ตอนที่ 34 การซื้อขายสัญญา
สองวันต่อมา เอกสารที่ทำการคัดลอกข้อมูลเสร็จแล้วก็ส่งมาให้ฮาร์ดี้
แบรด เซ็นเดอร์ อายุ 38 ปี เกิดในประเทศออสเตเรียเป็นผู้จัดการบริษัทโมเดลเอเจนซี่เปอร์เซียนแคทและยังถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทที่ถือหุ้นไว้ทั้งหมด 36%
ข้อมูลเบื้องหลัง รวมถึงที่อยู่อาศัยและกิจวัตรประจำวันของเขาก็ยังมีครบ ผู้ชายคนนี้หย่าร้างเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตอนนี้ยังไม่มีภรรยา เขามักจะพานักแสดงที่ทำสัญญาแล้วกลับบ้าน
ทั้งชายและหญิง
แซนเดอร์โดนนักแสดงที่เซ็นสัญญาด้วยฟ้องร้องจนขึ้นศาลหลายครั้ง แต่เขาก็ชนะทุกครั้งเพราะสัญญาอยู่ในมือเขาถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน
ชายคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นตัวฉกาจ
มีบริษัทนายหน้าหลายแห่งในฮอลลีวูด ที่ไม่มีทรัพยากรเพียงที่จะส่งเสริมหรือฝึกฝนให้พวกเขาเหล่านั้นให้กลายเป็นดารา แต่พวกเขาก็ยังหลอกล่อชายหญิงที่มีความฝันและโง่เขลาที่จะไปฮอลลีวูดให้เซ็นสัญญา
หลังจากที่มีการเซ็นสัญญา ชายหญิงเหล่านั้นก็ถูกใส่กุญแจมือ
ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงหรือบีบบังคับ
ค่อยๆ หลอกให้กลายเป็นคนขายตัวเพื่อทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
หากมีการต่อต้าน เขาก็จะขู่ด้วยสัญญา
ภายใต้ค่าฉีกสัญญามันมีมูลค่าที่ต้องจ่ายสูงมาก หลายคนต้องยอมรับการประนีประนอม
มีบริษัทนายหน้าที่ทำแบบนี้มากมาย และก็ยังมีคนที่โดนล่อลวงทุกปี
หลังจากอ่านข้อมูลแล้ว ฮาร์ดี้คิดว่าต่อให้เขาฆ่าชายคนนี้เขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แซนเดอร์เป็นเพียงแค่หนึ่งในผู้ถือหุ้น ต่อให้เขาเสียชีวิตสัญญาของเมริซาก็ยังไม่ถูกยกเลิกอยู่ดี
ฮาร์ดี้เคาะนิ้วบนโต๊ะ
เขาค่อยๆ คิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้
……
เมื่อฮาร์ดี้มาถึงบริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์ค เขาเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการมาหา “ช่วยฉันติดต่อบริษัทนายหน้าเหล่านี้ บอกพวกเขาว่าเราต้องการเพิ่มจำนวนนักแสดงในปีนี้ ให้พวกเขาส่งข้อมูลนักแสดงมาที่บริษัทเรา ถ้ามีคนที่เหมาะสม เรายินดีซื้อตัวนักแสดงของพวกเขา”
หลังจากพูดจบฮาร์ดี้ยื่นรายชื่อบริษัทนายหน้าให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ
“ได้ครับผู้ช่วยฮาร์ดี้”
เจ้าหน้าที่รับรายชื่อและติดต่อบริษัทเหล่านั้น
เป็นเรื่องปกติที่จะมีการซื้อตัวแสดงในฮอลลีวูด ดาราดังๆ รุ่นหลังหลายคนก็มาจากบริษัทนายหน้าเล็กๆ และหลังจากโด่งดังพวกเขาก็จะเซ็นสัญญากับบริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสในการแสดง
แซนเดอร์ได้รับโทรศัพท์จากบริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์คและเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย สำหรับบริษัทนายหน้าเล็กๆ แบบพวกเขา วิธีสร้างรายได้ที่ดีที่สุดคือการขายสัญญานักแสดงให้กับบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้
บริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์คไม่ใช่บริษัทเล็กๆ การซื้อสัญญานักแสดงครั้งนี้อาจทำเงินได้อย่างมหาศาล
วันต่อมา
แซนเดอร์มาที่บริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์ค
แม้ว่าเขาจะมาค่อนข้างเร็ว
แต่ก็มีผู้จัดการบริษัทนายหน้าอีกสองคนมาถึงก่อนเขาแล้ว
ทั้งหมดรู้จักกัน จึงแสแสร้งทักทายทำความรู้จักกัน
“คุณวอลเตอร์ ผู้ช่วยฮาร์ดี้เชิญคุณเข้าครับ” เจ้าหน้าที่เรียกนายหน้าคนแรกเข้าไปในห้อง
ประมาณสิบนาทีต่อมา วอลเตอร์ก็เดินออกมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
แซนเดอร์รีบหยุดเขา “วอลเตอร์ อีกฝ่ายไม่สนใจนักแสดงคุณเลยเหรอ?”
“คุณฮาร์ดี้มีสายตาที่ดีมาก เขาสนใจแค่นักแสดงสองคนในบริษัทของผม แต่ข้อเสนอที่คุณฮาร์ดี้ให้นั้นต่ำมาก ค่าโอนสัญญานักแสดงแค่ 5,000 ดอลลาร์ต่อคน ผมเลยต้องกลับไปคิดดูก่อน” วอลเตอร์พูดและจากไป
ผู้จัดการบริษัทนายหน้าคนที่สองเดินออกมา และเมื่อสังเกตจากสีหน้าของเขา แซนเดอร์ก็เห็นว่าผู้จัดการคนนี้คงตกลงกันไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อแซนเดอร์ได้เข้าไปในห้อง เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีป้ายชื่อเขียนว่า ทอม ฮาร์ดี้ ผู้ช่วยประธานกรรมการ
แซนเดอร์ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับผู้ช่วยฮาร์ดี้ ผมแบรด แซนเดอร์ผู้จัดการของบริษัท โมเดลเอเจนซี่เปอรเซียนแคท”
ฮาร์ดี้เหลือบมองชายคนนี้เล็กน้อย “คุณแซนเดอร์เชิญนั่งก่อน และส่งข้อมูลนักแสดงของบริษัทคุณมาให้ดูหน่อยสิ”
แซนเดอร์ส่งซองเอกสารในมือให้อย่างรวดเร็ว
ฮาร์ดี้ดูพลิกดูเอกสารแต่ละฉบับ หลังจากดูไปได้สี่ห้าแผ่น เขาก็เจอข้อมูลของเมริซาที่มีรูปของเธออยู่บนนั้น
เมริซาในรูปดูอ่อนกว่าปัจจุบันเล็กน้อย อาจจะเป็นรูปเมื่อ 2 ปีก่อนตัวเธอไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก หลังจากอ่านข้อมูลของเมริซาไปสักพัก เขาก็วางข้อมูลของเธอไว้ข้างๆ และอ่านเอกสารฉบับต่อไป
มีข้อมูลนักแสดงถูกแยกออกมาทั้งหมด 11 คน
ต้องบอกเลยว่าถึงแม้แซนเดอร์จะเป็นคนหลอกลวง แต่เขามีสายตาในการเลือกคนที่ดีมาก นักแสดงจากบริษัทแซนเดอร์มีความสามารถสูงกว่าบริษัทนายหน้าสองแห่งก่อนหน้ามาก
ฮาร์ดี้อ่านข้อมูลอีกครั้งและดึงออกมาห้าคน ในนั้นมีเมริซารวมอยู่ด้วย
“ห้าคนนี้ ผมจะให้คนละ 5,000 ดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าวเบาๆ
แซนเดอร์รับข้อมูลมาดู ต้องพูดว่าผู้ช่วยคนนี้มีสายตาที่ดีจริงๆ ห้าคนที่เขาเลือกคือกลุ่มนักแสดงที่สุดในมือของเขา
“คุณฮาร์ดี้ ราคาที่คุณให้ต่ำเกินไป ผมคิดว่ามูลค่าของแต่ละคนอาจสูงถึงหมื่นดอลลาร์” แซนเดอร์ยิ้ม
ฮาร์ดี้ส่ายหัว
“ฉันมองว่า พวกเขายังไม่มีประสบการณ์การแสดงอะไรเลย และแน่นอนพวกเขาก็ยังทำงานไม่ได้พูดตรงๆ มันก็ไม่ต่างกับซื้อตัวฝูงชนธรรมดาๆ แล้วถ้ามีการถ่ายภาพยนต์ที่ต้องใช้คนเยอะๆ ผมก็แค่จ่ายไม่กี่ดอลลาร์เพื่อจ้างกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง แค่นี้ก็พอจะดึงดูดคนได้มากมายแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว
“แต่พวกเขาเซ็นสัญญาสิบปี และยังมีบางคนที่มีสัญญาเหลืออยู่ 8 ถึง 9 ปีพวกเขาอาจกลายเป็นดาราดังในอนาคต” แซนเดอร์โต้แย้ง
“แล้วไง? พวกเขามันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ผมยอมให้ 6,000 ดอลลาร์ต่อคน ไม่ให้มากกว่านี้แล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว
หลังจากได้ยินราคา 6,000 ดอลลาร์ แซนเดอร์รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่เขาเป็นนักธุรกิจเขาเริ่มแนะนำฮาร์ดี้ให้เห็นข้อดีของแต่ละคนพยายามพูดเกินจริงให้ได้มากที่สุด โดยหวังว่าจะได้เงินมากขึ้น
ส่วนค่าฉีกสัญญา 10,000 หรือ 100,000 ในสัญญานั้นมันเอาไว้หลอกพวกศิลปินแค่นั้นแหละ โอกาสที่จะได้เงินตรงนั้นมีน้อยมากดังนั้นขายสัญญาโดยตรงได้จะดีกว่า
“6,500 ดอลลาร์ต่อคน ไม่มากไปกว่านี้ถ้าคุณคิดว่ามันไม่โอเค ผมจะไปหาบริษัทนายหน้าอื่น” ฮาร์ดี้ตอบอย่างไม่แยแส
“เอาละ ผมตกลง”
แซนเดอร์ได้เพิ่มอีก 1,500 ดอลลาร์เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว
และในบรรดาห้าคนเหล่านี้ ยังมีหนึ่งหรือสองคนที่มีปัญหาเขาอาจจะไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่า ที่จะขายพวกเขา
“เซ็นสัญญาเมื่อไหรดีครับ?” แซนเดอร์ถาม
“พรุ่งนี้เตรียมเอกสารมาให้พร้อม และเราจะเซ็นชื่อในสัญญาโดยตรงเพื่อทำธุรกรรมโอนย้ายให้เสร็จสิ้น” ฮาร์ดี้กล่าว
“ตกลงครับ” แซนเดอร์ตอบรับด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว
อันที่จริง ฮาร์ดี้ทำการรับซื้อสัญญาเป็นการส่วนตัว เขาเพิ่งใช้บทบาทของผู้ช่วยประธานบริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์คเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไม่สงสัยอะไร
อันที่จริงเขายังไม่มีสิทธิใช้เงินของบริษัท และด้วยมูลค่าสัญญาหลายหมื่นดอลลาร์ตอนนี้เขายังไม่มีเงินจ่าย
แต่ฮาร์ดี้ได้วางแผนไว้แล้ว เมื่อหลายวันก่อนเขาบอกให้บางคนซื้อบริษัทนายหน้าที่ใกล้ล้มละลายและเปลี่ยนชื่อเป็น ‘บริษัทนายหน้าฮาร์ดี้”
เรียบง่ายต่อการจดจำ
ฮาร์ดี้ถือหุ้น 100%
หลังจากที่แซนเดอร์ออกไป ฮาร์ดี้ก็ไปที่แผนกกฏหมายของบริษัทและขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยร่างสัญญาการซื้อขายนักแสดง
บ่ายวันต่อมา
ท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมกับฝนที่โปรยปราย
แซนเดอร์มาที่บาร์แห่งหนึ่งบนถนนซันเซ็ตเพื่อเซ็นสัญญา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีการเซ็นสัญญาที่บริษัท แต่มาเซ็นสัญญาที่บาร์
แต่เขาไม่ได้สงสัยในตัวตนของฮาร์ดี้
แค่แปลกใจเล็กน้อย
เขาจอดรถไว้ที่ข้างถนน และเดินเข้าไปในบาร์ ฮาร์ดี้นั่งรอเขาอยู่ที่นั้น พร้อมกับชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แซนเดอร์รีบยื่นมือไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ คุณฮาร์ดี้”
“คุณเอาสัญญาทั้งหมดมาไหม?” ฮาร์ดี้ถาม
“ผมเตรียมมาครบทุกอย่างครับ”
หลังกล่าวจบเขาก็ส่งกองเอกสารสัญญาไปให้ฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้ไม่ได้รับมันมา แต่ชายวัยกลางคนข้างๆ เป็นคนรับมันไป “คนนี้คือฝ่ายกฏหมายของบริษัทเขามีหน้าที่ตรวจสอบสัญญา มืออาชีพอย่างคุณควรทำงานกับมืออาชีพด้วยกันเอง คุณโอเคไหม?”
“ใช่ครับ คุณฮาร์ดี้พูดถูกแล้ว” แซนเดอร์ยิ้ม
หลังจากอ่านสัญญาทั้งหมด ชายวัยกลางคนก็พยักหน้าให้ฮาร์ดี้ “สัญญาทั้งหมดเรียบร้อยดีครับ คุณฮาร์ดี้”
“ขอบคุณมาก” ฮาร์ดี้กล่าวขอบคุณชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนเดินออกจากบาร์ไป ฮาร์ดี้ก็ยื่นสัญญาซื้อขายให้แซนเดอร์ “ตรวจสอบให้เรียบร้อย ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เซ็นสัญญาได้เลย”
แซนเดอร์หยิบสัญญาขึ้นมาและตรวจสอบอย่างจริงจัง เขาเป็นนักต้มตุ๋นที่เชียวชาญทำสัญญาหลอกลวงอยู่แล้ว เขาจึงรู้ดีว่าต้องทำยังไง เพื่อที่จะไม่โดนหลอกลวงคืนและมีปัญหาเขาดูอย่างระมัดระวัง
เนื้อหาสัญญาไม่มีปัญหาอะไร มันเป็นแค่สัญญาซื้อขายปกติแต่มันมีลายเซ็นของบริษัทนายหน้าฮาร์ดี้อยู่
แซนเดอร์ถามอย่างแปลกใจ “คุณฮาร์ดี้ ทำไมมันเป็นบริษัทนายหน้าฮาร์ดี้เหรอ? มันไม่ใช่บริษัทโนอา อาร์คหรือครับ?”
ฮาร์ดี้รู้อยู่แล้วว่าชายคนนี้จะมีคำถาม เขากล่าวอย่างไม่รีบร้อน “บริษัทนายหน้าฮาร์ดี้เป็นบริษัทลูกของโนอา อาร์ค มันเพิ่งได้รับจัดตั้งเพื่อจะได้ดูแลนักแสดงหน้าใหม่ได้ง่ายๆ และผมเป็นผู้รับผิดชอบมันในอนาคต”
“ไม่ว่าจะเป็นบริษัทนายหน้าฮาร์ดี้หรือบริษัทภาพยนตร์โนอา อาร์ค ในสัญญามันก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วนี้ใช่ไหม?” ฮาร์ดี้ถามแซนเดอร์
“อ่า…ใช่ครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย” แซนเดอร์ยิ้ม
บริษัทขนาดใหญ่มักจะเปิดบริษัทในเครือหลายแห่ง และความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทก็ซับซ้อน แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของเขาและเขาสามารถเซ็นสัญญาได้หากไม่มีปัญหาอะไร
แซนเดอร์หยิบปากกาขึ้นมาและเขียนชื่อเขาลงไป
ฮาร์ดี้ได้สัญญามาแล้ว
นับจากนี้เป็นต้นไป สัญญาของเมริซาก็ถูกโอนมายังฮาร์ดี้และตอนนี้ฮาร์ดี้ก็เป็นหัวหน้าของเมริซาแล้ว เจ้าพ่อหน้าเงิน
เขาหยิบซองเงินออกมาจากกระเป๋าข้างและหยิบเงินออกมาสองสามกองโยนไปบนโต๊ะ
“32,500 ดอลลาร์ นับดูสิ”
แซนเดอร์รีบหยิบเงินขึ้นมาและนับมัน ฮาร์ดี้สูบซิก้า ควันสีเงินลอยขึ้นและดวงตาเขาหรี่ลงเหลือบมองไปที่แซนเดอร์ ที่นับเงินอยู่
หลังจากนับเงินเสร็จแซนเดอร์ยิ้มและใส่เงินในกระเป๋าของเขา “จำนวนเงินถูกต้องครับ คุณฮาร์ดี้ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณ ผมขอตัวก่อน”
“ผมจะไปส่งคุณ” ฮาร์ดี้หยิบสัญญาและยืนขึ้น
“คุณใจดีมาก”
ทั้งสองผลักประตูและออกไป ฝนยังตกอยู่เล็กน้อยแซนเดอร์บอกลาฮาร์ดี้และเดินไปขึ้นรถ เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
ในเวลาเดียวกัน รถฟอร์ดสีดำคันหนึ่งที่อยู่จอดอยู่ข้างถนนก็สตาร์ทรถและขับตามรถแซนเดอร์ไป ฮาร์ดี้มองไปและยิ้มเล็กน้อย โยนเอกสารในมือแล้วขึ้นรถจากไป
……