ตอนที่ 112 ควบคุมโนอาห์ฟิล์ม
ซีเกลเทไวน์แดงให้ฮาร์ดี้ และเดินวนช้าๆ อยู่ในห้องโถงพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ
“ฉันวางแผนไว้เสร็จหมดแล้ว และก็มีวิสัยทัศน์ของตัวเอง ฉันเชื่อว่าฉันจะทำให้มันสำเร็จได้ทว่าสิ่งเดียวที่ฉันคิดผิดก็คือการร่วมมือกับคนอื่น!”
ซีเกลตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขาพูดและกล่าวออกมาด้วยความโกรธ
“พวกเขาสงสัยว่าฉันทุจริตเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ฉันไม่ได้ทำเลยสักนิด สิ่งที่ฉันทำก็คือการเอาเงินทั้งหมดไปสร้างเมือง ราชวังและอนาคต”
“พวกเขากลับบอกว่าให้ฉันสร้างให้เสร็จเร็วที่สุดแต่ฉันยังมีหลายสิ่งที่อยากจะทำ! พวกเขากลับรอไม่ได้และจ้องจะทำเงินกับมันอย่างเดียว”
ซีเกลหันไปมองฮาร์ดี้
“ซึ่งฟลามิงโก้จะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า นายก็รู้ว่าการเปิดคาสิโนมันต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นจำนวนมาก ฉันจึงไปขอเงินจากพวกเขาเพิ่ม แต่พวกเขากลับปฏิเสธโดยที่ไม่ให้เงินฉันเลยสักดอลลาร์! และยังบอกว่าฉันใช้เงินเยอะเกินไป! ให้กลับไปคิดส่วนที่เหลือด้วยวิธีการของตัวเอง”
“ฉันต้องทำให้สำเร็จตามอุดมคติที่ฉันตั้งไว้! ถึงแม้พวกเขาจะไม่สนับสนุนฉันแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ยังมีทรัพย์สินอยู่ และฮาร์ดี้ฉันได้ยินมาว่าบริษัทภาพยนตร์ของนายมีกระแสตอบรับที่ดีมากใช่ไหม?”
ซีเกลเปลี่ยนเรื่องทันทีและถามเขา
“ใช่ ยอดขายตั๋วตอนนี้ดีมาก เมเยอร์คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ และบริษัทผมสามารถจะทำรายได้ถึง 2 ล้านดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
ซีเกลพยักหน้า
“ตอนนี้นายอยู่ในจุดเดียวกันแต่กลับดีกว่าฉันแล้วรู้ไหม? ซึ่งฉันก็ตั้งบริษัทภาพยนตร์ขึ้นมามันไม่เพียงแต่ไม่ทำเงินให้แต่ฉันยังต้องลงทุนกับมันไปทุกปีและฮาร์ดี้…นายสนใจรับโนอาห์อาร์คต่อจากฉันไหม?” ซีเกลถามเขา
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
โดยไม่คาดคิดว่าซีเกลจะขายบริษัทภาพยนตร์ให้กับตัวเขาเอง
แค่คาสิโนเขากลับเตรียมที่จะทุบหม้อข้าวตัวเองเลยหรือ?
หลังจากซีเกลพูดจบ เขาก็มองไปรอบๆ บ้านอีกครั้ง
ซึ่งเขาอยู่ที่นี่มา 7-8 ปีแล้ว
เขาชอบบ้านหลังนี้มาก เพราะมันเป็นพยานรักของเขากับเวอร์จิเนียอีกด้วย
“นอกจากนี้ยังมีบ้านหลังนี้ที่จะขายให้กับนายด้วยซึ่งสองรายการนี้ฉันขอ 1 ล้านดอลลาร์ได้ไหม?” ซีเกลมองไปที่ฮาร์ดี้
แม้แต่บ้านก็ต้องขาย?
ดูเหมือนว่าซีเกลจะพร้อมที่จะทำลายเรือแล้ว
ฮาร์ดี้คิดสักพักและกล่าวว่า “คุณซีเกลผมสามารถกู้เงินจากธนาคารและเอามาให้คุณยืมก่อนได้”
ฮาร์ดี้ยังรู้สึกขอบคุณซีเกลที่เคยช่วยเขา และให้ซีเกลยืมเงินจากเขาน่าจะดีกว่า
ซีเกลหัวเราะเบาๆ
“ฮ่าๆ ขอบใจมากฮาร์ดี้ นายเป็นคนแรกที่ให้ฉันยืมเงินในตอนนี้และนายยังซื้อหุ้น 18% จากฉันในราคา 1.8 ล้านดอลาร์อีก ฉันรู้ว่าราคามันแพงไปหน่อย และฉันก็รู้สึกอารมณ์ของนายในตอนนั้นได้”
“แต่มันไม่จำเป็นเพราะเมื่อคาสิโนเปิดฉันจะอยู่ในลาสเวกัส ฉันจะไม่มีเวลามาดูบริษัทภาพยนตร์อีก และอยู่ไกลจากฮอลลีวูดเกินไป เมื่อถึงตอนนั้นฉันอาจจะขายมันไปแล้วก็ได้ ส่วนบ้านหลังนี้ก็เหมือนกันฉันจะไปอยู่ที่ลาสเวกัสแล้ว และคงไม่กลับมาบ้านหลังนี้อีก มันจึงน่าเสียดายที่จะปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ”
ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่ง
“ตกลง! ผมจะทำตามที่คุณบอก” ฮาร์ดี้กล่าว
ซีเกลยิ้ม
“ฮาร์ดี้ ฉันเคยบอกนายในตอนเริ่มต้นว่าเมื่อคาสิโนเปิดแล้ว ฉันจะพานายไปที่ลาสเวกัสเพื่อเป็นหัวหน้าแก๊งที่นั้น แต่นายกลับพัฒนาตัวเองได้เร็วมาก และหลบไปอยู่เบื้องหลังแล้ว!”
“ฉันเลยคิดจะให้เฟร็ดขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทน นายตกลงไหม?” ซีเกลถามเขา
ฮาร์ดี้ยิ้ม
“ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!”
“ส่วนแก๊งยิวในลอสแอนเจลิสจะถูกส่งต่อไปให้อลัน เพนน์ ฉันวางแผนไว้แล้วว่าเขาสามารถจัดการกับเรื่องเล็กๆ ได้ ซึ่งเฟร็ดกับฉันก็จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนกัน”
…
ฮาร์ดี้บอกลาซีเกล และกลับไปให้แอนดี้เตรียมเงินไว้
ซึ่งตอนนี้เขามีเงินสดในมือมากกว่าหนึ่งล้าน และหลังจากครั้งสุดท้ายที่หุ้นของเหมืองแร่วอลช์ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮาร์ดี้จึงขอให้แอนดี้กู้เงินจากธนาคารเพิ่มอีก
ส่วนตอนนี้เงินในมือของเขาก็ว่างเปล่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขายังได้บริษัทโนอาห์และคฤหาสน์ที่เบเวอร์ลีฮิลส์
ทำให้ไม่ต้องพูดถึงมูลค่าของบริษัทภาพยนตร์เลย
แค่คฤหาสน์ที่เขาได้มามันก็ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 เอเคอร์แล้ว
เพราะนี่คือเบเวอร์ลี่ฮิลส์
ถ้าอดทนจนถึงปี 2000
คฤหาสน์ที่อยู่ที่นั้นจะสามารถขายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์
วันต่อมา
ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลง
ซีเกลได้กลับไปที่ลาสเวกัสพร้อมกับเช็คในมือ
เพื่อที่จะกลับไปเติมเต็มความฝันของเขา
ฮาร์ดี้ไม่รู้ว่าซีเกลจะถูกลอบสังหารในชีวิตนี้หรือเปล่า เพราะตอนนี้เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปมากมันมีทั้งเฟร็ดและคนระดับสูงของแก๊งยิวที่ตามเขาไปด้วย
ฮาร์ดี้จึงหวังว่าสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น
ฮาร์ดี้พาเอ็ดเวิร์ดไปที่บริษัทโนอาห์อาร์คเพื่อประชุมกับผู้บริหารระดับสูงทุกคน
และพวกเขาก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมผู้ช่วยฮาร์ดี้ถึงมาร่วมประชุมด้วย
แต่โคเฮนกลับประหลาดใจมากกว่า หลังจากเดินเข้าไปในห้องประชุมและเห็นฮาร์ดี้ เขาเลยพูดด้วยความสงสัยว่า “ผู้ช่วยฮาร์ดี้ การประชุมกับผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้ ทำไมถึงไม่มีใครแจ้งผมล่วงหน้าเลย?”
โคเฮนหมายความอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท และคุณเป็นแค่ผู้ช่วยของท่านประธาน
ซึ่งคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาวุ่นวายในบริษัทแบบนี้
เอ็ดเวิร์ดหยิบแฟ้มออกมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว คุณซีเกลได้ขายบริษัทภาพยนตร์โนอาห์อาร์คให้กับคุณฮาร์ดี้ ตั้งแต่วันนี้คุณฮาร์ดี้จึงได้กลายเป็นเจ้าของบริษัทภาพยนตร์โนอาห์ที่เป็นเจ้าของอย่างเต็มรูปแบบ!”
ผู้คนในห้องต่างตกใจ พวกเขาคิดว่าเจ้านายมันเปลี่ยนกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?
แต่ถ้าลองคิดเกี่ยวกับฮาร์ดี้ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ช่วยของท่านประธาน แต่เขาก็ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมายเช่นบริษัทรักษาความปลอดภัยเอชดีที่มีชื่อเสียง
ภาพยนตร์สุดฮอตชื่อ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ ที่ฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อเร็วๆ นี้ที่ผลิตโดยเอชดีพิคเจอร์อีก
ฮาร์ดี้จึงลุกขึ้นและพูดเสียงดังว่า “ฉันอยู่ในโนอาห์มามากกว่าครึ่งปีแล้ว สถานการณ์ที่นี่ฉันค่อนข้างเข้าใจดี มันถึงเวลาแล้วที่โนอาห์จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง!”
“ฉันขอประกาศว่าโนอาห์จะควบรวมกิจการกับเอชดีพิคเจอร์ เพื่อก่อตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่และจะใช้ชื่อเอชดีพิคเจอร์ของฉัน! ในอนาคตผู้จัดการทั่วไปของเอชดีพิคเจอร์จะเป็นเอ็ดเวิร์ดซึ่งแผนกอื่นๆ ก็จะถูกจัดการโดยเอ็ดเวิร์ดเหมือนกัน”
“จะมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างในบริษัทเช่น แผนกเอเจนซี่ และแผนกเพลง ซึ่งทั้งสองอาจจะแยกออกมาจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมาอีก และเอ็ดเวิร์ดจะบอกกับพวกคุณในที่ประชุมสำหรับรายละเอียดการทำงานครั้งใหม่นี้!”
“และฉันก็หวังว่าบริษัทเอชดีพิคเจอร์จะกลายเป็นบริษัทภาพยนตร์ที่โด่งดังเหมือนกับบริษัทภาพยนตร์ทั้งแปดแห่งที่อยู่ในฮอลลีวูด ต่อจากนี้ภาพยนตร์ที่พวกเราผลิตจะเป็นภาพยนตร์คุณภาพสูง เราจะสร้างเหล่านักแสดงชั้นเลิศของเราเองและส่งพวกเขาออกไปครอบคลุมทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาหรือทั่วโลก!”
เมื่อฟังคำพูดของฮาร์ดี้ หลายคนในห้องประชุมก็รู้สึกตื่นเต้น
เพราะบางที่มันอาจจะถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะได้แสดงฝีมือ!
โคเฮนไม่ได้แสดงออกอะไร แต่เขารู้ว่าที่นี่ไม่เหมาะกับเขาอีกต่อไป
หลังจากการประชุมเขาก็เข้าไปพบฮาร์ดี้และยื่นหนังสือลาออก
ฮาร์ดี้ได้เซ็นชื่อให้เขาอย่างมีความสุข
มันจบแล้วสำหรับยุคเก่า
อาจมีใครบางคนที่ต้องออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นโคเฮนก็ยังทำได้ไม่ดีในตอนแรก และบริษัทก็มีความคิดเห็นอย่างจริงจังเกี่ยวกับเขามานานแล้ว
เพราะโนอาห์ที่อยู่ในมือเขามาตั้งหลายปี กลับไม่มีความคืบหน้าหรือการพัฒนาขึ้นเลย
ในอดีตเอชดีพิคเจอร์เพียงเช่าห้องเล็กๆ อยู่แต่ตอนนี้พวกเขาย้ายไปที่สำนักงานของบริษัทโนอาห์แล้ว
ซึ่งเบื้องหลังของบริษัทโนอาห์มันค่อนข้างมั่นคง ด้วยที่ตั้งของบริษัทที่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีอาคารสำนักงาน และมีทุกอย่างที่บริษัทภาพยนตร์ควรจะมี
ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่าบริษัทภาพยนตร์ที่อยู่ในฮอลลีวูดบางที่ซะอีก
อย่างไรก็ตามเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่จำเป็นที่ฮาร์ดี้ไม่มี
นั้นก็คือเงินจำนวนมากที่จำเป็นต้องเอามาลงทุน
ซึ่งฮาร์ดี้ก็ได้แต่ตอนถอนหายใจ
เพราะตอนนี้เขาขาดเงิน!
เขากลับไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง ฮาร์ดี้ก็เห็นแอนดี้และถามว่า “แอนดี้ ฉันไม่มีเงินอีกครั้งแล้วใช่ไหม?”
แอนดี้ยิ้ม “มันเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าจะไม่มีเงินให้ใช้มากพอ มันไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับกองเงินสด เพราะพวกเขาก็เป็นหนี้เหมือนกัน”
“แต่ตอนนี้เรากำลังขาดแคลนเงินอีกครั้ง ถ้าไม่มีเงิน…หลายๆ อย่างก็จะพัฒนาได้ช้าลง แอนดี้นายช่วยคิดหาวิธีที่จะทำเงินได้อย่างเร็วมันพอจะมีไหม?” ฮาร์ดี้ถาม
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเล่นหุ้น!” แอนดี้คิดอยู่พักหนึ่ง
“เราก็ปั่นหุ้นจากเหมืองแร่วอลช์ไปแล้ว เราจะใช้มันอีกครั้งเหรอ?” ฮาร์ดี้ถาม
แอนดี้ส่ายหัว
“ผมคิดว่าเหมืองแร่วอลช์เป็นอุตสาหกรรมที่จะทำเงินให้เราในอนาคต และครั้งนั้นก็เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หากราคาหุ้นผันผวนบ่อยครั้งและถ้าเราทำพลาด…มันจะดึงดูความสนใจของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างแน่นอน”
“แล้วนายคิดว่าไง?”
“ในตลาดหุ้นก็มีหุ้นบางตัวที่มีราคาไม่เยอะเหมือนเหมืองแร่วอลช์ในตอนแรกๆ มันมีค่าไม่กี่เซ็นต์ มันถือว่าเป็นหุ้นขยะ ไม่มีรายได้และไม่มีโอกาส ไม่มีใครอยากลงทุน และหุ้นเหล่านั้นก็จะถูกเพิกถอนหลังจากผ่านไปนานแล้ว”
“ซึ่งมันก็มีสองวิธีที่เราจะทำเงินได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งคือการควบคุมราคาหุ้นให้เป็นไปตามเรา และขายออกไปถ้าได้กำไรสูง มันเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยซึ่งหลายๆ บริษัททางการเงินจะเล่นวิธีนี้”
“อีกวิธีหนึ่งคือการซื้อบริษัทขยะเหล่านั้น สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาและปล่อยข่าวบางอย่างเพื่อเพิ่มราคาหุ้น”
“ด้วยวิธีการที่สองมันจะช้าหน่อยแต่วิธีนี้ก็มีความน่าเชื่อถือมาก และจะไม่มีปัญหาถ้าคณะกรรมการหลักทรัพย์จะเข้ามาตรวจสอบ”
“แล้วบริษัททางเงินอื่นๆ จะไม่ใช้วิธีแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?” ฮาร์ดี้ถาม
“แน่นอนว่ามีและก็มีมากด้วย แต่ในความเป็นจริงในวอลล์สตรีทก็มีคนทำแบบนี้อยู่ตลอดเวลาเพียงแค่คนภายนอกจะไม่เห็นมันเท่นั้นเอง” แอนดี้ยิ้ม
“ซึ่งมันก็มีคำกล่าวในวงการนี้ไว้ว่า ‘วิธีหาเงินที่แท้จริงคือการโอนเงินจากกระเป๋าของคนอื่นมาเข้ากระเป๋าตัวเอง!’
แน่นอนว่าในวงการนี้มันไม่เคยสร้างรายได้ให้กับคนอื่น แต่มันจะเป็นที่สร้างรายได้สำหรับตัวเราเอง และถ้าเราอยากเล่นหุ้นในตลาดผมแนะนำว่าเป็นของธนาคารน่าจะดี”
“ซึ่งสงครามได้จบลงแล้วและต่อไปคือการพัฒนาสหัรฐอเมริกาในอนาคต ตลาดหุ้นก็มีการดำเนินงานที่แกร่งมาก ตอนนี้หุ้นในสหรัฐถือว่ากำลังพุ่งขึ้นสูงอย่างไม่มีอะไรมาฉุดมันได้ หลายคนจึงกระตือรือร้นที่จะลงทุนและทำเงินกับมัน ทำให้การปั่นหุ้นขยะเหล่านั้นยังไงก็มีคนซื้ออย่างแน่นอน”
ฮาร์ดี้รู้ดีว่าวิธีนี้คือการโกง
แต่
เขาไม่สนหรอก
และแท้จริงชาวอเมริกันเหล่านี้ก็ทำอยู่แล้ว
“แอนดี้ ฉันคิดว่าวิธีนี้มันดีมาก! เรามาเริ่มกันเลย” ฮาร์ดี้ตัดสินใจแล้ว
แอนดี้ยิ้ม
เขารู้ดีว่าฮาร์ดี้จะไม่พลาดโอกาสนี้ แต่ก่อนอื่นเขาต้องเลือกกลุ่มบริษัทที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานนี้ก่อน และเปิดรับสมัครพนักงานเข้ามา เพื่อที่เราจะได้จัดตั้งบริษัททางการเงินขึ้นมาอีก!
ด้วยวิธีนี้เงินที่เข้าและออกจะสะดวกมากขึ้นในการดำเนินงานเหล่านี้
“ฉันคิดว่าสิ่งที่นายพูดออกมามันดีมาก ถ้างั้นเราจะถอยกลับไปที่เรื่องกู้เงิน 2 ล้านจากการนำภาพยนตร์ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ ไปจำนองไว้ ซึ่งฉันจะให้นาย 1 ล้านดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
“แล้วความร่วมมือกับ เอ็มจีเอ็มเราจะทำยังไงต่อ?”
“ไม่เป็นไร ฉันจะคุยกับเมเยอร์ และถามเขาว่าจะให้เขาจ่ายเงินให้ก่อนได้ไหม ถ้ามันไม่ได้ก็ต้องทำสิ่งที่เราทำได้ นั้นคือการเลื่อนถ่ายทำภาพยนตร์ singing in the rain ไปปีหน้า” ฮาร์ดี้กล่าว
แอนดี้เอาแฟ้มข้อมูลออกมาจากลิ้นชัด “แฟ้มนี้จะมีข้อมูลของตลาดหุ้นอยู่ ผมอยากให้คุณเลือกมาอันหนึ่งที่คิดว่าเหมาะสมมากที่สุด”
ซึ่งพวกเขาก็มีความคิดอยู่ว่าบริษัทเหล่านี้จะต้องอยู่ในลอสแอนเจลิสเพื่อที่พวกเขาจะสามารถจัดการได้และรวมถึงหุ้นขนาดเล็กที่มีราคาต่ำๆ ที่ต้องง่ายต่อการซื้อขายด้วย