อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 157 ข่มขู่สี่ครอบครัวใหญ่

ตอนที่ 157 ข่มขู่สี่ครอบครัวใหญ่

ก่อนที่ฮาร์ดี้จะออกจากสุสาน เขาก็เหลือบมองไปที่หลุมฝังศพของซีเกลอีกครั้ง และสัญญาในใจว่า ‘ซีเกล ฉันจะทำธุรกิจและอุดมคติของคุณให้สำเร็จเอง’

เขาเดินไปขึ้นรถและกลับไปที่คฤหาสน์ทันที

บิลและฮาร์ดี้นั่งอยู่ในรถด้วยกัน โดยทั้งสองกำลังพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทแอลเอ 

//ขอใช้ บริษัทแอลเอ แทน บริษัทลอสแอนเจลิสนะครับ//

เนื่องจากแก๊งฝั่งเหนือถูกกำจัดออกไป ‘แก๊งแอลเอ’ จึงกลายเป็นแก๊งที่มีอำนาจมากที่สุดในลอสแอนเจลิส และตอนนี้บิลก็ระดมคนแก้ไขธุรกิจต่างๆ ที่ยึดมาเรียบร้อยแล้ว

“ฮาร์ดี้ ตอนนี้วิคเตอร์ติดต่อกับคนในแก๊งเม็กซิกันได้แล้ว ซึ่งธุรกิจยาเสพติดของแก๊งฝั่งเหนือยุติก็ลงแล้ว ทำให้ตอนนี้ลอสแอนเจลิสกำลังขาดแคลนยาเสพติดอย่างหนักและราคาก็พุ่งสูงขึ้น วิคเตอร์เลยไปหาคนเม็กซิกัน และคนเม็กซิกันก็กำลังทำธุรกิจกับเขา และด้วยยาจำนวนมากในมือของเราทำให้พวกเขามีความสุขมาก “

“ซึ่งวิคเตอร์ได้ขายผงขาวจำนวน 50 กิโลกรัมให้กับชาวเม็กซิกันเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ตอนนี้พวกเม็กซิกันเชื่อในตัวเขาแล้ว และวิคเตอร์ก็กำลังระงับความกระหายเงินของตัวเองอยู่ โดยเขาบอกกับแก๊งเม็กซิกันว่าจะขายให้อีก 250 กิโลกรัมในครั้งต่อไป ทำให้ตอนนี้พวกเม็กซิกันกำลังระดมเงินกันอยู่”

“เมื่อธุรกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์ เงิดสดของแก๊งเม็กซิกันทั้งหมดก็จะเป็นของเรา และบริษัทรักษาความปลอดภัยกับตำรวจก็จะเข้าทำคดีนี้ทันที ฉันก็คาดว่าชาวเม็กซิโกจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน” บิลยิ้ม

ฮาร์ดี้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เขาต้องการให้แก๊งเม็กซิกันเป็นเป้าหมายในครั้งนี้ 

แต่เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างโจ้งแจ้งได้ เพราะมันอาจจะมีผลต่อสถานะบริษัทแอลเอ

“บิล ถึงแม้ตอนนี้แอลเอจะยึดครองลอสแอนเจลิสไว้แล้ว แต่นายต้องระวังครอบครัวมาเฟียอื่นๆ ที่ต้องการครอบครองลอสแอนเจลิสด้วย คราวนี้เรายังมีความขัดแย้งกับครอบครัวเซลตันในซานฟรานซิสโกอีก บางทีพวกเขาอาจจะตอบโต้เรา และแก๊งไอริชเรย์มอนด์ที่รอแก้แค้นเราอยู่ตลอดเวลา”

“ได้ ฉันจะระวังตัวให้มาก” บิลกล่าว

ฮาร์ดี้คิดอยู่พักหนึ่งและพูดขึ้นอีก

“บิล ในช่วงครึ่งปีหลังฉันจะให้แลนสเตอร์ไปพัฒนาธุรกิจของบริษัทรักษาความปลอดภัยในซานฟรานซิสโก นายช่วยส่งคนไปสำรวจสถานการณ์ในซานฟรานซิสโกให้หน่อยสิ”

ดวงตาของบิลสว่างขึ้น

“นายมีแผนที่จะพัฒนาแก๊งแอลเอไปที่ซานฟรานซิสโกด้วยเหรอ?!”

“ฉันไม่ต้องการให้ใครในชายฝั่งตะวันตกกลายเป็นภัยคุกคามต่อเรา ยังไงเราก็เป็นศัตรูกับครอบครัวเซลตันไปแล้ว และฉันก็กลัวว่าครอบครัวอื่นๆ จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนล่วงหน้ากันไว้ก่อน”

“อืม ต้องเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เพราะเราไม่สามารถรอให้คนมาเคาะหน้าประตูบ้านเราได้หรอก นายเข้าใจไหม?”

บิลกะพริบตา

“นายหมายความว่ายังไงในประโยคสุดท้าย?”

ฮาร์ดี้ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย 

บิลคงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากังวลจริงๆ…

“ไม่มีอะไร นายก็แค่ทำลงมือทำก็พอ” ฮาร์ดี้กล่าว

“เข้าใจแล้ว” บิลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

บิลพาคนของเขากลับไปลอสแองเจลิส 

แต่ฮาร์ดี้ขอให้รอสซี่อยู่กับเขาต่อ 

ซึ่งรอสซี่ก็คือหนึ่งในสี่หัวหน้าแก๊งของแอลเอที่ลงมือยิงหัวไฮมี่ไวส์

รอสซี่เคยเป็นทหารมาก่อน และเป็นหนึ่งในคนสนิทของฮาร์ดี้ที่เลือกเข้าร่วมแก๊งของเขา

รอซซี่มีลูกน้องมากกว่าห้าสิบคนภายใต้การดูแลของเขา 

ซึ่งฮาร์ดี้ก็บอกกับเขาว่าเขาจะต้องเป็นคนรับผิดชอบความปลอดภัยของคาสิโนฟลามิงโก้ในอนาคต 

และควบคุมดูแลกองกำลังในโลกใต้ดินของลาสเวกัส

….

ในตอนนี้

คาสิโนตระกูลคอร์เลโอเนถูกปล้นทำให้ต้องปิดตัวลง 

แต่คาสิโนของสี่ตระกูลใหญ่รวมถึงบาซินี่ก็ถูกปล้นเช่นกัน แถมยังโดนวางระเบิดจนทำให้เหลือแต่ซากด้วย

ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้คนในลาสเวกัสแตกตื่น

ซึ่งหนังสือพิมพ์และสถานีวิทยุในลาสเวกัสก็ยังคงกระจายข่าวอยู่ และผู้คนก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของลาสเวกัสแล้ว 

มันทำให้คนที่ซื้อที่ดินเก็งกำไรรู้สึกกังวลมาก

เพราะมีคนลงประกาศขายที่ดินมากขึ้นและราคาก็กำลังเริ่มลดลงอย่างช้าๆ 

ซึ่งราคาขายของบางคนนั้นต่ำกว่าราคาที่ซื้อมาซะอีก

พวกเขาถึงกับตัดเนื้อตัวเองอย่างไม่เต็มใจ…

ฮาร์ดี้รู้สึกว่ามันใกล้จะถึงเวลาแล้ว 

เขาจึงบอกให้แอนดี้ส่งคนไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินเหล่านั้น เพื่อซื้อในราคาที่ต่ำกว่าเดิม….

นั่นแหละ!

ในเวลาเพียงครึ่งเดือนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฮาร์ดี้ก็ได้แอบซื้อที่ดินมากกว่า 6000 เอเคอร์ 

ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งของที่ดินที่สุดในลาสเวกัสสตริปในอนาคต

และเขาก็ใช้เงินไปมากเหมือนกัน…

ซึ่งลาสเวกัสก็มีธนาคารเวลส์ฟาร์โกอยู่ 

ธนาคารเวลส์ฟาร์โกและฮาร์ดี้ก็เป็นหุ้นส่วนร่วมกัน 

ในทุกๆ ครั้งที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ซื้อที่ดิน เขาก็จะเอาที่ดินส่วนหนึ่งไปจำนองกับธนาคารเวลส์ฟาร์โก 

เพราะในท้ายที่สุดบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในการซื้อที่ดินเหล่านี้

และในเงิน 1 ล้านดอลลาร์นี้ก็มีบางส่วนที่ขโมยมาจากคาสิโนของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่อยู่ด้วย

มีใครบางคนบอกว่า ‘ความแข็งแกร่งก็คือเงิน และเมื่อมีเงินก็เท่ากับมีอำนาจ’ 

ฮาร์ดี้คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงอยู่บ้าง…

……

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ลาสเวกัสกำลังจัดการประชุม

ซึ่งนอกเหนือจากการหารือเกี่ยวกับก่อสร้างภายในเมืองลาสเวกัสแล้ว 

การประชุมนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งก็คือกรมตำรวจลาสเวกัสได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ โดยการให้พวกเขาเป็นกองกำลังเสริมของกรมตำรวจ

ในการประชุมสตีฟได้ออกไปโฆษณาให้กับบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ 

โดยบอกว่ามันจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องให้พวกเขาทำงานร่วมกับตำรวจ

“ตอนนี้ประชากรของลาสเวกัสกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากและจำนวนการเกิดอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งตอนนี้เรามีตำรวจไม่เพียงพอและมักมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนกำลังคนที่เราต้องการก็คือประมาณ 100 คน”

“นอกจากนี้เรายังต้องเพิ่มอาวุธ รถยนต์ และที่ตั้งสำนักงานใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพราะตอนนี้สถานีตำรวจปัจจุบันเล็กเกินไปที่จะจุคนได้เกิน 100 คน และยังต้องมีโรงอาหารสำหรับตำรวจ ห้องอาบน้ำสาธารณะเพิ่มอีก”

“ถ้าเราลองคำนวณค่าใช้จ่ายของการเพิ่มกำลังคน เราก็ต้องจ่ายค่าจ้าง ค่าอุปกรณ์ กองทุน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับพวกเขา ซึ่งฉันก็ได้ประมาณการออกมาคือ 150,000 ถึง 200,000 ดอลลาร์”

เมื่อสมาชิกรัฐสภาได้ยิน พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นเงินจำนวนมากเกินไป

“แล้วมันมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการจ้างเอชดีซีเคียวริตี้” หนึ่งในสมาชิกสภาถาม

“120,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยจะมีการต่อสัญญาทุกๆ 3 ปี” สตีฟกล่าว

ซึ่งนี้ก็เป็นแค่การคำนวณง่ายๆ เพราะมันไม่ใช่มีแค่ค่าจ้างและค่าอุปกรณ์เท่านั้น 

แต่ยังต้องรวมประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เงินบำนาญตอนเกษียณ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในอนาคตด้วย 

ส่วนอีกทางคือการจ้างคนในราคา 120,000 ดอลลาร์ต่อปีแถมยังไม่ต้องกังวลอะไรด้วย

ไม่ว่าคุณจะคำนวณอย่างไร การจ้างบริษัทเอชดีซิเคียวริตี้ก็ง่ายกว่า

แล้วมันต้องพิจารณาอะไรอีกเหรอ? 

ซึ่งผู้ร่างกฎหมายส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยแล้ว 

สองวันต่อมา 

เอชดีซีเคียวริตี้และกรมตำรวจลาสเวกัสก็ลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการ และเอชดีซีเคียวริตี้ก็กลายเป็นกำลังเสริมในการรักษาความสงบเรียบร้อยของลาสเวกัสทันที

ตอนนี้คฤหาสน์ที่ฮาร์ดี้และคนอื่นๆ อาศัยอยู่ก็ถูกซื้อโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยของเขาเรียบร้อย 

ซึ่งในอนาคตที่นี่จะเป็นที่ตั้งหลักของเอชดีซีเคียวริตี้สาขาลาสเวกัส

คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มากและแลนสเตอร์ก็ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมาเยี่ยมชม 

เมื่อพวกเขาได้เห็นกองอาวุธในโกดัง ทุกๆ คนก็ตกตะลึงกันอย่างมาก

บนชั้นวางเต็มไปด้วยปืนพก ปืนกล ปืนสั้น และปืนกลมือ 

แต่พวกนี้ก็ยังไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะข้างในนี่สิ…

มันมีปืนกลหนักมากกว่าหนึ่งโหลกองอยู่ 

คุณสามารถพูดได้เลยว่าปืนพวกนี้อันตรายถึงตายโดยดูจากสายกระสุนลากยาวบนพื้น

ตำรวจผู้รอบรู้คนหนึ่งถามว่า “ปืนกลเหล่านี้เป็นปืนกลหนัก M1919A6 หรือเปล่า?”

“ใช่ มันคือ M1919A6”

ตำรวจคนหนึ่งตั้งคำถามอย่างสงสัยอีกว่า “ปืนกระบอกนี้มันเอาไว้สำหรับต่อสู้รถถัง เราเอามาใช้ที่นี่ได้เหรอ?”

“ฮ่าๆ ได้สิ เพราะบางที่พวกพวกอันธพาลอาจจะมีรถถังอยู่ก็ได้ ยังไงเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้กัน” แลนสเตอร์ยิ้ม

ตำรวจคนอื่นๆ เริ่มสับสน

อันธพาล?

พวกอันธพาลเหล่านั้นคงจะไม่กล้าหรอก เมื่อเห็นของพวกนี้…

พอเข้าไปข้างในตำรวจก็เห็นบางอย่างที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากขึ้น

ระเบิดมือ กับดักระเบิด แม้แต่เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถัง ‘บาซูก้า’ และปืนครก M260 ก็กองอยู่ในโกดัง… 

ตอนนี้ตำรวจทั้งหมดกำลังตกใจมาก 

พวกเขาพร้อมที่จะรับมือกับพวกอันธพาลหรือจะไปทำสงครามกับใครกันแน่?

ตอนนี้ตำรวจรู้แล้วว่าเอชดีซีเคียวริตี้แข็งแกร่งแค่ไหน

ถ้าเป็นไปได้อย่าไปยั่วยุคนพวกนี้เด็ดขาด เพราะคนพวกนี้นั้นเกิดมาเพื่อฆ่าคนอย่างแท้จริง

……

ฮาร์ดี้ได้เข้าควบคุมลาสเวกัสโดยการทำลายคาสิโนของสี่ครอบครัวใหญ่ 

ซึ่งมันก็สร้างความรำคาญให้กับสี่ครอบครัวใหญ่อย่างมาก

ฟิลิปหัวหน้าครอบครัวตาร์ตาลยากำลังคุยกับบาซินี่ “ทอม ฮาร์ดี้คนนี้เป็นเพื่อนกับครอบครัวคอร์เลโอเน่ และตอนนี้ธุรกิจของเราในชายฝั่งตะวันตกก็กำลังโดนยึดครอง ฉันคิดว่าเราควรร่วมมือกันเพื่อฆ่าฮาร์ดี้ซะ”

บาซินี่เป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาเอาแต่ขยิบตาเป็นเวลานานโดยไม่พูดอะไร

“บาซินี่ นายคิดว่าไง ?” ฟีลิปกระตุ้น

บาซินี่ส่ายหัว “ฉันได้รับข่าวว่าทอม ฮาร์ดี้ได้รวมกองกำลังทั้งหมดในลอสแอนเจลิสเข้าด้วยกันแล้ว เขาไม่ได้มีแค่อันธพาล แต่ยังมีบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ และยังสามารถใช้อำนาจของตำรวจได้ตามอำเภอใจ นี่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก”

“คิดดูว่าเราสามารถส่งคนไปฝั่งตะวันตกได้กี่คนกัน? 100 หรือ 200 หรือ 500? แต่แก๊งแอลเอของเขาตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 500 คน แถมยังมีคนจากเอชดีซีเคียวริตี้อีก 1500 คน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทหารผ่านศึกและเก่งกาจในการต่อสู้มาก”

“ทอมฮาร์ดี้ตอนนี้มีรากฐานอยู่ในลอสแองเจลิส เราไม่สามารถแตะต้องเขาที่นั่นได้” บาซินี่กล่าว

เขาได้เขาข่าวพวกนี้มาจากเรย์มอนด์ 

เพราะบาซินี่กับเรย์มอนด์ได้ทำข้อตกลงกัน

ซึ่งเรย์มอนด์ต้องการผลประโยชน์ของลอสแอนเจลิส และบาซินี่ต้องการผลประโยชน์ของลาสเวกัส 

แต่ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เพราะแผนการทั้งหมดถูกทำลายโดยฮาร์ดี้

เรย์มอนด์ต้องการแก้แค้น เขาจึงส่งคนไปที่ลาสเวกัสเพื่อสืบสวน 

ซึ่งเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดขึ้นทำให้ตรวจสอบไม่ยาก และมีแค่บาซินี่เท่านั้นที่รู้ว่าแก๊งแอลเอคือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

เพราะเมื่อลองนึกแผนการของฮาร์ดี้คนนี้ตลอดทาง มันแทบจะไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด 

ทำให้เขารู้ว่าคู่ต่อสู้เป็นคนฉลาดและจัดการได้ไม่ง่าย

และถ้าคุณเผลอส่งคนไปฆ่าเขา คุณก็จะได้รับการแก้แค้นอย่างรุนแรงตอบกลับมา

บาซินี่เองก็ไม่ได้โง่

ฮาร์ดี้มีทหารผ่านศึกจำนวนมากอยู่ในมือ

และถ้าเขาเจอทหารผ่านศึกเหล่านี้ เขาก็อาจจะถูกสไนเปอร์จากไหนก็ไม่รู้ยิงหัวก็ได้…

“แล้วเราจะปล่อยให้เขาทำลายธุรกิจของเรา และเราก็นิ่งเฉยอย่างนี้เหรอ? นายจะทนนิ่งเฉยไปได้ยังไง?” ฟิลิปคำรามด้วยความโกรธ

บาซินี่ส่ายหัว

“ฟิลิป การร่วมมือทุกอย่างของเรานั้นก็เพื่อธุรกิจและการหาเงิน บางครั้งในเมื่อเรารู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้ เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง…แทนที่จะอวดดี” บาซินี่แนะนำ

“แล้วตอนนี้นายจะทำอะไรต่อไป?” ฟีลิปถาม

บาซินี่คิดอยู่พักหนึ่ง

“เราต่อสู้กันมาเป็นเวลานาน และเราก็สูญเสียกันไปมาก ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะนั่งลงและพูดคุยกับพวกเขา ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้มันก็จะไม่ได้อะไรเลย”

“ฉันจะโทรหาวีโต้ และบอกกับเขาว่าเราควรจัดการประชุมของคณะกรรมการมาเฟียขึ้น ยังไงเจตนารมณ์ดั้งเดิมของคณะกรรมการมาเฟียก็คือการแก้ไขข้อพิพาทภายในมาเฟีย และเราก็สามารถเสนออะไรบางอย่างในที่ประชุมได้”

บาซินี่เป็นคนฉลาดมากเพราะเขารู้จักการถอย

… 

เขาโทรหาเจ้าพ่อมาเฟียด้วยตัวเองและทั้งสองก็คุยกันเหมือนเพื่อนเก่ากันมานาน

“วีโต้ ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องหยุดเรื่องนี้แล้ว มันไม่ดีสำหรับทุกคนเลยถ้าเราจะทำแบบนี้ต่อไป นายคิดว่ายังไง?” บาซินี่กล่าว

ซึ่งในช่วงเวลานี้

ความสูญเสียของครอบครัวคอร์เลโอเนนั้นเยอะกว่าพวกเขามาก 

เหนืออื่นใดวีโต้ใช้พลังของหนึ่งครอบครัวต่อสู้กับอีกสี่ครอบครัวใหญ่ 

และธุรกิจของคอร์เลโอเนเกือบทั้งหมดก็หยุดชะงัก 

พวกเขาไม่มีรายได้เป็นเวลาหลายเดือนและหลายคนก็เสียชีวิต ซึ่งวีโต้ก็อยู่ในสภาพที่ต้องต่อสู้เกือบทุกวัน

ทำให้เจ้าพ่อมาเฟียรู้สึกกดดันมากกว่าครอบครัวอื่นๆ

แถมลูกชายคนโตซันนี่ก็ถูกฆ่า และไมค์โดนลอบสังหารจากนั้นก็มีใครบางคนอยากจะฆ่าเฟรโด 

เพื่อปกป้องลูกชายทั้งสาม เจ้าพ่อมาเฟียจึงกักตัวพวกเขาทั้งหมดไว้ในคฤหาสน์

ด้วยเหตุนี้ธุรกิจของไมค์จึงได้รับผลกระทบ

ในส่วนของโรงงานโทรทัศน์ ตลอดจนการสร้างโรงงานใหม่ 

ไมค์ทำได้เพียงแค่ควบคุมจากระยะไกลเท่านั้น เพราะเขาอาจถูกลอบสังหารเมื่อออกไปข้างนอก

ถ้าไม่ใช่เรื่องพวกนี้ เจ้าพ่อมาเฟียคงไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากฮาร์ดี้ให้จัดการกับสี่ครอบครัวใหญ่ในลาสเวกัส 

แต่ในความเป็นจริงเจ้าพ่อมาเฟียก็กำลังแสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมาอีกทางหนึ่ง 

โดยบอกกับอีกฝ่ายว่าพวกเขายังมีเงินเหลือเฟือ ยังมีความช่วยเหลือจากคนอื่นและครอบครัวคอร์เลโอเนก็ยังไม่ถึงเวลาที่ล่มสลาย

ซึ่งเวลานี้บาซินี่กำลังเรียกร้องเสมือนกับว่าเขาอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าพ่อมาเฟีย

เจ้าพ่อมาเฟียพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า 

“บาซินี่ ฉันคิดว่านายพูดถูก พวกเรากำลังเริ่มเดินทางผิดแล้ว แค่การที่เราจะทำเงิน ทำไมเราต้องสูญเสียกันขนาดนี้… นี่ไม่ใช่ความตั้งใจดั้งเดิมของครอบครัวเรา”

“นายไปเรียกกรรมการมาและประชุมกันดีๆ ว่าจะทำอะไรกันต่อ” เจ้าพ่อมาเฟียพูดอย่างเคร่งขรึม

เขาวางโทรศัพท์ลง

เจ้าพ่อมาเฟียคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาก็โทรหาฮาร์ดี้เพื่อบอกกับเขาว่าครอบครัวบาซินี่ต้องการจะเจรจาเรื่องสันติภาพ

“ฮาร์ดี้ ฉันขอบคุณเธอมากและการประชุมครั้งนี้ฉันคิดว่าจะพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการล้างแค้นและยาเสพติด แต่เธอมีอะไรจะพูดกับพวกเขาไหม?”

ฮาร์ดี้คิดสักพักและพูดว่า “ผมมีเรื่องคาสิโนของซีเกล เดิมทีครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ต้องการบุกคาสิโนฟลามิงโก้แต่ตอนนี้ผมเอามันกลับมาได้แล้ว และขณะที่ซีเกลยังมีชีวิตอยู่ ผมได้ซื้อหุ้นคาสิโนฟลามิงโก้ไว้ 61% แต่หุ้นอีก 13% จะเป็นของสามครอบครัวใหญ่เท่าๆ กัน ผมอยากให้คุณวีโต้ช่วยบอกพวกเขาว่า หากพวกเขายินดีที่จะขายหุ้น ผมก็เต็มใจที่จะซื้อหุ้นของพวกเขา และหากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะขายก็ขอให้พวกเขาลงทุนต่อไป และผมจะสร้างคาสิโนฟลามิงโกต่อไป โดยที่จะสร้างคาสิโนฟลามิงโก้ให้หรูหรากว่าที่ซีเกลคิดไว้”

“แน่นอนถ้าใครมีความคิดที่ไม่ดี ผมก็จะใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่ในมือจัดการพวกเขา เพราะคุณก็รู้ว่าผมยังเป็นชายหนุ่ และบางครั้งคนหนุ่มสาวก็หุนหันพลันแล่น ระงับความโกรธไม่ได้ และทำอะไรที่รุนแรง”

ประโยคสุดท้ายของฮาร์ดี้คือการข่มขู่

และเป็นการข่มขู่ต่อสี่ครอบครัวใหญ่อย่างโจ่งแจ้ง 

ซึ่งมันก็คือคำเตือนให้กับสี่ครอบครัวใหญ่ในนิวยอร์กว่าอย่าทำอะไรบ้าๆ

1 thought on “อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 157 ข่มขู่สี่ครอบครัวใหญ่”

Leave a Comment

ไม่ดี!