริสต์มาสกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ดังนั้นเราต้องเริ่มเปิดตัวในวันพรุ่งนี้และมุ่งมั่นทำยอดขายให้ได้ก่อนคริสต์มาสผ่านไป”

หลังจากที่ฮาร์ดี้สั่งผลิตทีมขายก็ได้ออกไปติดต่อห้างสรรพสินค้าในเมืองใหญ่ๆ และเคาน์เตอร์เพื่อขายตุ๊กตาบาร์บี้เหล่านี้ไว้แล้ว 

เพราะตุ๊กตาบาร์บี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยมันจึงไม่สามารถวางไว้ในร้านขายของชำขนาดเล็กได้

ซึ่งสินค้าฟุ่มเฟือยจะต้องมีลักษณะเหมือนสินค้าฟุ่มเฟือย มันจะต้องวางขายในห้างใหญ่ๆ 

และยังต้องเป็นห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในเมืองใหญ่ด้วย

“หัวหน้าเราได้เคยติดต่อไปยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ มาก่อนแล้ว ซึ่งเราสามารถขายสินค้าได้ทันทีแต่เราจะขายได้แค่เพียง 5 วันเท่านั้น” คนที่รับผิดชอบในโรงงานของเล่นกล่าว

“ยังไงก็ส่งมาให้ผมอย่างละ 5 ชุดก่อน ผมจะเอาไปแจกสักหน่อย” ฮาร์ดี้จำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเอวา เทย์เลอร์และฮันเยจินได้

“ครับ หัวหน้า”

……

ฮาร์ดี้กลับไปที่บ้านของเอวา

ซึ่งในช่วงเวลานี้เอวาก็ยุ่งมากเช่นกันเพราะเอชดีพิคเจอร์ได้จัดตั้งบริษัทบันทึกเสียงขึ้นมาก และอัลบั้มแรกที่สร้างขึ้นจึงเป็นต้องตกเป็นของเอวาไป

เมื่อเอวากลับมาบ้าน

เธอก็มองเห็นกล่องตุ๊กตาบนโต๊อย่างรวดเร็ว

แวบแรกที่เธอเห็น 

เธอคิดว่าตุ๊กตาตัวนี้เหมือนกับตัวเองอย่างมาก แต่มันคือตุ๊กตาบาร์บี้ ‘เจ้าหญิงเอวา’ ที่เธอเคยเห็นในหนังสือพิมพ์ตัวนั้น

“ว้าว สวยจังเลย”

เอวารีบไปหยิบกล่องขึ้นมาชื่นชม เพราะตุ๊กตาตัวนี้มีเครื่องแต่งกายที่สวยงามมาก

นอกจากนี้ยังมีกล่องขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ซึ่งมีตุ๊กตาสามตัวและมีกล่องเครื่องประดับที่สวยงามอีก 12 ชุด

ไม่ว่ามันจะเป็นของใคร เอวาก็ชอบมันมาก

แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบบาร์บี้ 

ไม่ว่าจะเป็นเด็ก 3 ขวบหรือผู้หญิง 30 ปี พวกเธอก็จะตกหลุมรักมันอยู่ดี…

เอวามองหาฮาร์ดี้พร้อมกับตุ๊กตาที่อยู่ในมือ แต่กลับไม่มีใครอยู่ในห้องและมีเสียงซ่าๆ ออกมาห้องน้ำแทน 

เธอจึงรีบวางตุ๊กตาลงและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที

……

วันต่อมา

ฮาร์ดี้ไปที่ไปรษณีย์และส่งชุดตุ๊กตาบาร์บี้ให้เทย์เลอร์พร้อมการ์ดที่เขียนขึ้นเป็นพิเศษ

‘เทย์เลอร์เมอร์รี่คริสมาสต์ ของสิ่งนี่เป็นของขวัญสำหรับเธอ และฉันได้เคยสัญญาว่าจะไปหาเธอที่นิวยอร์กใช่ไหม? ฉันต้องขอโทษจริงๆ ดูเหมือนฉันจะไปไม่ได้แล้ว ในเวลาคริสต์มาสนี้ฉันจะต้องไปเข้าร่วมงานเปิดตัวที่สำคัญมากที่หนึ่ง ซึ่งเวลามันก็ตรงกันพอดี ฉันเลยกลัวว่าจะไปนิวยอร์คไม่ได้แล้ว อย่าโกรธกันนะ เมื่อไหร่ที่ฉันกลับมาฉันจะชดเชยให้’

งานเปิดตัวที่ฮาร์ดี้ต้องไปมีส่วนร่วมก็คืองานเปิดตัวคาสิโนฟลามิงโก้ 

เขาได้รับโทรศัพท์เชิญจากซีเกลให้เข้าร่วมกิจกรรมการเปิดตัวคาสิโนในวันคริสต์มาสอีฟ

หลังจากใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีและใช้เงินมากกว่าเจ็ดล้านดอลลาร์…

ในที่สุดคาสิโนฟลามิงโกก็ได้เปิดตัวเสียที 

แถมฮาร์ดี้ไม่รู้ว่าตอนนี้ซีเกลเป็นยังไงบ้าง 

เขาแค่หวังว่าซีเกลจะไม่รีบร้อนจากไปเหมือนในชาติก่อน

ส่วนเทย์เลอร์ที่เขาไม่ได้ไปหา

แน่นอนว่าความคิดของฮาร์ดี้นั้นมีเหตุผลเสมอ

เพราะคุณไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้หญิงดีเกินไป มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะแย่มาก 

ทุกครั้งที่พวกเธอพอใจความต้องการของพวกเธอก็จะเพิ่มมากขึ้นและค่อยๆ กลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง

เด็กที่เอาแต่ใจจะไม่รักคนอื่นนอกจากตัวเอง 

ซึ่งตราบใดที่พวกเธอรู้สึกไม่พอใจสักครั้ง พวกเธอก็จะรู้สึกว่าคุณไม่ดีเหมือนแต่ก่อน

พวกเธอจะกลายเป็นคนที่ไร้เหตุผลมากขึ้น เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นและมีความอดทนน้อยลง

แน่นอนไม่มีใครสามารถตอบสนองความปรารถนาของผู้อื่นได้เสมอ

บางคนบอกว่าฮาร์ดี้จะได้พบกับความสัมพันธ์ซับซ้อนในวันคริสต์มาส

ตลกละ!

เพราะยังไงมันก็ไม่มีทางอยู่แล้ว

หลังจากที่เขาขับรถมาที่บริษัทประมูล เขาก็เจอกับฮันเยจินและอิริน่า “สวัสดีสาวสวยทั้งสองคน”

“เยจิน ผมได้สัญญาว่าจะมอบองค์หญิงจีนให้คุณใช่ไหม?” ฮาร์ดี้พูดขณะที่เขาหยิบกล่องตุ๊กตาเจ้าหญิงจีนออกมาจากด้านหลัง

“ว้าว สวยจังเลย” ก่อนที่ฮันเยจินจะพูด อิริน่าก็ตะโกนขึ้นมาก่อน

ฮันเยจินหยิบกล่องขึ้นมาและสัมผัสกับตุ๊กตา ซึ่งเธอก็พบว่าเธอไม่มีสามารถวางมันลงได้ “ชุดกี่เพ้าตัวนี้มีความประณีตมาก แถมกระดุมก็ยังทำอย่างพิถีพิถันอีก ฉันคิดว่าว่าตุ๊กตาตัวนี้น่าจะแพงมากแน่ๆ!”

“แน่นอน เพราะว่าชุดนี้มีราคาอยู่ที่ 15.8 ดอลลาร์ และชุดเสื้อผ้าสำหรับตุ๊กตาตัวนี้จะอยู่ที่ชุดละ 5.8 ดอลลาร์ ซึ่งมีทั้งหมด 12ชุด” ฮาร์ดี้กล่าว

อิริน่าตกตะลึงเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น มันก็ต้องเสียเงินถึง 85 ดอลลาร์เพื่อซื้อชุดเต็ม คุณพระช่วย! แค่ชุดตุ๊กตาตัวนี้มูลค่ามันก็เพียงพอที่จะซื้อของโบราณสักชิ้นแล้ว”

แต่

บอกตามตรงว่าตุ๊กตาตัวนี้สวยมาก

ถ้าเธอมีเงินเธอก็ยินดีที่จะซื้อสักชุด

เมื่อมองไปที่ตุ๊กตาเจ้าหญิงจีนที่มีลักษณะคล้ายกับฮันเยจิน 

อิริน่าก็อิจฉาหนักมาก เพราะถ้ามีตุ๊กตาบาร์บี้ที่ตั้งชื่อตามเธอมันก็น่าจะรู้สึกดีมากแน่ๆ

‘เจ้าหญิงเอเลน’

ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะอะไรอย่างนี้!

ฉันจะให้หัวหน้าออกแบบตุ๊กตาให้ตัวเองยังไงดีนะ?

Leave a Comment

ไม่ดี!