ตอนที่ 104 ปัญหาเกิด
ฮาร์ดี้ได้รับโทรศัพท์จากผู้กำกับโนแลนว่า ‘Red Dead Redemption’ ได้เสร็จสิ้นแล้ว และสามารถไปดูได้ตลอดเวลา
ฮาร์ดี้จึงต้องการไปดูด้วยตัวเอง เพราะถ้ามันไม่น่าพอใจ เขาก็สามารถให้โนแลนปรับเปลี่ยนได้
เขาจึงบอกเอวาให้ไปที่บริษัทโนอาห์ด้วยกัน
ในห้องฉายภาพยนตร์ตอนนี้มีหัวหน้าแผนก ผู้กำกับและนักแสดงนำหลายคนกำลังนั่งรออยู่
และภาพยนตร์ก็เริ่มฉายพร้อมกับเสียงนกผิวปากที่ดังขึ้น
“เพลงประกอบภาพยนตร์ส่วนนี้ได้ดัดแปลงมาจากตอนที่ฮาร์ดี้ร้องให้ฟัง มันมีความยาวเกือบ 2 นาทีเลยล่ะ” ผู้กำกับโนแลนกล่าว
ในถิ่นทุรกันดารของเม็กซิโกพร้อมกับเสียงกีบม้า
พื้นที่เหล่านี้มีแต่ความรกร้างว่างเปล่า
ชายคนหนึ่งขี่ม้าเข้าไปในที่รกร้างด้วยม้าที่ไม่แข็งแรงนัก
เขาเข้าไปในเมืองเล็กๆ ที่ถนนโดยรอบช่างว่างเปล่าและไม่มีอะไรเลย
เขากำลังหาบ่อน้ำ
เขากระหายน้ำนิดหน่อยจึงต้องการหาน้ำมาดื่ม แต่ทว่าอยู่ดีๆ ก็มีเด็กชายอายุห้าหรือหกขวบวิ่งออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง
มันดึงดูดความสนใจของชายคนนั้นทันทีเพราะเด็กคนนั้นวิ่งมาทางเขา และวิ่งเข้าไปในบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เด็กคนนั้นวิ่งเข้าไปได้แค่ครึ่งตัว เขาก็ถูกจับออกมาและถูกด่าอย่างรุนแรง
ชายที่แข็งแกร่งสองคนโยนเด็กออกไปบนถนน หนึ่งในนั้นหยิบปืนลูกโม่ออกมาและยิงไปที่เท้าของเด็กคนนั้นหลายนัด ทำให้เขาร้องไห้และวิ่งออกไป
ในขณะเดียวกันหน้าต่างของบ้านที่เต็มไปด้วยราวเหล็กก็เปิดออก
หญิงสาวที่สวยงามราวกับเทพธิดาก็ปรากฏตัวขึ้นในจอภาพ
เธอคนนั้นก็คือเอวา การ์ดเนอร์
เธอมองไปที่เด็กที่ถูกยิง
ที่โดนขับไล่ออกไป
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลออกมาจากใบหน้าของเธอ
จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เริ่มที่ตรงนี้
……
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์โดยรวมทั้งหมด มีความกะทัดรัด น่าตื่นเต้นและมีอารมณ์ขันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว
ตัวเอกในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Red Dead ซึ่งในภาพยนตร์เขาเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ
และเอวาก็มีฉากไม่มากนัก แต่ทันทีที่เธอออกมาบรรยากาศของภาพยนตร์ก็ดูสดใสขึ้นทันที และในฉากเธอก็แสดงได้ดีมากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นเธอถูกขังอยู่ในบ้านและไม่สามารถออกไปข้างนอกได้
เธอทำได้แค่นั่งข้างเตียง มองไปที่ดวงจันทร์ผ่านรั้วเหล็กพร้อมกับร้องเพลง ‘Scarborough Fair’
มันทำให้บรรยากาศโดยรวมดูเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก
และภาพยนตร์ ‘Red Dead Redemption’ ของโนแลนก็แตกต่างจากที่เขาเคยดูมาเล็กน้อย
แต่มันก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน แม้แต่ฮาร์ดี้ผู้เขียนบทก็สนุกกับมันมากเช่นกัน
ในตอนท้ายของหนังพระเอกก็ได้กำจัดโรมอนลงได้ จึงทำให้เมืองนี้ได้รับความสงบสุขกลับมา หลังจากนั้นเขาก็ขี่ม้าและออกจากเมืองไป เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตเร่ร่อนของเขาต่อ
ฉากนี้ดูเหมือนกับผู้พิทักษ์ชาวจีนที่ทิ้งเสื้อผ้าไว้เบื้องและซ่อนชื่อเสียงของเขาเอาไว้
นี่คือตอนจบของหนัง
ตื่นเต้น!
เสียงปรบมือดังขึ้นในห้องฉายภาพยนตร์
โนแลนยืนขึ้นและกวักมือของเขา “มันยังไม่จบ โปรดดูต่อไป”
ทุกคนชะงักและมองไปที่หน้าจออีกครั้ง
Red Dead หายตัวไปในภูเขาและเพลงก็เริ่มเล่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
ในเวลาเดียวกันเอวาก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
เธอใส่ชุดเดรสเดินอย่างช้าๆ อยู่ในป่า
พร้อมกับกล้องที่ค่อยๆ ซูมเข้าไปใกล้ๆ อย่างช้าๆ ทำให้หน้าจอขนาดใหญ่มีความยาวเหลือเพียงครึ่งเดียว
ในจอเอวาสวยจนใครๆ ก็ละสายตาออกจากเธอไม่ได้…
เธอเดินไปเรื่อยๆ พร้อมกับร้องเพลง ‘Scarborough Fair’
ในหนังเอวาแค่ฮัมเพลงสั้นๆ แค่ย่อหน้าเดียว แต่ตอนนี้คือเพลงทั้งหมดและเป็นแค่เพลงๆ เดียว
ถึงแม้ทุกคนคนในห้องฉายภาพยนตร์จะเคยได้ยินเพลงนี้มาแล้ว ทว่าพวกเขาก็ยังหลงใหลในเพลงนี้และก็ตั้งใจมองไปที่หน้าจอ
ในที่สุด
ภาพยนตร์ก็จบลง
ทุกคนปรบมืออย่างอบอุ่นอีกครั้ง
“ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูมาในปีนี้ มันน่าตื่นเต้น เต็มไปด้วยความสวยงามและสุดท้ายกำปั้นแห่งความยุติธรรมก็ช่วยทุกคนในเมืองได้”
“ผมคิดว่าการแสดงของเอวาก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีฉากไม่มากนักแต่ฉันก็จำบทนี้ได้อย่างลึกซึ้ง”
“ฉันสามารถคาดการณ์ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ได้เลย!”
โคเฮนมองไปที่ฮาร์ดี้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฮาร์ดี้ผมคิดว่ายอดขายตั๋วของหนังเรื่องคงดีจะดีมากแน่ๆ ผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับคุณด้วย!”
หลังจากกลับมาที่ออฟฟิศฮาร์ดี้ก็โทรหาเมเยอร์
“คุณเมเยอร์ภาพยนตร์เรื่อง ‘Red Dead Redemption’ นั้นพร้อมฉายแล้ว และผมอยากให้เอ็มจีเอ็มช่วยโฆษณาให้หน่อย”
แม้ว่าโนอาห์จะมีคุณสมบัติในการฉายภาพยนตร์ แต่เขาก็ยังด้อยกว่าบริษัทภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั้งแปดแห่งนี้อยู่
ยิ่งการโฆษณาเขาไม่มีทางสู้ได้เลย แต่ฮาร์ดี้ก็มีเอ็มจีเอ็มที่ช่วยเขาได้
“ได้เลย เดี๋ยวผมจะส่งคนไปติดต่อกับบริษัทคุณให้” เมเยอร์ยิ้ม
เมเยอร์ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ทำธุรกิจเพิ่ม
ในช่วงบ่าย
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเอ็มจีเอ็มก็พาทีมงานมาดูหนังอีกครั้ง หลังจากดูจบพวกเขาก็มองโลกในแง่ดีมากเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
“ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมากในด้านการประชาสัมพันธ์สำหรับโฆษณาในหนังสือพิมพ์ โปสเตอร์ หรือในโรงหนัง และก็พยายามสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้คนอยากเข้ามาดูให้มากที่สุด!”
“คุณฮาร์ดี้ขอให้เอวามาร้องเพลงนี้ด้วยตัวเองได้ไหมครับ? เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่ดีมาก มันจะดึงดูดผู้ชมได้จำนวนมากอย่างแน่นอน คำแนะนำของผมคือให้คุณเอวาไปร้องเพลงในเมืองอื่นๆ เพื่อโปรโมตภาพยนตร์”
ฮาร์ดี้พยักหน้า
ดูเหมือนว่างานโฆษณาภาพยนตร์ในยุคนี้ ก็เหมือนกับในอนาคตอยู่เหมือนกัน
โฆษณาในสื่อ
รายการวาไรตี้
นำนักแสดงหลักไปดำเนินรายการทีละเมืองเพื่อประชาสัมพันธ์
แถลงข่าวรอบปฐมทัศน์หรืออื่นๆ
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกมาที่ 800,000 ดอลลาร์
ฮาร์ดี้รู้สึกตกใจเพราะภาพยนตร์ของเขามีค่าใช้จ่ายแค่ 300,000 ดอลลาร์เท่านั้นเอง
แต่ค่าใช้จ่ายในการโฆษณากลับมีมากกว่าถึงสามเท่าของภาพยนตร์
“ค่าใช้จ่ายการโฆษณาครั้งนี้กับเอ็มจีเอ็ม ฉันจะติดไว้ก่อนได้หรือเปล่า? เมื่อฉันทำเงินได้แล้วจะจ่ายให้” ฮาร์ดี้พูดอย่างหน้าไม่อาย
“ผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ คุณจำเป็นต้องคุยกับหัวหน้าเมเยอร์ด้วยตัวเอง”
เพราะเขาเป็นแค่ผู้จัดการเท่านั้น
ฮาร์ดี้โทรหาเมเยอร์อีกครั้ง และเมเยอร์ก็ยินดีที่จะให้เขาเบิกเงินล่วงหน้า
แน่นอน
เพราะส่วนใหญ่เอ็มจีเอ็มจะทำเงินได้เป็นจำนวนมากจากการรับทำโฆษณา เขาจึงยินดีที่จะให้ฮาร์ดี้ติดไว้ก่อน
เอวาจากไปแล้ว
เธอติดตามทีมงานไปยังเมืองอื่นๆ เพื่อทำการโฆษณาภาพยนตร์
ฮาร์ดี้ไม่มีอะไรทำอยู่สองวัน และโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสาวน้อยเทย์เลอร์ที่โทรมาหาเขาในวันนั้น
ฮาร์ดี้หันไปมองเวลามันเป็นเวลาสิบโมงเช้า
“ไม่ใช่ว่าเธอกำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่เหรอ? หรือว่าวันนี้จะไม่มีบทสำหรับเธอ?” ฮาร์ดี้ถาม
เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับทีมงาน และการถ่ายทำได้ถูกระงับไปแล้วตอนนี้”
ฮาร์ดี้ตกใจ
เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าไม่มีใครทำงาน เงินของเขาก็จะหายไป
“เกิดอะไรขึ้นกับทีมถ่ายทำ?”
“เมื่อวานตอนที่เราถ่ายทำฉากระเบิด มีสตั๊นท์แมนสองคนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาฝ่ายตรวจการของรัฐบาลได้เข้ามาจึงทำให้ทีมต้องหยุดพักการถ่ายทำชั่วคราว ตอนนี้เรายังสบายใจกับมันได้อยู่ แต่คุณฮาร์ดี้หนูได้ยินพวกเขาบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีผลกระทบมากเกินไป มันอาจจะต้องหยุดถ่ายทำเป็นเวลานานหรือยกเลิกการอนุญาตให้เราถ่ายทำในเมืองนี้ไปเลย” เทย์เลอร์พูดด้วยความเป็นห่วง
“แล้วอะไรที่ทำร้ายทีมงานได้?” ฮาร์ดี้ถาม
“หนูได้ยินจากทีมงานมาว่า แผนกวัตถุระเบิดดูเหมือนจะใส่ดินปืนมากเกิน ทำให้ความรุนแรงของมันเยอะมาก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น” เทย์เลอร์ตอบ
“แล้ววัตถุระเบิดพวกนี้มาจากไหน?”
“พวกเราจ้างคนในนิวยอร์กทำขึ้นมา”
“แล้วสตั๊นท์แมนที่มาจากเอ็มจีเอ็มล่ะ?”
“พวกเราจ้างคนจากในนิวยอร์กมาทั้งหมด”
ต้องบอกว่านิวยอร์กยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และยังเป็นศูนย์ภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวยอร์ก ต่อมาหลังจากฮอลลีวูดโด่งดังพวกเขาก็ค่อยๆ ย้ายไปทีฮอลลีวูด
อย่างไรก็ตามยังมีบริษัทภาพยนตร์อีกหลายแห่งที่เลือกอยู่ในนิวยอร์ก
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพาผู้คนไปถ่ายทำที่นิวยอร์ก แต่หลายคนก็ยังอยู่ที่นิวยอร์กก็มี
“คุณฮาร์ดี้จะมานิวยอร์กตอนไหนเหรอ? ฉันคิดถึงคุณนิดหน่อยน่ะ” เอลิซาเบธ เทย์เลอร์กล่าว
การแสดงออกทางอารมณ์ของเด็กผู้หญิงนั้นตรงไปตรงมา เธอมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้และต้องการพึ่งพาฮาร์ดี้
เธอหวังว่าฮาร์ดี้จะมาหาเธอเร็วๆ
“ฉันจะไปหาเธอที่นิวยอร์ก ถ้าฉันมีเวลาว่างในช่วงนี้” ฮาร์ดี้ตอบ
โรงงานผลิตทีวีของไมค์เริ่มดำเนินการแล้ว ไมค์โทรมาบอกเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ซึ่งการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยมีผลผลิตต่อวันประมาณ 120 ชุด จึงทำให้มีผลผลิตต่อปีมากกว่า 40,000 ชุด ทำให้ตอนนี้ไมค์ต้องออกไปขายทีวีเหล่านี้ และห้างสรรพสินค้าในนิวยอร์กก็ได้ติดตั้งทีวีของเขาแล้ว
ทำให้ยอดขายต่อวันค่อยๆ เพิ่มขึ้น
ไมค์บอกฮาร์ดี้ว่าเมื่อมีเวลาให้ไปที่นิวยอร์กเพื่อดูการพัฒนาของบริษัทบ้าง เพราะฮาร์ดี้นั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
หลังจากการพูดคุยจบลงฮาร์ดี้ก็โทรออกหาเมเยอร์ เพื่อที่จะถามเขาว่ารู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุในการถ่ายทำหรือไม่?
โดยไม่คาดคิดก่อนที่เขาจะโทรออก มันกลับดังขึ้นก่อน
“สวัสดี นี่ฮาร์ดี้”
“ฮาร์ดี้ฉันเองเมเยอร์ ผมมีข่าวจะบอกคุณว่ามีบางอย่างผิดปกติกับทีมถ่ายทำในนิวยอร์ค” เมเยอร์กล่าว
“ผมได้คุยกับเทย์เลอร์เมื่อสักครู่นี้ เธอบอกกับผมว่านักทำระเบิดได้ทำผิดพลาดจนสตั๊นท์แมนสองคนได้รับบาดเจ็บใช่ไหม? ผมก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเพื่อจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เพราะมันก็ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก แล้วถ้าเราให้ค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยกับคนเจ็บ โดยให้ฝ่ายจัดการมาช่วยเคลียร์ มันก็น่าจะแก้ปัญหาได้ใช่ไหม?” ฮาร์ดี้ถาม
“มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดนะสิ” เมเยอร์กล่าว
“หือ? มันมีอะไรเกิดขึ้นอีกเหรอ?” ฮาร์ดี้ถาม
“ตอนนี้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ และพวกเขาต้องการค่าชดเชย 100,000 ดอลลาร์”
“หนึ่งแสน?”
ฮาร์ดี้รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินราคานี้
สำหรับหนึ่งแสนดอลลาร์ในยุคนี้ มันสามารถฆ่าคนเพิ่มได้อีกมากมาย และเขาก็คิดว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ อยู่อย่างแน่นอน
“เกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่?” ฮาร์ดี้ถาม
“ฉันรู้ว่าคุณคงเดาได้แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังมองหาช่องทางสื่อสารกับอีกฝ่ายอยู่ อีกฝ่ายมีภูมิหลังเป็นแก๊งหรืออาจจะเป็นคนของแก๊งในนิวยอร์กก็ได้ และคนติดตั้งระเบิดก็อาจเป็นคนของแก๊งที่จงใจติดตั้งระเบิดให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพื่อที่จะสร้างปัญหานี้ขึ้นมา”
“ผมยังติดต่อไปที่ฝ่ายจัดการภาพยนตร์ พวกเขาบอกด้วยน้ำเสียงรุนแรงว่า การถ่ายภาพยนตร์ครั้งนี้ไม่ได้รับการจัดการมาตรฐานอย่างถูกต้อง พวกเขาจะไม่อนุญาตให้เราถ่ายทำต่อ ฉันสงสัยว่าอาจจะมีบางคนของรัฐบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แล้วถ้าจะให้ฉันพูดตรงๆ ก็คือมีใครบางคนต้องการหาเรื่องกับเรา “เมเยอร์กล่าว
ฮาร์ดี้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
นี่คือการโจรกรรมชนิดหนึ่ง
สร้างปัญหาขึ้นมา
มีผู้บาดเจ็บ และเรียกร้องค่าชดเชย
เอาคนของรัฐบาลมากดดัน
ทำให้คนอื่นเห็นว่ามีทั้งเหตุผลและกฎหมายมารองรับ
สำรับอุบัติเหตุที่จะเกิดในกองถ่าย มันมีค่าใช้จ่ายสำหรับทีมงานอยู่แล้ว ซึ่งทีมถ่ายทำและบริษัทภาพยนตร์ก็มาเบิกค่าใช้จ่ายได้ตลอดเวลา
ส่วนเหตุการณ์นี้เมื่อพวกเขาได้เงินไป พวกเขาก็จะแบ่งกันเรียบร้อย
มันเป็นวิธีหาเงินที่ดีจริงๆ
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อ?” ฮาร์ดี้ถามเมเยอร์
“ฉันได้คุยกับแก๊งที่ฉันคุ้นเคยแล้ว อีกฝ่ายบอกว่าเรื่องนี้จะแก้ไขได้ดีที่สุดคือต้องจ่ายเงินเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะมีปัญหาเยอะมาก และค่าใช้จ่ายที่พวกเขาต้องการก็คนละ 60,000 ดอลลาร์เลยล่ะ ” เมเยอร์กล่าว
“และตอนนี้เราเป็นหุ้นส่วนกัน ฉันเลยโทรมาหาคุณเพื่อถามความคิดเห็นว่า คุณต้องการที่จ่ายเงินส่วนนี้ไหม?” เมเยอร์ถาม
ฮาร์ดี้คิดอย่างจริงจัง
อีกฝ่ายพึ่งพาคนของตัวเอง ที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว
แสดงว่าเขาก็ต้องเป็นคนจ่ายอยู่แล้วนะสิ
เขาอารมณ์เสียมาก
“ไม่มีทางอื่นแล้วใช่ไหม?” ฮาร์ดี้ถาม
“เส้นสายของฉันทำได้แค่นี้เท่านั้น” เมเยอร์กล่าว
แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของเอ็มจีเอ็ม แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเมเยอร์ และยิ่งในนิวยอร์กก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนี้บ่อย
ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่ง
“คุณเมเยอร์เดี๋ยวผมจะโทรมาบอกคุณอีกครั้ง ผมขอแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน”
……