ตอนที่ 113 ซื้อบริษัท
ฮาร์ดี้มองไปรอบๆ และก็คิดเกี่ยวกับมัน
“แอนดี้ฉันเลือกสามบริษัทนี้” ฮาร์ดี้ชี้ชื่อบริษัทเหล่านี้ให้แอนดี้
แอนดี้มองไปที่บริษัทแรก
“บริษัทของเล่นอย่างนั้นหรอ?”
แอนดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทำไมฮาร์ดี้ถึงเลือกบริษัทดังกล่าว?
“บริษัทของเล่นนี้ดีมากเพราะด้วยราคาหุ้นแค่ 0.23 ดอลลาร์ต่อจุดแถมยังตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของลอสแอนเจลิส มีโรงงานและสายการผลิตเป็นของตัวเอง ถ้าให้ฉันประเมินราคามันอาจจะอยู่ที่ราวๆ 60,000 ดอลลาร์”
“และยังไม่ลืมใช่ไหม? เดิมทีบริษัทของเราก็เป็นโรงงานผลิตของเล่นมาก่อน ดังนั้นโกดังของเรายังเก็บชุดเครื่องจักรที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ดอลลาร์ไว้ด้วย แล้วถ้าเราได้โรงงานของเล่นนี้มาอีกเราก็จะจะได้ใช้เครื่องจักรเหล่านั้นได้ และให้โฆษณาว่าเรากำลังอัดฉีดเงินทุนและเพิ่มกำลังการผลิตอยู่ ซึ่งราคาหุ้นก็จะพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน”
“ถ้ายังเก็บเครื่องจักรเหล่านี้ไว้ มันก็จะมีค่าเสื่อมโทรมที่เราต้องจ่ายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเอาพวกมันไปใช้งาน แค่เราลงทุนกับมันสักหน่อยต่อไปเราก็จะได้คืนอย่างเต็มที่!” ฮาร์ดี้ยิ้ม
แอนดี้คิดว่าไอเดียนี้ดีมาก
เพราะบริษัทมีทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้งาน และธุรกิจนี้เราก็นำไปใช้งานได้
แถมราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นอีก
มันเหมือนกับการฆ่านกสองตัวด้วยหินก็เดียว!
แอนดี้มองไปที่อีกสองบริษัทและถามว่า “แล้วคิดยังไงเกี่ยวกับบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและยากับบริษัทนิตยสารที่กำลังจะล้มละลายนี้?”
ฮาร์ดี้หัวเราะ
“เรามาพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทยาที่ดูแลสุขภาพนี้ก่อน ฉันเห็นรายงานเหล่านี้บอกว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเขาขายได้ไม่ดีใช่ไหม? มันจึงนำไปสู่ราคาหุ้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะดูสินค้าที่เขาขายสิชื่อมันดูไม่มีอะไรพิเศษเลย ‘ฟิตเนสแคปซูล’ เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ร่างกายของคุณดีขึ้น?”
“ผลที่ได้มันไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีความชัดเจน มันจึงไม่แปลกที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะไม่มีใครสนใจ”
แอนดี้กะพริบตา “แล้วคุณคิดจะทำอะไรกับมัน?”
ฮาร์ดี้ยิ้ม “นายรู้จักประเทศจีนไหม??”
“ไม่ใช่ว่าคุณฮันที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัทประมูลก็เป็นคนจีนด้วยใช่ไหม? ของโบราณหลายชิ้นที่คุณซื้อมาก็เป็นของโบราณของจีนและยังชอบพวกมันมากอีก” แอนดี้กล่าว
“ฉันมีความรู้เกี่ยวกับประเทศจีนอยู่บ้าง มันมีการบำรุงสุขภาพที่เรียกว่าการแพทย์แผนจีนอยู่ ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่กว้างขวางและลึกล้ำอย่างมาก มันเหมือนกับเวทย์มนตร์ พวกเขามียาวิเศษมากมายที่เราสามารถใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพได้ ตัวอย่างก็ยาที่สามารถทำให้ผู้ชายปึ๋งปั๋งและมีพลังมากขึ้น นายคิดว่าพวกเขาจะชอบมันไหม?” // สูดดดด
ซึ่งตอนนี้ยาที่มีชื่อว่า ‘เซียวเหยา’ ยังไม่ได้มีการผลิตออกมา
“นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สุขภาพในประเทศจีนที่ฉันจำได้อีกก็คือ ‘อู๋จี๋ป่ายฟุ่ง (Wuji Baifeng Pill)’ มันเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับผิวของผู้หญิงและช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย นายคิดว่าผู้หญิงจะชอบมันไหม?”
“ฉันยังรู้จักขี้ผึ้งที่ช่วยรักษาบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ซึ่งเมื่อทาแล้วมันจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย และแน่นอนว่าไม่มียาชนิดนี้ในสหรัฐอเมริกา นายคิดว่าคนที่เป็นโรคสิดสีดวงทวารจะต้องการขี้ผึ้งของเราไหม?”
แอดดี้ถามอย่างโง่ๆ “สูตรยาพวกนี้น่าจะขอซื้อยากใช่ไหม? เพราะมันดูน่าอัศจรรย์และยังดีเกินไปอีก?”
ฮาร์ดี้ส่ายหัว “ได้มาไม่ยากเลยแค่หาหมอที่มีความชำนาญในแพทย์แผนจีนก็พอแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นธุรกิจนี้ ก็ควรค่าแก่การทำ!” แอนดี้กล่าว
ซึ่งการแพทย์แผนโบราณและการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันจะถูกระงับไม่ให้นำไปใช้งาน
แต่ตอนนี้มันเป็นปี 1946
ถ้าเขาทำให้การแพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองในตอนนี้
เขาจะมีสถานที่สำหรับอนาคตของการแพทย์แผนจีนและจะทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพก็เป็นตลาดขนาดใหญ่
มันมีผลิตภัณฑ์มากมายที่สามารถผลิตได้
ซึ่งมีเป็นร้อยหลายรายการ
และสหรัฐอเมริกาก็มีความเข้มงวดมากในการจัดการด้านยาเถื่อน แต่การจัดการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ผลิตภัณฑ์สุขภาพจึงไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติสำหรับการนำออกไปขาย
ตราบเท่าที่คุณไม่ได้เขียนว่ามันเป็นยารักษาโรค
แต่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ
และในยุคนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทำให้แนวโน้มตลาดยังคงกว้างขวางอยู่
เขาสามารถสร้างบริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพระดับโลกได้เลย
แต่
ฮาร์ดี้ก็พบว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่หรือเปล่า…
ในตอนเริ่มต้นเขาแค่อยากได้บริษัทที่เอาไว้ปั่นหุ้นขยะ
เพื่อเพิ่มราคาหุ้นและทำกำไรกับมัน
แต่ไม่รู้ทำไม
เขาถึงได้บริษัทที่ต้องลงทุนมาเพิ่ม…
นี่คือความผิดพลาดใช่ไหม?
“แล้วทำไมคุณถึงเลือกบริษัทนิตยสาร?” แอนดี้ถามถึงบริษัทสุดท้าย
อันที่จริงเมื่อฮาร์ดี้เห็นนิตยสารเล่มนี้สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือนิตยสารของผู้ชายที่ชื่อ ‘เพลย์บอย’
มันไม่สำคัญว่าเนื้อหาในนิตยสารจะเป็นแบบไหน เพราะยังไงนิตยสาร ‘เพลย์บอย’ ก็ยังขายได้อยู่เสมอ
เขาจึงเชื่อว่านิตยสารจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งถ้าเขานำมันมา
“ถ้าหน้าปกนิตยสารเป็นผู้หญิงสวยๆ นายจะหยิบมันขึ้นมาดูไหม? กับรูปผลไม้ที่อยู่บนหน้าปกจำนวนมาก นายยินดีที่จะหยิบมันขึ้นมาหรือเปล่า?”
“แน่นอนว่าเนื้อหาของนิตยสารไม่จำเป็นต้องมีแค่แบบเดียว เราสามารถใส่ไลฟ์สไตล์ของดาราภาพยนตร์หรือจะเขียนถึงคนดัง เพลง รถ ชีวิตต่างๆ ในประจำวันก็ได้!”
“นายยังสามารถแสดงจุดยื่นเกี่ยวกับการเมืองหรือจะยืนถือธงการต่อต้านสงครามก็ทำได้ จะนำบทความของนักเขียนชื่อดังมาลงก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่ทำให้มันน่าสนใจก็พอ ทำให้นิตยสารพวกนี้มีค่าที่จะเปิดดูและความโดดเด่นเพื่อที่จะหยิบมันขึ้นมา!”
“นิตยสารเหล่านี้จะต้องดูน่าสนใจสำหรับผู้หญิงด้วย เนื้อหาอาจจะไม่หยาบคายเพื่อให้รู้สึกว่ามีสไตล์มากขึ้น”
แอนดี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ในแง่นี้ฮาร์ดี้จึงไม่สามารถเทียบได้กับเขา
แต่ความคิดของฮาร์ดี้ในวันนี้ เขานั้นไม่สามารถทำแบบฮาร์ดี้ได้
“มันน่าสนใจมากจริงๆ” แอนดี้พึมพำ
เขาคิดถึงตัวเอง
ถ้ามีนิตยสารพวกนี้เขาจะเอามันมาอ่านใช่ไหม?
ใช่..
ฮาร์ดี้ตบไปที่ไหล่ของแอนดี้ และบอกเขาว่า “แอนดี้ นายช่วยรวบรวมข้อมูลรายเอียดของบริษัทเหล่านี้ให้ทีนะ มาดูกันว่าเราจะซื้อมันได้หรือไม่? ยิ่งข้อมูลมีรายละเอียดมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดี! ฉันจะบอกเฮนรี่เพื่อให้หน่วยข่าวกรองของเขามาช่วยด้วย”
เขาคิดว่าถ้าแผนกข่าวกรองและบริษัทบัญชีมาหาข้อมูลร่วมกัน
ข้อมูลที่พวกเขาได้มันน่าจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและมีรายละเอียดที่ดีกว่า
เขาออกจากสำนักงานของแอนดี้
กลับไปที่ห้องเขา
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเมเยอร์ และบอกเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเขาว่าตอนนี้เขามีเงินไม่พอ
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจจะต้องถูกพับโครงการไว้ก่อนหรือเมเยอร์อาจจะออกเงินไปก่อนก็ได้
“ฮาร์ดี้ ทำไมนายไม่ให้ภาพยนตร์สองเรื่องนี้กับฉันล่ะ? แล้วส่วนแบ่งของนายฉันจะให้ที่ 10% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนนางเอกที่จะฉายไปทั่วโลกก็ยังเป็น ‘เอวา’ อยู่เหมือนเดิม” เมเยอร์กล่าว
เขาช่างเป็นชายแก่เจ้าเล่ห์จริงๆ ที่เขาต้องการภาพยนตร์สองเรื่องนี้
แสดงว่าเขาต้องมั่นใจกับมันมากแน่ๆ
ซึ่งฮาร์ดี้เองก็มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับภาพยนตร์สองเรื่องนี้เหมือนกัน
ภาพยนตร์ที่เขาผลิตล้วนเป็นภาพยนตร์คลาสสิคของคนในยุคปัจจุบัน และก็รับประกันได้เลยว่ามันทำเงินได้แน่ๆ
ถ้าเขาเห็นด้วยกับสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ เขาก็จะสูญเสียเงินหลายล้าน!
“คุณเมเยอร์ คุณอาจจะยังไม่รู้ตอนนี้คุณซีเกลขายบริษัทโนอาห์อาร์คให้ผมแล้ว ผมได้รวมบริษัทภาพยนตร์เอชดีกับบริษัทโนอาห์เข้าด้วยกันแล้ว และก็ยังต้องการใช้ภาพยนตร์สองเรื่องนี้ในการสร้างชื่อเสียงของเอชดีพิคเจอร์ด้วย” ฮาร์ดี้กล่าว
เมเยอร์รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินว่าฮาร์ดี้ได้ซื้อบริษัทโนอาห์ฟิล์มของซีเกลแล้ว
ถ้าอย่างนั้นเอชดีฟิล์มจึงถือได้ว่าเป็นสตูดิโอระดับสองของฮอลลีวูดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอให้ทำตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ แต่เมื่อไหร่ที่ภาพยนตร์สองเรื่องนั้นทำเงิน ฉันจะต้องได้เงินก่อน 1 ล้านดอลลาร์ และฉันจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ก่อนด้วย” เมเยอร์กล่าว
“ขอบคุณมาก คุณเมเยอร์” ฮาร์ดี้ยิ้ม
ไม่กี่วันต่อมา
แอนดี้ก็รวบรวมข้อมูลอย่างไม่หยุดนิ่ง
เขาจัดตั้งบริษัทการเงินขึ้นมาพร้อมกับรับสมัครพนักงานและไปหาฮาร์ดี้อีกครั้งในสัปดาห์ต่อมา
“บอส ข้อมูลของทั้งสามบริษัทตอนนี้อยู่นี่แล้ว”
ฮาร์ดี้หยิบข้อมูลขึ้นมาดู
โรงงานของเล่นครอบคลุมพื้นที่ 5 เอเคอร์
มีโรงงานสายผลิตอยู่สองที่
ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมคือหมีพลาสติกและสุนัขพลาสติก บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1935
ซึ่งมันยังคงทำเงินได้ในช่วงสองปีแรก หลังจากที่ทำเงินได้แล้วเจ้าของบริษัทก็รู้สึกหยามใจ
เขาจึงไปเล่นกับผู้หญิงทุกคน
และก็มีคนแนะนำให้เขาเล่นหุ้น ชายคนนี้ที่เห็นคนอื่นทำเงินในตลาดหุ้นได้เยอะ
เขาก็เลยติดต่อไปยังบริษัททางการเงินที่หนึ่งเพื่อเอาบริษัทเขาเข้าตลาดหุ้น
ในตอนเริ่มต้นเขาก็ทำเงินได้มากในตลาดหุ้น
เขาเริ่มภูมิใจมากขึ้นและก็ไม่ได้ไปบริหารกิจการโรงงานอีก
เขาไปกินดื่มเที่ยวทุกวัน
ต่อมาในสงครามโลกครั้งที่สองเสบียงได้ถูกมองเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง จึงทำให้โรงงานสูญเสียวัตถุดิบบางอย่างกะทันหัน
ซึ่งถ้าไม่มีการผลิตก็จะไม่มีเงิน และเดิมทีก็มีคนงานมากกว่า 100 คนแต่ตอนนี้กระจัดกระจายไปหมดแล้ว
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง การห้ามใช้วัตถุดิบได้ถูกยกเลิก
ชายคนนี้จึงรีบสรรหาคนงานเพื่อที่จะได้เริ่มการผลิต ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปีของเล่นของเขาก็ล้าสมัย
และไม่มีใครอยากซื้อมัน
ของเล่นจำนวนมากจึงถูกเก็บไว้ในโกดัง โรงงานได้อยู่ในสภาพขาดทุนและเขาก็ไม่มีเงินอยู่ในมือแถมธนาคารยังไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโรงงานของเขา ดังนั้นจึงไม่ให้เขากู้ยืมเงินจากธนาคาร
บริษัทจึงติดอยู่กับที่และไม่สามารถขึ้นหรือลงได้เลย
เมื่อรายงานรายได้ประจำไตรมาสออกมา
ราคาหุ้นก็ลดลงตามธรรมชาติจากนั้นก็ลดลงและลดลงจากมากกว่าหนึ่งดอลลาร์ไปจนถึง 0.23 ดอลลาร์ในตอนนี้
นอกจากนี้ยังมีรูปแนบมากับข้อมูล
ฮาร์ดี้หยิบขึ้นมาและมองไปที่มัน พื้นที่ของโรงงานนั้นไม่เล็กเลย และยังไม่มีความเสียหายอะไรสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็ยังอยู่ในสภาพดี
เขาจึงไปดูที่เอกสารฉบับที่สอง
บริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพนี้เรียกว่า ‘บริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพเจียหนานซี’ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็คือ ‘อาหารเสริมก่อนออกกำลังกาย’ ว่ากันว่าการกินมันจะทำให้คุณมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทค่อนข้างดีในช่วงเริ่มต้น แต่สาเหตุที่ราคาหุ้นลดลงมาอยู่ในระดับนี้ก็เพราะเขาถูกฆ่าตายอย่างสมบูรณ์
ซึ่งในแคปซูลนั้นก็มีวิตามินต่างๆ ส่วนผสมอื่นๆ ก็มีผงมันฝรั่ง
และวิตามินพวกนี้ก็ได้รับการค้นพบมานานหลายทศวรรษหรือแม้กระทั่งในไม่กี่ปี
ทำให้มันดูน่าเชื่อถือมากแถมรางวัลโนเบลจากสาขาการแพทย์ทั้งหมด 17 รางวัลยังนำมามอบให้กับนักวิจัยด้านวิตามินตัวนี้ตั้งแต่ปี 1906
จึงทำให้คนทั่วไปรู้ว่าวิตามินมีความสำคัญมากต่อร่างกายมนุษย์
บริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเจียหนานซีจึงเริ่มผลิตแคปซูลออกกำลังกายหลังจากได้รับใบอนุญาตสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพวิตามิน และก็มีผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันมากมายในตลาดของปีนั้น
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของบริษัทยาขนาดใหญ่ที่จะมาเอาส่วนแบ่งจากเค้กชิ้นนี้
ทำให้บริษัทหนานซีไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ เลย
ผู้ถือหุ้นที่ร่วมลงทุนกับบริษัทก็เริ่มที่สูญเสียในวันแรก
แต่พวกเขาก็ไม่มีทางให้ถอยแล้ว
เขาจึงจ้างผู้จัดการที่สัญญากับพวกเขาว่าจะทำให้บริษัทกลับมามีกำไรแต่เขาต้องการ 20% ของหุ้นและอนุญาตให้
เขาโอนเงินออกหลังจากบริษัทเปิดเผยสินค้าต่อสาธารณะ
ผู้ถือหุ้นหลายคนก็ตกลง
นั่นคือทั้งหมด
ผู้จัดการจ้างพนักงานขายเข้ามาเพื่อร่วมทำงานกับเขาและโฆษณาแคปซูลตัวนี้อย่างแข็งขัน
จึงทำให้บริษัทนี้เริ่มมีชื่อเสียงเล็กน้อย
ตามมาด้วยการขยายเครือข่ายผู้บริโภค จึงทำให้แคปซูลตัวนี้ขายดีร้อนแรงไปพักใหญ่
ในเวลานี้ผู้จัดการจึงเริ่มมองหาหุ้นที่เขาเคยคุยกับบริษัทไว้ ซึ่งผู้จัดการคนนี้ได้รับสัญญาว่าจะได้หุ้นที่ 20%
จากนั้นผู้จัดการได้ดำเนินการด้านการเงินหลายครั้ง
พวกเขาช่วยกันปั่นหุ้นของบริษัทโดยการขายมันออกไปในที่สุดราคาหุ้นจาก 1.75 ดอลลาร์ก็ตกลงมาที่ 0.8 ดอลลาร์
ซึ่งเขาก็ทำเงินกับมันได้มาก
ในท้ายที่สุดผู้จัดการก็ได้เงินเดือนที่สูงมากสำหรับเขาและพนักงานขาย
พร้อมกับใช้ผลกำไรของบริษัทในการทำอย่างอื่น
เมื่อรายงานทางการเงินของปีถัดไปมาถึงทุกคนก็ประหลาดใจที่พบว่าบริษัทต้องประสบกับความสูญเสียทางการเงินครั้งใหญ่
เขาสูญเสียเงินได้อย่างไร?
เนื่องจากทีมขายไม่ได้ขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง และกรรมการผู้บริหารก็รู้แค่ข้อมูลในช่วงปีแรก
ในช่วงครึ่งปีหลังทีมขายได้รับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเอง
ผู้ถือหุ้นจึงขับไล่ผู้จัดการกับพนักงานขายออกไปจึงทำให้บริษัทกลับมามีปัญหาอีกครั้ง
หลายคนวิเคราะห์ว่าบริษัทเจียหนานซีได้พบกับทีมงานที่เป็นแก๊งโจรกรรมเข้าแล้ว
ราคาหุ้นของบริษัทเจียหนานซีจึงพุ่งลงเหลือเพียงแค่ 0.16 ดอลลาร์ น้อยกว่าหนึ่งในสิบของราคาที่ขายออกไปเสียอีก
ส่วนบริษัทนิตยสาร
นิตยสารนี้มีชื่อว่า ‘West Coast Perspective’ เนื้อหามีความหลากหลายมาก
แต่ก็จะมุ่งเน้นไปที่การทหาร การเมือง เศรษฐกิจและมนุษยศาสตร์
เหตุผลเดียวที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำคือกลุ่มลูกค้านั้นมีขนาดเล็กจึงไม่สามารถทำกำไรได้
ในตอนเริ่มต้นพวกเขาต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อระดมทุน แต่เขากลับไม่กระตือรือร้นในการนำเข้าสู่ตลาดหุ้น
ทำให้ตอนนี้เขาใกล้จะล้มละลายแล้ว เพราะนิตยสารรายสัปดาห์ขายได้เพียงไม่กี่ร้อยเล่มต่อสัปดาห์ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ฉบับอื่นๆ ต่อไปก็ไม่เพียงพอ
ไม่มีใครมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทนิตยสารนี้ ดังนั้นราคาหุ้นของเขาจึงอยูีที่ 0.04 ดอลลาร์
ซึ่งมันก็ต่ำสุดแล้ว
ฮาร์ดี้วางแฟ้นข้อมูลลงและพูดกับแอนดี้ “แอนดี้ บริษัทเหล่านี้สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายมากนัก ฉันคิดว่ามันยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้เข้าไปซื้อกิจการกับพวกเขามาได้เลย”